“หมายความว่ายังไงคะคุณพ่อ” สองสาวประสานเสียงพร้อมกันด้วยความสงสัย ลุ้นคำตอบของคนเป็นพ่อทุกวินาที
“ถึงเวลาที่พ่อต้องบอกความจริงกับลูกสองคนแล้ว” แม้จะหนักใจแต่เขาก็คิดว่าไม่ควรปิดเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว ยิ่งปิดก็ยิ่งมีปัญหา เขาต้องขอโทษอบเชยด้วยที่เปิดเผยความจริงก่อนเวลาสมควร
“ความจริงอะไรคะ”
“ความจริงที่ว่าธิชาไม่ใช่ลูกของพ่อกับอบเชยไงล่ะ”
“…” ธิชาและกิ่งกมลรู้สึกช็อคจนพูดอะไรไม่ออก
“ความจริงแล้วธิชาเป็นลูกของอดิศรเพื่อนของพ่อกับอบเชย แต่เพราะอบเชยต้องการปิดบังความจริงเรื่องที่ตั้งท้องจึงอยากจะให้เก็บเรื่องนี้เอาไว้และช่วยรับเข้าทำงานที่บ้าน ลูกก็เห็นว่าอบเชยทำแค่อาหารเท่านั้นงานอื่นๆพ่อไม่เคยให้อบเชยทำแต่อบเชยก็อยากจะทำเพราะอยากจะตอบแทนที่พ่อให้ความช่วยเหลือ รวมถึงเรื่องอุปการะเลี้ยงดูธิชาด้วย”
“คุณพ่อพูดความจริงหรือเปล่าคะ” กิ่งกมลถามซ้ำ
“พ่อพูดความจริงทุกอย่าง พ่อขอโทษธิชานะลูกที่ไม่ได้บอกความจริงกับหนูตั้งแต่แรก”
“แล้วทำไมคุณพ่อไม่บอกความจริงกับคุณแม่ละคะ ทำไมปล่อยให้ความลับนี้ทำให้คุณแม่ต้องปวดหัวใจจนท่านจากกิ่งไปแบบไม่มีวันกลับ” เธอไม่เข้าใจคนเป็นพ่อเลยจริงๆ
“ตั้งแต่แม่ของกิ่งเริ่มป่วยพ่อก็บอกความจริงกับแม่ของกิ่งแล้ว แม่ของกิ่งพอรู้ความจริงก็ปล่อยวางเรื่องที่ผ่านมาที่พ่อทำให้ทุกข์ใจ”
“ว่าไงนะคะ”
“ที่เห็นอาการแย่ลงนั่นก็เป็นเพราะร่างกายแม่ของหนูไม่ตอบสนองต่อยาตั้งหากล่ะลูกไม่ได้ตรอมใจอะไรทั้งนั้น พ่อเฝ้าดูแลแม่ไม่ห่างลูกไม่รับรู้บ้างเลยหรอ”
“ระ รู้ค่ะ กิ่งขอโทษค่ะคุณพ่อ” กิ่งกมลเอ่ยขอโทษน้ำเสียงแผ่วเบา ความจริงที่ออกมาจากปากคนเป็นพ่อนั้นทำให้หญิงสาวเริ่มเปลี่ยนความคิดที่มีต่อธาริกา การรักษาความลับต้องแลกมาด้วยการโขกสับของเธอตลอดระยะเวลาหลายปี
“คนที่ลูกต้องขอโทษคือธิชาตั้งหากเพราะลูกทำไม่ดีกับน้องมาโดยตลอด” คนเป็นพ่อหันไปมองลูกสาวต่างสายเลือดที่กำลังน้ำตาคลอ
“นั่นก็เพราะกิ่งไม่รู้ความจริงนี่คะ” กิ่งกมลเลือกที่จะตอบกลับเสียงสะบัดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“ธิชาขอบคุณคุณพ่อมากเลยนะคะที่ดูแลธิชากับคุณแม่มาโดยตลอด” ธาริกาเอ่ยขอบคุณผู้มีพระคุณทั้งน้ำตา ในใจตอนนี้เศร้าเหลือเกิน เธออยากกอดคนเป็นแม่มากๆ เธอไม่รู้ว่าท่านเจออะไรมาบ้างถึงได้ตัดสินใจหลบซ่อนตัวตนของเธอจากผู้เป็นพ่อที่แท้จริง
“พ่อที่แท้จริงของธิชาชื่อว่าอดิศร เขาเป็นเพื่อนกับพ่อแต่เราสองคนมีปัญหากันเรื่องผู้หญิงจนแตกหักกัน พ่ออยากจะเอาชนะพ่อของหนูจึงได้ช่วยปิดบังเรื่องหนูเอาไว้”
“…”
“ความจริงแล้วพ่อเองก็มีส่วนผิด ตอนนี้พ่อรู้แล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องสมควรทำเลยสักนิดเพราะพ่อกำลังทำให้หนูเสียใจ”
ปัจจุบัน
“เวลาผ่านมาหลายปีแล้วธิชายังลืมเขาไม่ได้ใช่ไหมลูก” ขจีถามหลานสาวน้ำเสียงอบอุ่น
“ธิชาพยายามแล้วค่ะคุณป้า ตะ แต่...” เธอจะบอกอย่างไรดีล่ะเธอพยายามแล้วแต่การลืมเขามันเป็นเรื่องที่ยากที่สุดในชีวิต มันทำให้เธอไม่กล้าที่จะเปิดใจให้ใครอีกเพราะกลัวความผิดหวัง
“แต่ทำไม่ได้ใช่ไหมลูก”
“มันยากมากเลยค่ะคุณป้า” เธอตอบกลับน้ำตาคลอหน่วยมันจวนจะไหลอยู่แล้ว
“โถว่หลานรักของป้า ป้าเข้าใจๆ” สองสาวต่างวัยโผเข้ากอดกัน คนเป็นป้าต้องการให้กำลังใจหลานสาวจึงปลอบประโลมด้วยการลูบหลังไปมาเบาๆอย่างอ่อนโยน
“ฮึกๆ” ในที่สุดหญิงสาวก็ร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“แล้วตอนนี้เขามีแฟนหรือยังล่ะลูก เขาดูท่าทางสนใจหลานสาวของป้านะ” ชายหนุ่มมักจะมองหลานสาวของตนอยู่ตลอด
“คุณป้าคงเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ” หญิงสาวหยุดร้องไห้ปาดน้ำตาออก
“ป้าว่าป้ามองไม่ผิดแน่นอน”
“ธิชาลืมบอกค่ะว่าพรุ่งนี้เขาขอมากินข้าวด้วยคุณป้าจะอนุญาตไหมคะ เขาบอกอยากจะขอบคุณคุณหมอเปรม”
“ป้าอนุญาตลูก ป้าว่าทานข้าวหลายคนสนุกดี” ท่านหันมายิ้มบางให้หลานสาวคนสวย
“โอเคค่ะ ธิชาจะได้บอกเขา”
“แหนะมีแอบคุยกันด้วย” คนเป็นป้าอดที่จะแซวไม่ได้ แสดงว่าทั้งสองคนก็ต้องมีการคุยกันบ้าง
“เขาเพิ่งขอไลน์ธิชาไปเมื่อกี้เองค่ะ ธิชาเคยคุยกับเขาแบบส่วนตัวที่ไหนละคะคุณป้ากำลังเข้าใจผิดค่ะ”
“จริงหรือเปล่าจ๊ะ”
“จริงสิคะ ไม่เอาแล้วธิชาไปนอนดีกว่า” เธอส่ายหน้าไปมาเบาๆไม่กล้าสบสายตาของคนเป็นป้า เธอต้องรีบหนีก่อนที่ท่านจะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร
“ฮ่าๆ"
"คุณป้าอ่ะ" ธาริกาหน้างอ
"ป้าขอบอกอะไรอย่างหนึ่งนะลูก ธิชาอย่าเสียใจกับอดีตที่ผ่านมาเลยนะลูก ป้าอยากให้หนูดูที่ปัจจุบันแล้วก็อนาคตนะ”
“ค่ะธิชาจะจำไว้นะคะ” เธอไลน์ไปบอกชายหนุ่มว่าป้าขจีอนุญาตให้มาทานอาหารร่วมกันได้ตอนเที่ยงตรง เวลานั้นคุณหมอก็คงจะพักกลางวันและแวะมาที่ไร่ เขาดีใจที่ป้าของหญิงสาวอนุญาต เขาคิดว่าท่านมองออกว่าเขาคิดอย่างไรกับหลานสาวของตน โบราณว่าอาบน้ำร้อนมาก่อนก็คงจะจริง ท่านคงมองเกมออกทั้งหมดและเขานั้นก็ไม่คิดจะปิดบังความรู้สึกที่มีต่อธาริกา