Chapter 7

1405 Words
พะพายมานั่งรอคุณมินหรือประธานดีเพรสกรุ๊ปที่ห้องรับรอง ไม่นานเขาก็มาพร้อมกับผู้ช่วยของตัวเอง จากนั้นหญิงสาวก็เริ่มคุยเรื่องสัญญาและรายละเอียดที่เขาต้องการแก้ไข และเธอยังเสนอขายสินค้าอย่างอื่นเพิ่มเติมเข้าไปอีกด้วย “ถ้ามีอะไรแก้ไขแจ้งพายได้เลยค่ะ แต่ถ้าไม่มีพายจะทำใบเสนอราคาให้ตามนี้เลย” “คุณผู้ช่วยลองอ่านดูแล้วกัน ผมยังไงก็ได้” “ครับ งั้นรถซักครู่นะครับ ผมขออ่านรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อน” ผู้ช่วยของมินหยิบเอกสารตรงหน้าไปอ่าน ส่วนเจ้านายของเขาหันไปมองหญิงสาวพร้อมกับยิ้มหวาน “คุณพะพายรู้จักกับมาวินได้ยังไงครับ แล้วมีความสัมพันธ์กันแบบไหน” หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกถามถึงบุคคลที่สามแถมยังดูเจาะจงถามเหมือนไปรู้อะไรมากอีก “เอ่อ รู้จักเพราะคุณมาวินเขามาทำงานที่นี่ค่ะแล้วก็เป็นแค่เพื่อนร่วมงานกัน” “อ่ออย่างนี้นี่เอง ผมก็งงว่าทำไมมาวินถึงบอกว่าคุณมีแฟนแล้วทั้งๆที่คุณก็บอกผมว่าโสด จริงมั้ยครับ” พะพายยิ้มแห้งออกมาก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่มกลบเกลื่อนความรู้สึกของเธอ นี่ตาบ้านั่นไปบอกเจ้านายเก่าของเขาว่าเธอมีแฟนแล้วอย่างนั้นเหรอ ร้ายจริงๆกะจะไม่ให้เธอได้เจอผู้ชายดีๆบ้างเลยหรือไง “คุณมาวินเขาบอกแบบนั้นเหรอคะ” “ก็ประมาณนั้นครับ” “ขออนุญาตครับพอดีว่าผู้จัดการให้ผมมาเรียนรู้งานกับคุณพะพาย ยังไงขอนั่งด้วยนะครับ” อยู่ๆมาวินก็เคาะประตูก่อนจะเดินเข้ามาด้วยใบหน้าสดใสแถมยังบอกว่าผู้จัดการให้มาเรียนรู้งานกับเธออีก ชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้เธอก่อนจะนั่งลงข้างๆ “อะไรของคุณเนี่ย” “ก็ผู้จัดการบอกให้ผมมาลองดูคุณทำงาน จะได้นำไปปรับใช้ในงานของผมไง คุยต่อสิผมรอฟัง” หญิงสาวมองเขาอย่างเหนื่อยใจกับความวอแวไม่เลิกของเขาก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคุณมินที่มองเธออยู่เช่นกัน “เห็นคุณมินบอกว่าอยากได้กล้องวงจรปิดไปติดที่โรงแรมเปิดใหม่ใช่มั้ยคะ ทางเราก็มีนำเสนอนะคะไม่รู้ว่าคุณมินมีในใจไว้หรือยัง” “ก็ว่าจะมาถามคุณพะพายพอดีว่ามีโปรโมชั่นดีๆให้ลูกค้าประจำอย่างผมรึเปล่า จะได้รับไว้พิจารณา” หญิงสาวเปิดแฟ้มหาเอกสารในเสนอสินค้าเกี่ยวกับกล้องวงจรปิด เธอส่งใบนี้ให้กับเขาก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงหวาน “ราคานี้ลดสิบห้าเปอร์เซนต์แล้วนะคะ สำหรับลูกค้าประจำแบบคุณมิน กล้องที่เรานำเสนอภาพความละเอียดสูงสุดเห็นชัดแม้กระทั่งในที่มืด จะปรับแสงในอัตโนมัติในตัวเองทำให้มองในที่มืดได้ดีกว่ากล้องวงจรปิดทั่วไป” “ราคาน่าสนใจจัง ว่าแต่ถ้าเป็นคุณมาวินขายกล้องวงจรปิดให้ผมจะเสนอราคายังไงครับ” มินเอ่ยถามเพื่อนสนิทอย่างแกล้งหยอก ถ้าไม่ติดว่าคุยกับพะพายไว้เขาคงจะช่วยอุดหนุนเพิ่มยอดให้กับเพื่อนอยู่ แต่เผอิญว่าคุยกันไว้แล้วและคุณพะพายก็ดูแลดีตลอดเวลามีปัญหาอะไร ทำให้เขาไว้วางใจให้เธอดูแลมากกว่าคนอื่น “ผมให้สามสิบเปอร์เซ็นต์เอามั้ยครับคุณมิน” เขาเอ่ยออกมาอย่างใจปล้ำลดไปอีกสิบห้าเปอร์เซนต์ทำให้เขาจนหรอก อีกอย่างนี่มันคือบริษัทของเพื่อนสนิทที่สุดของเขา ลดมากกว่านี้ก็ให้ได้หรือจะราคาต้นทุนไปเลยก็สบายมาก แต่พะพายถึงกับหน้าตึงเมื่อชายหนุ่มพูดจาเหมือนไม่ได้กลั่นกรองออกมาก่อน “คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงคะคุณมาวิน ในเอกสารก็ระบุอยู่ว่าสามารถลดได้ขนาดไหน คุณอย่าพูดอะไรมั่วๆนะคะ” “เอาน่าลดไปเถอะ เขาเป็นลูกค้าประจำไม่ใช่เหรอสามสิบเปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชั่นคุณก็ลดลงไปนิดหน่อยซื้อใจลูกค้าอ่ะเข้าใจป่ะ” เขาเอ่ยออกมาอย่างไม่รู้สึกผิดใดๆและยังไม่รู้ตัวเองว่าสิ่งที่ทำอยู่มันส่งผลกระทบยังไงบ้าง เธอมองเขาอย่างผิดหวังก่อนจะหันหน้าไปหาชายหนุ่ม “พายให้ได้แค่สิบห้าเปอร์เซ็นต์นะคะตามกฎของบริษัทแต่จะมีของแถมอย่างอื่นให้ค่ะ ส่วนคุณมาวินเขาเพิ่งมาใหม่ยังต้องเรียนรู้อีกมาก อย่าถือสาในคำพูดของเขาเลยนะคะ” เธอเอ่ยขอโทษลูกค้าอย่างจริงใจ ถ้าเขาจะไม่เอาเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่ถ้าต้องมาลดแหลกขนาดนี้เธอทำไม่ได้จริงๆ บริษัทเอ็มไพรส์.เอ็มกรุ๊ปเป็นบริษัทชั้นนำในระดับประเทศ สินค้าที่นำมาขายล้วนแต่เป็นของดีได้รับการันตีจากหลายสถาบัน เขาไม่ควรตีค่ามันต่ำขนาดนี้ “ผมไม่ถือสาหรอกครับ เอาตามที่คุณพายเสนอให้แหละทำใบเสนอราคามาเลยครับ เดี๋ยวผมให้ผู้ช่วยส่งรายละเอียดที่ต้องการไปให้” “ขอบคุณมากนะคะที่ไว้วางใจให้ทางเราดูแล” พะพายยิ้มออกมาก่อนจะหันไปมองหน้าเขาอย่างผิดหวัง เขาควรจะคิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนเวลาจะพูดอะไรออกมา ครั้งนี้ลูกค้าเข้าใจดีแต่ถ้าเจอคนอื่นที่ไม่เข้าใจรับรองว่าพังด้วยกันหมด จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ พะพายขอตัวกลับไปที่ห้องทำงานส่วนมาวินตั้งแต่ที่เขาเสนอราคาส่วนลดที่มากกว่าของเธอ หญิงสาวก็ดูโกรธเขามากไม่พูดกับเขาอีกเลย “ฉันพูดอะไรผิดไปวะ” เขาหันไปมองเพื่อนอย่างขอความเห็น เขายิ้มออกมาก่อนจะเดินมายืนข้างๆแล้วยื่นมือไปตบบ่าอย่างให้กำลังใจ เขาพอเดาออกว่าพะพายโกรธอะไรในมุมของคนขายกับลูกค้า และมุมของเพื่อนสนิทมันมองไม่เหมือนกัน “ไปถามดิ กลับนะเจอกัน” มินอมยิ้มก่อนจะเดินออกไปทันที มาวินรีบวิ่งตามพะพายไปเพราะเขาอยากรู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปรึเปล่าทำไมเธอถึงดูโกรธมากขนาดนี้ “พะพายคุณเป็นอะไรอ่ะ” เขาเดินไปดักหน้าหญิงสาวก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัย พะพายมองหน้าชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณไม่ควรไปลดราคาให้ลูกค้ามากขนาดนั้น” “ทำไมอ่ะ สามสิบเปอร์เซ็นต์ก็ไม่ได้มากอะไรเลยนะ ถ้าผมไม่เอาค่าคอมมิชชั่นแล้วนำไปเป็นส่วนลดให้ลูกค้าก็ได้ไม่ใช่เหรอไง มันผิดตรงไหนทำไมคุณต้องโกรธด้วย” เขามองเธออย่างไม่เข้าใจ ค่าคอมมิชชั่นของพนักงานเราสามารถนำไปเป็นส่วนลดได้ไม่ใช่เหรอแล้วแต่การขายของแต่ละคน แล้วถ้าเขาจะทำแบบนั้นมันก็ไม่ได้ผิดกฎตรงไหนของบริษัทแล้วเธอโกรธอะไรล่ะ… “คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอคะว่าฉันโกรธคุณทำไม ข้อแรกคุณไม่อยากได้ค่าคอมมิชชั่นก็ไม่มีใครว่าแต่เซลคนอื่นเขายังต้องการ แล้วคุณไปลดราคาขนาดนั้นถ้าลูกค้าคนอื่นสืบรู้เซลคนอื่นจะซวยไปด้วย มันเป็นการตัดราคาพนักงานด้วยกันเอง แล้วคุณลองมองมุมกลับดูนะคะถ้าคุณเป็นเจ้าของบริษัทแล้วพนักงานนำสินค้าของคุณมาลดราคามากขนาดนี้ทั้งๆที่สินค้าของคุณมีระดับขายในราคาปกติคนก็ยอมจ่าย เป็นคุณจะรู้สึกยังไง…ลองพิจารณาสิ่งที่คุณทำวันนี้ดูนะคะ” หญิงสาวเดินออกไปทันทีไม่ยอมฟังเขาอธิบายอะไรเลย ส่วนมาวินพอดูด่าชุดใหญ่ก็เงียบไปอย่างรู้สึกผิดที่ทำอะไรโดยไม่คิดถึงพนักงานคนอื่น ‘ก็แค่อยากลดราคาให้เพื่อนเท่านั้นเอง เฮ้อ!’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD