“กลับมาแล้วเหรอคะ ให้จันทร์เตรียมอาหารให้ไหมคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมทานมาแล้ว เดี๋ยวป้าจันทร์ช่วยปิดไฟปิดบ้านแล้วไปพักเถอะ วันนี้ผมน่าจะไม่ลงมาแล้ว”
“ได้ค่ะ”
พอร่างสูงเดินลับหายขึ้นไปด้านบน ป้าจันทร์ฉาย แม่บ้านเก่าแก่ที่ทำงานกับหม่อมหลวงปุ้ยมาตั้งแต่ยังเป็นสาวจนกระทั่งตอนนี้อายุย่าง 55 เธอก็ยังคงทำงานอยู่กับครอบครัวนี้ เมื่อไม่ว่าจะหาคนใหม่มาแทนสักกี่คนก็ไม่มีใครเข้าตาคาลวินเลยสักคน
“เฮ้อ...ทำไมคุณคาลถึงยังนิ่งได้ขนาดนี้กัน...”
ป้าจันทร์ฉายได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกเห็นใจเจ้านายหนุ่ม ขนาดภรรยาพึ่งเสียชีวิตไปทั้งคนยังไม่มีแววตาแห่งความเสียใจเลยสักนิด
ส่วนคาลวิน ตอนนี้เขากำลังยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจก สองมือค่อยๆถอดชุดที่ใส่อยู่ออก เขาไม่มีแม้แต่ความเสียใจให้กับภรรยาผู้จากไปนอกจากความสงสารเท่านั้นที่เขามีให้กับเธอ
5 ปีก่อน นารินถูกพามาที่นี่เพื่อให้เขาดูตัว เธอทั้งเรียบร้อย ทั้งอ่อนหวานและเขาเองก็ไม่ได้คิดรังเกียจเมื่อย่าของเขาเป็นคนพาเธอมาและเขาก็คงมีหน้าที่ที่ต้องทำตาม เขาตกลงแต่งงานกับเธอตามที่หม่อมหลวงปุ้ยต้องการทั้งๆที่รู้ว่าเธอนั้นมีร่างกายอ่อนแอด้วยโรคหัวใจที่มีมาตั้งแต่กำเนิด ก่อนจะมารู้ทีหลังว่าการแต่งงานระหว่างเขากับเธอมันเกิดจากข้อแลกเปลี่ยน เมื่อครอบครัวของเธอกำลังจะล้มละลาย หม่อมหลวงปุ้ยเลยเสนอเงินช่วยแลกกับการแต่งงานระหว่างเขาและเธอ
และหลังจากแต่งงานกัน ทุกอย่างกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คู่สามีภรรยาปกติเขาเป็นกัน คาลวินไม่เคยแม้แต่จะแตะต้องตัวของนาริน ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามขอร้องอ้อนวอนทั้งขอโทษเขาก็ไม่เคยคิดแตะต้องเธอ เขาขอนอนแยกห้องตั้งแต่คืนแรกด้วยซ้ำ
“ถ้าเธอไม่ได้เจอกับฉัน บางทีชีวิตของเธออาจยืนยาวกว่านี้ก็ได้ นาริน”
เขาพูดออกมาพร้อมกับมองร่างกายอันสมบูรณ์แบบไร้ที่ติที่กำลังสะท้อนอยู่ในกระจก แต่ถึงมันจะสมบูรณ์แบบแค่ไหนเขาไม่เคยคิดให้ใครได้ครอบครอง เมื่อชาตินี้เขาคงไม่มีความรักให้กับผู้หญิงคนไหน และคงไม่คิดมีความสัมพันธ์กับใครอีกแล้วไม่ว่าจะสถานะใดก็ตาม
“คุณคาลคะ ป้าเตรียมอาหารเช้าเอาไว้ที่สวนนะคะ”
“ครับ”
เช้าวันต่อมา คาลวินที่ยังเหลือเวลาอีก 1 อาทิตย์สำหรับการไว้อาลัยเลยมีเวลาพักยาว เขาไม่ชอบเที่ยวและไม่เคยเที่ยว นอกจากที่บ้านกับที่ทำงานเขาแทบไม่ไปไหนเลยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
“คือหลานสาวป้าพึ่งปิดเทอม ที่บ้านไม่มีคนดูแล จะเป็นอะไรไหมคะถ้าป้าจะขอให้มาอยู่ด้วย แค่ 3 เดือนค่ะหรือบางทีอาจเร็วกว่านั้น”
ป้าจันทร์ฉายบอกขึ้นเพื่อขออนุญาตคาลวิน เพราะปกติแล้วที่บ้านหลังนี้จะมีแค่เธอกับเขาอาศัยอยู่ เรื่องงานบ้านจะมีบริษัทมืออาชีพเข้ามาจัดการให้ ซึ่งคาลวินให้เข้ามาแค่อาทิตย์ละครั้งเพราะเขาไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในบ้าน
“เด็กคนนั้นเหรอครับ?”
“ค่ะ ตอนนั้นป้าเคยพามาอยู่ด้วย พ่อกับแม่แกจะไปทำงานเอาลูกไปด้วยไม่ได้เลยอยากให้ป้าช่วยดูแล กลับมาแล้วจะมารับ คุณคาลจะอนุญาตรึเปล่าคะ?”
“อืม ได้สิครับ”
คาลวินเอ่ยอนุญาต เมื่อเขาเคยเจอเธอแล้วครั้งหนึ่ง เธอเป็นเด็กร่าเริงจนน่ารำคาญแต่จะให้ทำยังไงได้ เมื่อยังไงก็เป็นหลานของป้าจันทร์ฉาย
“ขอบคุณนะคะ ป้าจะไม่ให้รบกวนคุณคาลแน่นอนค่ะ”
“ครับ”
จากนั้นคาลวินก็เริ่มกินอาหารเช้า ตบท้ายด้วยกาแฟเหมือนทุกๆวันเมื่อมันเป็นกิจวัตรเดิมๆของเขา จากนั้นเขาก็จะเข้าไปอ่านหนังสือในห้องหนังสือและหลังจากเบื่อก็จะเดินไปห้องทำงาน วนไปวนมาจนหมดวัน
ตึง! ตึง! ตึ้ง! ตึง! ตึ้ง!
“วู้ววววว ไปต่อๆๆๆๆ ฮ่าฮ่าฮ่า โย่วๆๆๆ เอาให้สุดๆๆ”
เสียงเพลงเร้าใจดังขึ้นไม่หยุดพร้อมกับสาวๆร่างเล็กโยกไหวเมามันไปกับเสียงเพลงกลางผับที่วัยรุ่นชอบไปมั่วสุม และวันนี้ดูจะแออัดกว่าทุกๆวัน เพราะเป็นวันสุดท้ายของการสอบ หลังสอบเสร็จเด็กๆเลยนัดกันมาปลดปล่อยหลังจากพากันเคร่งเครียดกับการสอบมาหลายวัน
“พริม เอานี่ แค่นิดเดียว ไม่เมาหรอกน่า”
“ไม่ๆๆ บอกแล้วว่าไม่ดื่ม”
“อะไรของมัน เอาแต่เต้นบ้าๆยิ่งกว่าคนเมาซะอีก”
“อืม อย่าให้มันดื่มเลย ถ้ามันดื่มได้หามออกจากผับแน่”
“ทำไมวะ”
“ก็มันแพ้เหล้า ดื่มปุบ หลับปั๊บ”
พริม หรือ พริมา สาวสวยดาวมหาลัยปี 3 กำลังเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกกลมกลึงในชุดน้อยชิ้นอย่างยั่วยวนโดยไม่สนใจคนรอบข้างเลยสักนิด เมื่อตอนนี้เธอกำลังปลดปล่อยอารมณ์กับความเครียดที่สะสมมาเกือบเดือน เมื่ออีกไม่กี่วันเธอต้องเข้าไปอยู่ในกรงขัง ไร้อิสรภาพของผู้เป็นป้าอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
“ผับจะปิดแล้ว แกจะเต้นยันผับปิดเลยรึไงห๊ะ?”
เพื่อนสาวที่มาด้วยกันเดินเข้าไปบอก เมื่อพวกเธอเมาและอยากกลับกันแล้ว
“เออ ขออีก 10 นาที”
พริมาตะโกนบอกกลับไป ก่อนจะออกสเต็ปอย่างไม่สนใครทั้งนั้นจนพวกเพื่อนๆของเธอได้แต่ส่วยหน้า ใครจะไปรู้ว่าหน้าตาก็สะสวย เรียนก็เก่ง จะเที่ยวเก่งอีก เรียกได้ว่าพระเจ้าลำเอียงเกินไปที่ให้พริมาเกิดมาพร้อมทุกอย่างขนาดนี้
“ทำไมแต่งตัวแบบนี้ห๊ะ! จะให้ป้าตีให้ตายเลยไหมยัยหลานตัวแสบ”
“โธ่ ป้าจ๋า พริมก็แต่งตัวปกติ ป้าเองต่างหากที่หัวโบราณ โอ๊ยๆๆๆ พริมเจ็บนะป้า”
วันต่อมา พอหลานสาวตัวแสบปรากฏตัวป้าจันทร์ฉายถึงกับกุมขมับเมื่อกางเกงยีนส์ขาสั้นจู๋กับเสื้อยืดตัวน้อยที่หลานสาวใส่อยู่แทบจะโชว์ทรวดทรงองเอวจนป้าจันทร์ฉายต้องต่อว่า แต่ดูท่าพริมาจะไม่สนใจเดินถือกระเป๋าเข้าไปในห้องพักของคนเป็นป้าแล้วแกล้งทิ้งตัวลงนอนอ้าแขนอ้าขาอย่างสบายอารมณ์
“เดี๋ยวป้าจะเข้าไปทำงานที่บ้านใหญ่ เราก็อยู่ห้องอ่านหนังสือไปนะ เดี๋ยวเที่ยงๆป้าจะมาตามไปกินข้าวด้วย”
“จ้าาา”
“เฮ้อ จริงๆเล้ย ยิ่งโตยิ่งเปลี่ยนหลานคนนี้”
คนเป็นป้าได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะเดินไปดูแลคนที่จะเข้ามาทำความสะอาด เพราะวันนี้เจ้านายของเธอก็พักผ่อนอยู่บ้านด้วย เลยต้องเข้าไปควบคุมเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้รบกวนคาลวิน