“คุณหนูไปไหนมาค่ะ ป้าติดต่อไม่ได้ทั้งวันเลย”
พิมพาแม่บ้านวัยกลางคน รูปร่างผอมแห้ง ซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของคฤหาสน์หรูนี้ เอ่ยถามผู้เป็นนายสาวทันทีที่เธอพาร่างบางระหงเข้ามาถึงภายใน
“ไปทำธุระมาค่ะ ว่าแต่ป้าพิมมีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับจันทร์งั้นเหรอคะ”
จันทร์เจ้าบอกพร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเป็นปกติ ไม่แสดงท่าทางมีพิรุธให้ถูกจับได้ว่าเธอไปทำอะไรมา และเธอก็ทำมันได้สำเร็จ เพราะไม่มีสีหน้าหรือแววตาสงสัยจากอีกฝ่าย
“ก็คุณวศินนะสิคะ วันนี้มาอาละวาดถึงบ้านบอกถ้าคุณหนูไม่ยอมเซ็นมอบบ้านนี้ให้จะให้คนมาบุกทำร้าย”
วศินที่แม่บ้านเอ่ยถึงก็คืออาคนเล็กของตระกูล ซึ่งบิดาของเธอนั้นมีพี่น้องด้วยกันสามคน คนโตคือวานิสพ่อของเธอที่ได้เสียชีวิตไปเมื่อเดือนก่อน คนกลางเป็นอาผู้หญิงที่มีนามว่าวาสนา ซึ่งเป็นคนที่ฮุบบริษัทเครื่องสำอางแบรนด์ดังที่พ่อเธอก่อตั้งขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงไว้แต่เพียงผู้เดียว ส่วนอาคนเล็กก็คือวศิน ที่ตอนนี้ติดพนันออนไลน์อย่างหนักจนแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน
คุณอาทั้งสองชอบสร้างภาพออกสื่อว่าตระกูลใหญ่ของเธอนั้นรักใคร่กลมเกลียวกันเป็นอย่างดี ทั้งที่ความจริงแล้วตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ตลอดเวลาจันทร์เจ้าต้องเผชิญกับการชิงดีชิงเด่น และการช่วงชิงอำนาจ และทุกคนยิ่งหนักข้อในวันที่บิดาของเธอเสียไป
เพราะแบบนี้เธอจึงต้องลุกขึ้นมาเข้มแข็งและช่วงชิงทุกอย่างที่เป็นของบิดาคืนมา เพื่อเป็นการประกาศว่าเธอเองก็ไม่ได้เป็นคุณหนูอ่อนแอที่พอไม่มีพ่อแล้วก็ทำอะไรไม่เป็น เธอสาบานกับตัวเองแล้วว่าจะทวงทุกอย่างที่ควรจะเป็นของเธอคืน และจะรักษาสมบัติทุกชิ้นที่ที่บิดาได้สร้างไว้ให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน
แต่ก็แน่นอนว่าการสู้รบปรบมือกับบรรดาญาติๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เธอจำเป็นต้องหาคนที่สามารถปกป้องเธอได้ และที่สำคัญเขาคนนั้นจะต้องให้ในสิ่งที่เธอต้องการได้ทุกอย่าง เพราะแบบนี้เธอจึงต้องเดินเข้ากองไฟ ทั้งที่รู้ว่ามันร้อนและอาจจะทำให้เธอมอดไหม้กลายเป็นจูณในพริบตา เพื่อแลกกับการที่ต้องเชิดหน้าขึ้นมาเป็นหงส์อีกครั้งนั่นเอง
“จันทร์ไม่กลัวหรอกค่ะ ยังไงจันทร์ก็ยืนยันคำเดิมว่าจะไม่โอนบ้านนี้ให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น ถ้าอาวศินกล้ามาก็เชิญเลย”
“แต่ตอนนี้คุณหนูเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ป้าเป็นห่วงคุณหนูมากนะคะ”
“ขอบคุณป้ามากนะคะที่เป็นห่วง แต่ตอนนี้จันทร์มีที่พึ่งแล้วไม่มีใครทำอะไรจันทร์ได้เหรอค่ะป้า”
จันทร์เจ้าบอกกับแม่บ้านซึ่งผู้หลักผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เธอนับถือเป็นญาติด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เพื่อให้อีกฝ่ายคลายกังวล แต่กระนั้นก็สร้างความแปลกใจให้กับแม่บ้านอยู่ไม่น้อย
“ใครเหรอคะคุณหนู ที่บอกว่าเป็นที่พึ่ง”
“เขาเป็นคนที่อาวศินไม่กล้าลองดีด้วยค่ะ หนูบอกได้แค่นี้จริงๆ ค่ะป้าพิม”
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังไม่พร้อมจะเล่าอะไรมากตอนนี้ พิมพาก็ไม่คิดจะเซ้าซี้อะไร หากแต่กลับดึงมือเล็กขาวนุ่มของเธอมากุมไว้แล้วเอ่ยบอกกับเธอด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง
“คุณหนูจะทำอะไรก็ระวังตัวนะคะ”
“ค่ะป้า”
…………………………………….
“คุณจันทร์เจ้า ธนาวัตน์ เป็นลูกสาวของคุณวานิส ธนาวัตน์ที่เพิ่งเสียไปเมื่อเดือนก่อนจากอุบัติเหตุรถยนต์ เธอเรียนจบปริญญาตรีสาขาบริหาร เพิ่งจะเรียนจบได้สองสัปดาห์ ปัจจุบันเธออายุยี่สิบสองปี หลังจากที่พ่อของเธอเสีย บริษัทก็ถูกผู้เป็นอาสาวที่มีนามว่าวาสนาฮุบไป ส่วนอาคนเล็กที่มีนามว่าวศินตอนนี้กำลังติดพนันออนไลน์อย่างหนัก มีหลายครั้งที่เข้าไปข่มขู่คุณคุณจันทร์เจ้าให้ยอมยกบ้านให้ แต่เธอก็ไม่ยอมเซ็นจนเกิดปากเสียงกันบ่อยๆ”
เจมส์ผู้เป็นทั้งเลขาคนสนิทและการ์ดฝีมือดีของมาเฟียหนุ่มกล่าวรายงานผู้เป็นนาย หลังจากที่ได้รับคำสั่งให้ไปสืบประวัติผู้หญิงคนที่เขาเพิ่งส่งตัวกลับไปเมื่อหัวค่ำที่ผ่านมา
‘เพราะแบบนี้สินะ เธอถึงยอมมาเป็นของเล่นของฉันเพื่อปกป้องตัวเองจากครอบครัว’
ไรอันเอนหลังกับผนังโซฟาในท่าสบายๆ ขณะที่ในมือถือแก้วไวน์กวาดไปมาราวกับกำลังใช้ความคิด ดูเหมือนว่าหญิงสาวกำลังพยายามสร้างเกาะป้องกันตัวเองอยู่โดยใช้เขาเป็นโล่กำลังที่ปลอดภัยให้กับเธอ ชายหนุ่มเพิ่งตระหนักรู้ถึงความจำเป็นของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่เขาเพิ่งเสนอให้มาเป็นผู้หญิงของเขาก็ตอนนี้เอง
เขายอมรับว่ารู้สึกอึ้งและทึ่งอยู่ไม่น้อยกับความคิดของผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ดูภายนอกเหมือนเธอจะไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่ทว่าลึกๆ แล้วเธอกลับซ่อนแผนการอันแยบยลมาตั้งแต่ต้น และดูเหมือนว่าเขาก็จะติดกับเธอเสียด้วยสิ ‘ร้ายไม่เบา’
“ยังมีอะไรอีกที่ฉันไม่รู้เกี่ยวกับเธอนะ จันทร์เจ้า”
ไรอันพึมพำถามตัวเองเบาๆ ชักอยากจะค้นหาตัวตนของเจ้าของชื่อแสนน่าฟังคนนี้เสียแล้วสิ เธอมีหลายมุมที่เขาคาดไม่ถึง มีหลายมุมที่ทำให้แปลกใจ โดยเฉพาะเป้าหมายที่เธอเข้ามาหาเขา
มาเฟียหนุ่มคิดมาตลอดว่าผู้หญิงทุกคนอยากได้เงินทอง ข้าวของที่มีราคาสูง ที่ผ่านมาเขาจ่ายพวกเธอไปด้วยสิ่งของและเงินทองหลังจากที่ต่างแยกย้ายกันไป แต่กับเธอคนนี้ดูเหมือเขาจะต้องรับผิดชอบทั้งชีวิตของเธอ ซึ่งตราบใดที่เธอยังเป็นผู้หญิงของเขา และไม่สร้างปัญหาให้วุ่นวายน่ารำคาญใจ เขาก็จะทำตามที่เธอต้องการ
“แล้วถ้าฉันต้องการบริษัทที่อาของเธอฮุบไปคืนให้กับเธอ นายสามารถจัดการให้ได้ภายในสองวันหรือเปล่า เจมส์”
“ไม่มีปัญหาครับท่าน เรื่องนี้เดียวผมจัดการเอง”
“ฉันทำงานกับนายมานาน บางทีก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามีเรื่องอะไรที่ฉันสั่งแล้วนายทำไม่ได้บ้าง”
“….”
เจมส์เงียบเสียงเพราะถือว่านั่นเป็นคำชมจากผู้เป็นนาย ก็เพราะถูกฝึกมาอย่างหนัก ทั้งวิชาการต่อสู้และวิชาการที่เป็นเลิศ บวกกับความสามารถเฉพาะตัวเลยได้ขยับมาเป็นทั้งเลขาและการ์ดคนสนิทของมาเฟียหนุ่มภายในระยะเวลาอันสั้น อีกอย่างหนึ่งที่เจมส์ไม่อาจปฏิเสธได้คือที่ทำงานราบรื่นได้อย่างทุกวันนี้ก็เพราะอำนาจเงินทองและอิทธิพลของผู้เป็นนายนั่นเอง
“เอาล่ะ อีกสองวันส่งคนของเราไปขนข้าวของที่บ้านคุณจันทร์เจ้ามาไว้ที่นี่ เธอจะมาอยู่กับเรานี่นี่สักเดือนหรืออาจจะมากกว่านั้น”
“ให้คุณจันทร์เจ้ามาอยู่กับท่านที่นี่เหรอครับ”
“อืม…ใช่! แล้วนายมีปัญหาอะไร” ไรอันยืนยันเสียงหนัก พร้อมกับเงยหน้าถามคนที่ดูเหมือนว่าจะมีปัญหา
“เปล่าครับ แค่สงสัยว่าทำไมท่านถึงให้เธอมาอยู่ที่นี่ เพราะที่ผ่านมาท่านไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนเข้าถึงที่ส่วนตัวได้มากขนาดนี้”
อย่าว่าแต่เข้าถึงที่ส่วนตัวเลย นอกจากอดีตคนรักแล้วแม้แต่ใช้บริการผู้หญิงซ้ำเป็นครั้งที่สองท่านก็ไม่เคย แต่ที่เจมส์ไม่พูดมันออกไปก็เพราะกลัวบาทาของผู้เป็นนายจะลอยมาประทับที่หน้าอกแข็งแกร่งของเขา เลยพูดออกไปแค่นั้น
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ยังหาคำตอบให้กับตัวเองอยู่”
ไรอันไม่ปฏิเสธว่าเธอกำลังทำให้พญาสิงห์ผู้เคยองอาจและมีหัวใจแกร่งดั่งภูผาอย่างเขาหวั่นไหว ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา สัดส่วนชวนหลงใหล และเรื่องราวทุกอย่างที่เป็นเธอกำลังทำให้เขารู้สึกไม่เป็นตัวเองตัวเอง
“สักวันหนึ่งฉันคงกลับมาเป็นไรอันคนเดิมได้”
ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองเบาๆ ราวกับจะเตือนสติที่ล่องลอยให้กลับมามั่นคงดั่งภูผาอีกครั้ง และเขาก็มั่นใจเสียเหลือเกินว่าเธอจะมีอิทธิพลเหนือเขาเพียงแค่ชั่วคราว พอเขาเบื่อก็จะเขี่ยเธอทิ้งเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านมา
…………………………………………..