“เหตุผลอะไรที่เธอต้องกลับไปหาพวกมัน”
“ผมไม่แน่ใจ...เชื่่อเถอะ! ถ้ามันไม่สำคัญ นายคิดว่าเธออยากกลับไปคลุกคลีกับพวกที่จิตใจเป็นสัตว์เดรัจฉานแบบนั้นเหรอ”
“ทำไม!! ถึงไม่ห้ามเธอ”
“…ไม่ใช่ว่าไม่อยากห้าม แต่มันห้ามไม่ได้ ถ้าอยากให้เธอหยุด นายต้องล่ามโซ่เธอและขังเธอไว้ตราบนานเท่านาน...แล้วนายคิดว่านายจะทำกับเธอแบบนั้นได้มั้ย!” กรามแกร่งขบกัดแน่น เอ็ดเวิร์ดเขาเคยคิดว่าเขาคือคนสำคัญที่สุดของน้ำใส ใกล้ชิดเธอมากกว่าใครไปแล้วในปัจจุบันนี้ และเป็นคนที่รักเธอมากกว่าใคร แต่เขาต้องยอมรับความจริงว่าเขาไม่ใช่คนคนนั้นของเธอ ลูสเขาคนนี้ต่างหากที่ยังคงเป็นคนที่เข้าใจเธอดีกว่าเขา รู้จักเธอจริงๆกว่าเขา
เฮ้ยยย!!! ลูสถอนหายใจ ผู้ชายด้วยกันมองแว็บเดียวเขาก็มองออกว่าตัวเองล้ำเส้นมากไปแล้ว “เอ็ดเวิร์ด...นั่นเป็นน้ำใสในอดีต นาย...”
พรึ่บ! แต่เอ็ดเวิร์ดก็เดินจากไปเสียแล้ว ลูสได้แต่ถอนหายใจอีกครั้ง เขาก็ได้แต่หวังว่าเอ็ดเวิร์ดจะไม่ดึงตัวตนในอดีตของน้ำใสกลับมา ตัวตนที่เจ้าตัวไม่อยากจำ ไม่อยากได้มันอีกแล้ว “เอ็ดเวิร์ด...”
กริ้งงงง เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเอ็ดเวิร์ด “เจ้านายครับ! คุณน้ำใสกำลังเดินทางไปมอสโคว์”
“นายหาตั๋วทันเที่ยวบินเดียวกับเธอมั้ย”
“พวกเราสองคนได้ตั๋วเดินทางพร้อมกับเธอครับ”
“ดีมาก และฉันจะรีบตามไปทันที” เอี๊ยดดดด เสียงยางรถบดถนนออกไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่ลังเลที่หมายที่จะไป
เอ็ดเวิร์ดแหงนมองเครื่องบินพาณิชย์ที่ทะยานเหินขึ้นสู่ฟากฟ้าที่ค่อยๆห่างสายตาเขาไปเรื่อยๆ เธอไปแล้ว มอสโคว์อย่างงั้นเหรอ เขาไม่อยากกลับไปที่นั่นอีกเลยการเดินทางไปที่นั่นครั้งล่าสุดมันเลวร้ายมากตอนที่เขาเดินทางกลับมา เขาไม่เคยลืมผู้หญิงอีกคน ‘ปลาดาว’
“คุณเอ็ดเวิร์ดใช่มั้ยคะ” เอ็ดเวิร์ดหันกลับเพื่อมองเจ้าของเสียงหวาน และเขาทำเพียงพยักหน้าเมื่อเห็นยูนิฟอร์มของเธอ “เจ้านายของดิฉันทราบว่าคุณต้องการเดินทางไปมอสโคว์ ถ้าคุณไม่รังเกียจเจ้านายของดิฉัน ท่านยินดีให้คุณร่วมเดินทางไปด้วยกันกับเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวค่ะ”
“เจ้านายคุณเป็นใคร” เธอคนนั้นแค่ยิ้มและผายมือให้เขาเดินตามเธอมาเพื่อมาพบเจ้านายของเธอ
เอ็ดเวิร์ดมองบนทันทีเมื่อเห็นเจ้านายของแอร์โฮตเตส “ทำไมถึงมองลุงแบบนั้นเล่าเจ้าหลานชาย”
“พ่อผมไม่เคยมีพี่ชายนะครับเท่าที่ผมทราบ มิตเตอร์อเล็กส์”
“แล้วอยากจะไปด้วยกันมั้ย วันนี้ไม่มีเที่ยวบินไปมอสโคว์อีกแล้วนะ ไม่กลัวแม่สาวไทยคนนั้นจะหายวับไปอย่างงั้นเหรอ ลูกน้องสองคนนั้นหลานแน่ใจหรือว่าจะเอาเธออยู่ ว่าที่หลานสะใภ้ของฉันคนนี้ไม่ธรรมดาเลยว่ามั้ย” เอ็ดเวิร์ดเอือมระอากับหนุ่มใหญ่ที่อยากจะเกี่ยวพันเป็นเครือญาติกับเขาคนนี้เสียเหลือเกิน อเล็กส์ เครวอส พ่อแท้ๆของเขาไม่อยากให้เขากลับมาใช้ชีวิตที่มอสโคว์หรือเกี่ยวพันกับคนคนนี้ คนที่อยากได้เขาไปเป็นทายาทมาเฟีย พ่ออยากให้เขาเป็นลูกชายของอดัม เบนเนต ซึ่งเขาก็อดยอมรับไม่ได้ว่าเรื่องนี้พ่อคิดถูก เขาอยากอยู่กับแม่น้ำฟ้าและ ท่านอดัมจริงๆ ครอบครัวนี้อบอุ่นยิ่งนักจนเขาอยากเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ตลอดไป
“ทำไมถึงอยากยุ่งเรื่องของผมนัก”
“เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกันไงละ...เอาน่า! ไปด้วยกันเถอะ ฉันชอบสาวไทยคนนั้นนะ เธอเด็ดเดี่ยวเอาเรื่องเลยละ เหมาะกับหลานดีนะ” เอ็ดเวิร์ดไม่เอ่ยอะไรอีกเลย เพราะดูแล้วเรื่องราวระหว่างเขากับน้ำใส อเล็กส์คงรู้หมดแล้ว ไม่ละ! พูดให้ถูกรู้มาโดยตลอดมากกว่าจากสายตาที่เขาฉายบอกมาเป็นนัยๆ
“สักวันผมจะบอกท่านอดัมว่าคุณเข้ามาวุ่นวายกับผม” อเล็กส์ยิ้มออกมาในทันที
“ถ้าหลานอยากบอก คงบอกไปนานแล้ว คงไม่รอมาถึงตอนนี้หรอก เกือบปีแล้วนะที่ลุงเฝ้าติดตามหลาน...บางทีลุงก็รู้สึกอิจฉาที่อดัมได้ความรักจากหลานมากกว่าลุงที่เป็นลุงแท้ๆ” เอ็ดเวิร์ดไม่เคยรู้มาก่อนว่าพ่ออังเดรเขามีพี่ชาย พึ่งมารู้เมื่อไม่นานมานี้ แม้ตอนนี้พ่อจะปลอดภัยดีแต่ผลพวงจากอาการบาดเจ็บเมื่อครั้งที่ถูกลอบฆ่าทำให้ร่างกายของพ่อไม่สู้ดีนัก อเล็กส์ เครวอส ซึ่งจริงๆแล้วเขาก็คือพี่ชายแท้ๆของพ่อจริงๆ แต่เด็กที่ถูกรับเลี้ยงด้วยครอบครัวอุปถัมภ์ก็จะต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของพ่อแม่อุปถัมภ์ ความลับที่เอ็ดเวิร์ดไม่เคยรู้ว่าปู่แท้ๆของตัวเองที่ตอนนั้นถูกคุณปู่พีทสั่งเก็บแท้จริงแล้วมีลูกชายอีกหนึ่งคนที่ถูกย่าที่เขาไม่เคยมีโอกาสรู้เรื่องของเธอมาก่อนพาหนีไป แต่ย่าก็ไม่อาจเลี้ยงดูพี่ชายคนนี้ของพ่อได้ อเล็กส์จึงถูกส่งไปไว้ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อย่าของเขาถูกจับเพราะเสพย์ยาและเสียชีวิตในเวลาต่อมาไม่นานเพราะเสพย์ยาเกินขนาด...ความตายยอดฮิตในผู้หญิงสังคมตะวันตก
เอ็ดเวิร์ดทอดสายตามองกลุ่มเมฆยามที่เครื่องบินเจ็ททะยานขึ้นสู่เวหาจุดหมายปลายทางเดียวกับเครื่องบินพาณิชย์ลำที่เขาแหงนมองเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา การเดินทางห่างกันเพียงหนึ่งชั่วโมงแต่เครื่องบินขนาดเล็กจะใช้เวลานานกว่า น้ำใสจะถึงมอสโคว์ก่อนเขาสามชั่วโมง ไม่รู้สินะ! เขาไม่ได้กังวลมากนักว่าเธอจะหลุดพ้นสายตาคนของเขาไปได้ง่ายๆ เวลาสามชั่วโมงน่าจะถ่วงเวลาให้เขามากพอ
“รับเครื่องดื่มอะไรดีค่ะ” แอร์โฮตเตสคนเดิมถามเขาอย่างมีมารยาทและความตั้งใจในหน้าที่ เอ็ดเวิร์ดทอดมองเธออีกครั้ง ครั้งนี้เขาพิจารณามากขึ้น แววตาเธอแน่วแน่มุ่งมั่นเกินกว่าจะเป็นแค่แอร์โฮตเตสประจำเครื่องบินส่วนตัว เขาจึงบอกให้เธอเอาอะไรมาก็ได้ เพราะตอนนี้เขาใคร่สนใจเรื่องอื่นของเธอมากกว่า
“ทำงานกับอเล็กส์ เครวอส มานานเท่าไหร่แล้ว”
“สามปีค่ะ” เธอตอบคำถามราบเรียบพร้อมกับชงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์เล็กน้อยให้กับเอ็ดเวิร์ดไปเรื่อยๆ ปกติเอ็ดเวิร์ดไม่ใช่คนที่จะเอ่ยพูดคุยกับใครก่อนง่ายๆ แต่กลับเธอคนนี้เขากลับพูดคุยถามบ้างตอบบ้างกับเธอได้เรื่อยๆ ทำให้อเล็กส์แอบลอบยิ้มยามเมื่อเห็นดังนั้น
น้ำใสมองความเวิ้งว้างว่างเปล่าของท้องฟ้า คิ้วเรียวยาวที่เคยเหยียดตรงได้รูปอย่างงดงามขณะนี้มันมุ่นขมวดเข้าหากันอย่างเคร่งเครียด
“เฮ้!! ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย โรสเธอเป็นมือหนึ่งและจะเป็นเสมอ” ฮานน่าให้กำลังใจ
“ขอบใจมากนะ แต่บอกตรงๆเลยว่าตอนนี้ฉันทั้งกังวลและกลัวมากๆ ฉันไม่อยากพลาด...ไม่สิ! ฉันพลาดไม่ได้ต่างหาก” ฮานน่ายิ้มให้กำลังใจอีกครั้ง เธอเข้าใจดีเพราะครั้งนี้มันไม่ใช่ภารกิจแต่มันคือการช่วยชีวิตสิ่งเดิมพันของมันคือญาติตามสายเลือดของน้ำใส
“ฉันจะไม่ทิ้งเธอแน่นอน” น้ำใสส่ายหน้าไปมา
“ไม่ได้ฮานน่า เธอทำเท่าที่ฉันให้ทำแค่นั้นพอแล้ว อย่าเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าวันใดที่พวกมันรู้ว่าเธอเข้ามาช่วยเหลือฉันเธอจะเดือดร้อน อย่าลืมสิ! ว่าเธอเป็นอะไร” ฮานน่าเป็นสายลับ ‘เคจีบี’ ที่อยู่ในช่วงพักจากภารกิจแฝงตัว ทันทีที่ฮานน่าได้รับการติดต่อจากน้ำใส เธอไม่ ปฎิเสธที่จะเข้ามาช่วยเหลือเพื่อนสาวคนนี้ พวกเธอเจอกันในภารกิจของลูสเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นฮานน่าเสียท่าเกือบต้องเอาชีวิตไปทิ้งที่เวียดนาม เธอถูกยิงตกธารน้ำที่มีน้ำป่าไหลเชี่ยวกราด ใครจะเชื่อว่าผู้หญิงที่ตัวเล็กนิดเดียวอย่างน้ำใสจะกระโดดลงตามเธอไปในทันทีอย่างไม่ลังเลโดยไม่รู้ว่าเธอตายไปเหรอยัง ผู้หญิงที่กล้าบ้าบิ่นเสียสละขนาดนี้ใครเล่าจะไม่อยากได้มาเป็นเพื่อนที่
เป็นได้ทั้งเพื่อนรักเพื่อนตาย
ตอนที่เธอได้รับการติดต่อจากเพื่อนว่า เพื่อนรักกำลังจะแต่งงานมีครอบครัว ตอนนั้นเธอยินดีและดีใจมาก แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอกลับมาเจอเพื่อนอีกครั้งที่หน้าประตูห้องพักด้วยสีหน้าและแววตาสิ้นหวังอย่างกับคนอยากตาย ให้ตายเถอะ! ทำไมนะ! เธอคนนี้ถึงไม่มีสิทธิ์จะมีความสุขกับเขาเสียที