06
#หลงเมียครั้งที่หก
Phawin
: ‘Phawin ส่งสติกเกอร์’
: วันนี้ช่วงบ่ายคุณว่างไหมครับ
ดวงตาคู่สวยกวาดตามองตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์ที่ส่งมาโดยบุคคลที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงและหลบหน้ามากที่สุดในโลก ทว่าประโยค ‘ยิ่งหนีก็ยิ่งเจอ’ ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ซึ้งและเข้าใจถึงประโยคนี้แล้วจริง ๆ
ย้อนกลับไปสองสัปดาห์ก่อน
“เหลือก็แต่เบอร์กับไลน์ของคุณที่ยังไม่ได้สักที...คุณพริบพันดาว”
ภวินทร์พูดเสียงต่ำพร้อมกับมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่เบิกกว้างอยู่ตรงหน้าพร้อมกับริมฝีปากน้อย ๆ ที่อ้าพะงาบ ๆ กินลมเข้าไปหลายอึก ก้อนเนื้อในอกเต้นเร็วแรงฉับพลันจนแทบจะหลุดออกมา
...ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่าประโยคที่อีกฝ่ายพูดออกมานั้นต้องการจะสื่อถึงอะไร แต่กระนั้นก็ไม่อยากคิดเองเออเอง
“อะ เอ่อ คือ...” พันดาวยันกายขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะพูดเสียงตะกุกตะกักออกมาพร้อมกับใบหน้าอ้ำอึ้ง
ภวินทร์เงยหน้ามองดวงหน้าหวานที่ยังไม่ได้ให้คำตอบเขาแถมยังลุกหนีกันไปเสียดื้อ ๆ จึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะย่างสามขุมเข้าไปหาอีกคนราวกับกำลังต้องเหยื่อให้จนมุม
พันดาวที่หลงกลอีกคนเข้าเต็มเปาไม่มีทางหนีทีไล่จึงได้แต่ก้าวถอยหลังไปเรื่อย ๆ แต่ทว่าแข้งขากลับไม่รักดี เข่าสั่นขาอ่อนจนก้าวไม่มั่นคง ขณะที่ร่างสูงยังคงไล่ต้อนมาเรื่อย ๆ จนเธอจนมุมล้มตัวลงไปบนโซฟาหนังอย่างแรง แต่กระนั้นก็ยังคงเล่นจ้องตากันกับภวินทร์ไม่ละไปแม้สักวินาทีเดียว
ร่างสูงยันแขนกำยำไว้กับพนักพิงโซฟาราวกับต้องการกักขังอีกคนให้อยู่ในอ้อมแขนกลาย ๆ ภวินทร์ก้มมองคุณแม่ลูกหนึ่งตรงหน้าที่นั่งหน้าไร้สีเลือดอย่างกับเขาน่ากลัวจนเหมือนยักษ์เหมือนมาร เม็ดเหงื่อเริ่มซึมตามกรอบใบหน้าสละสลวย
“คุณ อึก” พันดาวเรียกอีกคนตามด้วยเสียงกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“ถ้าไม่ได้เบอร์กับไลน์ของคุณ...ผมคงจะต้องอยู่ท่านี้ตลอดไป”
“...”
ในเมื่ออีกคนไม่ยอมพูด เห็นทีว่าจะต้องงัดไม้ตายออกมาใช้เสียแล้ว ภวินทร์เรียกชื่อเด็กน้อยที่กำลังเห่อของเล่นใหม่จนลืมสิ่งรอบข้างเสียจนหมด ผู้ใหญ่สองคนนั้นไม่ได้น่าสนใจเหมือนรถคันใหม่หรอกนะ!
“...ครามครับ”
“เดี๋ย—”
“ค้าบยุงภาม...ปื้น ๆ”
น้ำเสียงสดใสตอบรับคำนายแพทย์หนุ่ม เด็กชายตัวน้อยคลานเข้ามาหา ในมือก็ไถรถของเล่นไปด้วย พร้อมกับเลียนเสียงของท่อรถอย่างสนุกสนาน โดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้หม่ามี๊กำลังหัวใจแทบวายเมื่อต้องอยู่ในวงแขนกำยำนาน ๆ
เด็กน้อยปีนขึ้นมานั่งบนโซฟาพร้อมกับที่วงแขนหนาละออกไป พันดาวหายใจหอบเหนื่อยราวกับวิ่งมาราธอน แต่กระนั้นก็ยังมองค้อนส่งสายตาขุ่นเคืองไปให้คุณหมอขี้แกล้ง
“หึ” เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอ รอยยิ้มน้อย ๆ ผุดขึ้นที่ริมฝีปากสวยได้รูปของคนตัวสูง ไม่ได้เป็นยิ้มร้าย ๆ ทว่าเป็นรอยยิ้มที่มาจากความเอ็นดูต่างหาก
ตลอดเวลาตั้งแต่พบเจอกัน เขาแทบไม่ได้ยินเสียงหรือเห็นรอยยิ้มของเธอเลย มีเพียงใบหน้านิ่ง ๆ กับสายตาหลุกหลิกราวกับคนมีพิรุธก็แค่นั้น แต่ครานี้เมื่อได้แกล้งจนอีกคนหน้ามุ่ย จมูกเชิดรั้น แถมริมฝีปากสีชมพูเบะคว่ำลงเหมือนเด็กไม่พอใจนั่น...หึ หม่ามี๊ของน้องครามก็ขี้งอนเป็นเหมือนกันนะเนี่ย
ภวินทร์อุ้มเด็กน้อยขึ้นมาก่อนจะหย่อนกายลงไปนั่งแทนที่ วงแขนหนากระชับเด็กชายที่นั่งอยู่บนตักแกร่งให้เข้าที่ก่อนจะเอ่ยกระซิบข้างใบหูเล็ก
“...จริงหยอฮะ!!!”
“ครับ”
“...อะไรครับลูก” เสียงหวานเอ่ยถามลูกตนเองที่นั่งอยู่บนตักของนายแพทย์หนุ่ม
ดวงตาคู่สวยกวาดตามองน้องครามกับร่างสูง ไล่เรียงตั้งแต่เรือนผมสีดำขลับ คิ้วหนาได้รูปเป็นทรงสวย นัยน์ตาสองชั้นคมกริบ จมูกที่โด่งเป็นสันเหมือนกันไม่มีผิด วงแขนกำยำของคุณหมอหนุ่มโอบอุ้มเด็กชายตัวน้อยเอาไว้อย่างหวงแหน
พลันหัวใจคนเป็นแม่บีบรัดกับภาพตรงหน้า ขอบตาและโพรงจมูกแสบร้อนขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ พันดาวกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อขับไล่ม่านน้ำตาออกไปให้เร็วที่สุด...เธอจะมาหลุดความลับตรงนี้ไม่ได้นะพันดาว
“หม่ามี๊ฮะ...น้องครามอยากเล่นรถ ยุงภามบอกว่าที่บ้านมีอีกเป็นหลายคันเลยฮะ”
“หืม”
“ยุงภามบอกว่าถ้าน้องครามอยากเล่นเมื่อไหร่จะขนมาให้อีกสิบคันเลยครับ...ลูกอยากเล่นอีกฮะหม่ามี๊”
มาแล้ว...ลูกอ้อนของลูกชายตัวดี พันดาวตวัดสายตามองร่างสูงที่แสร้งทำหน้าทำตาไม่รู้ไม่ชี้ ตีเนียนทำเป็นไม่รู้เรื่อง นี่มันไม่ต่างกับการล่อซื้อเด็กด้วยการเอารถแข่งของเล่นที่ชอบมากองไว้ตรงหน้าไม่ใช่หรือไง
“ที่บ้านน้องครามก็มีหลายคันแล้วนะครับ...ไม่รบกวนคุณลุงนะลูก”
พ่อกับลูกเจอกันแค่ไม่กี่วันก็ติดหนึบเป็นพวกเป็นพ้อง เห็นดีเห็นงามกันเสียทุกเรื่อง เธอไม่อยากให้ลูกผูกพันธ์กับอีกฝ่ายมากไปกว่านี้จึงเลือกที่จะปฏิเสธออกมา
“รบกวน...หยอฮะ” เสียงเล็กทวนคำ ใบหน้าครุ่นคิด สบตากับมารดาตนเองก่อนจะหันมาช้อนตามองคุณลุงหมอใจดีราวกับต้องการคำอธิบายเพิ่มเติม
“ไม่รบกวนเลยสักนิดครับ”
“หม่ามี๊...ยุงภามบอกว่าไม่รบกวนฮะ”
“...” พันดาวถูกเอ่ยดักทางจนไปไม่เป็น
“นะฮะ...ลูกอยากเล่นรถ อยากเจอยุงภามอีก”
สีหน้าเว้าวอนของลูกที่เธอมักจะแพ้ทาง ดวงตากลมโตช้อนมองกัน แพขนตากะพริบปริบ ๆ ออดอ้อนผู้เป็นแม่อย่างเต็มที่ พันดาวมองลูกชายสลับกับอีกคน ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันอย่างครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้าตกลง
“ได้ครับ ถ้าเดือนละครั้ง...” เสียงหวานขาดห้วงไปเมื่อถูกคุณหมอหน้าดุพูดขัดขึ้นมาก่อน
“เดี๋ยวก่อนคุณ เดือนละครั้งเนี่ยนะ น้องครามไม่รอจนรากงอกเลยหรือไง”
“...”
“เด็กวัยกำลังโตนะ คุณจะไม่สนับสนุนในสิ่งที่ลูกชอบเลยหรือ”
“ช่ายฮะ ลูกชอบรถนะหม่ามี๊”
“อีกอย่างผมจะได้ติดตามข้อมือของน้องครามเป็นระยะด้วย”
คนฟังคิดตาม คำโน้มน้าวแกมกดดันของสองพ่อลูกได้ผลจนเธอเริ่มคล้อยตาม พันดาวขบเม้มริมฝีปากอย่างครุ่นคิด ลอบมองสองพ่อลูกที่จ้องมองมาราวกับรอคอยคำตอบ ร่างบางยกธงขาวในมือก่อนจะพรูลมหายใจออกมาอย่างยอมแพ้
“ก็ได้ครับ...หม่ามี๊ให้เล่นกับคุณหมอสัปดาห์ละหนึ่งวันเท่านั้นนะ”
“เย้!!!”
“แต่คุณหมองานยุ่ง...เพราะฉะนั้นเราห้ามรบกวนบ่อย ๆ เข้าใจไหมครับ”
“เข้าใจฮะ!...น้องครามรักหม่ามี๊ที่สุดในโลกเลย”
เด็กน้อยพุ่งตัวเขาไปกอดผู้เป็นแม่จนเซไปด้านหลัง ฝ่ามือเล็กลูบศีรษะทุยของลูกพร้อมกับยิ้มออกมาน้อย ๆ พันดาวลอบมองอีกคนไม่พูดอะไรยกเว้นมุมปากที่ขยับยกขึ้นบอกความพอใจ
(tbc)