พะพายมานั่งรอคุณมินหรือประธานดีเพรสกรุ๊ปที่ห้องรับรอง ไม่นานเขาก็มาพร้อมกับผู้ช่วยของตัวเอง จากนั้นหญิงสาวก็เริ่มคุยเรื่องสัญญาและรายละเอียดที่เขาต้องการแก้ไข และเธอยังเสนอขายสินค้าอย่างอื่นเพิ่มเติมเข้าไปอีกด้วย
“ถ้ามีอะไรแก้ไขแจ้งพายได้เลยค่ะ แต่ถ้าไม่มีพายจะทำใบเสนอราคาให้ตามนี้เลย”
“คุณผู้ช่วยลองอ่านดูแล้วกัน ผมยังไงก็ได้”
“ครับ งั้นรถซักครู่นะครับ ผมขออ่านรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อน”
ผู้ช่วยของมินหยิบเอกสารตรงหน้าไปอ่าน ส่วนเจ้านายของเขาหันไปมองหญิงสาวพร้อมกับยิ้มหวาน
“คุณพะพายรู้จักกับมาวินได้ยังไงครับ แล้วมีความสัมพันธ์กันแบบไหน”
หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกถามถึงบุคคลที่สามแถมยังดูเจาะจงถามเหมือนไปรู้อะไรมากอีก
“เอ่อ รู้จักเพราะคุณมาวินเขามาทำงานที่นี่ค่ะแล้วก็เป็นแค่เพื่อนร่วมงานกัน”
“อ่ออย่างนี้นี่เอง ผมก็งงว่าทำไมมาวินถึงบอกว่าคุณมีแฟนแล้วทั้งๆที่คุณก็บอกผมว่าโสด จริงมั้ยครับ”
พะพายยิ้มแห้งออกมาก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่มกลบเกลื่อนความรู้สึกของเธอ นี่ตาบ้านั่นไปบอกเจ้านายเก่าของเขาว่าเธอมีแฟนแล้วอย่างนั้นเหรอ ร้ายจริงๆกะจะไม่ให้เธอได้เจอผู้ชายดีๆบ้างเลยหรือไง
“คุณมาวินเขาบอกแบบนั้นเหรอคะ”
“ก็ประมาณนั้นครับ”
“ขออนุญาตครับพอดีว่าผู้จัดการให้ผมมาเรียนรู้งานกับคุณพะพาย ยังไงขอนั่งด้วยนะครับ”
อยู่ๆมาวินก็เคาะประตูก่อนจะเดินเข้ามาด้วยใบหน้าสดใสแถมยังบอกว่าผู้จัดการให้มาเรียนรู้งานกับเธออีก ชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้เธอก่อนจะนั่งลงข้างๆ
“อะไรของคุณเนี่ย”
“ก็ผู้จัดการบอกให้ผมมาลองดูคุณทำงาน จะได้นำไปปรับใช้ในงานของผมไง คุยต่อสิผมรอฟัง”
หญิงสาวมองเขาอย่างเหนื่อยใจกับความวอแวไม่เลิกของเขาก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคุณมินที่มองเธออยู่เช่นกัน
“เห็นคุณมินบอกว่าอยากได้กล้องวงจรปิดไปติดที่โรงแรมเปิดใหม่ใช่มั้ยคะ ทางเราก็มีนำเสนอนะคะไม่รู้ว่าคุณมินมีในใจไว้หรือยัง”
“ก็ว่าจะมาถามคุณพะพายพอดีว่ามีโปรโมชั่นดีๆให้ลูกค้าประจำอย่างผมรึเปล่า จะได้รับไว้พิจารณา”
หญิงสาวเปิดแฟ้มหาเอกสารในเสนอสินค้าเกี่ยวกับกล้องวงจรปิด เธอส่งใบนี้ให้กับเขาก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงหวาน
“ราคานี้ลดสิบห้าเปอร์เซนต์แล้วนะคะ สำหรับลูกค้าประจำแบบคุณมิน กล้องที่เรานำเสนอภาพความละเอียดสูงสุดเห็นชัดแม้กระทั่งในที่มืด จะปรับแสงในอัตโนมัติในตัวเองทำให้มองในที่มืดได้ดีกว่ากล้องวงจรปิดทั่วไป”
“ราคาน่าสนใจจัง ว่าแต่ถ้าเป็นคุณมาวินขายกล้องวงจรปิดให้ผมจะเสนอราคายังไงครับ”
มินเอ่ยถามเพื่อนสนิทอย่างแกล้งหยอก ถ้าไม่ติดว่าคุยกับพะพายไว้เขาคงจะช่วยอุดหนุนเพิ่มยอดให้กับเพื่อนอยู่ แต่เผอิญว่าคุยกันไว้แล้วและคุณพะพายก็ดูแลดีตลอดเวลามีปัญหาอะไร ทำให้เขาไว้วางใจให้เธอดูแลมากกว่าคนอื่น
“ผมให้สามสิบเปอร์เซ็นต์เอามั้ยครับคุณมิน”
เขาเอ่ยออกมาอย่างใจปล้ำลดไปอีกสิบห้าเปอร์เซนต์ทำให้เขาจนหรอก อีกอย่างนี่มันคือบริษัทของเพื่อนสนิทที่สุดของเขา ลดมากกว่านี้ก็ให้ได้หรือจะราคาต้นทุนไปเลยก็สบายมาก แต่พะพายถึงกับหน้าตึงเมื่อชายหนุ่มพูดจาเหมือนไม่ได้กลั่นกรองออกมาก่อน
“คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงคะคุณมาวิน ในเอกสารก็ระบุอยู่ว่าสามารถลดได้ขนาดไหน คุณอย่าพูดอะไรมั่วๆนะคะ”
“เอาน่าลดไปเถอะ เขาเป็นลูกค้าประจำไม่ใช่เหรอสามสิบเปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชั่นคุณก็ลดลงไปนิดหน่อยซื้อใจลูกค้าอ่ะเข้าใจป่ะ”
เขาเอ่ยออกมาอย่างไม่รู้สึกผิดใดๆและยังไม่รู้ตัวเองว่าสิ่งที่ทำอยู่มันส่งผลกระทบยังไงบ้าง เธอมองเขาอย่างผิดหวังก่อนจะหันหน้าไปหาชายหนุ่ม
“พายให้ได้แค่สิบห้าเปอร์เซ็นต์นะคะตามกฎของบริษัทแต่จะมีของแถมอย่างอื่นให้ค่ะ ส่วนคุณมาวินเขาเพิ่งมาใหม่ยังต้องเรียนรู้อีกมาก อย่าถือสาในคำพูดของเขาเลยนะคะ”
เธอเอ่ยขอโทษลูกค้าอย่างจริงใจ ถ้าเขาจะไม่เอาเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่ถ้าต้องมาลดแหลกขนาดนี้เธอทำไม่ได้จริงๆ บริษัทเอ็มไพรส์.เอ็มกรุ๊ปเป็นบริษัทชั้นนำในระดับประเทศ สินค้าที่นำมาขายล้วนแต่เป็นของดีได้รับการันตีจากหลายสถาบัน เขาไม่ควรตีค่ามันต่ำขนาดนี้
“ผมไม่ถือสาหรอกครับ เอาตามที่คุณพายเสนอให้แหละทำใบเสนอราคามาเลยครับ เดี๋ยวผมให้ผู้ช่วยส่งรายละเอียดที่ต้องการไปให้”
“ขอบคุณมากนะคะที่ไว้วางใจให้ทางเราดูแล”
พะพายยิ้มออกมาก่อนจะหันไปมองหน้าเขาอย่างผิดหวัง เขาควรจะคิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนเวลาจะพูดอะไรออกมา ครั้งนี้ลูกค้าเข้าใจดีแต่ถ้าเจอคนอื่นที่ไม่เข้าใจรับรองว่าพังด้วยกันหมด
จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ พะพายขอตัวกลับไปที่ห้องทำงานส่วนมาวินตั้งแต่ที่เขาเสนอราคาส่วนลดที่มากกว่าของเธอ หญิงสาวก็ดูโกรธเขามากไม่พูดกับเขาอีกเลย
“ฉันพูดอะไรผิดไปวะ”
เขาหันไปมองเพื่อนอย่างขอความเห็น เขายิ้มออกมาก่อนจะเดินมายืนข้างๆแล้วยื่นมือไปตบบ่าอย่างให้กำลังใจ เขาพอเดาออกว่าพะพายโกรธอะไรในมุมของคนขายกับลูกค้า และมุมของเพื่อนสนิทมันมองไม่เหมือนกัน
“ไปถามดิ กลับนะเจอกัน”
มินอมยิ้มก่อนจะเดินออกไปทันที มาวินรีบวิ่งตามพะพายไปเพราะเขาอยากรู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปรึเปล่าทำไมเธอถึงดูโกรธมากขนาดนี้
“พะพายคุณเป็นอะไรอ่ะ”
เขาเดินไปดักหน้าหญิงสาวก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัย พะพายมองหน้าชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“คุณไม่ควรไปลดราคาให้ลูกค้ามากขนาดนั้น”
“ทำไมอ่ะ สามสิบเปอร์เซ็นต์ก็ไม่ได้มากอะไรเลยนะ ถ้าผมไม่เอาค่าคอมมิชชั่นแล้วนำไปเป็นส่วนลดให้ลูกค้าก็ได้ไม่ใช่เหรอไง มันผิดตรงไหนทำไมคุณต้องโกรธด้วย”
เขามองเธออย่างไม่เข้าใจ ค่าคอมมิชชั่นของพนักงานเราสามารถนำไปเป็นส่วนลดได้ไม่ใช่เหรอแล้วแต่การขายของแต่ละคน แล้วถ้าเขาจะทำแบบนั้นมันก็ไม่ได้ผิดกฎตรงไหนของบริษัทแล้วเธอโกรธอะไรล่ะ…
“คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอคะว่าฉันโกรธคุณทำไม ข้อแรกคุณไม่อยากได้ค่าคอมมิชชั่นก็ไม่มีใครว่าแต่เซลคนอื่นเขายังต้องการ แล้วคุณไปลดราคาขนาดนั้นถ้าลูกค้าคนอื่นสืบรู้เซลคนอื่นจะซวยไปด้วย มันเป็นการตัดราคาพนักงานด้วยกันเอง แล้วคุณลองมองมุมกลับดูนะคะถ้าคุณเป็นเจ้าของบริษัทแล้วพนักงานนำสินค้าของคุณมาลดราคามากขนาดนี้ทั้งๆที่สินค้าของคุณมีระดับขายในราคาปกติคนก็ยอมจ่าย เป็นคุณจะรู้สึกยังไง…ลองพิจารณาสิ่งที่คุณทำวันนี้ดูนะคะ”
หญิงสาวเดินออกไปทันทีไม่ยอมฟังเขาอธิบายอะไรเลย ส่วนมาวินพอดูด่าชุดใหญ่ก็เงียบไปอย่างรู้สึกผิดที่ทำอะไรโดยไม่คิดถึงพนักงานคนอื่น
‘ก็แค่อยากลดราคาให้เพื่อนเท่านั้นเอง เฮ้อ!’