เจ้าสาวสวมรอย -01- ข้อตกลง
@บริษัทJJ
"คุณวายุอย่าทำแบบนี้กับบริษัทของผมเลยนะครับ ผมสัญญาว่าจะหาเงินมาชดใช้ค่าเสียหายให้กับคุณวายุให้เร็วที่สุด" ชายสูงวัยคร่ำครวญอ้อนวอนขอร้องคนตรงหน้าให้เมตตา เพราะการบริหารบริษัทที่ไม่ได้คุณภาพจึงทำให้บริษัทที่อยู่ในเครือเดียวกันต้องได้รับผลกระทบไปด้วย
วายุผู้บริหารสูงสุดและผู้ครอบครองบริษัทใหญ่ในเครือนี้จึงต้องลงมาจัดการเอง เพราะถ้าปล่อยเอาไว้คงจะมีผลเสียในระยะยาว และทำให้บริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในเครือเดียวกันได้รับผลกระทบไปด้วย
"แล้วผม...ต้องปล่อยไปแบบนี้เหรอครับ มันไม่ใช่การตัดสินใจของผู้บริหารนะ" ชายหนุ่มตอบ พร้อมกับเดินไปรอบๆ ห้องอย่างใจเย็น
"ผมรู้ครับ แต่ถ้าไม่มีบริษัทผมกับครอบครัวจะเอาเงินที่ไหนหมุนเวียนใช้ ไหนจะลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่อีก"
"มันไม่ใช่ปัญหาของผมครับ แต่ที่ผมให้คุณทำแบบนี้ก็เพื่อที่คุณจะได้มีความรับผิดชอบมากกว่านี้ คุณก็เห็นว่าเป็นเพราะบริษัทของคุณเลยทำให้บริษัทอื่นๆ พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย"
"..." เพราะเป็นความจริง ชายสูงวัยจึงไม่กล้าเถียงหรือตอบโต้กลับไป
"ผมก็แค่จะเข้ามาบริหารบริษัทนี้เองส่วนคุณอยากจะเป็นพนักงานที่นี่ต่อหรืออยากจะลาออกก็ตามใจ"
"ผมขอร้องนะครับอย่าทำแบบนี้เลย คุณวายุจะให้ผมทำยังไงก็ได้ ผมยอมหมดทุกอย่างเลย เอางี้นะครับผมมีลูกสาวอยู่คนนึงผมยกให้คุณวายุเลยครับ"
"ลูกสาว?"
"ชะ ใช่ครับลูกสาว เธอชื่อว่ารดาครับ ถ้าคุณวายุอยากได้ผมยกเธอให้เลยครับ จะแต่งงานด้วยก็ได้ผมไม่ว่า"
"..." ชายหนุ่มยืนคิดอยู่ครู่นึง ก่อนจะหันไปมองหน้าชายสูงวัยพร้อมกับกดยิ้มมุมปากเล็กน้อย "ถึงขนาดขายลูกสาวตัวเองกินเลยเหรอ?"
"ผมไม่ได้ขายครับ แต่ผมคิดว่าถ้าลูกสาวของผมได้อยู่กับคุณวายุเธอคงสุขสบาย เธอเป็นเด็กดีครับเรียนเก่งด้วย"
"ได้สิ ยังไงผมจะให้เลขาติดต่อไปอีกทีแล้วกัน"
"ขะ ขอบคุณครับ"
"กลับ"
"ครับคุณวายุ"
ชายหนุ่มพร้อมกับเลขาคนสนิทพากันเดินกลับออกไปหลังจากที่ได้ข้อเสนอที่น่าสนใจ
"คุณวายุจะทำแบบนี้จริงๆ เหรอครับ แค่ผู้หญิงคนเดียว เราเอามาแลกทั้งบริษัทไม่ได้นะครับ" เลขาท้วงขึ้น ขณะที่กำลังเดินกลับไปที่รถด้วยกัน
"ใครบอกว่าแลก?"
"หมายความว่ายังไงครับ?"
"ก็แค่เอาลูกสาวมาเป็นหลักประกันแค่นั้น ใครบอกล่ะว่าจะไม่จัดการบริษัทนี้ต่อ"
"อ๋อ ผมพอจะเข้าใจแล้วครับ"
"เดี๋ยวช่วยจัดการเรื่องโรงแรมให้หน่อยนะ งานแต่งจะเริ่มอีกไม่กี่วันข้างหน้า"
"เร็วขนาดนั้นเลยเหรอครับ?"
"จะได้เข้าจัดการบริษัทนั้นเร็วๆ ไม่ดีเหรอ"
"ดีครับ ดีมากเลย"
"..."
__________________________
@บ้านกัลยาภัค
"นังเทียน!! นี่แกทำกับข้าวเสร็จหรือยังเนี่ย ฉันกับลูกหิวจนไส้จะขาดแล้ว!"
"ใกล้เสร็จแล้วค่ะแม่" หญิงสาวตะโกนตอบกลับมา พร้อมกับเร่งมือจัดเตรียมอาหารให้กับแม่ลูกทั้งสองนี้
#ผ่านไปสักพัก
"เรียบร้อยแล้วค่ะแม่ เทียนจัดโต๊ะอาหารให้เรียบร้อยแล้ว"
"เออๆ"
บรืนน~
เทียนมองไปที่หน้าบ้านเพราะมีเสียงรถดังเข้ามา และเธอก็จำได้ว่านี่เป็นเสียงรถของพ่อเธอ แต่น่าแปลกที่พ่อของเธอกลับมาในเวลานี้ปกติตอนนี้พ่อของเธอยังทำงานอยู่ที่บริษัทอยู่เลย
"ทำไมพ่อกลับมาแล้วคะแม่" รดาลูกติดของแม่เลี้ยงเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับชะเง้อคอยาวเป็นยีราฟเพื่อมองดูว่าใช่รถของผู้เป็นพ่อจริงๆ หรือเปล่า
"ไม่รู้เหมือนกันสิลูก สงสัยจะกลับมาพาเราไปเที่ยวมั้ง"
"จริงๆ เหรอคะแม่ เย้! รดาดีใจมากเลยค่ะ"
"..." เทียนยืนมองเฉยๆ เพราะถ้าเป็นอย่างที่แม่เลี้ยงของเธอพูดจริงๆ เธอก็ไม่ได้ไปเที่ยวกับเขาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะครั้งไหนๆ ก็ไม่เคยไปเที่ยวด้วยเลยสักครั้ง
หลังจากที่เสียงรถดับสนิทไปได้ไม่นาน พ่อของเธอก็เดินเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าที่อมความทุกข์ไว้หนักหนา
"ทำไมคุณกลับมาเร็วจังคะ หรือว่าจะพาฉันกับลูกไปเที่ยว"
"นั่นน่ะสิคะคุณพ่อ กลับมาเร็วจังเลย จะพาเราสองคนไปเที่ยวอีกแล้วใช่ไหมคะ"
"เปล่าหรอก"
"อ้าว ไหนคุณแม่บอกว่าคุณพ่อจะพาไปเที่ยวไงคะ"
"วันนี้มีปัญหาที่บริษัทนิดหน่อยน่ะ"
"พ่อคะถอดเสื้อออกก่อนไหมคะจะได้สบายตัว" เทียนเข้าไปปรนนิบัติผู้เป็นพ่อ
"อืม ขอบใจมากนะลูก"
"เดี๋ยวเทียนไปเอาน้ำเย็นๆ มาให้ดื่มนะคะ พ่อจะได้สดชื่น"
"ไม่เป็นไรค่ะพี่เทียน เดี๋ยวรดาไปทำเองดีกว่า"
"อ๋อจ้ะๆ"
"ไปนั่งพักก่อนนะคะคุณ" แม่เลี้ยงพาพ่อของเธอเดินไปนั่งที่โซฟา
ทุกครั้งที่พ่อของเธออยู่บ้านแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างพ่อต่างแม่ของเธอจะแย่งงานบ้านของเธอไปทำตลอด แต่ในตอนที่พ่อของเธอไม่อยู่ งานทุกอย่างเธอจะต้องเป็นคนทำเอง และจะต้องรีบทำก่อนที่พ่อของเธอจะกลับมาเจอ
#ตกเย็น
- โต๊ะอาหาร -
"รดาลูก"
"ขาคุณพ่อ"
"พ่ออยากให้เราช่วยอะไรพ่อสักอย่างจะได้ไหม"
"ได้สิคะว่าแต่คุณพ่อจะให้รดาช่วยอะไร?"
"พ่อตกลงกับคนๆ นึงเอาไว้น่ะ เพื่อบริษัทของเรารดาช่วยแต่งงานกับเขาหน่อยได้ไหม ไม่อย่างนั้นบริษัทของเราจะถูกยึดไม่งั้นก็ถูกสั่งปิดแน่"
"อะไรกันคะคุณ ทำไมถึงให้ลูกแต่งงานกับคนไม่รู้จักแบบนั้นล่ะ"
"ผมรู้ว่ามันกระทันหันแต่ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ อีกอย่างบริษัทก็เป็นรายได้ของครอบครัวเรา ถ้าไม่มีบริษัทเราก็ไม่มีรายได้ตรงไหนแล้วนะ"
"แล้วผู้ชายคนนั้นคือใครคะคุณพ่อ เขาหล่อหรือเปล่า เขารวยหรือเปล่า เขา..."
"เขาเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่น่ะ ส่วนหล่อหรือไม่หล่อพอถึงวันแต่งงานเดี๋ยวเราก็รู้เอง"
"คุณพ่อพูดแบบนี้แสดงว่าเขาไม่หล่อ ทำไมถึงไม่ให้พี่เทียนแต่งเองล่ะคะ พี่เทียนเป็นลูกสาวคนโตนี่"
"เพราะเราเหมาะสมที่สุดไง"
"เดี๋ยวนะคะคุณ ลูกเพิ่งจะอายุเท่านี้เอง แล้วผู้ชายคนนั้นอายุเท่าไรหน้าตาเป็นแบบไหนนิสัยใจคอเป็นแบบไหนยังไม่รู้เลย ฉันจะให้ลูกไปแต่งงานได้ยังไงคะ"
"เขาเป็นคนมีเงินนะ เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ที่บริษัทของเราอยู่ในเครือของเขา และบ้านรวยมากด้วย"
"..." พอได้ยินแบบนั้นสองแม่ลูกก็ถึงกับมีแววตาแพรวพราวขึ้นมาทันที
"ว่าแต่งานแต่งเริ่มเมื่อไหร่คะ?"
"เขาจะแจ้งมาอีกทีน่ะพ่อเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน"
"อ๋อค่ะ"
"..."
"รดายอมช่วยก็ได้ค่ะเพื่อบริษัทของเรา"
"ขอบใจมากนะลูก"
"ค่ะคุณพ่อ"