Bad Engineer 8 - งานเข้า

1356 Words
Bad Engineer 8 - งานเข้า “ไหนคาเรนซื้ออะไรมา” เป็นพี่ไคโรที่ทำลายความเงียบที่เกิดขึ้น เขาเดินไปยืนข้างคาเรน ก่อนจะพูดคุยกันด้วยรอยยิ้มใสซื่อ ฉันละ โคตรเกลียดท่าทางจอมปลอมของเขาในตอนนี้ที่สุด หลังจากนั้นฉันกับพี่ไคโรก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันต่อ แถมพี่ไคโรยังดูเหมือนจะพยายามกันคาเรนจาก ฉัน จนแทบไม่มีโอกาสเข้าถึงอีกต่างหาก เหอะ คงจะกลัวว่าฉันจะพูดเรื่องของเขาขึ้นมาจริง ๆ สินะ เอาไว้หาทางเจรจาเรื่องคลิปคืนมาก่อนเถอะ ฉันแฉแน่ บอกเลย ส่วนตอนนี้ฝากไว้ก่อนเถอะ หลังจากนั้นพี่ไคโรก็โชว์ความสายเปย์ของตัวเอง ด้วยการพาพวกเราไปเลี้ยงชาบูหม้อไฟชุดใหญ่ ฉันนั่งกินไปเหลือบมองพี่ไคโรเอาใจคาเรนไปหงุดหงิดแต่ทำอะไร พอจังหวะที่เจ้าตัวขอไปเข้ารับสายจากมือถือ (คงจะพวกสาว ๆ นั่นแหละ) พวกฉันก็รัวคำถามยิบใส่ยัยคาเรนทันที “ถามจริง นี่แกคบกับพี่ไคโรจริง ๆ เหรอ” ยัยฌิรินตัวแม่เปิดประเด็น โดยมีสไมล์และฉันตามสมทบทันที “แกก็รู้นี่ว่าพวกวิศวะมอ.เรา เจ้าชู้มาก” “แกรู้จักเขานานหรือยัง แน่ใจนะว่าเขาเป็นคนดี หล่อแบบนี้โคตรอันตรายอะ” คาเรนมองหน้าพวกเราทุกคน ก่อนจะทำท่ายักไหล่เหมือนโนสนโนแคร์ “อื้อฉันรู้ รู้หมดนะแหละ แต่แล้วไงก็ฉันรักของฉันแบบนี้ เพราะฉะนั้นพวกแกห้ามยุ่งกับพี่ไคโรของฉันเด็ดขาด” ยัยคาเรนตอบสั้น ๆ ก่อนจะตักชิ้นเนื้อเข้าปากเหมือนไม่ได้สนใจคำเตือนพวกเราเลย เดี๋ยว!..นี่แกโดนความรักบังตาไปแล้วใช่ไหมยัยคาเรน “แกรู้ว่าพี่เขาเจ้าชู้ แล้วแกก็ยังจะคบกันอะนะ ถามจริงแกไม่กลัวเสียใจเหรอยัยคาเรน” ยัยสไมล์เอ่ยต่อ มองยัยคาเรนที่เคี้ยวตุ้ย ๆ ดูไม่ทุกข์ร้อน แล้วพวกฉันก็ต้องนั่งรอให้นางเคี้ยวจนหมดก่อนจะไงถึงจะพูดได้ -.- “พวกแกจะถามมากทำไมเนี้ย ขี้เกียจตอบ แล้วก็ไม่ต้องเดาอนาคตอะไรด้วย ...รีบกินเข้าเถอะ เนี่ยร้านนี้ฉันเคยกับพี่ไคโรมากินประจำน้ำจิ้มอร่อยมาก” นางพูดพร้อมกับคีบชิ้นเนื้อใส่จานพวกเราคนละชิ้น แล้วนางก็คีบใสเข้าปากอีกเหมือนเดิม อะไจะชิวปานนั้นคะคุณเพื่อน นี่หล่อนกำลังจะโดนหลอกฟันแล้วทิ้งอยู่แล้วแท้ ๆ เอาไงดีวะ หรือฉันควรจะบอกความจริงให้เพื่อรู้ไปเลย “นี่ยัยคาเรนฉันขอเตือนนะว่า พี่ไคโรของแกน่ะเขา…” จังหวะที่ฉันตัดสินใจบอก ดันเป็นจังหวะเดียวกับที่พี่เขาเดินกลับมาพอดี อายุยืนชะมัด! “พี่ทำไมเหรอครับ” ฉันสะดุ้ง หันไปมองพี่ไคโรที่มาเดินกลับเข้ามา ทั้งยังส่งสายตาคาดโทษฉันอย่างเอาเรื่อง เขาเดินกลับมาที่เก้าอี้ข้างคาเรน แถมยังหยิบทิชชูมายังเช็ดปากให้กัน ราวกับเป็นผู้ชายที่อบอุ่นแบบโคตร ๆ “กินไม่ระวังเลยนะเรา” “แหม พี่ไคโรไปนานอะ มาถึงก็บ่นเลย บ่นเก่ง” “ก็เรา กินไม่ระวังเองนี่นา” เขาทำยังกับว่า ตรงนี้มีแค่เขากับคาเรนอยู่กันสองคน ส่วนพวกฉันนะเหรอเหมือนพวกรับบทตัวประกอบ ไม่ก็ตัวอิจฉาที่ตาร้อนผ่าว ๆ ที่กำลังมองดูคู่รักสวีทกันหวานแหววอยู่ตรงหน้า “เออเมื่อกี้ว่าไงครับ เหมือนเมื่อกี้จะคุยถึงพี่อยู่เหรอ^^” พี่ไคโรถามด้วยรอยยิ้มแต่ดวงตาเขาแอบแข็ง ซ้ำยังจ้องเขม็งมาทางฉัน “อ่า...” พวกเราหน้าเสียมองหน้าเลิ่กลั่ก พากันพูดไม่ออก ดีนะว่าคาเรนพูดตัดบทออกมาก่อน เหมือนช่วยชีวิตพวกเรายังไงยังงั้น “ไม่มีอะไรคะ เพื่อนพวกนี้ก็ถามไปเรื่อยว่าคาเรนรู้จักพี่ได้ไง แต่จ้างก็ไม่บอกหรอก ให้รู้แต่ว่าคาเรนสำคัญที่สุดสำหรับพี่ไคโรก็พอเนอะ เรื่องอื่นปล่อยไว้เป็นความลับ อิอิ” คาเรนยิ้มกริ่มก่อนยักคิ้วให้พวกเรา “ปะ รีบกินกันดีกว่าจะได้รีบกลับ” นางดูไม่เป็นทุกข์เป็นร้อนดูชิวมาก ส่วนพวกเราได้แต่นั่งก้มหน้ากินชาบูกันเงียบกริบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อ โดยเฉพาะฉันที่กินไม่ค่อยลงเลย เพราะเงยหน้าทีไรก็เจอสายตาพี่ไคโรจ้องเขม็งอยู่แบบนั้น ที่สุดแล้วมื้อค่ำก็จบลง พี่โคโรอาสาไปส่งพวกเราทุกคน แต่บ้านสไมล์กับฌิรินอยู่คนละฝั่งพวกนางเลยขอเรียก TAXI กลับกันเอง เว้นก็แต่ฉันซึ่งบ้านน่าจะอยู่เส้นเดียวกับคาเรน “ไม่ให้พี่ไปส่งจริงดิ พี่วนไปส่งพวกเราได้ทุกคนเลยนะครับ” รับบทสุภาพบุรุษสุด ๆ “ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ พวกเราไปคนละทางเกรงใจ” ฌิรินปฏิเสธ “เอางั้นเหรอ พวกแกไม่ให้พี่ไคโรของฉันไปส่งจริง ๆ เหรอ” คาเรนหันมามองหน้าพวกเราทีละคน ก่อนที่เสียงสไมล์จะพูดขึ้นแล้วมาจบลงที่ฉัน “อื้อ เอางั้นแหละ เหลือก็แต่นาบีบ้านนางอยู่ทางเดียวกับแกไม่ใช่ งั้นฝากนาบีไปด้วยคนแล้วกัน” งานเข้าสุด -_- “มะ ไม่เป็นไร ฉันว่าฉันเรียก TAXI กลับเองดีกว่า” และแน่นอนว่าฉันรีบปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด “ไม่เป็นไรเหมือนกัน ให้นาบีกลับกับฉันละกันตามนี้นะ” คาเรนเอ่ย ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครฟังเสียงปฏิเสธของฉันเลยสักคน มัดมือชกแบบสุด ๆ แต่เอาเถอะมีคาเรนอยู่ด้วยไม่ได้อยู่กับหมอนั่นสองต่อสอง คงไม่น่ากลัวเท่าไหร่ “เค งั้นตามนี้แยกย้ายไว้เจอกันที่มหาวิทยาลัยพรุ่งนี้” ยัยคาเรนเอ่ยสรุปบอกเพื่อนๆ ในขณะที่ฉันหันไปเห็นมือปลาหมึกของพี่ไคโรที่โอบไหล่ยัยคาเรนอย่างถือวิสาสะ เห็นแล้วอยากเดินไปดึงมือของเขาออก แต่ทำไม่ได้ไง ได้แต่คิด พวกเรารอจน TAXI ที่สไมล์กับฌิรินมารับจนรถเคลื่อนออกไป ก่อนจะกลับมาขึ้นรถของพี่ไคไรด้วยกัน แน่นอนว่าคนที่นั่งหลังเป็นฉัน ทว่าระหว่างทางที่รถขับออกไปได้สักพัก อยู่ ๆ ก็มีสายจากมือถือของคาเรนดังขึ้น “อ่อค่ะ รถเสร็จแล้วใช่ไหม โหไวมากเลยค่ะ แต่นี่จะสองทุ่มแล้วอู่ยังไม่ปิดใช่ไหมคะ งั้นฉันไปรับรถได้เลยไหมคะ” คาเรนเอ่ยกับปลายสาย ที่เดาว่าน่าจะโทรมาจากศูนย์บริการรถที่ให้คนไปส่งซ่อมเมื่อเช้า “โอเค งั้นฉันจะรีบไป” คาเรนกดตัดสายก่อนหันมามองที่ฉันและหันกลับไปมองที่พี่ไคโร “ไปส่งน้องเอารถหน่อยดิ รถเสร็จละอะ ตอนเช้าจะได้ไม่รบกวนพี่มารับไง” “แล้วทำไมไม่เอารถตอนเช้าล่ะ เดี๋ยวพี่ให้คนแวะมาเอาให้ก็ได้” พี่ไคโรหันไปตอบ ก่อนที่คาเรนจะเอี้ยวตัวเองไปกระซิบที่ข้างหูของเขา ซึ่งฉันได้ยินแค่ “มีนัด” อะไรสักอย่าง แต่ฟังไม่ค่อยถนัดสักเท่าไหร่ “โอเค เอาแบบนั้นก็ได้” พี่ไคโรตอบ ก่อนจะหักพวงมาลัยไปอีกทาง ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งเหวอเพราะไม่รู้จะยังไงต่อ “นี่นาบี ฉันขอแวะไปเอารถที่อู่ก่อนนะพอดีช่างโทรมาว่ารถเสร็จพอดี แล้วเดี๋ยวฉันว่าจะเลยไปทำธุระนิดหน่อย ส่วนแกกลับกับพี่ไคโรของฉันเลยแล้วกัน” หา!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD