เจ้าสาวสวมรอย -01- ข้อตกลง

1253 Words
@บริษัทJJ "คุณวายุอย่าทำแบบนี้กับบริษัทของผมเลยนะครับ ผมสัญญาว่าจะหาเงินมาชดใช้ค่าเสียหายให้กับคุณวายุให้เร็วที่สุด" ชายสูงวัยคร่ำครวญอ้อนวอนขอร้องคนตรงหน้าให้เมตตา เพราะการบริหารบริษัทที่ไม่ได้คุณภาพจึงทำให้บริษัทที่อยู่ในเครือเดียวกันต้องได้รับผลกระทบไปด้วย วายุผู้บริหารสูงสุดและผู้ครอบครองบริษัทใหญ่ในเครือนี้จึงต้องลงมาจัดการเอง เพราะถ้าปล่อยเอาไว้คงจะมีผลเสียในระยะยาว และทำให้บริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในเครือเดียวกันได้รับผลกระทบไปด้วย "แล้วผม...ต้องปล่อยไปแบบนี้เหรอครับ มันไม่ใช่การตัดสินใจของผู้บริหารนะ" ชายหนุ่มตอบ พร้อมกับเดินไปรอบๆ ห้องอย่างใจเย็น "ผมรู้ครับ แต่ถ้าไม่มีบริษัทผมกับครอบครัวจะเอาเงินที่ไหนหมุนเวียนใช้ ไหนจะลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่อีก" "มันไม่ใช่ปัญหาของผมครับ แต่ที่ผมให้คุณทำแบบนี้ก็เพื่อที่คุณจะได้มีความรับผิดชอบมากกว่านี้ คุณก็เห็นว่าเป็นเพราะบริษัทของคุณเลยทำให้บริษัทอื่นๆ พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย" "..." เพราะเป็นความจริง ชายสูงวัยจึงไม่กล้าเถียงหรือตอบโต้กลับไป "ผมก็แค่จะเข้ามาบริหารบริษัทนี้เองส่วนคุณอยากจะเป็นพนักงานที่นี่ต่อหรืออยากจะลาออกก็ตามใจ" "ผมขอร้องนะครับอย่าทำแบบนี้เลย คุณวายุจะให้ผมทำยังไงก็ได้ ผมยอมหมดทุกอย่างเลย เอางี้นะครับผมมีลูกสาวอยู่คนนึงผมยกให้คุณวายุเลยครับ" "ลูกสาว?" "ชะ ใช่ครับลูกสาว เธอชื่อว่ารดาครับ ถ้าคุณวายุอยากได้ผมยกเธอให้เลยครับ จะแต่งงานด้วยก็ได้ผมไม่ว่า" "..." ชายหนุ่มยืนคิดอยู่ครู่นึง ก่อนจะหันไปมองหน้าชายสูงวัยพร้อมกับกดยิ้มมุมปากเล็กน้อย "ถึงขนาดขายลูกสาวตัวเองกินเลยเหรอ?" "ผมไม่ได้ขายครับ แต่ผมคิดว่าถ้าลูกสาวของผมได้อยู่กับคุณวายุเธอคงสุขสบาย เธอเป็นเด็กดีครับเรียนเก่งด้วย" "ได้สิ ยังไงผมจะให้เลขาติดต่อไปอีกทีแล้วกัน" "ขะ ขอบคุณครับ" "กลับ" "ครับคุณวายุ" ชายหนุ่มพร้อมกับเลขาคนสนิทพากันเดินกลับออกไปหลังจากที่ได้ข้อเสนอที่น่าสนใจ "คุณวายุจะทำแบบนี้จริงๆ เหรอครับ แค่ผู้หญิงคนเดียว เราเอามาแลกทั้งบริษัทไม่ได้นะครับ" เลขาท้วงขึ้น ขณะที่กำลังเดินกลับไปที่รถด้วยกัน "ใครบอกว่าแลก?" "หมายความว่ายังไงครับ?" "ก็แค่เอาลูกสาวมาเป็นหลักประกันแค่นั้น ใครบอกล่ะว่าจะไม่จัดการบริษัทนี้ต่อ" "อ๋อ ผมพอจะเข้าใจแล้วครับ" "เดี๋ยวช่วยจัดการเรื่องโรงแรมให้หน่อยนะ งานแต่งจะเริ่มอีกไม่กี่วันข้างหน้า" "เร็วขนาดนั้นเลยเหรอครับ?" "จะได้เข้าจัดการบริษัทนั้นเร็วๆ ไม่ดีเหรอ" "ดีครับ ดีมากเลย" "..." __________________________ @บ้านกัลยาภัค "นังเทียน!! นี่แกทำกับข้าวเสร็จหรือยังเนี่ย ฉันกับลูกหิวจนไส้จะขาดแล้ว!" "ใกล้เสร็จแล้วค่ะแม่" หญิงสาวตะโกนตอบกลับมา พร้อมกับเร่งมือจัดเตรียมอาหารให้กับแม่ลูกทั้งสองนี้ #ผ่านไปสักพัก "เรียบร้อยแล้วค่ะแม่ เทียนจัดโต๊ะอาหารให้เรียบร้อยแล้ว" "เออๆ" บรืนน~ เทียนมองไปที่หน้าบ้านเพราะมีเสียงรถดังเข้ามา และเธอก็จำได้ว่านี่เป็นเสียงรถของพ่อเธอ แต่น่าแปลกที่พ่อของเธอกลับมาในเวลานี้ปกติตอนนี้พ่อของเธอยังทำงานอยู่ที่บริษัทอยู่เลย "ทำไมพ่อกลับมาแล้วคะแม่" รดาลูกติดของแม่เลี้ยงเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับชะเง้อคอยาวเป็นยีราฟเพื่อมองดูว่าใช่รถของผู้เป็นพ่อจริงๆ หรือเปล่า "ไม่รู้เหมือนกันสิลูก สงสัยจะกลับมาพาเราไปเที่ยวมั้ง" "จริงๆ เหรอคะแม่ เย้! รดาดีใจมากเลยค่ะ" "..." เทียนยืนมองเฉยๆ เพราะถ้าเป็นอย่างที่แม่เลี้ยงของเธอพูดจริงๆ เธอก็ไม่ได้ไปเที่ยวกับเขาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะครั้งไหนๆ ก็ไม่เคยไปเที่ยวด้วยเลยสักครั้ง หลังจากที่เสียงรถดับสนิทไปได้ไม่นาน พ่อของเธอก็เดินเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าที่อมความทุกข์ไว้หนักหนา "ทำไมคุณกลับมาเร็วจังคะ หรือว่าจะพาฉันกับลูกไปเที่ยว" "นั่นน่ะสิคะคุณพ่อ กลับมาเร็วจังเลย จะพาเราสองคนไปเที่ยวอีกแล้วใช่ไหมคะ" "เปล่าหรอก" "อ้าว ไหนคุณแม่บอกว่าคุณพ่อจะพาไปเที่ยวไงคะ" "วันนี้มีปัญหาที่บริษัทนิดหน่อยน่ะ" "พ่อคะถอดเสื้อออกก่อนไหมคะจะได้สบายตัว" เทียนเข้าไปปรนนิบัติผู้เป็นพ่อ "อืม ขอบใจมากนะลูก" "เดี๋ยวเทียนไปเอาน้ำเย็นๆ มาให้ดื่มนะคะ พ่อจะได้สดชื่น" "ไม่เป็นไรค่ะพี่เทียน เดี๋ยวรดาไปทำเองดีกว่า" "อ๋อจ้ะๆ" "ไปนั่งพักก่อนนะคะคุณ" แม่เลี้ยงพาพ่อของเธอเดินไปนั่งที่โซฟา ทุกครั้งที่พ่อของเธออยู่บ้านแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างพ่อต่างแม่ของเธอจะแย่งงานบ้านของเธอไปทำตลอด แต่ในตอนที่พ่อของเธอไม่อยู่ งานทุกอย่างเธอจะต้องเป็นคนทำเอง และจะต้องรีบทำก่อนที่พ่อของเธอจะกลับมาเจอ #ตกเย็น - โต๊ะอาหาร - "รดาลูก" "ขาคุณพ่อ" "พ่ออยากให้เราช่วยอะไรพ่อสักอย่างจะได้ไหม" "ได้สิคะว่าแต่คุณพ่อจะให้รดาช่วยอะไร?" "พ่อตกลงกับคนๆ นึงเอาไว้น่ะ เพื่อบริษัทของเรารดาช่วยแต่งงานกับเขาหน่อยได้ไหม ไม่อย่างนั้นบริษัทของเราจะถูกยึดไม่งั้นก็ถูกสั่งปิดแน่" "อะไรกันคะคุณ ทำไมถึงให้ลูกแต่งงานกับคนไม่รู้จักแบบนั้นล่ะ" "ผมรู้ว่ามันกระทันหันแต่ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ อีกอย่างบริษัทก็เป็นรายได้ของครอบครัวเรา ถ้าไม่มีบริษัทเราก็ไม่มีรายได้ตรงไหนแล้วนะ" "แล้วผู้ชายคนนั้นคือใครคะคุณพ่อ เขาหล่อหรือเปล่า เขารวยหรือเปล่า เขา..." "เขาเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่น่ะ ส่วนหล่อหรือไม่หล่อพอถึงวันแต่งงานเดี๋ยวเราก็รู้เอง" "คุณพ่อพูดแบบนี้แสดงว่าเขาไม่หล่อ ทำไมถึงไม่ให้พี่เทียนแต่งเองล่ะคะ พี่เทียนเป็นลูกสาวคนโตนี่" "เพราะเราเหมาะสมที่สุดไง" "เดี๋ยวนะคะคุณ ลูกเพิ่งจะอายุเท่านี้เอง แล้วผู้ชายคนนั้นอายุเท่าไรหน้าตาเป็นแบบไหนนิสัยใจคอเป็นแบบไหนยังไม่รู้เลย ฉันจะให้ลูกไปแต่งงานได้ยังไงคะ" "เขาเป็นคนมีเงินนะ เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ที่บริษัทของเราอยู่ในเครือของเขา และบ้านรวยมากด้วย" "..." พอได้ยินแบบนั้นสองแม่ลูกก็ถึงกับมีแววตาแพรวพราวขึ้นมาทันที "ว่าแต่งานแต่งเริ่มเมื่อไหร่คะ?" "เขาจะแจ้งมาอีกทีน่ะพ่อเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน" "อ๋อค่ะ" "..." "รดายอมช่วยก็ได้ค่ะเพื่อบริษัทของเรา" "ขอบใจมากนะลูก" "ค่ะคุณพ่อ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD