“ฉันน่ะเหรอ! ฉันจะบอกเอาบุญให้นะย่ะนังหน้าโง่ ฟังแล้วก็ช่วยจำใส่สมองของแกเอาไว้ให้ดีว่าฉันนี่แหละว่าที่นายหญิงของที่นี่!” เธอจ้องมองหญิงสาวทั้งสามคนเหมือนกำลังใช้ความคิด หากให้เธอเดาเธอขอเดาว่าเด็กสามคนนี้คงจะเป็นแฟนคลับตัวยงของรังสิมันต์ไม่ผิดแน่ๆ และที่พากันตรงเข้ามาหาเรื่องเธอ นี่ก็คงเป็นเพราะโรคหึงหวงกำเริบที่ได้เห็นเธอมีโอกาสใกล้ชิดเขาสินะเนี่ย
“งั้นเหรอ แต่ฉันว่าไม่น่าใช่แบบนั้นหรอกนะ”
“ทำไมจะไม่ใช่! คนที่นี่เขารู้กันทั่วว่าฉันน่ะเป็นว่าที่เจ้าของไร่นี้ มีแต่แกนั่นแหละนังเด็กใหม่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรว่าคุณปัญญ์น่ะเขารักเขาหลงฉันแค่ไหน แต่ไหนๆ ตอนนี้แกก็รู้แล้วนี่ ถ้ารู้ก็รีบๆ ไสหัวแกออกไปจากที่นี่ ไปจากคุณปัญญ์ของฉันเดี๋ยวนี้!!” พิมพ์พิมลลอบถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย เธอปรายตามองใครบางคนที่กำลังยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ด้านหลังสาวๆก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ที่ฉันบอกว่าไม่ใช่นั่นก็เป็นเพราะว่าเจ้าของไร่ตัวจริงเขายืนส่ายหัวปฏิเสธอยู่นั่นไง ใช่ไหมคะคุณปัญญ์” ทับทิบกับพวกถึงกับหน้าถอดสีเมื่อได้ยิน สาวๆ ทั้งสามคนค่อยๆ พากันกลับหลังหันก่อนจะพบเข้ากับแววตาดุดันแข็งกร้าวของเจ้านายที่กำลังจ้องมองกันอยู่ นั่นเลยทำให้สาวๆ ตกอยู่ในสถานการณ์หนักหน่วงทันที
“ไง! ไหนใครนะที่จะมาเป็นนายหญิงของที่นี่ เธอรึเปล่าแววดาว! รึว่าเธอแตงไทย แต่ถ้าฉันจำเสียงไม่ผิด…เธอใช่ไหมทับทิม!” คนถูกเจาะจงถึงกลับลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ มือไม้อ่อนยวบจนไม่รู้จะเก็บมันเอาไว้ตรงไหนดี สุดท้ายจึงยกมือขอโทษเจ้านายพร้อมลูกสมุนที่ยืนหน้าซีดขาสั้นอยู่ข้างๆ พร้อมกันโดยมิได้นัดหมายอันเนื่องจากเริ่มรู้สึกถึงรังสีอันน่ากลัวจากคนตรงหน้า
“คุณปัญญ์! ทับทิมแค่ล้อเล่นเท่านั้นนะคะ ไม่ได้คิดจริงจังจริงๆ ค่ะ” รังสิมันต์แสยะยิ้มเมื่อได้ยินคำแก้ตัวที่ฟังยังไงก็ฟังไม่ขึ้นจากอีกฝ่าย เพราะว่านี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่คนงานหญิงตรงหน้าแอบอ้างตำแหน่ง ที่เขาไม่เคยคิดที่จะยกมันให้กับใครคนไหนกับคนอื่น
“มีเวลาว่างมาเที่ยวล้อเล่นกับคนอื่นเขาไปทั่วแบบนี้แสดงว่างานที่ฉันสั่งให้พวกเธอทำมันคงเบาไปหน่อยอย่างนั้นสิ ใช่ไหม!” รังสิมันต์ย้อนถามด้วยท่าทีสุขุม แต่ใครๆ ก็รู้ว่าท่าทางแบบนี้มันคือท่าทางของเขา ที่กำลังไม่พอใจเป็นอย่างมากแต่ก็ต้องเก็บงำเอาไว้
“คือว่านั่นมัน…” คำพูดจากผู้เป็นนายทำเอาทั้งสามคนถึงกลับหน้าสลดด้วยรู้ซึ้งดีว่าคนตรงหน้าเวลาโกรธนั้นน่ากลัวแค่ไหน
“งั้นเอาแบบนี้นะว่าที่นายหญิงแห่งไร่ปลายตะวัน พรุ่งนี้ช่วยพาเพื่อนๆ ผู้ว่างงานของเธอไปล้างคอกหมูที่ท้ายไร่ ทำให้เสร็จก่อนตะวันตกดิน ไม่อย่างนั้นคงรู้ใช่ไหมว่าจะโดนอะไร!” น้ำเสียงที่เยือกเย็นที่กำชับสั่งทำให้สาวๆ ทั้งสามต้องพากันพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ใครเลยจะไม่รู้ชะตาตัวเองหากทำงานไม่เสร็จตามคำสั่ง นาย หากไม่ถูกไล่ออกไปจากที่นี่ก็คงได้รับโทษทัณฑ์ที่หนักมากขึ้น
ซึ่งไม่ว่าจะอย่างไรผลที่ได้ก็ย่ำแย่สะบักสะบอมไม่ต่างกัน!!
“เอฟซีของคุณปัญญ์นี่น่ากลัวจังเลยค่ะ” พิมพ์พิมลเอ่ยขึ้นเมื่อสาวๆ ทั้งสามคนพากันเดินคอตกปากสั่นถอยทัพกลับออกไป
“อะไรของเธอเอฟซี!”
“ก็แฟนคลับไงคะ ก็อย่างว่าแหละค่ะ ว่าที่นายหญิงของไร่ปลายตะวันคงไม่มีสาวๆ คนไหนที่ไม่อยากเป็น” หญิงสาวเอ่ยอย่างยิ้มๆ เมื่อได้เห็นกับตาแล้วว่าเสน่ห์อันมากล้นของคนตรงหน้ายังคงเหมือนเดิม สมัยเด็กๆ จำได้ว่าเด็กผู้หญิงทุกคนต่างอยากจะเล่นกับเขากันทั้งนั้นทั้งๆ ที่เขาน่ะทั้งปากร้ายนิสัยแย่แต่ก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของคนมากมายที่พยายามจะเข้าหา ต่างจากเธอที่รู้สึกหวาดกลัวเขาจนหัวหดเพราะถูกเขากลั่นแกล้งมาตั้งแต่จำความได้
“แล้วเธอล่ะพิมพ์พิมล…ไม่อยากเป็นนายหญิงของที่นี่กับเขาบ้างรึไง ฉันว่าเธอมีสิทธิ์ได้มากกว่าใครๆเลยเพราะเธอมันเด็กเส้นมีแบล็กใหญ่คอยหนุนหลังอยู่” และแบล็กใหญ่ที่ว่าก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนเลยนอกเสียจากคือแม่เขาเองที่อยากได้เป็นเป็นสะใภ้จนถึงขั้นยอมปล่อยให้เธอเดินทางมาหาเขาถึงที่นี่ ไม่รู้ท่านคิดได้ไง
“ไม่ค่ะ เล็กไม่ชอบแข่งขันกับใคร อีกอย่าง…” พิมพ์พิมลเว้นคำเอาไว้เพราะไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าถ้าหากพูดไปเขาจะไม่ฆ่าเธอ
“อะไร! อีกอย่างอะไร!!”
“อีกอย่าง…เสน่ห์ของคุณปัญญ์มันก็ใช้ไม่ได้กับเล็กด้วย เล็กไม่ชอบผู้ชายเสียงดังค่ะ”สุดท้ายก็ต้องพูดเมื่ออีกฝ่ายดึงดันที่จะฟังมัน ทว่าคำตอบที่ได้ทำเอารังสิมันต์หน้าบึ้ง เขาแทบอยากจะกระโจนใส่เธอแต่ก็ต้องระงับทุกสิ่งเอาไว้ก่อน หากทำแบบนั้นมันก็จะดูเหมือนเขาให้ค่าในทุกคำพูดของแม่ตัวดี ซึ่งเขาไม่มีวันยอมให้ใครมามีอิทธิพลต่อตัวเองอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะกับพิมพ์พิมล! ยัยตัวร้ายที่ไม่ว่าจะทำอะไร เธอก็มักทำให้เขาเป็นบ้าได้อยู่เรื่อย!!
ใบหน้าบอกบุญไม่รับของเจ้านายทำให้ไม่มีใครกล้าเอ่ยทักไม่เว้นแม้แต่พิมพ์พิมลที่เริ่มรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตที่แพร่กระจายอยู่รอบด้านถึงไม่มีใครบอกเธอก็รู้ว่ารังสิมันต์กำลังโกรธ เขาไม่ยอมพูดกับเธออีกเลยนับตั้งแต่ที่เธอตอบคำๆ นั้นออกไปให้ได้ยิน
“โอ้ย! คุณเล็ก! ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ ลูกตาลเห็นหนูแดงจอดอยู่หน้าบ้านตอนแรกนึกว่าคุณเล็กถูกลากเข้าไร่ส้มไปรุมโทรมแล้วซะอีก ทำไมถึงเดินไปคะ แล้วคุณปัญญ์…” สาวใช้เสียงแจ้วถึงกลับม้วนลิ้นเก็บที่เดิมแทบไม่ทันเมื่อเงยหน้าแล้วเจอเข้ากับสายตาแข็งกร้าวของผู้เป็นนายเข้า รังสิมันต์กระแทกลมหายใจใส่ทั้งสองสาวก่อนจะเดินลิ่วหายเข้าไปในตัวบ้าน ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
“ฉันไม่เป็นไรหรอกขอบคุณใจลูกตาลมากนะจ๊ะที่เป็นห่วง” เป็นพิมพ์พิมลที่ต้องตอบคำถามลูกตาลก่อนที่จะส่งยิ้มหวานให้ไป
“แล้วนี่นายแกไปหงุดหงิดอะไรมาคะ หน้านี้หงิกเชียว” เรื่องนั้นคนถูกถามก็ทำได้เพียงส่ายหน้าแทนคำตอบ เห็นเช่นนั้นลูกตาลจึงขอตัวกลับด้วยกลัวว่าขืนอยู่ต่อไปจะโดนเล่นงานจากอารมณ์ร้ายของนายไปด้วยอีกคน อย่างไม่ต้องสงสัยให้มากความ
ทิ้งให้พิมพ์พิมลต้องอยู่รับหน้าจอมมารแต่เพียงลำพังท่ามกลางความสงสัยที่ไม่ว่าจะคิดยังไงเธอก็ไม่สามารถหาคำตอบได้อยู่ดี
ว่ารังสิมันต์เกิดเพี้ยนอะไรของเขาขึ้นมาอีก!