2

1482 Words
ณ เมืองจิน แคว้นเป่ย กระจกทองเหลืองบานนั้น ทำให้คนที่พิศรูปโฉมตนอยู่นานสองนานหัวเราะคิกคัก ดูเอาเถิด สวรรค์ช่างประทานพรแก่นาง อายุเพียงสิบห้าปี! แต่งามล่มเมืองก็ปานนั้น อ่อนวัยก็ปานนั้น เอ่ยกับตนเองเป็นรอบที่ร้อยแล้ว หากยังไม่อยากจะเชื่อ เรื่องเหลวไหลเช่นนี้เกิดขึ้นจริงๆ หาใช่ความฝัน และทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นร่างของหลี่หวางชิงช่างเปราะบางราวกับกระเบื้องเคลือบเนื้อไข่มุก ผิวนี้ละเอียดอ่อน ดูเหมือนจะเปล่งประกายแสงได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ใครก็เพ้อยามได้ยลโฉม นั่นเหตุผลให้เจ้าของร่าง...เอ ไม่ใช่สิ ผู้ที่มาอาศัยเรือนกายงดงามละมุนละไมนี้ มีความสุขจนไม่อาจเก็บไว้ในใจ หลี่หวางชิง ยามนี้ข้าเป็นเจ้า และจะไม่ยอมให้เรื่องราวเลวร้ายเกิดขึ้นกับชีวิตนี้อีก ดวงตากลมโตมองกระจกทองเหลือง พร้อมชื่มชมความงามของร่างกายนี้อย่างไม่รู้เบื่อ “สกุลหลี่นี้ ย่อมไม่อาจหาใครเลอโฉมเท่าคุณหนูได้เจ้าค่ะ” ยิ่งได้ฟังคำเยินยอจากแม่นม หลี่หวางชิงก็เหมือนจะได้ใจหนักเข้าไปอีก เกือบหนึ่งเดือนแล้วหลังจากเดินทางไกลนับร้อยลี้กลับเข้าจวนราชครูหลี่ นางนั่งๆ นอนๆ ทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง กระนั้นก็ยอมรับว่ามันไม่ต่างจากการแสดงละครให้สมบทบาท ซึ่งคือสิ่งที่นางถนัดยิ่งนัก! จริงอยู่อาจหงุดหงิดในช่วงแรก ด้วยต้องทำตัวราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสา ทว่าพอเวลาผ่านไป นางก็เล่นได้สมบทบาท ถึงโอว่เซียง ผู้เป็นแม่นมจะมองด้วยสายตาพิกลอยู่บ้าง ทว่าหลี่หวางเซียงหาได้ใส่ใจ นางเป็นคุณหนูราชครูหลี่ จวนหลังนี้ใหญ่โตโอ่อา นางมีเรือนหลิวลู่ลมเป็นของตน ทั้งกว้างขวาง พร้อมมีโรงครัว โรงเก็บของ และห้องนอนบ่าวกับสาวใช้เสร็จสรรพ ผู้ที่สวมรอยเป็นคนอื่นยิ้มย่อง จากสตรีวัยสามสิบหกกระรัต นางทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กสาวคนนี้ และยังเป็นโฉมงามในแคว้นเป่ย “ข้าคือ ชิงเอ๋อร์ คนงาม” สตรีที่โผล่เข้ามาในร่างของดรุณีเอ่ยแล้วก็อมยิ้มในสีหน้า ทุกอย่างมหัศจรรย์ ใครเล่าจะคาดคิด ตายแล้วฟื้นยังไม่พอ นางยังย้อนเวลากลับมาก่อนที่ชีวิตของหลี่หวางชิงจะพบกับหายนะเสียด้วย เช่นนี้นางย่อมต้องช่วยเหลืออีกฝ่าย เอาคืนพวกตั้งตัวเป็นศัตรูของหลี่หวางชิงให้ย่อยยับ ไม่ใช่สิ จัดการคนพวกนั้นไม่มีแผ่นดินกลบหน้าถึงจะสาสม! ร้ายมา ร้ายกลับ แบบไม่มียั้งมือ นี่คือสิ่งที่นางท่องไว้อย่างขึ้นใจ ด้วยยังจดจำได้ว่า หลี่หวางชิง มีชะตากรรมเลวร้ายเพียงใด ก่อนที่นางต้องนอนตัวแข็งทื่อในโลงศพ! โอว่เซียงมองคุณหนูของตน และบอกนางว่า “เจ้าค่ะ คุณหนูของข้า เลอโฉม กว่าคนทั้งแคว้นเป่ย” โอว่เซียงผู้นี้ พูดสิ่งใดก็เข้าหูหลี่หวางชิงไปทั้งหมด กระนั้นนางคงไว้ใจผู้ใดง่ายๆ มิได้ คราแรกที่ตื่นขึ้นมาและพบว่าตนนอนเป็นไข้อยู่บนเตียง นางเสียขวัญอยู่เกือบชั่วหนึ่งก้านธูปดับ ยามนั้นนางหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ นึกว่าตนฝันไป แต่พอทั้งขยี้ตา แล้วตบหน้าตนเองไปหนึ่งฉาดใหญ่ นางจึงรู้ว่ากำลังอยู่ในร่างผู้อื่น! และโอว่เซียงผู้นี้ เข้ามากอด ทั้งปลอบขวัญ ทั้งที่นางหาใช่เด็กเล็กๆ แม้จะแสดงออกว่าห่วงนาง แต่โอว่เซียงในอดีตคือจอมโจรหญิงนามระบือ มีพิษสงไม่ธรรมดา ซึ่งหลังจากได้รับการช่วยเหลือของสกุลเกอ นางก็ให้คำมั่นว่าจะทดแทนบุญคุณ หลี่หวางชิงทอดสายตาไปยังกุหลาบหินในกระถางลายมังกร มองแล้วนึกครึ้มอกครึ้มใจ “บ่ายวันนี้ มีสิ่งใดให้ข้าทำบ้าง” “ไหว้พระที่ศาลต้าฟู่ ทางทิศเหนือเจ้าค่ะ” “ไหว้พระ แล้วข้ามีชุดสวยหรือไม่” หลี่หวางชิงรู้สึกตื่นเต้น ที่เป็นเช่นนั้นเพราะนางอยากอวดความงามของตนเหลือเกิน กลับจากเรือนนอกนานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสออกไปเปิดหูเปิดตาสักเท่าไหร่ นั่นเป็นเพราะนางใช้เวลาทั้งหมดศึกษาสิ่งต่างๆ รอบตัว พร้อมกันนั้นก็ฝนเขี้ยวเล็บของตนเพื่อที่จะอยู่ในโลกนี้อย่างสวยๆ และทรงอำนาจ และยามนี้อยู่ร่างกายของเด็กสาว ซึ่งทั้งงดงาม ผิวขาวกระจ่างใสอมชมพู เรือนผมยาวหากไม่ได้เป็นเส้นตรงเหมือนผู้อื่น กลับยาวสลวยอ่อนนุ่ม ที่เป็นเช่นนั้นเพราะตาทวดของนางเป็นชาวเผ่านอกด่าน ส่วนดวงตากลมโตเป็นสีน้ำตาลอ่อนมีประกายสดใส มองแล้วเหมือนลูกกวางน้อยที่งดงาม น่าหลงใหล อีกทั้งเปี่ยมด้วยความซุกซน และกระตือรือร้น “สีทับทิมเจ้าค่ะ เป็นชุดที่เจ้าบ้านถังน้อยส่งผ้าไหมมาให้เมื่อหลายวันก่อน” ได้ยินโอว่เซียงบอกเช่นนั้น หัวใจก็พองโต คนที่อีกฝ่ายเอ่ยถึงคือ ถังมู่เหริน เขาเป็นบุรุษหล่อเหลา อายุเพิ่งจะสิบเก้า ทว่ากลับได้รับสมบัติมากมาย เรียกได้ว่าเหลาสุรา โรงเตี๊ยมใหญ่หลายแห่ง พร้อมมีโรงละคร ซึ่งทั้งหมดนั้นวันหนึ่งทำเงินให้สกุลถังไม่ต่ำกว่าหมื่นตำลึง นี่ยังไม่รวมบ่อนการพนัน กับสำนักโคมเขียวนอกเมือง บุรุษที่พร้อมใช้เงินซื้อความสุขให้ตนเอง และยังสนใจนางเป็นพิเศษ เหตุใดหลี่หวางชิงจะไม่หาทางใกล้ชิดไว้ สิ่งที่นางมองเห็นคือ ถังมู่เหรินสมควรเป็นเบี้ยในมือนาง เบี้ยที่นางจะหว่านลงไปเพื่อเก็บผลกำไร “เช่นนั้น ข้าสมควรใส่ให้คุณชายถังน้อยชมเป็นอย่างไร” โอว่เซียงยิ้มให้คุณหนูของตน ผิดแต่นางคิดว่าชายหญิงที่ยังไม่ออกเรือน หากไม่จำเป็นควรพบกันให้น้อยจะดีกว่า “ควรให้คุณชายใหญ่เชิญเจ้าบ้านถังน้อยมาที่เรือน และเล่นหมากล้อม หรือกินอาหารหม้อไฟด้วยกัน เช่นนี้สมควรกว่า” หลี่หวางชิงส่ายหน้าไม่เห็นด้วย นางสนใจถังมู่เหริน ด้วยเขาเจ้าสำราญอีกทั้งนางเคยเห็นในระยะไกลๆ สองสามครั้ง อีกฝ่ายมาดูแลเรื่องสินค้าส่งเข้าจวนราชครูหลี่ด้วยตนเอง แต่หากต้องให้พี่ชายใหญ่เป็นสะพานเชื่อมไมตรี คงไม่ได้เรื่องนัก หลี่หมิงเจ้าระเบียบ อีกทั้งหวงน้องสาวอย่างน่าเบื่อหน่าย ดูเหมือนเขาอยากทำหน้าที่เป็นบิดาให้นางด้วยซ้ำ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะใต้เท้าหลี่ ได้รับมอบหมายให้ทำงานที่ต่างแคว้น ยามนี้ยังไม่มีกำหนดให้กลับเมืองหลวง “พี่ใหญ่ หัวโบราณ อีกทั้งทำตัวเป็นตาแก่เกินไป มีเขาอยู่ด้วยข้าจะทำสิ่งใดก็ติดขัดไปหมด” โอว่เซียงขมวดคิ้วมุ่น นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่หลี่หวางชิงแสดงกิริยาแตกต่างจากแต่ก่อน มีความมั่นใจมากขึ้น และไม่ยึดถือขนบธรรมเนียมเช่นเดิม นอกจากนั้น หลายวันที่ผ่านมายังให้สาวใช้รุ่นใหญ่ หาหนังสือภาพและตำราแสนน่าเกลียดระหว่างชายหญิงมาให้ แม้โอว่เซียงหาทางนำไปซ่อน กระทั่งทำลายทิ้ง แต่หลี่หวางชิงยังไม่วายใช้ลูกไม้ต่างๆ เพื่อนำหนังสือภาพแสนลามกมาศึกษาจนได้ “คุณชายใหญ่เป็นห่วงคุณหนูจริงๆ ทุกอย่างที่เขาทำล้วนประสงค์ดีต่อคุณหนูนะเจ้าคะ” แม่นมกล่าวคงมีส่วนถูกอยู่บ้าง ถึงหลี่หมิงเป็นพี่ชายซึ่งเกิดจากต่างมารดา ทว่าเขาก็ดีกับนางมาก “เอาล่ะ อย่างไร ข้าจะพยายามไม่ทำให้เจ้าต้องทำหน้าเครียด และทำเหมือนธรณีจะสูบข้าลงไป ทั้งที่แค่อยากแต่งชุดสวยไปให้เจ้าบ้านถังน้อยชม เขาซื้อผ้ามาให้ มีน้ำใจเยี่ยงนี้ ข้าจะไม่ตอบแทนสักนิด คงดูใจร้ายเหลือเกิน” โอว่เซียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนเอ่ยว่า “อย่างไร คุณหนูก็ไปพบเขาตามลำพังไม่ได้เจ้าค่ะ” ที่นางต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเช่นนี้ เพราะชะตาลิขิตไว้ให้หลี่หวางชิง ต้องเป็นสตรีข้างกายบุรุษที่เป็นใหญ่และมีอำนาจล้นฟ้าเท่านั้น เช่นนี้อายุนางถึงจะยืด!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD