ตอนที่ 8
เปลี่ยนแปลง
องค์กรนักฆ่าที่เรย์อยู่นับว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่ทุกฝ่ายต้องการตัวมากที่สุด นักฆ่ามากฝีมือรวมตัวกันอยู่ที่นั่น ยิ่งเป้าหมายสำคัญมากเท่าไหร่ราคาก็ยิ่งพุ่งสูง สาเหตุที่องค์กรนี้ยังไม่ถูกกำจัดเพราะเส้นสายกว้างขวาง ตำแหน่งฐานทัพที่ไม่แน่นอน แม้แต่เรย์เองเขายังไม่เคยเห็นหน้าจริง ๆ ของผู้นำ
องค์กรนี้แทบไม่มีบทบาทในนิยาย เรียกได้ว่าเรย์รู้เรื่ององค์กรมากกว่าเขาที่อ่านนิยายมาอีก เพราะแบบนี้ไงทุกอย่างมันถึงดูน่ากลัวไปหมด โดยปกติแล้วหลังจากได้รับสัญญาณยกเลิกภารกิจ นักฆ่ามีเวลา 7 วันในการดำเนินการ และนี่ก็ผ่านมา 5 วันแล้ว ถ้าอีก 2 วันเขายังไม่กลับไปรายงานตัวทางนั้นต้องรู้แน่ ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
ตกดึก ท่ามกลางความสะลึมสะลือร่างเพรียวขยับหนีอย่างรำคาญเมื่อสัมผัสถึงสิ่งรบกวน ความเสียววูบพร้อมกับสัมผัสเปียกแฉะที่ยอดอก คิ้วเรียวขมวดอย่างมึนงง ยังคงสับสนระหว่างความฝันกับความเป็นจริง แต่ดูเหมือนจะสับสนได้ไม่นานเมื่อแรงกระแทกมาพร้อมความเสียวซ่านจนครางเสียงกระเส่า
“อ๊าาา”
ดวงตาสวยปรือขึ้น เห็นร่างเปลือยเต็มไปด้วยมวลกล้ามเนื้อไล่ลงมาจนเห็นเอวสอบกำลังขะมักเขม้นพร้อมกับความจุกเสียดด้านล่าง
“คุณมาคัส อ๊ะ แอบลักหลับผมแบบนี้หื่นจังเลยนะครับ” เสียงหวานเอ่ยหยอกล้อ แต่เอวบางกลับขยับโยกรับแรงกระแทก ท่อนเอ็นใหญ่ถูไถกับช่องทางรักกระแทกเข้ากับจุดกระสันจนเรย์แทบสติหลุด
“อื้ม ฉันคิดถึงเธอมาก” ไม่พูดเปล่า แรงกระแทกเน้น ๆ ราวกับกำลังพิสูจน์คำพูด คนใต้ร่างเสียวจนอ้าปากค้าง
“อ๊ะ จริงเหรอครับ ผมก็คิดถึงคุณเหมือนกัน” ร่างเพรียวดันตัวขึ้นโอบคอหนาไว้ก่อนจะประกบปากจูบ มาคัสประครองเอวบางไว้ สองลิ้นเกี่ยวพันจนได้ยินเสียงจ๊วบจ๊าบฟังดูหยาบโลน
เรย์สบตากับมาคัสราวกับเขาถูกดูดเข้าไปในดวงตาสีลูกครึ่ง ขยับออกห่างเพียงชั่วครู่มาคัสก็ครอบครองริมฝีปากอีกครั้งและบดขยี้อย่างไม่ออมแรง กลิ่นเลือดภายในปากไม่ได้ทำให้ทั้งคู่หยุดโถมร่างเข้าหากัน
นอกจากปากแล้วส่วนล่างก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้กัน ท่อนเอ็นใหญ่มุดรูรักเปียกแฉะจนได้ยินเสียงแจ๊ะ ๆ เวลาเนื้อกระทบกัน กลิ่นเหงื่อและกลิ่นคาวประสมกันชวนให้ล่องลอยในห้วงราคะ
“อ๊า คุณมาคัส อ๊ะ ลึกเกินไปแล้ว” ร่างเพรียวขยับออกห่าง มือทั้งสองจับบ่าใหญ่ไว้เป็นที่มั่น ร่างขยับขย่มรับแรงเสยจากด้านล่าง
“แล้วไม่ชอบเหรอ แต่ดูตรงนี้เธอชอบนะ ถึงได้ทั้งตอดทั้งขมิบแบบนี้” แววตาหื่นกระหายสำรวจเรือนร่างขาวโพลนที่ตอนนี้มันมีรอยแดงเป็นดวง สายตาเลื่อนลงมองเอ็นขนาดพอดี มันขยับตามแรงเจ้าของจนตีหน้าท้องเขา
รูรักทั้งตอดรัดขมิบจนเขาแทบคลั่ง เสียงเนื้อกระทบกันดังตับ ๆ ระรัวขึ้นเรื่อย ๆ เสียงหวานครางดังไปทั่วห้องก่อนจะกระตุกเกร็งปลดปล่อยน้ำรักออกมา ร่างบางหอบหายใจซบไหล่มาคัสอย่างหมดแรง
ร่างเพรียวถูกจับให้นอนหงายขาทั้งสองถูกจับพาดที่บ่าใหญ่ มาคัสมองจุดเชื่อมด้วยแววตาราวกับสัตว์ร้าย ก่อนจะดึงร่างขาวบนเตียงมากระแทกกระทั้นอย่างไม่ปรานีปราศรัย เอวสอบกระแทกเน้น ๆ ก่อนจะเสร็จสมออกมา
มาคัสดันตัวขึ้น เสยผมที่เต็มไปด้วยเหงื่อมองร่างขาวหอบหายใจจนหน้าอกกระเพื่อม เรย์มองด้วยดวงตาหวานเยิ้ม กล้ามเนื้อเรียงสวยเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อมันดูดีจนลมหายใจสะดุด
“อ๊ะ”
ท่อนเอ็นใหญ่ถูกถอดถอนออก มือใหญ่ดึงถุงยางออกก่อนจะหยิบอันใหม่มาใส่อย่างรวดเร็ว
“อ๊าาา เดี๋ยวสิครับ อ๊ะ ไม่พักเลยเหรอ” เสียงหวานสั่นระริกเมื่อท่อนเอ็นใหญ่ก็สอดกระแทกเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ซี้ด ตอดแรง ๆ แบบนั้น” มาคัสไม่ได้ฟังคำพูดของเรย์ ตั้งหน้าตั้งตากระแทกราวกับอดอยากปากแห้งมานาน สำหรับมาคัสแล้ว หากเป็นปกติเขาไม่ได้ขาดแคลนคนระบายอารมณ์ เวลาไปต่างประเทศลูกน้องเขาสามารถหาสาวสวยหรือหนุ่มน้อยให้ได้ตลอด แต่ครั้งนี้แต่ต่างออกไป ทั้งที่มีร่างเปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้า แต่เขากลับไม่มีอารมณ์ สุดท้ายก็เก็บกดจนกลับจากต่างประเทศ น่าแปลกทั้งที่กับคนอื่นไม่รู้สึกตื่นเต้นแท้ ๆ แต่กับคนตรงหน้าแค่เห็นใบหน้าอารมณ์กลับพุ่งสูงโดยไม่ต้องพยายามอะไร
เรย์เข้าใจแล้วคำว่าฟ้าเหลืองคืออะไร กว่าเขาจะถูกปล่อยให้นอนฟ้าก็สว่างคาตาแล้ว เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเสร็จไปกี่น้ำ ตอนนี้แม้แต่แรงลุกไปอาบน้ำก็ไม่มี กว่าจะฟื้นก็เข้าสู่เที่ยงวันแล้ว
“โอ๊ย ปวดเอว” เรย์หน้ามุ่ยลูบเอวตัวเองพลางบ่นอุบ มองไปด้านข้างที่ตอนนี้มาคัสนอนหลับด้วยท่าทีมีความสุข บนเตียงว่าสงครามแล้วข้างเตียงต้องเรียกว่ามหาสงคราม ทั้งเสื้อผ้าทั้งเศษถุงยาง แม้ว่าเขาจะไม่ใช่พวกรักสะอาดจ๋า แต่เห็นแบบนี้ก็อดใจไม่ไหว สุดท้ายก็ลุกไปจัดการ
ร่างเพรียวเดินเข้าห้องน้ำ ใบหน้าระเรื่อขึ้นเมื่อเห็นสภาพร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยดูดรอยกัด เรย์รีบอาบน้ำจัดการตัวเองก่อนจะออกไปเก็บกวาดห้องนอน ใช้เวลาไม่นานก็กลับมาสะอาดเรียบร้อยเหมือนเดิม
ร่างเพรียวเดินเข้าไปเตรียมอาหารในห้องครัว แม้จะเมื่อยตัวและขี้เกียจขนาดไหน แต่ตอนนี้ท้องเขามันร้องหนักมาก แม้จะบอกว่าเตรียมอาหาร แต่ความจริงก็แค่เทอาหารใส่จาน เพราะเขาสั่งดิลิเวอรีมาแล้ว
หลังจากเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็ยกไปไว้ที่โต๊ะอาหาร เดินไปส่องมาคัสก็เห็นอีกคนนั่งอยู่บนเตียงด้วยท่าทีมึน ๆ เหมือนเพิ่งตื่น ใบหน้าหล่อดูอึน ๆ แถมผมก็ยุ่งเป็นรังนก ดูยังไงก็ไม่เหมือนพ่อตัวร้ายเลย
มาคัสเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากประตู ร่างสูงขยับลุกเดินเข้าหาร่างเล็กอย่างรวดเร็วจนเรย์สะดุ้ง
“หัวเราะอะไร”
“เปล่าครับ” เรย์ส่ายหน้ายิกก่อนจะทำเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง “ไปทานข้าวกันเถอะครับ” มาคัสเลิกคิ้ว แต่ก็ยอมเดินตามไปอย่างง่ายดาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังโอบเอวบางไว้อย่างหวงแหน
“หื้ม” มาคัสมองอาหารบนโต๊ะด้วยความแปลกใจ เพราะอาหารพวกนี้เป็นของชอบของเขาทั้งหมด เมื่อมองคนสั่งก็เห็นเพียงใบหน้าใสซื่อมองตาแป๋วเหมือนไม่รู้เรื่อง
“ทานเยอะ ๆ นะครับ” เรย์ทำหน้าที่ศรีภรรยา (ในมโน) ตักอาหารให้ ความจริงแล้วเรื่องอาหารที่มาคัสชอบเขารู้มาจากนิยาย มันไม่ได้อยู่ในเนื้อหานิยายหรอก แต่มันอยู่ในบทโรงละครของนักเขียน เป็นการสัมภาษณ์มาคัสสั้น ๆ มาคัสชอบอาหารรสจัดผิดกับคนยุโรปคนอื่น ๆ มาคัสเป็นลูกครึ่ง แต่ในนิยายไม่ได้บอกว่าลูกครึ่งอะไร ดวงตาสีฟ้าอ่อนกับผมสีเข้มแม้จะดูตัดกัน แต่กลับดูดีมาก
หล่อ หล่อเกินไปแล้ว!
“โอ๊ะ”
“เหม่ออะไร ทานข้าวได้แล้ว” เรย์หน้ามุ่ยเมื่อถูกดีดหน้าผาก คนรึอุตส่าห์ซื้ออาหารมาจีบ ปกติมันต้องพูดจาหวาน ๆ ไม่ใช่เหรอ
แต่ดูเหมือนเรย์จะลืมไปว่ามาคัสไม่ใช่ผู้ชายแบบนี้ มาคัสคือคนที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวร้ายของเรื่อง ขึ้นชื่อว่าเลวทรามไม่เลือกวิธีการ
หลังจากทานข้าวเสร็จมาคัสก็ยังปักหลักอยู่ที่นี่จนเรย์อดสงสัยไม่ได้ ปกติแล้วไม่ใช่ว่ามาคัสยุ่งอยู่ตลอดหรอกเหรอ
“คุณไม่ทำงานเหรอครับ” เรย์ถาม มาคัสนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟา หัวนอนอยู่บนตักของเขา
“ไม่ทำ” มาคัสตอบทั้งที่สายตากำลังมองโทรทัศน์ เมื่อเห็นท่าทีแบบนั้นเรย์ก็ไม่ได้สนใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นข่าวของว่านเป็นภาพสองภาพพร้อมแค็ปชันชวนสงสัย
[เอ๊ อะไรยังไง ดูเหมือนซุปตาร์มาแรงอย่างน้องว่านเสน่ห์แรงไม่เบา จะคุณมาคัสก็ดีหรือจะคุณเมธีก็ดี]
ภาพแรกเป็นรูปมาคัสกับว่านในร้านจิวเอลรี ส่วนอีกภาพเป็นว่านนั่งอยู่ในร้านอาหารกับเมธี เรย์เลื่อนอ่านคอมเมนต์ มีทั้งคอมเมนต์ด้านดีและด้านลบ เรย์เหลือบมองมาคัสแวบหนึ่งก่อนจะเลื่อนหนี เขาจำได้ว่าในนิยายก็มีฉากประมาณนี้ และมาคัสก็ไม่ชอบมาก ๆ มาคัสชอบเป็นที่หนึ่ง
แม้เรื่องธุรกิจมาคัสจะรอบคอบ แต่พอเป็นเรื่องความรักกลับใจร้อนเอาแต่ใจ เขาเชื่อว่าถ้ามาคัสเห็น โพสต์ต้องถูกลบเร็ว ๆ นี้แน่ ๆ
“ทำหน้าเครียด” เรย์ชะงัก เขาเพิ่งรู้ตัวว่ามาคัสกำลังมองอยู่ เผลอขยับโทรศัพท์หนีสร้างความแปลกใจให้กับมาคัส ร่างใหญ่ดันตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมแบมือด้วยสายตากดดัน
“มะ มีอะไรครับ”
“ส่งมา” เรย์ยึกยัก แต่เมื่อเห็นสายตาน่ากลัวของมาคัสสุดท้ายก็ยอมส่งให้แต่โดยดี
ฮือ สุดหล่อไม่อ่อนโยน!
ตอนแรกเรย์คิดว่าถ้ามาคัสอ่านโพสต์นั้นจะต้องโมโหโยนโทรศัพท์ทิ้งเหมือนในนิยายแน่ ๆ แต่กลับไม่ใช่แบบนั้น มาคัสยื่นโทรศัพท์คืนแถมยังนอนดูโทรทัศน์เหมือนเดิม
“คุณไม่โมโหเหรอครับ” เรย์หลุดถามสิ่งที่สงสัย มาคัสเหลือบตามองก่อนจะกลับไปมองโทรทัศน์เหมือนเดิมพลางพูดขึ้น
“เรื่องไร้สาระ”
เรย์ยังคงอึ้ง มีทั้งความตกใจ สงสัย และดีใจไปพร้อม ๆ กัน เขาอดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ บางทีมาคัสอาจจะไม่สนใจนายเอกแล้ว พอนึก ๆ ดูแม้ว่าก่อนหน้านี้มาคัสจะมีคู่นอนหลายคน แต่ก็ไม่มีคนไหนที่ใกล้ชิดเท่าเขามาก่อน แสดงว่าตอนนี้มาคัสสนใจเขาใช่ไหม
แม้จะยังไม่มั่นใจ แต่เรย์ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุข
ระหว่างที่กำลังดูหนังอยู่โทรศัพท์ของมาคัสก็สั่นขึ้นบ่งบอกว่ามีสายเรียกเข้า มาคัสขมวดคิ้ว แต่ก็กดรับ
“อืม”
ร่างเพรียวหลับตาพิงพนักโซฟา ความจริงเขาไม่ได้หลับ แค่พักสายตา เมื่อรู้ว่ามาคัสรับโทรศัพท์ก็เผลอเงี่ยหูฟัง
(เรื่องที่นายให้ไปสืบตอนนี้รู้แล้วนะครับ นายต้องการให้ผมส่งไปทางอีเมล หรือว่านายจะเข้ามาดูเองครับ)
เรื่องที่ให้สืบ? เรื่องอะไร หรือว่าจะเป็นเรื่องของเขา
แม้ภายในใจจะสับสน แต่เรย์ก็พยายามนอนให้นิ่งที่สุดเพื่อฟังต่อไป
“อื้ม ส่งมา”
หลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบได้ยินเพียงเสียงหนัง เรย์นอนคิดหลายอย่าง สิ่งที่เขาหวาดกลัวที่สุดคงไม่พ้นเรื่องตัวเองเป็นนักฆ่า ไม่นานนักเรย์ก็หลับไปจริง ๆ ท่ามกลางความวิตกกังวล
มาคัสขยับตัวลุกมองร่างบางนั่งหลับ ก่อนจะเลื่อนสายตาอ่านข้อความในอีเมล สายตาเย็นยะเยือกเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะหายไป มาคัสอุ้มร่างเพรียวไปนอนที่เตียง แววตาที่เคยมั่นคงเผยความสับสน ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไปโดยหลงเหลือไว้เพียงความเงียบ
###
น้องงง ความลับแตกหรือเปล่าน้าา