"ทีหลังทำอะไรก็ระวังอย่าให้แผลฉีกอีกรู้ไหม?" ตอนนี้โรมทำแผลให้ฉันเสร็จเรียบร้อยแล้วและตำรวจก็กลับกันไปหมดแล้วด้วย
"มันเพราะใครกันละ?"
"จะบอกว่าเป็นความผิดฉันเหรอ??" เขาชี้หน้าตัวเองและทำหน้าเอ๋อ
"ก็ถ้านายไม่ชวนทะเลาะแผลฉันจะฉีกไหมละถามมาได้??"
"แล้วใครใช้ให้พูดจาไม่เข้าหูก่อนละฉันจะไปทำงานแล้ว ถ้าพยาบาลเอาข้าวเอายามาให้ก็กินให้ครบละอย่าดื้อ" เขาบอกกับฉัน
"ฉันจะกลับบ้านแล้วไม่มีเงินจ่ายหรอกที่นี่โรงพยาบาลตั้งแพง" ฉันบอกกับเขาไปตรง ๆ ไม่มีอะไรต้องปิดอีกแล้ว อ่อ มีอีกเรื่องนี่น่าแต่ช่างเรื่องนั้นมันเถอะหรือว่าสองเรื่อง??? ช่างเถอะ ๆ
"ฉันจ่ายให้เรียบร้อยแล้วทั้งหมดเพราะงั้นพักผ่อนซะ แผลหายค่อยดีออกจากโรงพยาบาล"
"ฉันจ่ายคืน..." ฉันไม่อยากเป็นหนี้เขา
"มีปัญญาเหรอ?" เขาถามสวนออกมาทันที
"..." สะอึกเลยฉัน
"ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องพูดหรอกฉันบอกแล้วไงว่าอะไรที่ฉันให้เธอคือให้ไม่ต้องเอามาคืน ไปละ" เขาพูดจบก็เดินออกไปจากห้องของฉันเลย
"รู้หรอกว่าไม่มีแต่ก็จะพยายามหามาให้ไง!" ดีที่พายุยังไม่ทวงเงินไม่งั้นฉันก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินมาจากที่ไหนเหมือนกันทำไม
หลังจากนั้นโรมออกมาไปแล้วฉันก็นั่ง ๆ นอนไม่มีอะไรทำเท่าไหร่แต่กำลังคิดเรื่องของพ่อว่าฉันควรทำยังไงดี ถ้าไม่ช่วยจะกลายเป็นลูกที่ไม่ดีหรือเปล่านะแต่ว่าที่ผ่านมาฉันก็ทำจนสุดความสามารถของฉันแล้วนะ ฉันทำงานเพื่อหาเงินไปเรียนแต่สุดท้ายก็เรียนแทบจะไม่รอดอยู่แล้วเพราะต้องเอาเงินไปช่วยพ่อบ้างน้องบ้างสลับกันไป ไหนจะค่ากิน ค่าน้ำ ค่าไฟอีก ยิ่งช่วงนี้ราคาของอะไรขึ้นอยู่ด้วยงานก็ยังหาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ชีวิตของฉันทำไมต้องมาเป็นแบบนี้ด้วยนะ
"เฮ้ออออ"
เวลาต่อมา...
"ขออนุญาตค่ะ อาหารกลางวันค่ะแล้วก็ยาถ้าทานเสร็จแล้วหมอจะเข้ามาตรวจร่างกายนะคะ" พยาบาลเข้ามาพร้อมกับรถเข็นที่มีอาหารกลางวันอยู่
"ขอบคุณนะคะ" ฉันรับมา
"ต้องการให้ป้อนไหมคะ?" พยาบาลถามฉัน
"เอ่อ ไม่ต้องหรอกค่ะเดี๋ยวฉันจัดการเองได้ ขอบคุณนะคะ" ฉันโดนแทงก็จริงแต่ว่าไม่ได้พิการนะมือไม่ได้เจ็บ
"ค่ะ งั้นทานเสร็จแล้วกดออนเรียกได้เลยนะคะ"
"ได้ค่ะ คุณพยาบาล" พยาบาลก็เดินออกไปแต่ว่าสวนกับโรมเดินเข้ามาเขาไม่มีงานทำหรือไงทำไมโพล่งมาอีกแล้ว
"ทำหน้าตาให้มันดีหน่อยนะใบหม่อน" ท่าทางของฉันแสดงออกทางสีหน้าเลยเหรอ???
"ก็หน้าฉันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว"
"เมื่อก่อนน่ารักกว่านี้" หมับ! เขาพูดและแย่งช้อนไปจากมือของฉันทันทีก่อนจะตักข้าวต้มและป้อนให้ฉัน
"ทำอะไรเนี่ย?"
"ป้อนข้าวไง...แผลโดนแทงขยับตัวมาก ๆ มันไม่ดีหรอก เพราะงั้นฉันจะดูแลเธอเองอ้าปาก" เขาเอาช้อนมาจ่อปากฉัน
"เมื่อกี้พยาบาลยังไม่เห็นบอก อุบ!" เขาไม่ฟังฉันและยัดช้อนเข้ามาในปากของฉัน
"กิน ๆ ไปเถอะฉันเป็นหมอนะบอกอะไรเธอก็ควรก็ฟัง" เขาทำหน้าดุ ๆ และตั้งใจป้อนข้าวต่อไป
"ช้า ๆ ก็ได้ หรือว่าถ้านายรีบก็ไปเถอะฉันกินเองได้" ฉันบอกและพยายามแย่งช้อนกลับคืนมาแต่เขาหลบ -_-
"ว่างแล้วฉันเลยแวะมาป้อนข้าวเธอนี่ไงทำเองมันลำบาก"
"ขอบใจแล้วกัน"
"แล้วเรื่องพ่อของเธอจะเอายังไง??"
"ตำรวจบอกว่ายอมความไปก็ต้องรับโทษอยู่ดีฉันก็คงทำอะไรไม่ได้มากหรอก บางทีอาจจะต้องปล่อยไปก่อน" ฉันพูดแล้วเหม่อลอย
"ฉันเป็นแฟนเธอแท้ ๆ แต่กลับไม่รู้เรื่องครอบครัวเธอเลยฉันแย่เนอะ" เขาทำหน้าเศร้าแต่นั่นไม่ใช่ความผิดของเขาหรอก
"มันเป็นเพราะฉันต้องการปกปิดนายต่างหากมันไม่ใช่ความผิดของนายหรอก" เป็นฉันเองที่ไม่ต้องการบอกเรื่องครอบครัวกับเขา ฉันเองที่พยายามปกปิดให้มันเป็นความลับและฉันเองก็อยากให้มันเป็นความลับต่อไปจนฉันตายแต่ตอนนี้สิ่งที่ตั้งใจไว้คงเป็นไปไม่ได้แล้วเพราะเขารู้เรื่องทุกอย่างแล้ว
"แต่ฉันก็ผิดอยู่ดีที่ไม่ได้สังเกตุอะไรเลย ไม่ถามไถ่อะไรเลยทั้งที่เธอกำลังเจ็บปวด..."
"ฉันชินชาแล้วล่ะนายไม่ต้องมาทำหน้าสงสารฉันหรอก" ฉันบอกกับเขาไป
"ขอโทษนะ..."
ก๊อก ๆ
เสียงเคาะประตูทำให้บทสนทนาของทั้งเราจบลงทันที เป็นหมอและพยาบาลที่เดินเข้ามาคงเพราะว่าเวลาผ่านไปนานแล้วสินะ
"ขอโทษนะครับแต่ไม่ทราบคนไข้ทานข้าวและยาหรือยังครับนานแล้วยังไม่เห็นกดออนเรียกเลย" หมอเดินเข้ามาหาและถามฉัน
"เอ่อ ทานข้าวเรียบร้อยแล้วค่ะเหลือยา"
"คุณมาทำอะไรที่นี่?" หมอหันถามโรมที่นั่งอยู่
"ผมพักเที่ยงน่ะครับเลยมาดูแลเธอหน่อย" โรมตอบ
"อ่อ งั้นผมขอตรวจแผลหน่อยนะครับ แล้วก็เดี๋ยวทานยา" หลังจากนั้นหมอก็ทำการตรวจแผลของฉัน ชีพจร และอื่น ๆ อีกมากมายสักพักหมอก็ตรวจเสร็จแล้ว
"เป็นยังไงบ้างครับอาจารย์หมอ??" โรมถาม
"ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก ไม่มีอาการแทรกซ้อนด้วย แผลเหมือนจะฉีกไปนิดแต่ก็ทำแผลได้รวดเร็วและเรียบร้อยดีด้วย แต่ว่าต้องอยู่โรงพยาบาลสักประมาณ 7-14 วันเพราะว่าแผลค่อยข้างใหญ่เลยก็ว่าได้"
"นานขนาดนั้นเลยเหรอคะ??"
"ถ้าทานยาครบและรักษาแผลดี ๆ ก็ไม่นานเท่าไหร่ครับ" ฉันต้องไปทำงานนะไม่มีเวลามานอนหรอกไหนจะค่ารักษาอีกฉันไม่มีปัญญาจ่ายแน่นอนเลย ฮืออออ
"ขอบคุณอาจารย์หมอมากเลยนะครับ"
"แฟนคุณเหรอ??" อาจารย์หมอถามเขา
"เอ่อ..."
"มะไม่ใช่นะคะแค่เพื่อนค่ะ....เพื่อนเก่า..." ฉันรีบตอบกลับไปก่อนใครจะเข้าใจผิดเข้า
"อ่อ แบบนั้นเองสินะครับ งั้นหมอขอตัวก่อนคุณก็ดูแลเพื่อนคุณดี ๆ ละ"
"ครับ อาจารย์หมอ" แล้วหมอก็พยาบาลก็เดินออกไป
แต่ประตูยังปิดไม่ทันสนิทก็มีคนเดินสวนเข้ามาพบว่าเป็นทิวลิปกับพายุนั่นเองพวกเขามาเยี่ยมหลังจากที่ได้ข่าวของฉันสินะ
"สวัสดีค่ะพี่ใบหม่อน พี่โรมเป็นยังไงบ้างคะแผลดีขึ้นบ้างไหม?" ทิวลิปถามทันทีเพราะว่าเธอเองก็เป็นว่าที่คุณหมอเช่นกัน คนรอบตัวของฉันมีแต่คนการศึกษาดี การงานดีทั้งนั้นเลยแหละส่วนฉันมันเทียบไม่ได้กับพวกเขายิ่งเห็นก็ยิ่งรู้ว่าเราแตกต่างกันแค่ไหน...
"ไม่เจ็บเท่าตอนโดนแทงหรอก" ฉันตอบกลับเล่น ๆ ไปสะบัดความคิดแย่ ๆ ออกไปก่อนเมื่ออยู่คนเดียวค่อยคิดใหม่แล้วกัน
"เดี๋ยวก็หายแล้วค่ะนี่ทิวซื้อผลไม้มาฝากค่ะ ทิวไม่รู้ว่าพี่ใบหม่อนชอบกินอะไรเลยซื้อแบบรวม ๆ มา"
"ขอบคุณมากเลยนะความจริงไม่ต้องเอามาก็ได้" ฉันพูดกับทิวลิปทั้งที่เมื่อก่อนนี้ฉันพยายามจะแย่งพายุคืนมาแต่ตอนนี้เธอกลับเป็นน้องที่ดีของฉันซะงั้นแหละ แถมหลายครั้งทิวลิปก็พยายามช่วยเหลือฉันอีกด้วยไม่ว่าฉันจะไปทำงานที่ไหนทิวลิปก็ไปช่วยซื้อจนฉันมียอดขายเยอะเลยละ
"ไม่ได้หรอกคนเป็นแผลแบบนี้ต้องกินของที่มีประโยชน์ค่ะ^^"
"หนูก็ต้องกินเหมือนกันจะได้โตเร็ว ๆ" หมับ!! พายุลูบหัวของทิวลิปอย่างเอ็นดูเมื่อก่อนเขาก็อ่อนโยนแบบนั้นกับฉันนั่นแหละ แต่ว่ามันก็เป็นเพียงอดีตและฉันไม่ได้รักเขาตั้งแต่ต้นคนที่อยู่ในใจของฉัน...มีเพียงเขาคนเดียวมาโดยตลอด
"มองอะไรมันนักหนา?" เสียงของโรมดังขึ้น
"มีตาก็มอง ขอบคุณทั้งสองมากนะที่มาเยี่ยมอะ" ฉันบอกกับทั้งสอง
"รีบ ๆ หายแล้วกัน" พายุพูดกับฉัน
"อืมได้เลย" ฉันยิ้มให้พายุ
"เมียเขายืนอยู่ยังจะไปยิ้มให้ผัวเขาอีกเนอะ!" โรมแซะฉัน
"นี่!!ฉันยิ้มแบบเป็นมิตรต่างหาก!!มิตรภาพน่ะ!!" ฉันอดไม่ได้ที่จะดุเขาที่คิดอะไรไปเรื่อย ๆ แม้ฉันจะพายุจะเคยคบกันแต่เราไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกันเลยแถมคบไม่นานด้วย
"เหอะ!!"
"เดี๋ยวพี่ออกไปคุยโทศัพท์แปบนะ" พายุบอกกับทิวลิป
"ได้ค่ะ เดี๋ยวทิวอยู่กับพี่ใบหม่อนเอง"
"มึงมานี่ดิไอ้โรม" แต่เขากลับเรียกโรมไปด้วย...
คุยอะไรกันนะ??