คุณนายระเบียบ

1774 Words
ตอนที่ 9 แววตาที่มองมาเหมือนเด็กหลงทางของชายตัวโตที่ไม่น่าจะเป็นไป ยิ่งเมื่อชายหนุ่มซบหน้าลงกับไหล่ยิ่งทําให้เธอทําอะไรไม่ถูก ชายหนุ่มที่ใคร ๆ ในวงการธุรกิจต่างตั้งฉายาให้ว่าเป็นเสือปืนไว คนพร้อมที่จะใช้ทุกอย่างห้ำหั่นศัตรูให้พินาศ แต่ในขณะเดียวกันก็จะทุ่มจนสุดตัวเช่นกันเพื่อช่วยเหลือมิตรสหาย คนในวงการรู้ดีว่าแม้จะเป็นมิตรกับเขมชาติไม่ได้ ก็อย่าเป็นศัตรูกับคนคนนี้เด็ดขาด หรือในชีวิตส่วนตัวที่เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น แม้ว่าจะไม่เคยตกเป็น ข่าวตามช่องไหนเลยก็ตาม เพราะความระมัดระวังตัวของตัวเอง หรืออิทธิพลมืดที่ปิดข่าวได้สนิท เขมชาติผู้มีความหล่อกระชากใจสาว ๆ คนที่กําลังสะกดเธอด้วยดวงตาหวานซึ้งที่มองมาอย่างออดอ้อน คงเพราะแววตาคู่นี้ที่ทำให้เธอยอมให้เขากอดได้ตามอำเภอใจ ไหนจะหน้าที่ซบมาอย่างคนหมดแรง เหมือนกับคนที่หลงทางอยู่กลางทะเลทรายแล้วมาพบแหล่งน้ำตรงหน้า ยิ่งทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก พริมโรสได้แต่ยกมือ ขึ้นกอดและตบหลังเบา ๆ เพื่อปลอบใจ เพราะตอนนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่าในสถานการณ์อย่างนี้เธอควรทำตัวอย่างไร ‘คุณรู้สึกอย่างนี้จริง ๆ หรือแค่ทำให้ฉันใจอ่อน เพื่อที่จะชนะเกมนี้ กันแน่’ แล้วเธอก็ได้ยินถ้อยคําที่กระซิบอย่างแผ่วเบา แต่กลับชัดเจนในความรู้สึก คําพูดที่ทําให้ความคิดทั้งหมดของเธอหยุดชะงัก คําพูดที่ทําให้ลืมไปหมดว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน กําลังทําอะไรอยู่ คําพูดที่นุ่มนวลและอ่อนหวานที่สุดเท่าที่เธอเคยได้ยินมา ‘ขอบคุณครับ...ดอกพริมโรสของผม’ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขมชาติอาจจะแกล้งพูดเพื่อให้เธอคล้อยตามก็ได้ แต่ทําไมเธอถึงรู้สึกอบอุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่มีใครพูดกับเธออย่างนี้ นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่มีใครมองเธอด้วยสายตาอย่างนี้ มองด้วยสายตาที่ผู้ชายคนหนึ่งใช้มองผู้หญิงคนหนึ่ง มองเธอในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง...แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่ต้องการมีใครสัก คนคอยดูแลเอาใจใส่ ต้องการใครสักคนคอยปกป้อง เธอไม่ใช่หญิงเหล็กไร้ความรู้สึก ไร้หัวใจ นานมาแล้วที่เธอต้องต่อสู้กับปัญหาต่าง ๆ มาตามลำพังแม้จะเหนื่อยเพียงไหนก็ต้องเก็บมันไว้ จะให้ใคร ๆ เห็นไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เธออยากจะพักเต็มที แต่ก็ไม่สามารถหยุดพักที่ไหนได้ เพราะไม่มีที่ไหนสักแห่งที่จะให้เธอพักใจได้อย่างแท้จริง จนมาถึงวันนี้...ผู้ชายคนนี้ คนที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว คนที่ทําทุกอย่างเพื่อทําให้ตัวเองชนะ กลับเป็นคนที่ทําให้หัวใจเธอหวั่นไหว ทําให้เธออยากจะฝากชีวิตไว้กับคนคนนี้ ‘ต้องการอะไรกันแน่...เขมชาติ’ แม้เขมชาติจะผละตัวออกจากอ้อมกอดของเธอไปแล้ว แต่แววตาที่มองมาอย่างมีความหมาย ทําให้พริมโรสรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นคนสําคัญของเขา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่านี่อาจจะเพียงการแสดงเท่านั้น รู้อย่างนี้แล้วทําไมเธอต้องใจอ่อนให้เขาด้วย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าถ้าเธอยอมใจอ่อนเมื่อไหร่ ถ้าเธอเอาความรู้สึกมาอยู่เหนือเหตุผลเมื่อไหร่ เธอจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในเกมนี้ ยิ่งคิดพริมโรสก็ยิ่งไม่เข้าใจ ยิ่งคิดยิ่งสับสน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี และเขมชาติก็เป็นคนหยุดความคิดทั้งหมดของเธออีกครั้งด้วยริมฝีปากของเขา ชายหนุ่มจุมพิตริมฝีปากเธออย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน ก่อนจะส่งยิ้มมาให้อีกครั้ง ใบหน้าของพริมโรสร้อนผ่าวอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทําให้เธอต้องแสร้งหันไปมองทางอื่น และทำให้เขาต้องเอื้อมมือมากุมมือเล็กไว้พร้อมกับ พูดด้วยนํ้าเสียงอ่อนโยนและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยพูดกับใครมาก่อน “เอาเป็นว่าเราสองคนหายกันนะครับ...ผมจะไม่โกรธที่คุณ ขวัญอ่อนทําร้ายผมวันนี้ แต่คุณต้องรับปากผมก่อน ว่าคุณจะหาย งอนผม และคุณต้องสัญญากับผมด้วยว่าคุณ...จะไม่ทิ้งให้ผมอยู่คน เดียวอีก” พริมโรสได้แต่นิ่งมองคนตัวใหญ่ที่อ้อนมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนที่มือของเธอจะถูกมือใหญ่ยกขึ้นมาจรดริมฝีปากอย่างนุ่มนวล “นะครับ..สัญญากับผมว่าคุณจะไม่ทิ้งผมไป” ไม่ต้องพูดอะไรออกมา เพียงแค่สายตาที่จ้องมองก็ทําให้ พริมโรสปฏิเสธไม่ออกแล้วอยู่แล้ว สมองของเธอตอนนี้ดูเหมือนจะหยุดสั่งงานไปแล้วเรียบร้อย ดังนั้นคําพูดที่หลุดออกมาจาก ริมฝีปากบางนั้นจึงเป็นคําตอบที่เอ่ยออกไปแบบไม่ได้คิด เอ่ยออกไปแบบที่ตัวเธอเองยังแปลกใจตัวเองเหมือนกัน “ค่ะ ฉันสัญญา” เมื่อคําพูดที่กล่าวเป็นสัญญาได้หลุดออกไปแล้ว หญิงสาวจึงรู้ตัวว่าเผลอรับปากอะไรไป ทําให้เธออดที่จะโมโหตัวเองไม่ได้ที่ยอมใจอ่อนให้กับเขมชาติ และดีกรีความโมโหก็เพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อเธอมองไปรอบ ๆ ห้องครัวขนาดกะทัดรัดแห่งนี้ไม่ได้มีแต่เธอกับ เขมชาติเพียงสองคน ทําไมเธอถึงลืมไปว่าตอนนี้มีคนอื่นยืนอยู่เต็มห้อง หน้าที่แดงอยู่แล้วยิ่งแดงเพิ่มขึ้นไปอีก ยิ่งหันมาสบตากับคู่กรณีที่นั่งยิ้มตรงหน้าอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรด้วยแล้ว ทําให้พริมโรสทำอะไรไม่ถูกจึงหันไปตวาดคนอื่นแทน “มองอะไร...ห้องเละขนาดนี้ยังไม่ช่วยกันเก็บอีก ยืนเซ่ออยู่ได้” ชงคมกับคาร์ลอตเป็นคู่แรกที่โดนหางเลขเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ทั้งคู่หันมามองหน้ากันอย่าง งงๆ ก่อนจะช่วยกันเก็บของที่กระจัดกระจายเพราะฝีมือของเธอแทน คู่ต่อมาเป็นเขมกรกับพิชชภรณ์ที่ถูกพริมโรสไล่ให้ออกไปข้างนอก “ยืนยิ้มอะไร นายกรพายัยหนิงไปพักผ่อนข้างนอกไม่ต้องเข้ามายุ่งในครัวอีกทําอาหารเสร็จจะไปตาม” ก่อนจะหันมาเล่นงานตัวการใหญ่แห่งความวุ่นวายทั้งปวงนี้ ที่ยังคงนั่งทําหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่กับที่ “นั่งนิ่งอยู่ได้ไปเอาไม้กวาด ไม้ถูพื้นมาทําความสะอาดเดี๋ยวนี้เลยนะ” ว่าจบก็ดึงตัวเขมชาติให้ลุกขึ้น แล้วผลักให้ออกไปเอาอุปกรณ์ทําความสะอาดมา ถ้าใครมาเห็นตอนนี้คงไม่มีใครเชื่อว่าเจ้าพ่ออย่างเขมชาติจะยอมทําตามคําสั่งของพริมโรสแต่โดยดี เป็นเรื่องที่แปลกมากสําหรับคนที่รู้จักเขาดี เพราะคนอย่างเขมชาติไม่เคยฟังคําสั่งใคร แต่ตอนนี้เขากําลังกวาดเศษผัดผักสารพัดพิษบนพื้นอย่างไม่ปริปากบ่นสักคำ ชงคมกับคาร์ลอต ที่กําลังช่วยกันเก็บของเข้าตู้อยู่ ลอบมองมาทาง เจ้านายตัวเองเป็นระยะ ๆ ด้วยความเป็นห่วงระคนสงสัยกับท่าทีที่อ่อนข้อให้กับพริมโรสอย่างไม่เคยยอมให้ใครมาก่อน แม้แต่บิดาผู้ล่วงลับไปแล้วก็ตาม เพราะความที่ทํางานร่วมกันมานาน ทําให้คนทั้งคู่รับรู้อย่างเงียบ ๆ ภายในใจว่า พริมโรสไม่ใช่เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาสําหรับเขมชาติอีกต่อไปแล้ว แต่หล่อนเป็น...คนพิเศษของนาย และอาจจะเป็นนายหญิงของพวกตนในอนาคตก็เป็นได้ “ยังไม่พออีกเหรอ ผมว่ามันสะอาดแล้วนะ” เขมชาติบ่น เพราะตอนนี้เขาถูพื้นมาแล้วสามรอบตามคําสั่งของพริมโรส เขายัง อดแปลกใจตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทําไมถึงยอมทําตามที่หญิงสาว บอก ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยฟังคําสั่งใครมาก่อน “นี่นายเขม...ดูดี ๆ สิ มันสะอาดที่ไหน พื้นยังเป็นคราบนํ้ามันอยู่เลย ถูสามรอบแล้วได้แค่นี้เองหรือไง” พริมโรสตวาดกลับทันที เมื่อ เธอยังคงเห็นว่าพื้นยังไม่สะอาดพอตามมาตรฐานของตัวเอง ‘ยายคุณนายระเบียบ...’ “โธ่...คุณพริม คุณก็มาทําเองสิ” ชายหนุ่มโต้อย่างไม่ยอมแพ้ เพราะตามความเห็นของเขามันก็สะอาดดีแล้ว เขมชาติว่าเขาก็เป็นคนหนึ่งที่ รักความสะอาด และชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่แพ้ใครเหมือนกัน ไอ้พื้นที่เขากําลังถูอยู่นี่ ดูอย่างไร ๆ มันก็คงไม่สะอาด มากไปกว่านี้แล้ว “งั้น...นายมากับข้าวแทนชั้นไหม” ถามอย่างหัวเสีย พร้อมกับทิ้งมีดที่กําลังหั่นผักลงเสียงดัง มือหนึ่งเท้าสะเอว ส่วนมือจับกระโปรงแล้วถลกขึ้นมาหน่อย ๆ ท่า ยืนสบาย ๆ แบบไม่ทุกข์ร้อน แต่แววตามองมาเหมือนหาเรื่องนั้น ทําให้เขมชาติมองอย่างขัดใจ ‘ให้ทํากับข้าวนี่นะ...’ “ผมถูต่อก็ได้...แต่ผมว่ามันสะอาดแล้วนะ” แม้จะยอมทํางานต่อ แต่ก็ยังไม่วายบ่นอุบอิบ “ถ้านายไม่อยากทํา...โน่น ออกไปเลยแล้วไม่ต้องเข้ามาเกะกะใน ครัวอีก” ชี้นิ้วไปที่ประตูให้เขมชาติออกไป “โธ่...” “พื้นมันยังลื่นอยู่นายลองเดินสิ ถ้าเกิดยัยหนิงเดินเข้ามาแล้วลื่นหกล้มล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น...คนท้องนะ ไม่ใช่คนตัวเปล่า ชั้นยังอยากเห็น หน้าหลานอยู่นะ” เมื่อเห็นว่าเถียงอย่างไรก็เถียงสู้พริมโรสไม่ได้ เขมชาติจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาถู แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคอยมองหญิงสาวอย่างงอน ๆ ทําให้ ชงคม กับคาร์ลอต ที่อยู่ในเหตุการณ์แอบลอบยิ้มกับกิริยาท่าทีของเจ้านาย แต่ทั้งคู่ต้องชะงัก เมื่อสบตากับเจ้านายหนุ่มที่มองมาอย่างคาดโทษ ทําให้ต้องรีบช่วยกันเก็บของเข้าตู้แทบไม่ทัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD