“หวังว่าคงไม่ไปเจอคนของแกแต่งชุดไทยเดินป้วนเปี้ยนอยู่ในงานนะ” กรวิชญ์บอกเสียงกลั้วหัวเราะ
“พูดมากน่า เข้าไปข้างในกันเถอะ”
ทว่ายังไม่ทันจะขยับเท้าก้าว พนักงานต้อนรับสาวสวยในชุดไทยงดงามก็ปราดเข้ามาค้อมกายถามพร้อมรอยยิ้มหวานหยด
“มางานแต่งงานที่ห้องเลิศวนาลัยหรือเปล่าคะ”
ผู้ที่ตอบคำก็ไม่พ้นเป็นกรวิชญ์ที่ถามออกไปตามมารยาททั้งที่รู้ที่หมายดีอยู่แล้ว
“ห้องจัดเลี้ยงไปทางไหนหรือครับ”
“เดินตรงไปแล้วเลี้ยวขวา ลงบันไดก็จะเจอห้องจัดเลี้ยงนะคะ” พนักงานสาวบอกน้ำเสียงหวานไม่แพ้รอยยิ้ม และดูเหมือนจะมอบให้แก่ชายหนุ่มอีกคนเป็นพิเศษ
“ขอบคุณครับ” กรวิชญ์เอ่ยก่อนจะเดินไปตามทางที่บอก แต่ก็ต้องชะงักเท้าเมื่อได้ยินเสียงอ่อนหวานทักทายจากทางเบื้องหลัง
“คุณวิชญ์คะ”
เจ้าของชื่อหันกลับไปมองต้นเสียง ก็พบร่างค่อนข้างผอมของหญิงสาวผิวขาวหน้าตาสะสวยในชุดโจงกระเบนสีเขียวอมฟ้า เสื้อลูกไม้กรุยกรายสีขาวราวกับสาวชาววังยืนยิ้มหวานอยู่
“อ้าว...คุณลัลรินสวัสดีครับ”
กรวิชญ์ทักนางเอกชื่อดังแห่งยุคด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม หญิงสาวตรงหน้าอยู่ในชุดไทยแบบโบราณซึ่งเจ้าตัวแต่งได้น่ามองมากกว่าชุดในปัจจุบัน
“ตอนแรกน้ำผึ้งก็ไม่แน่ใจว่าใช่คุณวิชญ์หรือเปล่า แต่งชุดไทยแบบนี้แล้วจำแทบไม่ได้เลยค่ะ”
ลัลรินพูดพลางปรายตามองไปยังชายหนุ่มอีกคนที่ยืนนิ่งอยู่ราวกับเรียกร้องความสนใจ เจ้าของเอเจนซีชื่อดังมองสายตาดังกล่าวออก จึงกระตุกยิ้มออกมาอย่างขันๆ
“ผมเองก็ยังนึกว่าสาวชาววังที่ไหนมาเรียกเสียอีก แต่คุณลัลรินแต่งกายชุดไทยได้สวยนะครับ ว่าแต่ดาราดังอย่างคุณมาปรากฏตัวแบบนี้ไม่ถูกแฟนๆ รุมทึ้งแย่หรือครับ”
สีหน้าของคนถูกถามเกือบจะแสดงความเบื่อหน่ายออกมาแต่ก็เก็บไว้ได้ทัน
“ก็ต้องทำใจ น้ำผึ้งเป็นคนของประชาชนนี่คะ ถ้าไม่ได้แฟนๆ พวกนี้ช่วยสนับสนุน น้ำผึ้งก็คงไม่ได้เกิดหรอกค่ะ”
“ถ้าแฟนคลับคุณลัลรินมาได้ยินแบบนี้ก็ปลื้มแย่สิครับ สมกับเป็นนางเอกขวัญใจมหาชนจริงๆ”
“ขอบคุณค่ะคุณวิชญ์ แต่เรียกน้ำผึ้งดีกว่านะคะเรียกลัลรินแล้วฟังดูห่างเหิน” นางเอกสาวคลี่ยิ้มรับคำชมก่อนจะข่มกลั้นความอายเอ่ยถามออกไป “เอ่อ...แล้วคนข้างๆ คุณวิชญ์ใช่คุณภีมวัจน์หรือเปล่าคะ”
“อ๋อ...ใช่ครับ ผมก็ลืมแนะนำ”
กรวิชญ์พูดยิ้มๆ แล้วจึงหันไปหาเพื่อนสนิทที่ยืนเก๊กหล่ออยู่เพื่อแนะนำให้รู้จักกับดาราสาว ที่เขามั่นใจว่าคงอยากจะรู้จักเพื่อนของเขาเต็มแก่แล้ว
“ภาม คุณลัลรินหรือคุณน้ำผึ้งเป็นนางเอกเจ้าบทบาทที่ใครๆ ก็รู้จัก”
“สวัสดีครับคุณลัลริน”
ภีมวัจน์ค้อมศีรษะทักทายพร้อมกับมองสาวร่างบางตรงหน้า คำพูดของเพื่อนที่ว่าใครๆ ก็รู้จักคงต้องยกเว้นเขาสักคน วูบหนึ่งชายหนุ่มคลับคล้ายเห็นร่างของใครบางคนซ้อนทับขึ้นมาจนต้องกะพริบตาไล่ภาพดังกล่าวออกไป หงุดหงิดกับสายตาของตัวเองไม่น้อย ที่คอยแต่จะเห็นภาพของผู้หญิงคนนั้นตามมาหลอกหลอนอยู่ร่ำไป
“สวัสดีค่ะคุณภาม เอ่อ คุณภีมวัจน์”
ลัลรินคลี่ยิ้มที่คิดว่าสวยที่สุดออกไป แม้อยากจะทำตัวสนิทสนมด้วยการเรียกชื่อเล่นของชายหนุ่มตรงหน้า ทว่าดาราสาวก็ยังไม่ค่อยกล้านักก่อนจะปลอบใจตัวเองให้ใจเย็นเข้าไว้ ค่อยๆ คืบคลานเข้าหาน่าจะดีกว่า เพราะตามที่รู้มาชายหนุ่มผู้นี้ค่อนข้างถือตัวกับเพศตรงข้าม และที่สำคัญผู้ชายอย่างภีมวัจน์ไม่ได้หาได้ดาษดื่นตามท้องตลาด
“ผมรู้มาว่าคุณน้ำผึ้งเป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วยไม่ใช่หรือครับ” กรวิชญ์ชวนหญิงสาวคุยเพราะถ้าขืนรอให้เพื่อนสนิทผู้ปากหนักของเขาพูดคงต้องรอง้างกันอีกนานเป็นแน่
“ค่ะ พี่เมย์ขอให้น้ำผึ้งมาช่วยเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้น่ะค่ะคุณวิชญ์”
นางเอกคนสวยบอกเสียงอ่อนหวานทั้งที่ความเป็นจริงเธอเป็นคนอาสาเองต่างหาก ทั้งนี้ถ้าไม่เป็นเพราะมีจุดมุ่งหมายสำคัญบางอย่าง มีหรือคนอย่างเธอจะเสนอตัว เพราะใจยังนึกขุ่นเคืองเจ้าบ่าวในวันนี้ไม่หาย เพราะตอนแรกก็ทำท่าจะมาติดพันเธออยู่พักหนึ่ง แต่จู่ๆ ดันตาต่ำไปคว้านางร้ายอย่างเมธาวี แทนที่จะเป็นนางเอกอย่างเธอเสียนี่
เมื่อคิดเรื่องนี้ขึ้นมาลัลรินก็ยังรู้สึกเสียหน้าไม่หาย ดีที่เรื่องนี้ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องมากนัก และเธอก็เชื่อว่าคนอย่างกันตภพเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่เอาไปพูดให้เธอเสียหาย
“แล้วคุณวิชญ์กับคุณภีมวัจน์ล่ะคะทำไมถึงมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวได้” ลัลรินถามเพราะความไม่รู้จริงๆ
“อ๋อ ไอ้กันต์เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับผมสองคนมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้วครับ เพื่อนแต่งงานทั้งทีผมสองคนก็ต้องมารับหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวสิครับ”
กรวิชญ์บอกยิ้มๆ แต่ทำเอาคนฟังแทบยิ้มไม่ออก นางเอกสาวไม่เคยคิดมาก่อนว่าชายหนุ่มทั้งคู่จะเป็นเพื่อนสนิทของกันตภพ หวังว่าเขาคงไม่เอาไปพูดอย่างที่เธอกลัวหรอกนะ แต่จะว่าไปแล้วถึงจะเอาไปพูดเธอก็ไม่จำเป็นต้องแคร์ และเป็นการดีเสียอีกที่อีกฝ่ายไปคว้าเอานางร้ายอย่างเมธาวีมาแต่งงานด้วย เพราะถ้าให้เลือกระหว่างกันตภพกับภีมวัจน์เธอคิดว่าฝ่ายหลังมีภาษีดีกว่าอยู่แล้ว ลัลรินคิดเองเออเองเสร็จสรรพในใจ
“ฉันว่าเราเข้าไปที่ห้องจัดเลี้ยงดีกว่า” ภีมวัจน์ตัดบท
“อืม ฉันก็กำลังจะบอกอยู่พอดี ป่านนี้ไอ้กันต์มันคงมองหาเราแล้ว” กรวิชญ์พูดยิ้มๆ ก่อนจะหันไปทางนางเอกสาว “คุณน้ำผึ้งจะเข้าไปพร้อมกับผมสองคนเลยไหมครับ”
คนถูกถามส่ายหน้า “เดี๋ยวน้ำผึ้งขอเข้าไปดูความเรียบร้อยในห้องน้ำก่อนค่ะ แต่งชุดไทยแบบนี้น้ำผึ้งก็ไม่ถนัดซะด้วยสิคะ”
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” กรวิชญ์พูดจบก็เดินตรงไปยังห้องจัดเลี้ยงพร้อมกับภีมวัจน์ โดยมีนัยน์ตาคู่สวยของลัลรินมองตามไปจนลับตา