ครืด~ ครืด~
'เค้ก'
สายของยัยเค้กโทรเข้ามา โดยไม่ต้องเดาว่ามันจะมีเรื่องอะไร คิดว่าตอนนี้เรื่องคงถึงหูของมันแล้วแต่ไม่รู้ด้วยวิธีใด
"อืม"
(มีเรื่องแล้วเหรอ) น่ำเสียงร้อนรนของเค้กบ่งบอกได้ว่ามันคงรู้เรื่องมาเยอะพอสมควร
ฉันแอบมองพี่คิวเล็กน้อย ตอนนี้เขากำลังเตรียมตัวจะไปอาบน้ำหลังจากที่พาฉันหอบเสื้อผ้าจากห้องตัวเอง เลื่อนขั้นมานอนคอนโดของเขา
เหลือแค่ขอเป็นแฟนที่ไม่ยอมทำซักที
"อืม ไปเจอกับยัยคะนิ้งที่ร้านพอดี" ฉันตอบแล้วหยัดตัวลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียงเพื่อให้คุยกับมันได้เต็มที่ "มันโทรหาแกเหรอ"
(เออดิ มันบอกฉันว่าแกแอบคุยกับพี่คิวทั้งที่ก็รู้ว่ามันชอบพี่คิวและคุยกับพี่เขาอยู่ ฉันก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไปเพราะอยากให้มันพูดออกมา เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้เลยมันอยากให้ฉันเกลียดแก) เค้กพูดขึ้นอย่างมีอารมณ์
"ยัยต้องตาล่ะตอนนี้คงโดนแล้วมั้ง"
(ไม่ ฉันคุยกับมันแล้ว ฉันคิดว่ายัยคะนิ้งต้องหาพวกแน่ๆเลยคุยกับมันก่อน)
โชคดีแล้วนะที่ฉันยังมีเพื่อนที่เข้าใจไม่อย่างนั้นยัยคะนิ้งก็คงเอาฉันไปพูดให้คนเกลียดหมดแล้ว
"ขอบคุณนะที่เข้าใจ"
(แล้วตอนนี้พี่เขาว่ายังไง)
"ก็ไม่ว่าไง พอมีเรื่องในร้านก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้อีก" ฉันบอกไปตามความจริงเพราะไม่ได้กลับไปคุยเรื่องนี้จริงๆ ฉันกลัวว่าพี่คิวจะอารมณ์ไม่ดีอีก "ยัยนั่นเล่าด้วยมั้ยว่าโดนพี่เขาบีบคอ"
(ฮะ! ไม่เห็นเล่า)
คิดไว้แล้วว่าเรื่องนี้ยัยคะนิ้งไม่เล่าหรอกเพราะตัวเองจะดูไม่ดี เล่าแต่เรื่องที่ฉันจะเสียหายเท่านั้น
"อืม มันมาหาเรื่องฉันที่โต๊ะ ด่าสารพัด เอาเหล้าสาดแล้วยังตบหน้าฉันอีก พี่คิวเลยโกรธ"
(โห!! โคตรxxxเลย ตอนมันเล่ามีแต่เรื่องที่ว่าแกไม่พูดเรื่องที่มันทำกับแกเลย ดีนะเว่ยที่พี่เขาปกป้องอะ) เค้กพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด
"อืม ต่อไปนี้ฉันจะไม่ยอมคนอย่างมันแน่ ถ้ามันเอาฉันไปพูดฉันก็จะพูดบ้าง คอยดู"
(ฉันอยู่ข้างแกเสมอนะ) น้ำเสียงของเค้กบ่งบอกถึงความเป็นห่าง ฉันรู้สึกอบอุ่นและตื้นตันใจมากจริงๆ
"ขอบคุณนะ"
หลังจากคุยกับเพื่อนอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงฉันก็วางสาย พอเข้ามาด้านในก็เห็นพี่คิวนั่งเช็ดผมพร้อมกับเล่นมือถืออยู่ปลายเตียง สีหน้าของเขาเหมือนกำลังเครียดกับอะไรบางอย่าง
"มีอะไรพี่คิว" ฉันถามแล้วมองคนร่างสูงที่ตั้งใจดูมือถือจนไม่ได้สนใจฉันที่เดินเข้ามาเลย
"..." เขาเงยหน้าขึ้นมามองแล้ววางมือถือลงกับเตียง "มานี่มา"
เขายื่นมือมาข้างหนึ่งเหมือนจะรับเข้าไปใกล้ๆ ฉัรจึงเดินไปหาอย่างว่าง่ายแล้วลงไปนั่งกับตักตามแรงดึงของเขา
"คิดมากอยู่หรือเปล่า"
"ไม่นะ ปลงแล้ว" ฉันตอบแล้วยิ้มออกมานิดๆเพื่อให้อีกคนเชื่อว่าฉันไม่ได้คิดมากจริงๆ มันก็อาจจะมีบ้างแต่ก็ทำใจยอมรับแล้วในตอนนี้
"ฉันกลัวว่าเธอจะโกรธฉัน"
ที่จริงฉันต้องโกรธเขานั่นแหละ เขาเหมือนเป็นตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดเลย แต่เหตุผลของพี่คิวคือชอบฉัน เขาก็ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่น และตอนนี้เองฉันก็เริ่มรู้สึกดีกับเขาแล้วด้วยจะโกรธเขาให้ได้อะไรขึ้นมา
พอเห็นเขาปกป้องฉันวันนี้เลยโกรธไม่ลงด้วย ความรู้สึกที่มีต่อพี่คิวเริ่มเพิ่มไปอีกเยอะเลยแค่คิดถึงหัวใจก็เต้นโครมครามแล้ว
"โกรธอยู่" ฉันตอบแล้วทำหน้านิ่ง "พี่คิวทำเพื่อนเตยหายไปคนนึง"
"เพื่อนแบบนั้นเธอเสียดายเหรอ ผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวและเห็นแก่ผู้ชาย มองไม่ออกเหรอว่าไม่ใช่เพื่อนแท้" เขาเลื่อนมือมาโอบเอวของฉันเอาไว้แล้วจ้องตานิ่ง
"รู้วันนี้แหละ ตบหน้าเตยขนาดนั้น" ฉันพูดแล้วยกมือขึ้นมาลูบหน้าตัวเอง พลางคิดโมโหอีกรอบ แต่ถ้าใช้กำลังตอบกลับฉันก็คงไม่ต่างจากยัยนั่น
"..." พี่คิวขยับฝ่ามือขึ้นมาลูบแก้มของฉันอย่างอ่อนโยนก่อนจะถอนหายใจออกมา "ฉันทำให้เธอเจ็บตัว"
"..."
"ลงโทษฉันเลย" เขายิ้มมุมปากแบบฉบับของตัวเอง สายตาที่มองมารับรู้ได้ทันทีว่าคิดอะไรอยู่ความจริงจังก่อนหน้านี้หายไปทันที
"เตยไปอาบน้ำก่อนนะ" ว่าแล้วฉันก็พยายามหยัดตัวลุกขึ้นแต่ไอ้พี่คิวมันก็ไม่ยอม ไม่พอยังพลิกตัวฉันลงไปนอนราบกับเตียงส่วนตัวเองก็ขึ้นมาค่อมเอาไว้
"ห้องใหม่เตียงใหม่เธอไม่อยากลองเหรอ"
คิวคนหื่น คนเดิมกลับมาแล้ว จะกินเช้ากลางวันเย็นเลยหรือไงไอ้พี่คิว
"เตยเพลีย"
"ฉันทำเองก็ได้แป๊บเดียวเอง เวลาเครียดๆฉันต้องระบายกับเธอ" ตรรกะอะไรของเขาเนี่ย ฉันก็โดนทั้งขึ้นทั้งล่องเลยไม่ใช่เหรอถ้าเขาให้เหตุผลแบบนี้
"รอบเดียวนะ" สุดท้ายก็ยอม
"ครับ"
ตอบรับจบเสร็จสรรพเขาก็เริ่มเดินเกมทันที เริ่มจากจูบแบบดูดดื่มเนิ่นนานเกือบห้านาที ตอนนี้เราดื่มมาทั้งคู่ ความกล้าของฉันมีมากกว่าทุกครั้งเพราะฉันเองก็เครียดต้องระบายเหมือนกัน
"เตย..."
"หืม" ฉันตอบรับในลำคอตอนที่เขาเงยหน้าจากหน้าอกคู่งามขึ้นมามองหน้า
"ฉันเสพติดเธอแล้ว" รอยยิ้มหลังจากที่เขาพูดจบมันทำให้ฉันสั่นสะทกสะท้านไปทั้งตัว พี่คิวส่งยิ้มพร้อมกับส่งสายตามาให้เหมือนจะสื่อว่าเขากำลังหลงไหลกับร่างกายของฉันอยู่จริงๆ ก่อนที่จะเริ่มจูบประโลมไปทั่วเรือนกายขาวเนียนของฉันที่ดูแลมาอย่างดีที่ตอนนี้มันเปลือยเปล่าต่อหน้าของเขา
และยังคงมีรอยแดงเป็นจ้ำบางจุดที่เขาฝากเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งรอยเก่าและรอยใหม่
เขาเองก็ไม่อะไรปิดบังร่างกายกำยำที่มีมัดกล้ามบ่งบอกถึงความเป็นคนชอบออกกำลังกายอย่างพอดี ฉันมองทุกส่วนของเขาได้ไม่เต็มที่เพราะถ้าทำแบบนั้นเขาต้องรู้แน่ๆว่าฉันเองก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากเขาเลย
"ติดแค่ร่างกาย" ฉันแกล้งพูดแซะแล้วขย้ำฝ่ามือลงบนผ้าปูที่นอนเมื่อเขาเลื่อนต่ำลงไปเบื้องล่าง ดันเรียวขาฉันขึ้นข้างหนึ่ง
"ทุกอย่างเลยที่เป็นเธอ"
"งั้นเตยเป็นอะไรกับพี่คิวตอนนี้" ใช้โอกาสที่เขากำลัวมัวเมาอยู่นี่แหละเพื่อเอาคำตอบ
"เธอเป็นของฉันไง ฉันก็เป็นของเธอด้วย" เกลียดคนพูดอ้อมค้อมบอกเขาที่สุดเลย
"ก็ไม่ใช่แฟนหรือเปล่า ยังไม่เคยขอเตยเป็นแฟนเลย" ฉันขยับตัวลุกขึ้นแล้วถอยตัวไปนั่งพิงกับเตียง เขายิ้มแล้วคลานตามมาสายตาราวกับเสือที่กำลังจะตะครุบเหยื่ออย่างใจเย็น
"ข้ามขั้นนั้นมาแล้วต้องพูดอีกเหรอ"
"เตยเป็นผู้หญิงก็ต้องอยากได้ยิน เพื่อความมั่นใจ" ใช่แล้วเหตุผลที่ฉันยังลังเลเรื่องของคะนิ้งคงเป็นเรื่องนี้ ฉันไม่กล้าสู้เพราะไม่มั่นใจกับสถานะของตัวเอง
แต่เขาเป็นพวกที่ไม่ยอมพูดตรงๆทั้งที่เป็นคนที่เปิดเผยแต่กับแค่ขอเป็นแฟนทำเป็นมีท่าทีลีลาอยู่ได้
"..." พี่คิวยิ้มมุมปากก่อนจะขยับตัวเข้าหาเกี่ยวขาของฉันขึ้นไว้พาดกับขาของเขาที่นั่งมองฉันตาไม่กระพริบ "ฟังดีๆนะเตยหอม"
"รอฟังอยู่" ฉันตอบเสียงเรียบแต่ก็อดยิ้มไม่ได้ หัวใจเต้นแรงรอไว้แล้ว
"เธอเป็นแฟนฉันนะ แล้วก็เป็นเมียฉันด้วย" จบประโยคนั้นเขาก็กดแก่นกายแข็งแรงเข้ามาในช่องทางรักที่มีน้ำหล่อลื่นเบิกทาง เหมือนต้องการตอกย้ำคำพูดของเขาที่ว่าฉันเป็นเมียเขาอยู่
"อื้อ..." ฉันไม่ตอบเพราะกำลังใจเต้นแรงไม่หยุดและเสียววาบตรงท้องน้อยจนรู้สึกจุกเมื่อเขากระแทกเอวสอบเข้ามาจนตัวตนใหญ่โตนั่นสอดลึดสุดทาง
"ฉันชอบเธอ ชอบร่างกาย นิสัย รอยยิ้มและชอบเสียงของเธอเวลาคุยกับฉัน" เขาไม่พูดเปล่ายังขยับตัวออกจนความแข็งที่ที่สอดแทรกอยู่ในร่างกายของฉันมันเกือบหลุดพ้นออกไปแต่เขาก็อัดกระแทกมันเข้ามาอีกครั้งจนฉันร้องครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน เขาทำแบบนี้หลายครั้งตอนที่เว้นช่องว่างของคำพูดตัวเอง "รวมถึงเสียงเวลาเธอครางด้วย"
"อื้อ...พะ...พี่คิว~"
"ตั้งแต่วันนั้นที่เราเจอกัน ฉันก็เอาแต่คิดวนเวียนอยู่ทุกคืน ว่าเราจะได้เจอกันอีกมั้ย"
"อ๊า...อย่าทำแบบนั้น" ฉันส่ายหน้าไปมาเมื่อพี่คิวเลื่อนปลายนิ้วลงไปยังจุดที่ประสานกัน เข้าบดคลึงกลีบกุหลาบงามที่ตอนนี้มันกลายเป็นสีแดงระเรื่อแล้วยังขยับเอวสอบเข้าออกพร้อมกับปลายนิ้วที่กลั่นแกล้งฉันอยู่ "พะ...พี่คิวเตยเสียว ยะ...อย่าทำ"
"วันที่ฉันรู้ว่าเธอเป็นเพื่อนกับยัยนั่น ฉันถึงไปตอบแชทที่เมินมาตั้งนาน เพราะจะสืบเรื่องเธอ"
"อื้อ จีบแบบคนอื่นเขาทำไม่เป็นหรือไง" ฉันต่อว่าเขาแล้วกัดปากด้านในของตัวเองเมื่อเขาเริ่มเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ จนต้องตวัดมือไปโอบรอบลำคอของเขาเอาไว้เพราะฉันกำลังอยู่ในท่านั่งกลัวจะล้มไปกระแทกหัวเตียง
"ใครก็คิดว่าฉันเจ้าชู้ โดยเฉพาะเธอ ทำแบบนั้นจะจีบติดเหรอ" พี่คิวอมยิ้มจับตัวฉันขึ้นตัวลงนอนกับเตียง
"ไม่แน่นอน เพราะเตยไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้"
"เห็นมั้ย" เขาโน้มตัวลงมาแล้วกดจมูกลงกับแก้มของฉัน "ฉันเลยต้องบุกถึงห้องทุกครั้งไง"
"แล้ววันนั้นพี่ไปกับใคร" ฉันหมายถึงที่เจอกันห้างสรรพสินค้าวันที่ฉันร้องไห้แล้วเจอเขาเดินผ่านกับผู้หญิงอีกคน
"ที่ห้าง? น้องสาวฉันวันหลังจะพาไปรู้จัก" เขารู้ด้วยว่าฉันหมายถึงตอนไหน
"..."
"ฉันไม่ได้เจ้าชู้ ถ้าฉันมีแฟน"
"ถ้าพี่คิวทำหัวแตกเย็บสิบเข็มแน่" ฉันถลึงตาใส่เขาพร้อมกับจิ้มนิ้มลงบนแก้มสากเบาๆ
เขายิ้มตอบแล้วเริ่มขยับเอวสอบถาโถมเข้าใส่ฉันทันที ฉันเปร่งเสียงครางไม่เป็นคำออกมาเป็นระยะตามแรงกระแทกกระทั้นนั้น ร่างกายโยกคลอนไปตามจังหวะรักที่เขามอบให้
"ก่อนจะหัวแตกขอน้ำแตกก่อนนะน้องเตย"