ตอนที่ 8

1630 Words
8 กันติชาถามกลับด้วยน้ำเสียงมั่นคงและหนักแน่น เป็นการให้คำสัญญาพร้อมรอยยิ้มหวานๆ ที่ละลายหัวใจใครหลายๆ คนมาแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะต้องการให้จันทร์คลายความร้อนรุ่มและเป็นกังวล อีกทั้งเธอเองก็ไม่ค่อยจะไว้ใจเพื่อนของผู้ว่าจ้างนัก ที่สำคัญผู้ว่าจ้างนั่นแหละตัวดี ‘คนอะไรก็ไม่รู้ มือไวเอาแต่ใจชะมัด เจอกันครั้งแรกก็จะปล้ำเธอเข้าให้แล้ว’ ริมฝีปากขมุบขมิบต่อว่าคนที่เป็นนายจ้างชั่วครั้งชั่วคราว จมูกโด่งเป็นสันยู่ย่นเข้าหากัน เพียงแค่วันแรกที่เธอมารับงาน เขาก็ป่วนทั้งหัวใจและร่างกายเธอจนสั่นเหมือนเจ้าเข้าทำอะไรไม่ถูก จะว่าเขาลวนลามก็ไม่ใช่ เพราะการทำอย่างนั้นผู้หญิงต้องไม่ยินยอม แต่นี่ไม่ใช่ ด้วยเธอดันให้ความร่วมมือกับเขาด้วยนะซิ คิดแล้วก็อายเหลือเกิน ที่ตัวเองกลายเป็นคนไวไฟ ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เผลอร่วมมือร่วมใจไปกับคนก่อการที่ชักนำเอาอารมณ์แปลกๆ วาบหวามเกินจะยับยั้งชั่งใจได้ แต่กันติชาก็รู้ดี จะปล่อยให้อารมณ์เหล่านั้นอยู่เหนือหน้าที่การงานไม่ได้ ลมหายใจอุ่นร้อนเป่าพ่นออกจากริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่มและเป็นสีชมพูระเรื่อ พร้อมรีบสลัดความคิดที่ทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเองทิ้งและหันไปสนใจกับงานที่กองอยู่ตรงหน้า สองมือจัดเก็บกวาดกับอาหารที่ไม่บอบช้ำจากการตักกินอย่างกระมิดกระเมี้ยน เขี่ยแล้วเขี่ยอีกไม่รู้จะเขี่ยหาพระแสงอะไร ถ้าเขี่ยมากแล้วมีทองออกมากองตรงหน้าเธอจะไม่ว่า แต่นี่อะไรได้ พอเขี่ยเสร็จก็เบะปากและปล่อยลมพิษเหม็นๆ ชวนปวดเศียรเวียนเกล้าออกมา ‘อันนี้มันมาก กินไม่ได้เดี๋ยวอ้วน อันนั้นก็ไม่มีผัก กินไม่ได้เหมือนกันเดี๋ยวอ้วน’ ริมฝีปากอวบอิ่มขมุบขมิบล้อเลียนสาวๆ ที่มาเป็นแขกในงานบ้านราชันย์ แม่เจ้าประคุณเอ๊ย หุ่นอย่างกับมดโย่งย่าง ผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ยังจะกลัวอ้วนอีก คนอะไรช่างไม่มองตัวเองเลย แต่ก็เป็นอย่างนี้จริงๆ นั่นแหละ คนรวยดันเลือกที่จะกินทิ้งกินขว้างอย่างไม่เสียดาย ทีคนจนบางคนแทบจะไม่มีข้าวสารกรอกหม้อด้วยซ้ำ กันติชาเก็บอาหารที่มีเหลืออยู่น้อยนิดใส่กล่องนำไปใส่ตู้เย็นไว้ให้เจ้าของบ้านได้ทานในวันพรุ่งนี้ ส่วนที่ใช้การไม่ได้ก็เททิ้งกวาดทุกอย่างใส่ถุงดำใบใหญ่นำไปวางไว้มุมหนึ่งของห้อง และหันเก็บภาชนะทุกอย่างไปล้างเก็บให้เข้าที่ “บ้าแล้วยายว่าว คิดอะไรอยู่ ประมาณตัวเองหน่อยยายเบอะ” บ่นว่าตัวเองที่ไม่ว่าจะทำอะไรความคิดก็มักจะคอยวนเวียนไปที่ราชันย์ ใบหน้าคอยแต่ชะเง้อ ตากวาดมองไปยังห้องโถงที่ตอนนี้มีหนุ่มสาวจับกันเป็นคู่ เลือกมุมที่นั่งกันเป็นการส่วนตัว บางคู่เริ่มคลอเคลียลูบไล้กันอย่างไม่คิดว่าผีบ้านผีเรือนจะเป็นตากุ้งยิง เห็นแล้วกันติชาก็รู้สึกว่าความรังเกียจและขยะแขยงแล่นพล่านไปถึงสมอง ศีรษะทุยส่ายเบาๆ หนุ่มสาวสมัยนี้ช่างหน้าไม่อายกันบ้างเลย หลายคนที่มาร่วมงานในวันนี้คาดเดาอายุแล้วน่าจะไม่เกินยี่สิบปีด้วยซ้ำ ไม่รู้พ่อแม่เขาเลี้ยงลูกประสาอะไรถึงได้ปล่อยให้เป็นเด็กใจแตกแบบนี้ ถ้าอนาคตเธอเป็นแม่คนจริงๆ คงจะต้องอบรมสั่งสอนให้ลูกรู้สึกถึงสำนึกดีชั่วมากกว่านี้ ให้รู้ว่าอย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ผู้ชาย เพียงเพราะคำหวานที่พร่ำบอก สุดท้ายแล้วก็ต้องมานั่งเสียใจเพราะผู้ชายพวกนั้นไม่แลและยังเอามาพูดใส่หน้าได้อีกว่าทำตัวง่ายด้วย “เออ...ไปว่าคนอื่น เราเองก็...ไม่ต่างกันเท่าไหร่เลย” เอ่ยเสียงเศร้า เมื่อย้อนคิดถึงตัวเองอย่างอับอายจนหน้าชา เพราะทำตัวไม่ต่างจากผู้หญิงพวกนั้นสักเท่าไหร่ เพียงเจอหน้าราชันย์ครั้งแรกก็ยอมปล่อยตัวปล่อยใจให้เขาแนบชิด โดยลืมนึกถึงเหตุผลความถูกต้อง ริมฝีปากอวบอิ่มขบกัดจนห้อเลือด ขอบตาร้อนผ่าว เมื่อคิดถึงความหน้าไม่อายของตัวเอง กันติชาผ่อนลมหายใจออกจากปอด อย่างคนที่ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว นับจากค่ำคืนนี้และเสร็จสิ้นงานนี้ เธอคงจะต้องอดรับงานที่บ้านหลังนี้แล้วล่ะ แม้จะเสียดายเงินจำนวนมากโขที่จะได้รับ แต่กับการต้องเสียตัวให้ผู้ชายเจ้าเล่ห์ที่ฟันแล้วทิ้ง เธอยอมทิ้งเงินเรือนหมื่นที่จะดีกว่า คิดได้ดังนั้นวงหน้าสวยก็ผ่อนคลายขึ้น ไหล่เล็กยกขึ้นซับเหงื่อที่ผุดขึ้นบนมุมหนึ่งของใบหน้า พร้อมนำถาดใส่อาหารในมือไปวางคว่ำไว้ในที่ของมันเป็นชิ้นสุดท้ายของการปิดงานในค่ำคืนนี้ของเธอ กับลมหายใจร้อนๆ ที่เป่าพ่นออกจากริมฝีปาก “เสร็จซะที” มือเล็กที่ยกขึ้นซับเหงื่อบนใบหน้าอีกครั้ง ทั้งที่เวลาตอนนี้ก็ดึกดื่นเลยเที่ยงคืนแล้ว อากาศน่าจะเย็นลงเหมือนกับทุกๆ คืน กลับกลายเป็นว่ายิ่งดึงลมก็ยิ่งพัดแรงขึ้น และอากาศก็ยิ่งร้อนเป็นเท่าทวีคูณ และมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้กันติชาถึงกับเบะหน้าด้วยความไม่ชอบใจเป็นอย่างยิ่งนั่นคือ บรรยากาศด้านนอกที่มีเสียงฟ้าร้องครืนๆ บวกกับสายฟ้าที่สาดแสงแข่งกันอยู่เป็นระยะเหมือนกับว่าคืนนี้จะมีพายุใหญ่     “ยังมีอะไรเหลือให้กินอีกบ้างไหมคุณแม่ครัว” นภดลเอ่ยทักแม่ทำอาหารที่เขาเห็นราชันย์เหลียวมองครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยน้ำเสียงที่ทอดยาวหวานเชื่อมและกรุ้มกริ่ม กันติชาสะดุ้งกับเสียงหวานทุ้มและอ้อแอ้ที่ดังมาจากด้านหลัง น้ำเสียงที่เรียกขนกายให้ลุกชันด้วยความรังเกียจและสะอิดสะเอียนได้ไม่ยากเลย น้ำเสียงบ่งบอกว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังดื่มน้ำสีสวยที่มีฤทธิ์เปลี่ยนนิสัยคนดีๆ ให้กลายเป็นคนร้ายๆ มากเอาการแล้วด้วย สาวน้อยสองจิตสองใจว่าจะหันไปตามเสียงเรียกดีหรือเปล่า แต่ไอเย็นๆ ที่แผ่ซ่านมาครอบคลุมเรือนกาย ทำให้กันติชาคิดไปอีกทาง ไอ้บ้าที่ยืนด้านหลังเธอไม่น่าจะมาหาเรื่องกินตอนดึกๆ แบบนี้ มันน่าจะมีความต้องการอะไรอย่างอื่นเสียมากกว่า ชิ...นึกว่าเธอรู้ไม่ทันหรือไงไอ้บ้า ไหนจะคำพูดของป้าจันทร์ที่ลอยกลับเข้ามาในหูอีกละ ทำเอาสาวน้อยวัยแรกผลิถึงกับกลัวจนตัวสั่น ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มเข้าหากันอย่างสะกดอารมณ์ ทั้งหวาดกลัวและหงุดหงิดกับเสียงฟืดฟาดซึ่งดังอยู่เบื้องหลัง ราวกับเสือกำลังคำราม ท้ายสุดกันติชาก็ข่มกลั้นความกลัว ละความคิดที่มุ่งไปในทางร้ายๆ หันไปเผชิญหน้ากับคนที่บุกรุกล่วงล้ำที่ส่วนตัวของเธอ...ก็นี่มันครัวของเธอนี่นา คุณราชันย์เป็นคนอนุญาตเอง ถ้ามาไม่ดีเธอก็ตอกกลับไปได้ซิ รอยยิ้มแห่งความหวาดกลัวแปลเปลี่ยนเป็นฮึดสู้ นภดลหงุดหงิดใจที่ยายแม่ครัวตัวดียังไม่หันหน้ามาสักที ตั้งแต่เห็นราชันย์เริ่มมีอะไรแปลกๆ เขาก็คอยจับตา มองอยู่ตลอดว่ามีสิ่งใดเรียกความสนใจเจ้านายกึ่งเพื่อนคนนี้ จนได้รู้เมื่อเห็นสายตาคมคอยตวัดมองไปยังร่างโปร่งบางของสาวน้อยแม่ครัวที่ขนถ่ายอาหารอยู่ไม่ได้ขาด เขาเลยจับตามองกลับบ้าง แล้วก็ดูเหมือนว่ายายเด็กนี่ก็รู้ตัวด้วย เลยพยายามที่จะหลบหน้าหลบตาอยู่ตลอดเวลา ‘เหอะ...ทำเป็นเล่นตัว เรียกร้องความสนใจนะซิ’ เขาอยากเห็นหน้ายายแม่ครัวจอมหยิ่ง ตั้งแต่ตอนที่ทุกคนแยกย้ายกับมาสุมตัวอยู่ในห้องโถงใหญ่ของบ้านแล้ว แต่ดันมีอุปสรรคเป็นแม่บ้านของราชันย์ที่คอยมาวนเวียนถามไถ่อยู่ตลอดเวลา เพิ่งจะหายตัวเมื่อไม่นานนี้เอง แต่ก็ยังติดที่เขาต้องอยู่กล่อมแม่สาวน้อยใจแตกที่พามาด้วยให้หลับสนิท ก่อนจะมาแอบดูยายแม่ครัวจอมหยิ่งให้ชัดเจนหน่อย “ว่าไงล่ะ ฉันหิวจะแย่อยู่แล้ว มีอะไรให้กินบ้าง” นภดลส่งเสียงเกรี้ยวกราดหาเรื่องหญิงสาวตรงหน้า ที่ผมเผ้าหลุดลุ่ยออกจากมวยที่มัดไว้ระต้นคอระหงอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงยืนนิ่งอึ้งเหมือนคนเป็นใบ้ หัวใจเริ่มเต้นผิดปกติ ยามคิดถึงใบหน้าแม่สาวน้อยที่นำอาหารไปเสิร์ฟ มาตอนนี้ แค่ได้เห็นแผ่นหลังของเรือนร่างโปร่งบางอย่างชัดเจนกระจ่างตา ก่อเกิดความปรารถนาอย่างยากที่จะหักห้ามได้ นภดลสบถในลำคอกับอาการทางกายของตัวเอง ที่เขาไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนเลย แม้กระทั่งคนที่พามาด้วยในค่ำคืนนี้ ขนาดเขาเป็นถึงเพียงนี้แล้วราชันย์จะเหลือรึ ก็เพื่อนหนุ่มของเขาคนนี้เป็นพวกเสือมือไว ไฟลุกเร็วซะด้วย เห็นเงียบๆ ขรึมๆ แต่ยามต้องการสาวคนไหนไม่เคยที่จะพลาดหลุดมือได้เลย ขนาดเขากับเพื่อนหนุ่มอีกคนที่ได้ชื่อว่าหล่อเทียบรุ่นพระเอกหนังไทยได้สบายๆ ยังต้องแพ้พ่ายหลุดลุ่ยจนมองไม่เห็นฝุ่น  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD