พชรพงศ์ถึงกับทรุดเมื่อพี่ชายบอกเขาว่าวันนี้แฟนสาวกำลังเข้าโรงแรมกับผู้ชายคนหนึ่ง หากเขาไม่เชื่อชายหนุ่มก็พาไปให้เห็นกับตา เพราะเขาไม่เชื่อในสิ่งที่พี่ชายบอก เขาถึงได้มานั่งรออยู่ที่นี่ สายตาคมกวาดตามองไปรอบๆ โรงแรมดังแต่ก็ยังไม่เห็นแม้วี่แววของแฟนสาว ในใจได้แต่นึกภาวนาขออย่าให้สิ่งที่พี่ชายพูดเป็นจริงเลย
เกือบสองปีที่เขาและพณิตพิชาคบกัน พวกเขาสองคนไม่เคยมีเรื่องให้ต้องทะเลาะกันเลย ต่างคนต่างดูแลซึ่งกันและกันมาตลอด อาจเป็นเพราะทั้งเขาและเธอขาดความรักจากผู้ให้กำเนิดเหมือนกัน ความไว้ใจและเชื่อใจกันก็ยิ่งมีมาก เวลาใครคนหนึ่งรู้สึกเหงา อีกคนหนึ่งก็ยกไหล่ให้เป็นที่พักพิงอีกของคน
ทุกอย่างที่พวกเขาร่วมกันทำมาตลอดสองปี มันมีแต่ความรักและความมั่นคงที่ต่างฝ่ายต่างมอบให้แก่กัน แล้วมาวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอีกฝ่ายถึงได้เปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้ เขาได้แต่ภาวนาต่อสวรรค์ให้ทุกอย่างที่เขาได้ยินมามันเป็นเพียงแค่ความฝัน พอเขาตื่นขึ้นมาทุกอย่างก็จะเหมือนเดิม
“ผมว่าข่าวที่ลูกน้องพี่ใหญ่สืบมาคงผิดแล้วล่ะครับ นี่มันก็เย็นมากแล้ว ผมว่าลูกแก้วเขาคงไม่ได้นัดใครมาที่นี่หรอก”
แม้ในใจเขาจะไม่เชื่อในสิ่งที่พี่ชายบอกทั้งร้อย แต่จากพฤติกรรมของแฟนสาวก็ทำให้เขาอดคิดไม่ได้เหมือนกันว่าบางทีทุกอย่างที่พี่ชายพูดมามันคือความจริง
“ฉันว่านายไม่ต้องรีบหรอกนายเล็ก คนที่เขาเข้าโรงแรมกันนะเขาไม่เข้ากันตอนกลางวันหรอก ยิ่งมืดเท่าไรก็ยิ่งดี”
“ผมว่าเรากลับกันเถอะครับพี่ใหญ่ ลูกแก้วเขาคงไม่มาที่นี่หรอก”
“เดี๋ยวนายก็รู้ว่าแฟนนายนะเชื่อใจได้แค่ไหน ถ้าพิชามากับผู้ชายจริงๆ นายจะทำยังไง” พิชิตพงศ์หันมาสบตาน้องชายอย่างต้องการคำตอบ
พชรพงศ์สบตาพี่ชายอย่างสับสน นั่นสิ! หากเขาเห็นแฟนสาวเข้าโรงแรมกับผู้ชายจริงๆ แล้วจะทำยังไง จะเดินเข้าไปถามตรงๆ เลยดีไหม หรือว่าตัดสินใจเลิกกันไปเลย เพราะเขาคงทำใจไม่ได้หากรู้ว่าพณิตพิชาไม่ซื่อสัตย์ต่อเขา
“โน่นไงนายเล็ก” พิชิตพงศ์ยกนิ้วชี้ไปยังหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่เดินลงมาจากรถด้วยท่าทางสนิทสนม
“ฉันบอกนายแล้วว่าให้ดูกันให้นานๆ แค่สองปีมันไม่พอหรอกนะนายเล็ก มันยืนยันไม่ได้หรอกว่าจะไม่มีการนอกใจกัน อีกอย่างพณิตพิชาก็ไม่ใช่ว่าขี้เหร่เสียหน่อย หรือจะให้พูดกันจริงๆ แฟนนายสวยมากทีเดียว หากรู้จักการแต่งตัวให้มากกว่านี้”
พชรพงศ์หันไปมองตามมือพี่ชายที่ชี้ไปยังภาพของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง และหนึ่งในนั้นเขาเองก็รู้จักดีเสียด้วย สาวน้อยหน้าหวานแสนเรียบร้อยของเขาเอง กำลังส่งยิ้มหวานไปให้ผู้ชายอีกคนที่เขาเองก็ไม่รู้จัก
“ทีนี้นายเชื่อฉันหรือยัง พิชาไม่ได้ซื่อสัตย์กับนายอย่างที่นายซื่อสัตย์กับเขา ตัดใจซะนายเล็ก ยังมีผู้หญิงดีๆ อีกเยอะที่เขาเหมาะสมกับนายมากกว่าพณิตพิชา”
“ผมจะลงไปถามลูกแก้วให้รู้เรื่อง”
น้ำเสียงที่เปล่งออกมาทั้งเจ็บปวดและร้าวราน ชายหนุ่มไม่เคยคิดเลยว่าแฟนสาวจะมีคนอื่น อยากจะคิดว่าสิ่งที่เห็นมันคือภาพลวงตา แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อคนที่เห็นก็ไม่ใช่ว่าจะมีเขาคนเดียวเสียหน่อย
“ถึงนายลงไปแล้วจะทำอะไรได้นายเล็ก พิชาบอกว่าผู้ชายคนนั้นคือแฟนใหม่เขา ฉันถามหน่อยเถอะนายเล็ก นายจะทำยังไง”
“ผม...”
“เห็นไหมล่ะนายก็พูดไม่ออก ฉันว่านายน่าจะออกห่างผู้หญิงคนนี้ได้แล้ว พณิตพิชาไม่มีค่าพอให้นายรักหรอก เชื่อฉัน...ยังมีผู้หญิงอีกเยอะที่ชอบนาย”
ยิ่งเขาเห็นสายตาที่สับสนของน้องชายก็ยิ่งสงสาร ใจจริงก็ไม่อยากทำแบบนี้หรอก แต่จะให้พณิตพิชามาเป็นน้องสะใภ้ เขาก็ทำใจไม่ได้เหมือนกัน
พชรพงศ์มองจนทั้งสองเดินหายเข้าไปภายในโรงแรมด้วยหัวใจปวดร้าว หมดแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง ความไว้เนื้อเชื่อใจที่เขาเคยมีให้พณิตพิชา เจ็บจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ อกหักมันเป็นแบบนี้เองหรือ ทำไมมันถึงได้เจ็บปวดทรมานใจนัก เพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อเขา กลับทำให้เขาทรมานจนเจียนตายแบบนี้เลยเหรอ
/////////////
ภูริวัฒน์และพณิตพิชาเดินดูความเรียบร้อยในห้องจัดการแสดง สีหน้าของทั้งสองแสดงถึงความพอใจเป็นอันมาก เพราะวันนี้ถือว่ามันเสร็จเกือบร้อยแล้ว เหลือแค่เก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อย
“งานไปถึงไหนแล้วครับ” ภูริวัฒน์สอบถามความเรียบร้อยของงาน สายตากวาดไปรอบห้อง โดยที่พณิตพิชากำลังเดินตรวจความเรียบร้อยอยู่อีกมุมหนึ่ง
“ผมว่าอีกไม่ถึงอาทิตย์ทุกอย่างเรียบร้อยเสร็จสมบูรณ์อย่างแน่นอนครับ! ผมว่างานนี้ต้องมีคนเข้าชมเยอะแน่นอน เพราะมันเป็นงานการกุศล แถมเสื้อผ้าที่จะนำมาแสดงก็ถือว่าเยี่ยมมากเลยทีเดียว ผมว่าฝีมือคุณนัสกับคุณลูกแก้วนี้สุดยอดเลยครับ สวยมากๆ ที่สำคัญงานนี้ยังมีพวกคุณหญิงคุณนายอีกเพียบ”
“งั้นพวกผมขอตัวก่อนนะครับ” ภูริวัฒน์ขอตัว ก่อนหันไปทางเพื่อนน้องสาว “ลูกแก้ว พี่ว่าเราน่าจะกลับกันได้แล้วนะ ดึกจะค่ำมืดเสียก่อน”
“ค่ะ” พณิตพิชาพยักหน้าตอบรับ แล้วหมุนตัวมามองพร้อมกับก้าวเท้าเดินตรงมายังภูริวัฒน์ “งั้นเดี๋ยวเราแยกกันตรงนี้เลยนะคะ เพราะลูกแก้วจะไปทำธุระต่ออีกนิดหน่อย”
“เอางั้นก็ได้ กลับบ้านดีๆ นะลูกแก้ว” ภูริวัฒน์หันมากำชับหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ลูกแก้วไปทำธุระเสร็จก็จะกลับห้องเลย”
“งั้นพี่ไปแล้วนะ”
“ค่ะพี่วัฒน์”
พณิตพิชายืนมองจนภูริวัฒน์ขับรถจากไปก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินออกมาจากโรงแรม วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เธอรู้สึกมีความสุขไปกับการทำงาน อีกเพียงไม่ถึงสองอาทิตย์งานแฟชั่นโชว์ก็จะถูกจัดขึ้น หลังจากนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์เธอก็ต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส หลังจากนั้นเธอก็ลงเรียนบริหารอีกซักใบ เพื่อที่จะได้กลับมาช่วยบิดาบริหารงานที่บริษัท ทั้งที่ความเป็นจริงเธอไม่ชอบเลยสักนิด ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับบริหาร แต่ก็ไม่อาจขัดใจบิดาได้ ยิ่งเจอคำขอร้องแบบนี้ แล้วมีหรือที่เธอจะกล้าปฏิเสธ
///////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...