3

1345 Words
หลี่หวางชิงหรี่ตามองโอว่เซียง ความจริงนางย่อมรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ปานเจา มารดาหลี่หวางชิงไว้ใจ สตรีวัยกลางคนผู้นี้มีพื้นเพมาจากทางภาคเหนือ และโอว่เซียงหาใช่สตรีธรรมดา อดีตนางโลดโผนในยุทธจักรมิน้อย ตาของหลี่หวางชิงซึ่งก็คือเกอโจวชมชอบในฝีมือ จึงสั่งให้แฝงกายเข้ามาเป็นแม่นมของหลี่หวางชิง กระนั้นเรื่องใดในจวนของสกุลหลี่ ต่างถูกนางรายงานถึงหูเกอโจวเสียหมด เช่นนี้หลี่หวางชิงจะไว้ใจได้ยังไง หากอีกฝ่ายยังไม่ยึดนางเป็นเจ้านายเพียงผู้เดียว นางก็ถือว่าเป็นพวกนกสองหัว “ข้าเห็นว่าเขางามนัก บุรุษแซ่ถัง ทำให้หัวใจดวงน้อยว้าวุ่น” หลี่หวางชิงแสร้งพูดให้อีกฝ่ายเนื้อเต้น และนางรู้สึกสนุกยิ่งนัก สาวทึนทึกอย่างโอว่เซียง ย่อมขาดบุรุษข้างกาย ทุกคืนนางนอนหนาว เช่นนี้ต้องทรมานเป็นแน่ “ไม่ถูกต้องนะเจ้าคะ คุณหนูจะกล่าวถึงเจ้าบ้านถังน้อย หรือบุรุษอื่นอย่างนี้นับว่าไม่สมควร” แม่นมยกมือขึ้นทาบอก ตั้งแต่หลี่หวางชิงฟื้นจากไข้ นางเปลี่ยนไปจริงๆ คราแรกพูดจาประหลาด บางคราแอบร้องห่มร้องไห้ แต่สักพักกลับหัวเราะแล้วเรียกหากระจกสำริด พร้อมเครื่องสำอาง แล้วเริ่มแต่งหน้าเขียนตา ทาสีปากเฉิดฉาย ดูงดงามล่มเมือง ทว่าไม่ได้เหมาะกับวัยแรกสาวของนาง อีกทั้งแต่ไหนแต่ไรหลี่หวางชิง ซุกซนราวกับเด็กผู้ชาย ไม่เคยชายตามองหนุ่มๆ รูปงาม กระทั่งไม่กี่วันก่อนได้เห็นหน้าถังมู่เหริน คุณหนูก็กระทำตัวราวกับสาวน้อยที่ริจะมีความรัก ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นเพียงลูกชายของคหบดี เขามีเงินนางไม่เถียง แต่หากไร้ซึ่งอำนาจ ดังนั้นโอว่เซียงย่อมต้องหาทางขัดขวางให้ถึงที่สุด “อย่างไรคุณหนู ควรอยู่ให้ห่างเจ้าบ้านถังน้อย ช่วงเวลานี้ใครก็รู้ว่า เขากำลังจะหาภรรยาเข้าเรือน ที่สำคัญสาวใช้ห้องข้าง อีกทั้งคณิกาในสำนักโคมเขียว เขาก็เชยชมพวกนาง อย่างทิ้งๆ ขวางๆ” ได้ยินโอว่เซียงเอ่ยอย่างไม่อ้อมค้อม หลี่หวางชิงจึงเนื้อเต้น ไม่ใช่ว่านางอยากเป็นฮูหยินถังมู่เหริน นางไม่ได้โง่ที่จะคว้าคนอย่างเขามาเป็นสามี แต่นางอยากรู้ว่าคนในยุคสมัยโบราณเกี้ยวรักกันอย่างไร และนั่นคือจุดประสงค์ที่นางจะเข้าไปสนิทสนมอีกฝ่าย เพื่อใช้เป็นแผนการในภายภาคหน้า ด้วยถังมู่เหรินคือหมากตัวแรกที่นางต้องโยนเข้าลงไปในกระดานเปื้อนเลือดนี้! “เขาจะชอบสตรีเช่นไร นั้นเป็นเรื่องของมู่เหริน ข้าเพียงแต่อยากคบค้าด้วย โลกนี้ห้ามบุรุษกับสตรีเป็นมิตรกันหรือ” โอว่เซียงหน้าซีดเผือด ดูเหมือนเรื่องนี้เกินกำลังนาง ดังนั้นต้องรีบส่งข่าวให้เกอโจวที่อยู่ห่างนับพันลี้ทราบโดยด่วน ณ ศาลต้าฟู่ ดรุณีในชุดสีทับเดินกรีดกรายในสวนของศาลเจ้าแห่งนั้น นางเดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวส่งเสียงหัวเราะสดใสปานระฆัง ใครได้ยลโฉมและเห็นหน้าต่างเพ้อราวกับพบเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ “ข้าอยากอยู่เงียบๆ เจ้าอย่าได้ตามติดถึงเพียงนี้ ดูเอาเถิด แม้แต่การหายใจ ข้ายังลำบากเพราะเจ้ากำลังแย่งสูดดม” หลี่หวางชิงกล่าวและชำเลืองมองไปยังโอว่เซียง คำพูดนางทำให้แม่นมได้แต่ส่ายศีรษะไม่เห็นด้วย แต่พอนางถลึงตาใส่ แม่นมจึงต้องค้อมตัวแล้วถอยห่างไป จากนั้น นางก็รู้สึกถึงความเป็นอิสระ ไม่มีสายตาใครคอยมองหรือจับผิด หญิงสาวกวาดตามองไปทั่วๆ นางพึงใจต่อบรรยากาศ ในหัวคิดถึงสิ่งที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้นางเป็นใคร มาที่นี่ได้อย่างไร เรื่องมหัศจรรย์พันลึกหากคิดให้ถ้วนถี่ มันช่างไร้เหตุผล ทว่าเมื่อนางอยู่ในร่างของหลี่หวางชิง นางย่อมต้องเอาตัวให้รอด สตรีที่มาจากโลกอื่น ย้อนเวลามาในยุคโบราณ นางได้อ่านได้ดูมามากมาย และเรื่องนี้นางจะประมาทไม่ได้ และใครก็อย่าคิดจับผิดนางเสียให้ยาก นางไม่มีทางหลุดเผยตัวให้ใครได้รู้แน่ว่าผู้ที่ยืมร่างของหลี่หวางชิงหายใจนี้ เป็นใคร !?! เวลาผ่านไปราวๆ ชาพองตัว ร่างของเด็กหญิงสิบสองปี ก็โผล่มาจากทางหมารอด “คุณหนู สำเร็จแล้วเจ้าค่ะ บ่าวส่งข่าวเรียบร้อย ไม่นานคนที่ต้องการพบ ย่อมมาตามนัด” หลี่หวางชิงมองไปยังแม่นางน้อยที่หน้าตามอมแมวปานลูกแมวเล่นซุกซน แต่เห็นอย่างนี้จะประมาทนางไม่ได้ ไฉจู ว่องไวอีกทั้งทีวิชาตัวเบาเป็นเลิศ นางรู้จักอีกฝ่ายหลังจากฟื้นมาอยู่ในโลกนี้ได้ไม่นาน แม่นางน้อยแสดงปาหี่กับบิดาที่ตลาดทางทิศตะวันตก วิชาของนางแปลกพิสดาร หากในโลกที่จากมา คงเรียกว่าการเล่นมายากล และสิ่งที่นางทำเข้าขั้นระดับมืออาชีพ ทั้งขว้างมีดบิน ไต่เชือกด้วยเท้า รวมถึงการเข้าไปในกล่องไม้แล้วใช้มีดเสียบ! และที่น่าตื่นตาตื่นใจคือการใช้ห่วงเหล็กขนาดใหญ่ และเข้าไปอยู่ข้างใน ห่วงดังกลาวหมุนไปมาราวกับลูกข่าง ไฉจูที่อยู่ข้างในก็เคลื่อนตัวอย่างพลิ้วไหว พร้อมกันนั้นนางก็ใช้ความสามารถเขวี้ยงมีดบินเล่มเล็กในมือ ใส่ผลแตงโมหลายสิบผล วิชามีดบินของนางดูอย่างไรก็มหัศจรรย์เกินบรรยายจริงๆ ทว่าการแสดงของนางกับบิดากลับขัดหูขัดตาโลงละครใหญ่แห่งหนึ่ง ฝ่ายนั้นจึงหาทางขัดขวางไม่ให้สองพ่อลูกทำหาเงินด้วยการเปิดหมวก ทว่ากลับทำไม่สำเร็จ สุดท้ายก็ใช้วิธีต่ำทราม กล่าวว่าหาพวกเขาเมามอมผู้อื่น บิดาไฉจูยืนกรานแสดงตนว่าทำอาชีพสุจริต แต่กลับถูกคนของทางการทำโทษ จนได้รับบาดเจ็บภายใน หลี่หวางชิงนึกสงสาร เลยยื่นมือเข้าช่วย และนี่จึงเป็นชะตาที่ฟ้าลิขิตไว้ให้ นางได้ไฉจูมาเป็นแขนขาของนาง รวมถึงจะเป็นหนูคอยล้วงความลับต่างๆ จากศัตรูมาให้หลี่หวางชิงด้วย “ข้าจะมอบเสื้อผ้าสวยๆ ให้เจ้า” “ไม่เอาหรอกเจ้าค่ะ ขอมีดคมๆ สักเล่ม กับลูกดอก หรือยาแก้ไข้ สำหรับบิดาของบ่าว เพียงเท่านี้ก็เป็นบุญของไฉจูแล้ว” ได้ยินอย่างนั้น นางเลยหัวเราะชอบใจ ไฉจูผู้นี้กตัญญูยิ่ง “เอาล่ะ ไปเฝ้าต้นทางไว้ ทำอย่างไรก็ได้ อย่าให้แม่นมโอว่ เข้ามาขวางหูขวางตาข้า” เมื่อเอ่ยจบ หลี่หวางชิงจึงสืบเท้าลึกเข้าไปในสวนอันร่มรื่นและเงียบสงบแห่งนั้น เดินไปได้อีกสักหน่อย หูนางจึงได้ยินเสียงร้องไห้ของสตรีนางหนึ่งเข้าโดยบังเอิญ เป็นเสียงคร่ำครวญ อีกทั้งระบายความทุกข์ในใจ ซึ่งยากนักจะเปิดปากบอกใครได้ “มารหัวขน ท่านพี่เข้าใจหรือไม่ ปล่อยน้องเล็กตายเสียเถอะ มิเช่นนั้น คงเป็นการลบหลู่เบื้องสูง!” สตรีนางนั้นเอ่ยจบก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น และจากมุมที่หลี่หวางชิงยืน นางเห็นร่างสูงใหญ่ดั่งภูเขาตั้งตระหง่าน และปิดร่างของสตรีจนมิด บุรุษผู้นั้นมีกลิ่นไอสังหารน่าพรั่นพรึง และแฝงด้วยอันตรายชนิดที่ผีเห็นก็ยังหวั่น! และทั้งที่อยู่ห่างกันเพียงนี้ ไฉนหัวใจของหลี่หวางชิงจึงได้กระตุกไหวรุนแรงราวกับกลองศึก หรือว่าจะเป็นเขาผู้นั้น!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD