EPISODE 17 ปกป้อง

1758 Words
"ทำอะไรของเธอวะ!" พี่คิวดึงตัวฉันไปด้านหลังแล้วผลักยัยนั่นจนตัวเซ เพื่อนของยัยคะนิ้งรีบเดินเข้ามาแล้วมองมาทางเราอย่างเอาเรื่อง "เป็นผู้ชายอะไรมาทำผู้หญิง ทุเรศ!" "กูกระทืบก็ได้นะถ้ามึงจะเอา" พี่คิวทำท่าจะก้าวเข้าไปหายัยพวกนั้น ขณะที่ยัยคะนิ้งก็ยืนนิ่งน้ำตาคลอกำหมัดมองฉันอยู่ด้วยสีหน้าเกลียดชัง คะนิ้งไม่ได้โกรธพี่คิวแต่เลือกที่จะโกรธฉันคงเพราะมันคิดว่าฉันเป็นเพื่อนแต่ไปแย่งผู้ชายที่มันชอบ "พี่คิว" ฉันรีบดึงเสื้อเขาเอาไว้ แล้วเพื่อนพี่คิวก็เข้ามาช่วยดึงแขนเขาไป ไม่เคยเห็นเขาโมโหแบบนี้เลย "มึงทำแบบนี้ได้ไงอีเตย! พึ่งรู้ว่าร่านชอบแย่ง ถึงว่า...บอกกูไม่ให้ยุ่งเพราะอยากได้เป็นของตัวเอง!" ที่ผ่านมาฉันรู้ว่ามันเป็นคนแรงๆไม่คิดถึงจิตใจใครแต่ก็ไม่เคยได้ยินมันพูดแบบนี้ด้วย ฉันก็คนนะมีศักดิ์ศรีเหมือนกัน และไม่ใช่นางเอกแสนดีที่ต้องให้ใครมายืนด่าด้วย! คำว่าเพื่อนฉันจะไม่เอามันมาคั่นกลางอีกแล้ว "กูไม่ได้แย่งของมึง! และกูก็ไม่ได้มาทีหลังมึงด้วยคะนิ้ง" ยังไงฉันก็คงกลับไปเป็นเพื่อนกับมันไม่ได้อีกแล้วแน่ๆ ก็ให้มันจบวันนี้ไปเลย จบเพราะเรื่องผู้ชาย... "ร่าน!" "มึงก็ร่านเหมือนกันล่ะวะ ร่านแล้วเขาเสือกไม่เอา!" ฉันตะโกนใส่หน้าคะนิ้ง เหมือนมันเป็นคำที่อยากพูดแต่เพิ่งจะได้มีโอกาสพูดอย่างนั้นเลย "แล้วรู้ว่ากูชอบทำไมมึงยังยุ่งวะ" คะนิ้งทำท่าจะถลาเขามาหาฉันอีกครั้งพร้อมกับยกฝ่ามือเตรียมตบลงมาแต่คราวนี้พี่คิวคว้าข้อมือของยัยนั่นเอาไว้ทันจากนั้นก็บีบจนยัยนั่นนิ่วหน้าและกระชากแขนกลับไป "ขอถามหน่อย ว่าเธอจะตบเตยหอมทำไม" พี่คิวถามแล้วก้าวเข้าไปหายัยพวกนั้น ตอนนี้การ์ดเริ่มมองและกำลังจะเข้ามาหาพวกเราแล้ว "ฉันเคยบอกเหรอว่าชอบเธอ อย่ามาทำตัวเป็นเจ้าของฉัน" "..." ยัยคะนิ้งเงียบมองพี่คิว "แล้วพี่มาคุยกับนิ้งทำไม ถ้าจะทำแบบนี้" "..." พี่คิวหัวเราะในลำคอแล้วเหยียดยิ้มแต่เป็นรอยยิ้มที่ร้ายกาจเอามากๆจนยัยนั่นเม้มปากเข้าหากันเหมือนกำลังนึกหวั่นใจ "ฉันคุยกับเธอหรือตอบเป็นมารยาท กลับไปย้อนดูตั้งแต่เริ่ม และเธอก็น่าจะรู้ว่าฉันตอบเธอเพราะอะไร" "..." "มีอะไรขอไปคุยกันข้างนอกนะครับ เชิญครับ" แล้วพนักงานของร้านก็มาบอกพวกเราอย่างใจเย็นแต่ก็ทำหน้าดุ พวกพี่ทศกัณฐ์ขอโทษพี่เขากันใหญ่เหมือนจะรู้จักกันด้วย "ไปเถอะ" พี่คิวจับข้อมือของฉันแล้วกระตุกแขนให้เดินตามฉันไม่ได้มองยัยคะนิ้งอีก รีบหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาแล้วเดินไปตามแรงดึงของพี่คิว ซ่า "อ๊ะ!" "เห้ย!" ฉันสะดุ้งโหยงพร้อมๆกับเสียงของเพื่อนๆพี่คิวที่เห็นเหตุการณ์อยู่ ก้มมองตัวเองที่ถูกของเหลวจากใครบางคนด้านหลังสาดเข้ามาเต็มๆจนรับรู้ถึงความเย็นเฉียบตามร่างกาย และคงไม่ใช่ฝีมือใครนอกจากยัยคะนิ้งซึ่งมีเพื่อนของมันยืนยิ้มเห็นดีงามด้วย "เธออยากตายใช่มั้ย!" "อึก ปล่อย...นะ!" พี่คิวพุ่งตัวเขาไปบีบคอของคะนิ้งด้วยความรวดเร็วมืออีกข้างกำหมัดไว้แน่น การกระทำของเขาทำให้ทุกคนตกใจจนไม่ใครกล้าเข้าใกล้ ยัยคะนิ้งที่สู้แรงไม่ได้เอาแต่ดิ้นพล่านอยู่ในมือของพี่คิว ตอนนี้เขาโมโหจนเลือดขึ้นหน้าแล้ว ขนาดฉันเองยังกลัวเลย "น้องพอๆ ผู้หญิงนะเว่ย" พนักงานของร้านเข้ามากดึงตัวพี่คิว เขาก็สะบัดตัวยัยนั่นออกจนเสียหลักล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนที่เพื่อนยัยนั่นจะพากันเข้าไปประคองขึ้น "ไอ้คิว พอๆ มึงใจเย็นก่อน" พี่ทศกัณฐ์เดินเข้ามาโอบไหล่เพื่อนแล้วพาเดินออกไปนอกร้าน ฉันก็เดินตามออกไปด้วยท่ามกลางสายตาของลูกค้าคนอื่นๆที่มองพวกเราเหมือนตัวประหลาด แล้วพวกเพื่อนพี่ทศกัณฐ์ก็พาพี่คิวออกมายืนคุยกันตรงลานจอดรถ เหมือนจะคุยให้เขาใจเย็นนั่นแหละ ปกติฉันเห็นเขาอารมณ์ดี พี่คิวเวลานี้ฉันไม่อยากคุยด้วยเลย ขนาดฉันเป็นคนที่โดนทำร้ายยังทำไม่ได้เท่าเขา หรือเขาจะห่วงฉันมากจริงๆหรือแค่โมโหที่ยัยนั่นทำตัวเป็นเจ้าของ "พี่เตยไม่เป็นไรใช่มั้ย" ญานินเดินเข้ามาพร้อมกับพวกผู้หญิงรุ่นน้องถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ไม่เป็นอะไรค่ะ" ฉันตอบแล้วยิ้มให้ก่อนจะมองไปยังพี่คิวที่อยู่อีกทุมหนึ่ง "นังคะนิ้งมันเป็นบ้าเหรอ แล้วมันมีแฟนอยู่ทำไมต้องมาทำแบบนี้" ใบชาถามด้วยท่าทางหงุดหงิดไม่ต่างจากฉัน "มันเลิกแล้ว" "เลิกเพราะคิดจะจับพี่คิวเหรอ แต่พี่คิวไม่เคยพูดถึงมันเลยนะพี่เขาไปคุยกับมันตอนไหน คิดไปเองหมดหรือเปล่า" ใบชายังคงพูดออกมายืดยาวเหมือนอยากระบายกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ "ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นได้ขนาดนี้" เพราะปกติดยัยคะนิ้งมันแทบจะไม่จริงจังกับใครเลย มีแฟนก็แอบคุยกับคนนั้นคนนี้ และไม่ใช่แค่คุยเฉยๆ บางคนมีความสัมพันธ์มากกว่าคุยก็มีเพราะก่อนหน้านี้ยัยเค้กเคยไปเจอมันพาผู้ชายคนอื่นไปนอนด้วยตั้งแต่นั้นมาเค้กมันถึงไม่ชอบคะนิ้งเท่าไหร่ แต่ยัยนั่นก็ไม่เคยคบใครจริงจังนอกจากแฟนที่อยู่ไกลกัน แต่ตอนนี้เลิกแล้วเพราะมันอยากคบพี่คิว "กล้าด่าแกว่าร่านเนอะ ทำเหมือนคนอื่นเขาไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง" ใบชาหัวเราะออกมาเบาๆ คงจะรู้เรื่องคะนิ้งมาอยู่บ้างแต่ฉันก็ไม่ได้อยากพูดเรื่องพวกนี้เท่าไหร่หรอก ไม่อยากขายใคร "ฉันก็ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะเป็นขนาดนี้ มันคงชอบพี่คิวมากมั้ง" สาวๆรุ่นน้องที่เหมือนจะไม่รู้เรื่องของฉันเท่าไหร่ได้แต่ยืนฟังเงียบๆ ซักพักพวกพี่คิวก็เดินเข้ามากันพอดีเราเลยไม่ได้คุยอะไรกันต่อเรื่องของคะนิ้งเพราะดูจากสีหน้าพี่คิวคงไม่มีใครอยากให้เขาอารมณ์ไม่ดีไปมากกว่าเดิม "กลับเลยมั้ย" เขาถามด้วยสีหน้าปกติแต่ฉันว่ามันไม่ได้ปกเลยเพราะเขาไม่ใช่คนที่ชอบทำนิ่งแบบนี้ พอฉันพยักหน้าพี่คิวก็หันหลังเดินไปที่รถจึงรีบวิ่งตามไป "..." พี่คิวนั่งเงียบเหมือนใช้ความคิดตลอดทางฉันจึงไม่ได้พูดอะไรรบกวนเขา ซักพักเขาก็เอื้อมมือมาดึงมือฉันไปวางบนตัก "ขอโทษนะ" เขาพูดแล้วหันมามองฉันแวบหนึ่ง "เรื่อง?" "เป็นเพราะฉันไงเธอถึงต้องเจ็บตัว" เขาบีบมือฉันเอาไว้แล้วถอนหายใจออกมา "เตยไม่ได้โกรธพี่คิว เราไม่ได้ผิดไม่ใช่เหรอ" ฉันหันไปมองใบหน้าด้านข้างที่ยังคงทำหน้าเครียดอยู่ "ฉันผิดที่ไม่ชัดเจนแต่แรกไง เลยทำให้เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้" มันก็ใช่จริงๆนั่นแหละตอนนี้ก็ยังคลุมเครือเหมือนเดิม ที่เป็นแบบนี้เพราะความสัมพันธ์ของเรามันไม่ได้เริ่มจากชอบกันแต่มันเริ่มจากถูกใจและมีความสัมพันธ์ชั่วคราว ซึ่งมันก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะกลับมาวนเวียนเจอกันอีกฉันถึงไม่ได้มั่นใจแบบในเวลานี้ที่เขาทำให้มั่นใจมากขึ้น "แล้วที่พี่คิวบอกว่าเพื่อนคนนี้มันไม่ได้ดีกับเตย หมายความว่ายังไง" คำพูดของเขาเรื่องนี้ฉันยังคงเก็บมาคิดเพราะมันทำให้ค้างคาใจอยู่ "ยัยนั่นไม่เคยพูดถึงเธอในแง่ดี" "เรื่องไหน" ฉันรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกเลย แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าคะนิ้งมันไม่ใช่เพื่อนที่ดีอยู่แล้วในตอนนี้ "เกือบทุกเรื่องที่ได้ยิน เพราะฉันมักถามเรื่องเธอแต่ยัยนั่นชอบพูดถึงเธอในทางไม่ดี"หมายความว่าพี่คิวเคยถามเรื่องฉันกับคะนิ้งงั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นยัยคะนิ้งก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าพี่เขาไม่ได้สนใจมัน หรือที่มันชอบโทรหาฉัน ชอบถามเรื่องพี่คิวเพราะมันสงสัยในตัวฉันอยู่แล้ว "แสดงว่าคะนิ้งรู้อยู่แล้วเหรอ" "ไม่รู้ก็โง่แล้วมั้ง แต่แกล้งทำไม่รู้แล้วสาดสีใส่เธอแทน" พี่คิวทำหน้าเครียดอีกแล้วฉันเลยไม่อยากถามอะไรต่อให้เขาอารมณ์ไม่ดี "แวะเซเว่นให้หน่อยค่ะ" เขาไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ยอมตบไฟเลี้ยวจอดตรงหน้าร้านให้ฉัน "รอแป๊บนะ พี่เอาอะไรมั้ย" "..." พี่คิวส่ายหน้าเป็นคำตอบ ฉันจึงรีบลงจากรถเดินเข้าร้านและไปยังโซนขายของหวาน หยิบเค้กช็อกโกแลตขึ้นมาแล้วนำไปจ่ายเงินหน้าเคาน์เตอร์ กลับขึ้นมาบนรถของพี่คิว "สุขสันต์วันเกิดค่ะ" ฉันยื่นเค้กที่แกะฝาครอบออกยื่นไปตรงหน้าเขา เขาขมวดเข้มเข้าหากันมองฉันนิ่งก่อนจะค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาและกลายเป็นยิ้มกว้างแบบที่ฉันอยากเห็นในที่สุด "ขอบคุณครับ" ฉันจะไม่คิดมากเรื่องของยัยคะนิ้งอีกแล้ว จะเกิดอะไรก็ให้มันเกิดแล้วกัน ใครจะด่าว่าฉันเป็นคนไม่ดีก็เรื่องของพวกเขา แต่ถ้าเรื่องไหนที่ไม่ใช่ความจริงและถูกใส่ร้ายฉันก็จะไม่ยอมอยู่เฉยๆเหมือนกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD