พอเรากินเสร็จก็แยกย้ายกลับหอ ถึงหอปุ๊บฉันก็กระโดดขึ้นเตียงทันทีหวังจะนอนต่อ
"จะไปไหน" ฉันหันไปถามเมื่อเห็นเขาสะพายกระเป๋าตัวเอง ไม่ใช่ว่าอยากรั้งหรอกนะแต่เรื่องแม่เขาฉันยังไม่ลืมเลยจะทิ้งกันแบบนี้ได้ไง
"ไปส่งงานอาจารย์"
"ไปด้วยดิ กลัวผี" ว่าแล้วฉันก็รีบลุกจากเตียงเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองมายืนข้างเขา
"..." พี่คิวทำหน้าเหมือนกำลังตกใจแล้วเขาก็ขำออกมา "พูดจริง?"
"อืม เอาสร้อยพี่คิวออกไปด้วย เตยกลัวแม่พี่"
"อาการหนักแล้วนะเราอะ" เขาพูดแล้วเดินมาหยิบสร้อยคอล็อกเกตของตัวเองไป
"เดี๋ยวเตยไปหาเพื่อนดีกว่า ไม่ไปด้วยแล้ว"
"ไปด้วยกันดิ ไปได้วันเสาร์คนไม่เยอะ"
"ไม่ไป เปลี่ยนใจแล้ว"
"หลายใจว่ะ" สุดท้ายก็มาส่งฉันที่หอยัยเค้ก จากนั้นพี่คิวก็ไปส่งงานอาจารย์ เราแยกย้ายกันตรงนั้นและไม่ได้คุยหรือนัดอะไรกันอีก
ซึ่งหมายความว่าเขาอาจจะหายไปอีก เหมือนทุกๆครั้งที่เรามาเจอกัน แล้วเขาก็หายไปอีกหลายวัน เป็นแบบนี้จะไม่ให้ฉันคิดว่าเขาจริงจังได้ยังไง
มันเหมือนคนมาหาความสุขชั่วคราวมากกว่า
"เล่ามา ให้หมด" พอมาถึงห้องยัยเค้กมันก็ถามขึ้นมาทันที
"..." ฉันถอนหายใจแล้วมองหน้ามันก่อนจะพูดกับเพื่อนอีกครั้ง "แกอย่าว่าฉันนะ"
"แกเล่ามาก่อนเถอะ ถ้าไม่ถูกต้องก็เจอด่า" มันขู่
"งั้นโดนด่าแน่นอน" จริงๆก็อายที่จะเล่านั่นแหละขอบ่ายเบี่ยงไปก่อน
"ยัยเตยแกอย่าลีลาได้ปะ"
ตอนนี้ต่อมเสือกมันคงทำงานเต็มที่แล้วฉันจึงหัวเราะออกมาเบาๆแล้วเริ่มเล่าตั้งแต่แรก
"ฉัน...มีวันไนท์กับพี่คิว" พอพูดประโยคแรกจบยัยเค้กก็เป็นใบ้ไปในทันที อ้าปากค้างมองฉันเหมือนพูดอะไรไม่ออก "ก่อนที่ยัยคะนิ้งจะพามาเจอพวกเรา"
"ถึงว่าสายตาพี่เขามองแกแปลกๆ สนใจแกมากกว่ายัยคะนิ้งอีก" เค้กพูดแล้วขมวดคิ้วเข้าหากันเหมือนกำลังทบทวนเรื่องทุกอย่าง "แล้วมีใครรู้มั้ย"
"ไม่มี แกรู้คนแรก ฉันจะบอกพวกแกแล้วแต่มันไม่มีจังหวะ แล้วถ้าคะนิ้งรู้คงเป็นเรื่องแน่ ฉันไม่ได้อยากเป็นแบบนี้นะแต่ไม่รู้ทำไม..." จะพูดว่าเขาตามเหรอ มันก็ใช่ส่วนหนึ่งแต่ฉันก็ยอมให้เขาหรือเปล่านะ
"..." คราวนี้เค้กมันถอนหายใจออกมา "มันลงทุนเลิกกับแฟนเพื่อที่จะมาคุยกับพี่คิว ทั้งที่พี่เขาก็ไม่ได้สนใจมันเหรอวะ"
"ใครจะไปรู้ ไอ้พี่คิวมันก็อาจจะเล่นด้วย" ฉันบอกแล้วหยิบมือถือขึ้นมาเล่นอย่างไม่ใส่ใจ
"แล้วแกกับเขาตอนนี้คืออะไร"
"ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันไม่ได้ชอบเขานะ" ฉันตอบออกไปตามความจริง ถึงแม้มันจะรู้สึกขัดๆกับอะไรบางอย่างในใจตอนนี้ก็เถอะ
แต่มันก็ไม่ได้เรียกว่าชอบซักหน่อย แค่มีก็ได้ไม่มีก็ได้ รู้สึกดีบางครั้งที่อยู่ด้วยกันเท่านั้นเอง อาจจะเกิดจากความใกล้ชิดกันเลยทำให้ใจมันหวั่นไหวไปบ้าง
"แล้วสรุปมันแค่วันไนท์มั้ย หรือหลายไนท์แล้ว"
คำพูดของยับเค้กกลายเป็นฝ่ายทำให้ฉันเงียบบ้าง อยากจะพ่นลมหายใจออกมาร้อยๆครั้ง
"..."
"เงียบ แปลว่าถอนตัวออกมาไม่ได้" มาทำเป็นรู้ดี ทำไมจะถอนตัวไม่ได้ ต้องได้อยู่แล้วถ้าไอ้พี่คิวมันไม่มายุ่งกับฉัน
"ถอนได้" ทำไมเสียงฉันมันถึงได้เบาจังนะ
ฉันชอบพี่คิวเหรอ...ไม่หรอก มันเป็นไปไม่ได้ ฉันไม่มีวันชอบคนอย่างเขาแน่นอน คบไปมีแต่เจ็บช้ำใจแน่ๆ
"ถ้าไม่ได้ชอบกันก็ถอนตัวออกมาเลย ถ้าคุยต่อเรื่องใหญ่แน่ฉันว่า" มันคงหมายถึงเรื่องยัยคะนิ้งละมั้ง "มากไปกว่านั้นถ้าแกรู้สึกแล้วพี่เขาไม่จริงจังจะทำยังไง ขนาดเขารู้ว่าแกเป็นเพื่อนคะนิ้งยังทำขนาดนี้ได้เลย ต้องร้ายขนาดไหน"
"ที่แกพูดนั่นรวมถึงฉันด้วยใช่มั้ย"
"ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะไปรู้มากกว่าพวกแกสองคนได้ยังไง อีกอย่างแกไม่ได้ไปแย่งของมันนี่ อยู่ที่ผู้ชายนั่นแหละถ้าเขาจริงจังก็คงไม่คุยหลายคน" เค้กพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะพูดอีกครั้ง "แกบอกว่าพี่เขาเลว ก็รีบพาตัวเองออกมาเลย"
คำพูดของเพื่อนทำเอาฉันต้องนั่งเงียบ
แล้วจะให้ทำยังไงฉันถึงจะออกมาจากเขาได้เหรอ ทำไมแค่คิดหัวใจมันถึงต้องเต้นแรงขนาดนี้ด้วยนะ เกลียดอาการที่ไม่มีชื่อเรียกแบบนี้ที่สุดเลย
หลายชั่วโมงต่อมา
ฉันเผลอหลับในห้องยัยเค้กไปหลายชั่วโมง ตื่นมาอีกทีก็เกือบเที่ยงแล้ว ตอนนี้เค้กกำลังตากผ้าอยู่ตรงระเบียง
ครืด~ ครืด~
'คุณสามี'
ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อเห็นชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ พลิกด้านหลังมาดูลายเคสก็ใช่ของฉันจริงๆ
แล้วใครมันโทรมาแล้วฉันไปบันทึกชื่อนี้ตอนไหน
แต่อยู่ๆก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าพี่คิวมันเคยเอามือถือฉันไปทำอะไรซักอย่าง คงไม่มีใครแล้วนอกจากเขา
"..." ฉันกดรับสายแล้วรอฟัง
(ทำอะไรถึงรับช้า)
"ใครคะ" ฉันแกล้งถามออกไปแบบนั้นทั้งที่รู้ว่าเป็นเขาเพราะฉันจำเสียงเขาได้
(ผัวเธอไง อย่ามาทำมึน) เขาตอบน้ำเสียงกวนๆ
"แค่นี้นะ คุณคงโทรผิด"
(ลงมาจะไปรับ)
"จะมารับทำไม เตยไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ" ฉันพูดแล้วขยับตัวลุกขึ้นนั่ง
(ถ้าไม่ลงมาฉันโพสต์รูปที่แอบถ่ายไว้เมื่อคืนลงเฟสตัวเองนะ เปิดตัวเมียซักหน่อย) เกลียดไอ้บ้านี่ที่สุดเลยทำไมต้องอยู่เหนือฉันทุกอย่างด้วย!
ไม่รู้ว่ารูปที่เขาพูดถึงมันเป็นยังไงหรอก แต่เมื่อคืนฉันหลับก่อน ความเป็นไปได้ที่เขาจะทำมันมีมากกว่าครึ่ง
"รูปอะไร ลบเลยนะพี่คิว!!"
(มาลบเอง จะถึงแล้วลงมา) พูดจบเขาก็ตัดสายไปทันที ปล่อยให้ฉันกำหมัดด่าเขาอยู่ในใจ
"มีอะไร" ยับเค้กเดินเข้ามาในห้องมองฉันด้วยความสงสัย
"เปล่า ฉันกลับห้องก่อนนะ"
"อืม เจอกัน"
"บาย"
"เดี๋ยวเตย" กำลังจะเปิดประตูออกไปยัยเค้กก็เรียกฉันอีกรอบ จึงหันไปหาแล้วเลิกเลิกคิ้วเป็นคำถาม "ถ้าแกรู้สึกดีกับเขาก็คุยไปเถอะ อย่าหลอกตัวเองเลย เรื่องคะนิ้งฉันว่าต่อให้แกถูก มุมมองของมันยังไงก็คิดว่าผิดอยู่ดี ทำใจไว้เถอะว่าแกต้องทะเลาะกับมัน"
"..." ฉันไม่ได้ตอบเพื่อน แค่มองมันนิ่งๆเม้มปากเข้าหากันอย่างใช้ความคิดแล้วเปิดประตูออกมาจากห้อง
หลอกตัวเองเหรอ...ฉันไปหลอกตัวเองตอนไหนกัน
"เอามือถือมา!" พอมาถึงด้านล่างหอฉันก็รีบขึ้นมาบนรถของไอ้พี่คิวที่จอดรออยู่ ยื่นมือไปขอมือถือของเขา
"ขู่เป็นเมียเลย" คนพูดอมยิ้มแต่ก็ไม่ยอมเอามือถือมาให้
"มือถือ!"
"อยู่นี่ล้วงเอาดิไม่มีมือจะขับรถ" เขาก้มมองกระเป๋ากางเกงฝั่งขวาของตัวเอง
"..." คิดว่าฉันไม่กล้าเหรอ จะใช้โอกาสนี้หักไอ้มังกรยักษ์เลยทำกวนนัก
คิดได้ดังนั้นฉันก็เลื่อนมือไปที่กระเป๋ากางเกงฝั่งนั้นของเขาแต่มันไกลจึงต้องโน้มตัวลงไปด้วย ไอ้พี่คิวมันหัวเราะในลำคอก่อนจะกดศีรษะฉันลงกับเป้าตัวเองจนหน้าฉันกระแทกลงไปโดนไอ้มังกรที่หลับอยู่จริงๆ
จะเล่นแบบนี้เหรอ ได้ไอ้พี่คิว!
"ลามกนักใช่มั้ย!" ฉันดึงมือถือออกมาก่อนจะเลื่อนมือไปจับตรงเป้ากางเกงของเขาแล้วบีบมันเต็มแรง
"โอ๊ยเตย! เจ็บนะเว่ย!" พี่คิวนิ่วหน้าแล้วกัดริมฝีปากล่างของตัวเองรีบจับมือฉันที่บีบมังกรหลับไหลของเขาแต่พอฉันคลายมือออกก็เหมือนมันจะเริ่มพองตัวขึ้นแล้วด้วย
"ก็พี่คิวกวนประสาทก่อน" ฉันพูดแล้วพยายามจะดึงมือกลับมาแต่เขาไม่ยอม
"อยากจับนักก็จับไว้นะห้ามปล่อย ถ้าแข็งแล้วเจอแน่" เขาเหยียดยิ้มแล้วยังกุมมือฉันไว้ไม่ยอมให้เอาออก
"ปล่อยนะพี่คิว!"
ก๊อกๆ
เราสองคนรีบหันไปมองกระจกตอนที่กำลังสู้รบปรบมือกัน เมื่ออยู่ๆก็มีคนมาเคาะ ก่อนที่ดวงตาของฉันจะเบิกกว้างเพราะคนที่มาเคาะกระจกรถพี่คิวคือ'คะนิ้ง'