พิมพ์พิมลตื่นนอนแต่เช้าตามความเคยชิน แต่ดูเหมือนเธอจะตื่นสายกว่าคนที่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อคืนเขาได้กลับมานอนด้วยกันบนเตียงรึเปล่า เพราะทันทีที่ออกมาจากห้องน้ำรังสิมันต์ก็หายเข้าไปในนั้นนานจนเธอรอเขาไม่ไหวจนต้องเผลอหลับไปจะตื่นเอาอีกทีก็ตอนนี้ตอนที่พบว่ามีแต่เธอที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ที่เตียงของเขา หญิงสาวลงมือเก็บที่นอนให้เรียบร้อยก่อนจะอาบน้ำและเดินลงมาชั้นล่างที่ตอนนี้ลูกตาลกำลังก้มๆ เงยๆ ทำบางสิ่งอยู่ในครัว สาวใช้เมื่อเจอหน้ากันก็ส่งยิ้มกว้างมาให้ก่อนจะทักทายกันพร้อมรอยยิ้ม
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเล็ก เมื่อคืนนอนหลับสบายไหมคะ” ลูกตาลควรจะถามว่าเธอกล้าข่มตาให้หลับรึเปล่านั่นน่าจะถูกต้องกว่า พิมพ์พิมลคิดกับตัวเองภายในใจทว่าคำตอบที่ให้เด็กสาวกลับเป็น
“ก็ดีจ๊ะ แล้วนี่ลูกตาลเห็นคุณปัญญ์รึเปล่า”
“นายเข้าไร่ไปตั้งแต่ไก่ยังไม่ตื่นแล้วล่ะค่ะ เห็นว่าวันนี้ต้องเร่งเวลาเก็บผลผลิตให้ทันลูกค้ามารับของอีกสามวัน คุณเล็กหิวไหมคะ เช้านี้ลูกตาลทำข้าวต้มไว้ให้ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม ไม่นานก็ได้รับข้าวต้มหอมกรุ่นรสชาติถูกปากเป็นมื้อเช้า เธอใช้เวลาว่างพูดคุยกับลูกตาลไปสลับกับช่วยเด็กสาวทำความสะอาดไป แม้ว่าอีกฝ่ายจะขอร้องไม่ให้ทำแต่ก็ไม่อาจห้ามเธอได้อยู่ดี ขืนเธอลองไม่ทำดูสิ เจ้าของบ้านหน้าดุคงได้หาเรื่องว่ากันเข้าอีก หญิงสาวชะงักเมื่อเผลอคิดถึงจูบเมื่อคืนขึ้นมา จูบที่ทำให้เธอใจสั่นสะท้านอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จูบที่ทำให้นอนไม่หลับทั้งคืน
จูบของรังสิมันต์แทบจะแย่งชิงเรี่ยวแรงไปจากเธอจนหมดสิ้น จนเธอนึกไม่ออกเลยว่าหากเขาทำมากกว่าจูบเธอจะเป็นยังไง
“มีอะไรรึเปล่าจ๊ะลูกตาล” หญิงสาวจะต้องละทิ้งความคิดของตัวเองไว้ชั่วครู่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นลูกตาลถือปิ่นโถสีขาวเดินออกมาที่หน้าบ้านที่ตอนนี้เธอกำลังรับหน้าที่กวาดไม้ใบแห้งอยู่
“คือนายน่ะค่ะ โทรมาสั่งให้ลูกตาลเอาข้าวกลางวันไปให้” พิมพ์พิมลพยักหน้าอย่างเข้าใจ เด็กสาวคงจะกังวลเพราะว่าตอนนี้งานในบ้านก็ล้นมือ ชนิดที่ว่าเธอคงจะปลีกตัวออกไปไหนไม่ได้เลย
“ถ้างั้นเดี๋ยวให้ฉันเอาไปให้คุณปัญญ์ได้ไหม ลูกตาลจะได้ทำงานบ้านต่อ” พิมพ์พิมลเอ่ยปากอาสาทันทีที่โอกาส เธออยากเดินชมรอบๆ ไร่ของรังสิมันต์แต่ก็ไม่อยากเอ่ยปากขอให้ลูกตาลพาไปเพราะเด็กสาวมีงานล้นมือมากพออยู่แล้ว จึงอยากลองไปด้วยตัวเองดูบ้าง อย่างน้อยๆ ก็อยากทำตัวให้เป็นประโยชน์เมื่ออยู่ที่นี่
“จะดีเหรอคะ ลูกตาลกลัวนายว่าเอา”
“ไม่ต้องกลัวหรอก ถ้าเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวฉันรับผิดชอบเอง แล้วนี่ฉันจะเอาข้าวกลางวันไปส่งให้เจ้านายของลูกตาลได้ยังไงล่ะจ๊ะ” ลูกตาลยิ้มรับคำถามก่อนจะเดินนำกันมาที่ข้างบ้านซึ่งมีบางสิ่งนอนแน่นิ่งรอกันอยู่ไม่ไกล บางสิ่งบางอย่างที่มันทำให้พิมพ์พิมลถึงกลับหน้าเสียเมื่อเห็นว่ามันคือยานพาหนะที่เธอไม่ถูกโฉลก
“ปั่นเจ้านี่ไปเลยค่ะคุณเล็ก มันชื่อหนูแดง เพื่อนซี้ของลูกตาลเอง ปั่นไปตามทางตรงนั้นนะคะสักพักก็จะเจอโรงอาหารค่ะ” เรื่องหนทางน่ะเธอไม่กังวลเท่าไหร่หรอก แต่เป็นเจ้าหนูแดงของลูกตาลนี่ต่างหากที่ทำให้เธอกังวลและอับอายเกินกว่าจะบอกความจริงให้เด็กสาวได้รับรู้ไป ความจริงที่แสนจะน่าอับอายของตัวเอง
“คุณเล็กโอเคไหมคะ หรือว่าไปไม่ไหวเดี๋ยวลูกตาลเอาไปให้นายเองก็ได้ค่ะ” ลูกตาลเมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสู้ดีของอีกคนเท่าไหร่จึงเอ่ยขึ้นนั่นเลยทำให้พิมพ์พิมลต้องรีบส่ายหน้ารัวเร็วกลับไป เพราะไม่อยากทำตัวเรื่องมากให้ใครต้องรู้สึกรำคาญกันไป
“ฉันโอเคจ๊ะ เดี๋ยวฉันเอาไปให้คุณปัญญ์เอง ลูกตาลเข้าไปทำงานต่อเถอะนะไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” เด็กสาวพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มก่อนจะยอมหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในตัวบ้านตามเดิมในที่สุดเมื่อวางใจแล้วว่ามีคนอาสาเอาอาหารไปส่งให้นาย
“เอาน่า! ลูกตาลบอกปั่นเจ้านี่ไปสักพักแสดงว่าคงไม่ไกลเท่าไหร่ เดินไปก็ได้ตัวเล็ก ใกล้แค่นี้เอง…” พิมพ์พิมลเอ่ยขึ้นให้กำลังใจตัวเอง เธอขอเดินเท้าไปเสียยังจะดีกว่าต้องมาปั่นเจ้าสองล้อที่เคยทำให้เธอหัวแตกเลือดอาบมาแล้วในสมัยเด็ก และคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องในวันนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนนอกจากคนที่เธอกำลังจะเดินเอาข้าวไปส่ง
จำได้ว่าเรื่องมันเกิดขึ้นตอนเธออายุสิบขวบ เธอได้รับของขวัญวันเกิดจากแม่ของเขาเป็นจักรยานสีชมพู แต่เพราะไม่เคยปั่นมันมาก่อนคุณหญิงทิพย์โสภาจึงไหว้วานให้ลูกชายของท่านรับหน้าที่สอนให้เธอปั่นมัน แต่อย่าเรียกว่าสอนเลยจะดีกว่า เพราะรังสิมันต์ไม่เพียงแต่จะไม่สอนกันแล้วนั้นเขายังหลอกให้เธอขึ้นไปคร่อมมันพร้อมกับออกแรงเข็นจากด้านหลังจนรถล้มทำให้เธอหัวฟาดพื้น ซึ่งเขาเองก็ถูกผู้เป็นแม่ฟาดเข้าไปหลายทีในขณะที่เธอต้องเย็บไปถึงแปดเข็ม ตั้งแต่นั้นเธอก็ไม่คิดที่จะแตะต้องของเล่นอันตรายนี้อีกเลย ต่างจากรังสิมันต์ที่ชอบปั่นอวดให้เห็นอยู่บ่อยๆ
รังสิมันต์ขมวดคิ้วหม่นอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นใครบางคนที่กำลังเดินหอบตรงมายังโรงอาหารที่เขาและเหล่าคนงานนับร้อยชีวิตกำลังทานข้าวกลางวันกันอยู่ ใครบางคนที่ไม่ใช่สาวใช้ที่เขาโทรไปสั่งให้นำอาหารกลางวันจากบ้านมาส่ง
“ใครใช้ให้มาที่นี่ แล้วนี่อย่าบอกว่าเดินมา!” พิมพ์พิมลพยักหน้ารับไปตามความจริง ก่อนจะรู้สึกหนาวเหน็บกับสายตาดุดันที่มองจ้องมา ไม่อยากจะเชื่อว่าสักพักของลูกตาลมันจะยาวนานถึงเพียงนี้ ไอ้คำว่าสักพักนั่นมันคงใช้ได้ผลเฉพาะคนที่ปั่นจักรยานมาเท่านั้น แต่คงไม่ใช่กับเธอที่เดินเท้าจนตอนนี้รู้สึกคอแห้งไปหมดแน่ เธอเหนื่อยจนรู้สึกหมดเรี่ยวแรงจะทำอะไรต่อ
“จักรยานก็มีทำไมไม่…นี่อย่าบอกนะว่าโตจนป่านนี้ยังปั่นไอ้สองล้อนั่นไม่เป็นอยู่อีก!” ให้ตายสิ ตั้งแต่เด็กๆ แล้วละมั่งที่เธอมีปัญหากับการปั่นจักรยาน เขาเคยถูกแม่บังคับให้ไปสอนเธออยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งเรื่องมันก็จบลงด้วยการหงุดหงิดในความโง่ของเธอ สอนลิงว่ายน้ำยังดูว่ามันน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่า
“ลูกตาลติดงานบ้านอยู่ค่ะ เล็กก็เลยอาสาเอาข้าวมาส่งให้คุณปัญญ์ด้วยตัวเอง นี่ค่ะอาหารกลางวัน ถ้างั้นเล็กขอตัวกลับ…”
“อยู่มันด้วยกันนี่ล่ะ! ตอนเย็นค่อยกลับพร้อมฉัน” รังสิมันต์ไม่ว่าเปล่าแต่กลับฉุดแขนของคนดื้อเงียบให้เดินตามเขาเข้าไปยังโรงอาหารที่ตอนนี้มีคนงานจำนวนไม่น้อยเลยที่กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ และสายตาของทุกคนนั้นดูเหมือนจะสนใจคนอย่างกายเขามากทีเดียวเมื่อได้เห็น ซึ่งนั่นมันไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เขารู้สึกพอใจเลย
“ใครอะนายสวยโครต” หนึ่งในนั้นรวบรวมความกล้าเอ่ยขึ้น สายตาแทะโลมนางฟ้าคนสวยข้างกายนายอย่างไม่คิดปกปิด
“พวกมึงดูนม แม่เจ้า นี่มันนางฟ้าเดินดินชัดๆ” และตามมาอีกเสียงที่ไม่เพียงแต่พูดเปล่าแต่สายตากลับจ้องไปยังเสื้อยืดสีขาวพอดีตัวที่หากเป็นเวลาปกติมันคงเป็นชุดที่แสนจะธรรมดามาก แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ ที่มีเหงื่อไหลซึมไปทั่วจนเห็นไปถึงเนินอกอวบอิ่มเข้า
“นี่เมียกู! นมที่พวกมึงกำลังจ้องอยู่นั่นก็ของกู!!” ทว่าเมื่อสิ้นเสียงแนะนำห้วนๆ ของเจ้านายที่ไม่เพียงแต่เอ่ยเปล่าแต่กลับยังรวบเอาคนข้างตัวมากอดโชว์เหล่าคนงานทั้งหลายก็วงแตกวิ่งเตลิดไปคนละทิศคนละทางแทบจะทันที เหลือไว้แต่พิมพ์พิมลที่อายจนหน้าแดงซ่าน ไปกับคำแนะนำของเขาที่เพิ่งประกาศออกไป
คนบ้า! เมียที่ไหนกันก็แค่เกือบไปเท่านั้นยังไม่ใช่เสียหน่อย
“ทีนี้เชื่อรึยังว่าอยู่บ้านปลอดภัยกว่าเดินตากแดดมาที่นี่!” หญิงสาวไม่รีรอที่จะพยักหน้ารับ จากสายตาของคนพวกนั้นคงทำให้เธอกลัวการก้าวออกจากบ้านของเขาไปนานหลายวันเลยทีเดียว
รังสิมันต์ลากเอาคนตัวเล็กข้างกายมานั่งที่ใต้ร่มไม้ซึ่งมีแค่วางเอาไว้สำหรับให้นั่งเล่นรับลม ชายหนุ่มเริ่มต้นจากการแกะกับข้าวออกมาจากปิ่นโตไปพร้อมๆ กับปรายตามองคนที่เอานั่งนิ่ง