ฉันรู้ว่าเขาจำฉันได้ แต่ที่เขาพูดออกมาแบบนั้นเพราะคงไม่อยากให้ยัยคาเรนและเพื่อนของฉันรู้เรื่องราวระหว่างเรา
“อ่าเหรอคะ สงสัยฉันคงจำคนผิดเอง ขอโทษนะคะ” ฉันตอบแก้ต่างออกไป เพราะสายตาของเพื่อนทุกคนกำลังมองหน้าฉันแบบงง ๆ
ส่วนอีตาพี่ไคโรยังคงทำหน้านิ่ง เนียนเหมือนคนไม่รู้จักหรือเจอฉันมาก่อน ก่อนที่เขาจะขอตัวเดินแยกไปกดตั๋วดูหนังให้พวกเรา
“ปะ ใกล้เวลาเข้าไปในโรงดีกว่าครับ” เขาเอ่ยชวนพวกเราทุกคน ก่อนจะหันไปจับมือขอฝคาเรน เดินนำเข้าโรงหนังไปทันที
ส่วนฉันก็ได้แต่มองแผ่นหลังของเขากับเพื่อนรัก ด้วยสายตาของความไม่ชอบใจ
ภายในโรงหนัง
“นาบีกินป๊อปคอร์นปะ”
“ไม่อะแกกินเลย”
ฉันบอกกับยัยคาเรนที่ยื่นป๊อปคอร์นมาให้ สักพักก็เห็นนางจับมือพี่ไคโร แล้วเอาป๊อปคอร์นในมือไปยัดใส่มือพี่เขาให้ถือแทน
ตลอดระยะเวลาที่หนังฉาย ฉันไม่ได้สนใจดูหนังเลย เอาแต่มองพี่ไคโรกับยัยคาเรนที่นั่งสนิทสนมหวานแหววอยู่สองคน พี่ไคโรดูใส่ใจเพื่อนฉันเป็นพิเศษ พอคาเรนจะขอน้ำ หรือจะขอป๊อปคอร์นกี่รอบก็ยื่นให้ด้วยความเต็มใจหมด และอีกอย่างคือทั้งคู่กินน้ำหลอดเดียวกันอีกด้วยนะ!
โห…นี่ความสัมพันธ์ของสองคนนี้มันจะรวดเร็วไปไหนกัน! อย่าบอกนะว่าคาเรนเสร็จหมอนี่ไปแล้วเหมือน ๆ ฉัน!
“ป้อนหน่อย” ฉันมองยัยคาเรนที่พูดขึ้นก่อนจะอ้าปากรอ พี่ไคโรหันมามองก่อนจะยิ้มเล็กน้อย แต่ก็ยอมป้อนใส่ปากคาเรนด้วยความเต็มใจ
ส่วนฉันได้แต่นั่งอึ้ง ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นมุมอ่อนโยนของผู้ชายคนนี้ ที่ตอนอยู่กับฉัน เขามักจะทำหน้านิ่ง ส่วนตอนที่ฉันเจอเขาอยู่กับสาวคนอื่นก็ติดจะดูหื่นนิด ๆ
อันไหนคือตัวจริงกันแน่นะ
เขาที่อยู่กับคาเรน ดูเป็นคนอบอุ่น สุภาพบุรุษและเรียบร้อย ผิดไปจากที่ฉันเห็นมาก่อนหน้านี้ลิบลับ แต่ก็ช่างเถอะ ขึ้นชื่อว่าแบดบอย ยังไงเขาก็คือแบดบอย ตอนนี้เขาอาจแค่สร้างภาพหลอกคาเรนขึ้นมา
เฮ้อ… ฉันละนึกห่วงคาเรนขึ้นมาจริง ๆ นางเป็นคนอ่อนไหวง่าย ถ้าโดนฟันแล้วทิ้งเหมือนฉัน มีหวังนางต้องร้องไห้จนเป็นซึมเศร้าแน่ ๆ
ฉันจะทำยังไงดีนะ...
“ยัยนาบีดูไอ้ที่โผล่มานั่นดิ โอ้ยแม่ง” อยู่ ๆ ยัยฌิรินที่นั่งข้างฉันก็เอ่ยถามขึ้นมา ทั้งที่สมองฉันไม่ได้ใส่ใจกับจอหนังที่อยู่ตรงหน้าเลยสักนิด
“เออ หล่อดี ฉันชอบ” ฉันตอบปัดแบบส่ง ๆ ไป เพราะไม่ได้มีสมาธิอยู่กับหน้าจอเลยตั้งแต่เข้ามา
“เอ๊ะ! เดี๋ยวแก นี่แกจะบอกว่าจระเข้ตัวนี้หล่อดีเหรอ บ้าเปล่าวะ สเปกแกแปลกไปนะ”
“หา...จระเข้”
เท่านั้นแหละ ฉันเลยหันไปดูที่หน้าจอทันที ก่อนจะเห็นจระเข้ตัวโตกำลังคลานอยู่ในท่อระบายน้ำ จริงสิลืมไปเลยว่ามาดูหนังเกี่ยวกับจระเข้ -.-
หลังจากหนังจบพวกเพื่อนฉันก็พากันเดินเล่นกันต่อ ส่วนฉันรอจังหวะสบโอกาสในขณะที่พวกเราอยู่ที่เข้าไปเลือกซื้อเสื้อผ้า และเห็นพี่เขายืนรอที่หน้าร้านคนเดียว
พอได้จังหวะนั้น ฉันก็เลยแอบชิ่งจากกลุ่มเพื่อน รีบเดินไปหาเขา
“ว่าไงคะ” ฉันเอ่ยทักทายคนตัวโต ที่กำลังยืนก้มหน้าก้มตาเล่นมือถืออยู่ พอได้ยินฉันทักเขาก็เงยขึ้นมาสบตากับฉันทันที
“มีอะไร” เขาเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทำยังกับว่าไม่เคยเจอฉันมาก่อนยังงั้นแหละ แหงสิ ตอนนี้ตัวเองอยู่กับเพื่อนฉัน เลยทำสีหน้าเหมือนไม่ค่อยอยากจะคุยกับฉันเสียเท่าไหร่
“ก็ไม่มีอะไร แต่ฉันรู้นะว่าพี่อะ จำฉันได้” ฉันขยับเข้าไปใกล้ร่างสูง ก่อนจะยืนหน้าเข้าไปใกล้ ส่งผลให้พี่เขาหยุดการเล่นมือถือแล้วเก็บมันเข้ากระเป๋ากางเกง พลางจ้องหน้าฉันกลับ
“แล้วไง?” สีหน้าเขายังคงเรียบนิ่ง เว้นก็แต่คิ้วที่ยกขึ้นบ่งบอกถึงความไม่พอใจ
ท่าทางกวนประสาทแบบนี่สิ เป็นท่าทางที่ฉันคุ้นตัวตนจริง ๆ ของเขามากที่สุด
“ก็ไม่แล้วยังไง แต่ไม่รู้ว่ายัยคาเรนเพื่อนฉันรู้หรือเปล่าว่าที่จริงแล้ว พี่อะโคตรเพลย์บอยตัวพ่อแถมยังควงหญิงไม่ซ้ำหน้า”
ฉันลอยหน้าลอยตาตอบจงใจพูดกระแทก แต่ร่างสูงกลับทำสีหน้านิ่งเฉย พร้อมกับยักไหล่อย่างไม่สนใจ
“นึกว่ามีอะไร แค่นี้เหรอที่อยากพูด” เขาทำท่าเหมือนจะหยิบมือถือขึ้นมาใหม่
นั่นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกไม่พอใจเขาไปกันใหญ่ คนอะไรหน้านิ่งทั้งที่ตัวเองเป็นวายร้าย
เขากล้ามากนะที่เข้าหาเพื่อนสนิทของฉันด้วยนิสัยปลอม ๆ นั่น
“แต่ก็เอาเถอะ ถึงพี่จะไม่สนใจที่ฉันพูดก็ไม่เป็นไร เพราะอีกเดี๋ยว ฉันนี่แหละจะไปบอกความจริงกับยัยคาเรนเองว่าพี่มันแบดบอยขนาดไหน แถมยังเอาหญิงไปทั่ว ไม่เว้นแม้กระทั่งฉะ....”
ฉันเม้มปากเพราะรู้สึกกระดากใจ ที่จะพูดเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองในคืนนั้น แต่สิ่งที่ฉันได้กลับมาจากเขามีเพียงเสียงแค่นหัวเราะกลับมา
“หึ ไร้สาระ”
“ไร้สาระยังไง ก็พี่เคยนอนเอากับฉันทั้งคืน!”
สิ้นประโยค คนตรงหน้ากลับมองฉันด้วยแววตาน่ากลัว ก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ลืมมันไปซะ และห้ามพูดเรื่องนี้ให้คาเรนฟังเด็ดขาด”
นั่นไง…เขาแคร์คาเรนมากจริง ๆ ด้วย
ฉันมองพี่ไคโรที่พูดขู่
เขาจ้องหน้าฉันส่วนฉันก็จ้องกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“ไม่ เพราะฉันจะพูด”
“งั้นก็เอาซิ ถ้าอย่างลองดีกับฉัน บางทีฉันจะเอาคลิปที่ถ่ายไว้ในมือถือออกมา…” เขายกยิ้มร้ายที่มุมปาก
เล่นเอาฉันอึ้ง ช็อก และทำตัวไม่ถูก ยะ…อย่าบอกนะว่า เขามีคลิปที่ถ่ายกันฉันในคืนนั้น!!
เชี่ยละ!
....
“พี่ไคโร นาบี สองคนยืนคุยอะไรกันอยู่น่ะ”
เสียงเรียกเราทั้งสองคน ทำเอาทั้งฉันและพี่ไคโรต่างก็สะดุ้งรีบผละออกจากกัน เราสองคนจะหลบสายตาแล้วหันไปมองคาเรนกับกลุ่มเพื่อนที่พากันเดินถือถุงชอปปิ้งมากันคนละถุงสองถุง
“เปล่า ไม่มีไร แค่คุย ๆ ถามเรื่องทั่วไป”
ฉันรีบบอกปัด แต่สไมล์พยักหน้าเหมือนเข้าใจที่ฉันอธิบาย นางเดินเข้ามาใกล้ แล้วกระซิบข้างหูฉัน
“อ๋อ แกถามเรื่องรุ่นพี่วิศวะที่แกไปนอนในคืนนั้นใช่ปะ ว่าไงได้เรื่องไหม พี่เขารู้จักไหม”
ฉันรีบส่ายหน้า ก่อนมองสบตากับพี่โคโรแวบหนึ่ง
ก็นะ เสียงยัยสไมล์เบาที่ไหน ขนาดกระซิบพวกเราที่ยืนอยู่ตรงนี้ยังได้ยินกันทั้งหมด
หรือ...ฉันควรจะบอกความจริงกับทุกคนไปดี ว่าไอ้คนที่ยืนอยู่ตรงนี้นี่แหละ
แต่เอ้ย...ไม่ได้สิ! เมื่อกี้นี้พี่ไคโรพูดถึงคลิปที่แอบถ่ายไว้นี่นา
แง ฉันจะทำไงดีเนี่ย