"ทำอะไรของเธอวะ!"
พี่คิวดึงตัวฉันไปด้านหลังแล้วผลักยัยนั่นจนตัวเซ เพื่อนของยัยคะนิ้งรีบเดินเข้ามาแล้วมองมาทางเราอย่างเอาเรื่อง
"เป็นผู้ชายอะไรมาทำผู้หญิง ทุเรศ!"
"กูกระทืบก็ได้นะถ้ามึงจะเอา" พี่คิวทำท่าจะก้าวเข้าไปหายัยพวกนั้น ขณะที่ยัยคะนิ้งก็ยืนนิ่งน้ำตาคลอกำหมัดมองฉันอยู่ด้วยสีหน้าเกลียดชัง
คะนิ้งไม่ได้โกรธพี่คิวแต่เลือกที่จะโกรธฉันคงเพราะมันคิดว่าฉันเป็นเพื่อนแต่ไปแย่งผู้ชายที่มันชอบ
"พี่คิว" ฉันรีบดึงเสื้อเขาเอาไว้ แล้วเพื่อนพี่คิวก็เข้ามาช่วยดึงแขนเขาไป ไม่เคยเห็นเขาโมโหแบบนี้เลย
"มึงทำแบบนี้ได้ไงอีเตย! พึ่งรู้ว่าร่านชอบแย่ง ถึงว่า...บอกกูไม่ให้ยุ่งเพราะอยากได้เป็นของตัวเอง!" ที่ผ่านมาฉันรู้ว่ามันเป็นคนแรงๆไม่คิดถึงจิตใจใครแต่ก็ไม่เคยได้ยินมันพูดแบบนี้ด้วย
ฉันก็คนนะมีศักดิ์ศรีเหมือนกัน และไม่ใช่นางเอกแสนดีที่ต้องให้ใครมายืนด่าด้วย! คำว่าเพื่อนฉันจะไม่เอามันมาคั่นกลางอีกแล้ว
"กูไม่ได้แย่งของมึง! และกูก็ไม่ได้มาทีหลังมึงด้วยคะนิ้ง" ยังไงฉันก็คงกลับไปเป็นเพื่อนกับมันไม่ได้อีกแล้วแน่ๆ ก็ให้มันจบวันนี้ไปเลย
จบเพราะเรื่องผู้ชาย...
"ร่าน!"
"มึงก็ร่านเหมือนกันล่ะวะ ร่านแล้วเขาเสือกไม่เอา!" ฉันตะโกนใส่หน้าคะนิ้ง เหมือนมันเป็นคำที่อยากพูดแต่เพิ่งจะได้มีโอกาสพูดอย่างนั้นเลย
"แล้วรู้ว่ากูชอบทำไมมึงยังยุ่งวะ"
คะนิ้งทำท่าจะถลาเขามาหาฉันอีกครั้งพร้อมกับยกฝ่ามือเตรียมตบลงมาแต่คราวนี้พี่คิวคว้าข้อมือของยัยนั่นเอาไว้ทันจากนั้นก็บีบจนยัยนั่นนิ่วหน้าและกระชากแขนกลับไป
"ขอถามหน่อย ว่าเธอจะตบเตยหอมทำไม" พี่คิวถามแล้วก้าวเข้าไปหายัยพวกนั้น ตอนนี้การ์ดเริ่มมองและกำลังจะเข้ามาหาพวกเราแล้ว "ฉันเคยบอกเหรอว่าชอบเธอ อย่ามาทำตัวเป็นเจ้าของฉัน"
"..." ยัยคะนิ้งเงียบมองพี่คิว "แล้วพี่มาคุยกับนิ้งทำไม ถ้าจะทำแบบนี้"
"..." พี่คิวหัวเราะในลำคอแล้วเหยียดยิ้มแต่เป็นรอยยิ้มที่ร้ายกาจเอามากๆจนยัยนั่นเม้มปากเข้าหากันเหมือนกำลังนึกหวั่นใจ "ฉันคุยกับเธอหรือตอบเป็นมารยาท กลับไปย้อนดูตั้งแต่เริ่ม และเธอก็น่าจะรู้ว่าฉันตอบเธอเพราะอะไร"
"..."
"มีอะไรขอไปคุยกันข้างนอกนะครับ เชิญครับ"
แล้วพนักงานของร้านก็มาบอกพวกเราอย่างใจเย็นแต่ก็ทำหน้าดุ พวกพี่ทศกัณฐ์ขอโทษพี่เขากันใหญ่เหมือนจะรู้จักกันด้วย
"ไปเถอะ" พี่คิวจับข้อมือของฉันแล้วกระตุกแขนให้เดินตามฉันไม่ได้มองยัยคะนิ้งอีก รีบหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาแล้วเดินไปตามแรงดึงของพี่คิว
ซ่า
"อ๊ะ!"
"เห้ย!"
ฉันสะดุ้งโหยงพร้อมๆกับเสียงของเพื่อนๆพี่คิวที่เห็นเหตุการณ์อยู่ ก้มมองตัวเองที่ถูกของเหลวจากใครบางคนด้านหลังสาดเข้ามาเต็มๆจนรับรู้ถึงความเย็นเฉียบตามร่างกาย
และคงไม่ใช่ฝีมือใครนอกจากยัยคะนิ้งซึ่งมีเพื่อนของมันยืนยิ้มเห็นดีงามด้วย
"เธออยากตายใช่มั้ย!"
"อึก ปล่อย...นะ!"
พี่คิวพุ่งตัวเขาไปบีบคอของคะนิ้งด้วยความรวดเร็วมืออีกข้างกำหมัดไว้แน่น การกระทำของเขาทำให้ทุกคนตกใจจนไม่ใครกล้าเข้าใกล้ ยัยคะนิ้งที่สู้แรงไม่ได้เอาแต่ดิ้นพล่านอยู่ในมือของพี่คิว
ตอนนี้เขาโมโหจนเลือดขึ้นหน้าแล้ว ขนาดฉันเองยังกลัวเลย
"น้องพอๆ ผู้หญิงนะเว่ย" พนักงานของร้านเข้ามากดึงตัวพี่คิว
เขาก็สะบัดตัวยัยนั่นออกจนเสียหลักล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนที่เพื่อนยัยนั่นจะพากันเข้าไปประคองขึ้น
"ไอ้คิว พอๆ มึงใจเย็นก่อน" พี่ทศกัณฐ์เดินเข้ามาโอบไหล่เพื่อนแล้วพาเดินออกไปนอกร้าน ฉันก็เดินตามออกไปด้วยท่ามกลางสายตาของลูกค้าคนอื่นๆที่มองพวกเราเหมือนตัวประหลาด
แล้วพวกเพื่อนพี่ทศกัณฐ์ก็พาพี่คิวออกมายืนคุยกันตรงลานจอดรถ เหมือนจะคุยให้เขาใจเย็นนั่นแหละ ปกติฉันเห็นเขาอารมณ์ดี พี่คิวเวลานี้ฉันไม่อยากคุยด้วยเลย
ขนาดฉันเป็นคนที่โดนทำร้ายยังทำไม่ได้เท่าเขา หรือเขาจะห่วงฉันมากจริงๆหรือแค่โมโหที่ยัยนั่นทำตัวเป็นเจ้าของ
"พี่เตยไม่เป็นไรใช่มั้ย" ญานินเดินเข้ามาพร้อมกับพวกผู้หญิงรุ่นน้องถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
"ไม่เป็นอะไรค่ะ" ฉันตอบแล้วยิ้มให้ก่อนจะมองไปยังพี่คิวที่อยู่อีกทุมหนึ่ง
"นังคะนิ้งมันเป็นบ้าเหรอ แล้วมันมีแฟนอยู่ทำไมต้องมาทำแบบนี้" ใบชาถามด้วยท่าทางหงุดหงิดไม่ต่างจากฉัน
"มันเลิกแล้ว"
"เลิกเพราะคิดจะจับพี่คิวเหรอ แต่พี่คิวไม่เคยพูดถึงมันเลยนะพี่เขาไปคุยกับมันตอนไหน คิดไปเองหมดหรือเปล่า" ใบชายังคงพูดออกมายืดยาวเหมือนอยากระบายกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
"ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นได้ขนาดนี้"
เพราะปกติดยัยคะนิ้งมันแทบจะไม่จริงจังกับใครเลย มีแฟนก็แอบคุยกับคนนั้นคนนี้ และไม่ใช่แค่คุยเฉยๆ บางคนมีความสัมพันธ์มากกว่าคุยก็มีเพราะก่อนหน้านี้ยัยเค้กเคยไปเจอมันพาผู้ชายคนอื่นไปนอนด้วยตั้งแต่นั้นมาเค้กมันถึงไม่ชอบคะนิ้งเท่าไหร่ แต่ยัยนั่นก็ไม่เคยคบใครจริงจังนอกจากแฟนที่อยู่ไกลกัน
แต่ตอนนี้เลิกแล้วเพราะมันอยากคบพี่คิว
"กล้าด่าแกว่าร่านเนอะ ทำเหมือนคนอื่นเขาไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง" ใบชาหัวเราะออกมาเบาๆ คงจะรู้เรื่องคะนิ้งมาอยู่บ้างแต่ฉันก็ไม่ได้อยากพูดเรื่องพวกนี้เท่าไหร่หรอก ไม่อยากขายใคร
"ฉันก็ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะเป็นขนาดนี้ มันคงชอบพี่คิวมากมั้ง" สาวๆรุ่นน้องที่เหมือนจะไม่รู้เรื่องของฉันเท่าไหร่ได้แต่ยืนฟังเงียบๆ
ซักพักพวกพี่คิวก็เดินเข้ามากันพอดีเราเลยไม่ได้คุยอะไรกันต่อเรื่องของคะนิ้งเพราะดูจากสีหน้าพี่คิวคงไม่มีใครอยากให้เขาอารมณ์ไม่ดีไปมากกว่าเดิม
"กลับเลยมั้ย" เขาถามด้วยสีหน้าปกติแต่ฉันว่ามันไม่ได้ปกเลยเพราะเขาไม่ใช่คนที่ชอบทำนิ่งแบบนี้
พอฉันพยักหน้าพี่คิวก็หันหลังเดินไปที่รถจึงรีบวิ่งตามไป
"..." พี่คิวนั่งเงียบเหมือนใช้ความคิดตลอดทางฉันจึงไม่ได้พูดอะไรรบกวนเขา ซักพักเขาก็เอื้อมมือมาดึงมือฉันไปวางบนตัก
"ขอโทษนะ" เขาพูดแล้วหันมามองฉันแวบหนึ่ง
"เรื่อง?"
"เป็นเพราะฉันไงเธอถึงต้องเจ็บตัว" เขาบีบมือฉันเอาไว้แล้วถอนหายใจออกมา
"เตยไม่ได้โกรธพี่คิว เราไม่ได้ผิดไม่ใช่เหรอ" ฉันหันไปมองใบหน้าด้านข้างที่ยังคงทำหน้าเครียดอยู่
"ฉันผิดที่ไม่ชัดเจนแต่แรกไง เลยทำให้เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้"
มันก็ใช่จริงๆนั่นแหละตอนนี้ก็ยังคลุมเครือเหมือนเดิม ที่เป็นแบบนี้เพราะความสัมพันธ์ของเรามันไม่ได้เริ่มจากชอบกันแต่มันเริ่มจากถูกใจและมีความสัมพันธ์ชั่วคราว
ซึ่งมันก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะกลับมาวนเวียนเจอกันอีกฉันถึงไม่ได้มั่นใจแบบในเวลานี้ที่เขาทำให้มั่นใจมากขึ้น
"แล้วที่พี่คิวบอกว่าเพื่อนคนนี้มันไม่ได้ดีกับเตย หมายความว่ายังไง" คำพูดของเขาเรื่องนี้ฉันยังคงเก็บมาคิดเพราะมันทำให้ค้างคาใจอยู่
"ยัยนั่นไม่เคยพูดถึงเธอในแง่ดี"
"เรื่องไหน" ฉันรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกเลย แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าคะนิ้งมันไม่ใช่เพื่อนที่ดีอยู่แล้วในตอนนี้
"เกือบทุกเรื่องที่ได้ยิน เพราะฉันมักถามเรื่องเธอแต่ยัยนั่นชอบพูดถึงเธอในทางไม่ดี"หมายความว่าพี่คิวเคยถามเรื่องฉันกับคะนิ้งงั้นเหรอ
ถ้าอย่างนั้นยัยคะนิ้งก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าพี่เขาไม่ได้สนใจมัน หรือที่มันชอบโทรหาฉัน ชอบถามเรื่องพี่คิวเพราะมันสงสัยในตัวฉันอยู่แล้ว
"แสดงว่าคะนิ้งรู้อยู่แล้วเหรอ"
"ไม่รู้ก็โง่แล้วมั้ง แต่แกล้งทำไม่รู้แล้วสาดสีใส่เธอแทน" พี่คิวทำหน้าเครียดอีกแล้วฉันเลยไม่อยากถามอะไรต่อให้เขาอารมณ์ไม่ดี
"แวะเซเว่นให้หน่อยค่ะ"
เขาไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ยอมตบไฟเลี้ยวจอดตรงหน้าร้านให้ฉัน
"รอแป๊บนะ พี่เอาอะไรมั้ย"
"..."
พี่คิวส่ายหน้าเป็นคำตอบ ฉันจึงรีบลงจากรถเดินเข้าร้านและไปยังโซนขายของหวาน หยิบเค้กช็อกโกแลตขึ้นมาแล้วนำไปจ่ายเงินหน้าเคาน์เตอร์ กลับขึ้นมาบนรถของพี่คิว
"สุขสันต์วันเกิดค่ะ" ฉันยื่นเค้กที่แกะฝาครอบออกยื่นไปตรงหน้าเขา
เขาขมวดเข้มเข้าหากันมองฉันนิ่งก่อนจะค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาและกลายเป็นยิ้มกว้างแบบที่ฉันอยากเห็นในที่สุด
"ขอบคุณครับ"
ฉันจะไม่คิดมากเรื่องของยัยคะนิ้งอีกแล้ว จะเกิดอะไรก็ให้มันเกิดแล้วกัน ใครจะด่าว่าฉันเป็นคนไม่ดีก็เรื่องของพวกเขา
แต่ถ้าเรื่องไหนที่ไม่ใช่ความจริงและถูกใส่ร้ายฉันก็จะไม่ยอมอยู่เฉยๆเหมือนกัน