อัญมณีโล่งอกที่เลิกงานแล้วออกมาหน้าตึกไม่พบชลทิศที่บอกจะมารับ จะคิดว่าเขาไม่รู้เวลาเลิกงานของหล่อนก็ไม่ใช่ แต่คิดว่าเขาคงพูดยั่วสวิชกับหล่อนเล่นเท่านั้นเรื่องมารับ ซึ่งเป็นการดีและหล่อนพอใจมาก แต่ถึงเขาไม่มารับคนใจดีอย่างตั้มก็อาสาไปส่งถึงบ้าน แต่ไม่ดีตรงตั้มยังล้อเรื่องเมื่อเช้าด้วยการบอกลาหล่อนด้วยคำว่าที่รักเมื่อมาส่งถึงหน้าบ้าน
“พรุ่งนี้ให้มารับไหมจ้ะ ที่รัก”
“พรุ่งนี้ผมไปส่งคู่หมั้นผมเองครับ” สวิชตอบเสียงแข็ง พร้อมเดินออกมาจากประตู
“คู่หมั้น” ตั้มมองอัญมณีแคลงใจ
หล่อนพยักหน้าแทนคำตอบแล้วพูด
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง พรุ่งนี้เจอกัน” หล่อนมองจนตั้มขี่รถออกไปแล้วจึงเดินเข้าบ้าน
“ทำไมตั้มมาส่ง ก็หมอชลบอกจะมาส่งนี่”
“พี่วิชอยากเจอหมอชล” หล่อนย้อน
“เปล่า แค่สงสัย”
“คงไม่ว่างมั้งคะ พี่วิชมารอนี่หรือ มีธุระอะไรหรือเปล่า”
“พ่อแม่คุยกันอยู่จ้ะ เสร็จแล้วออกไปกินข้าวข้างนอกกันนะ มานี่ไปอาบน้ำแต่งตัวสวยๆ เถอะ”
หล่อนมองเขาแปลกใจ คำพูดสวิชฟังดูแปลกๆ ใช่ว่าจะไม่เคยออกไปกินข้าวนอกบ้านกันเป็นครอบครัวเช่นนี้ แต่คำว่าผู้ใหญ่กำลังคุยกันเหมือนมีความนัยมากกว่าคุยกันธรรมดา เพียงแต่หล่อนไม่ต้องถามเพราะพอย่างเข้าห้องโถงที่พ่อแม่หล่อนกับพ่อแม่สวิชคุยกันอยู่ หล่อนก็ได้คำตอบเมื่อแม่เดินเข้ามาหายิ้มหน้าระรื่นแล้วบอกเสียงยินดี
“ลุงสุนทรกับป้าวิมลมาพูดเรื่องแต่งงาน วันหยุดนี้ไปหาพระให้ท่านหาฤกษ์ให้” อังกาบจับแขนลูกแล้วพาเดินขึ้นบันได
“ทำไมเร็วจังคะ”
“เร็วอะไร หมั้นดองมากี่ปีแล้ว ทีแรกแม่นะกลัวจะไม่ได้แต่งเสียแล้วเพราะเห็นพี่วิชเขาเฉยๆ แต่จู่ๆ ลุงกับป้าก็มาพูด แม่ว่านะเพราะตาวิชกลัวหมอนั่นจะมาจีบมานี่แน่ๆ เฮ้อ คิดแล้วก็ต้องขอบคุณตาหมอคนนั้นจริงๆ”
ใช่แล้วเพราะหมอบ้านั่นคนเดียว ทำให้เรื่องเป็นแบบนี้
‘นี่ฉันต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเพราะคำพูดห่ามๆ ของหมอปากเสียนั่นหรือ บ้าที่สุด’
เจอกันอีกแล้ว คำนี้หล่อนรู้ว่าเขาทักทายหล่อน
อัญมณีหันไปมองแล้วยิ้มตามมารยาทอย่างน้อยต่างมาทำหน้าที่ของตนเองเมื่อเจอกันในงานก็ทักทายกันเป็นธรรมดาเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยในหน้าที่การงาน
ชลทิศยื่นหน้ากากให้อัญมณีที่กำลังขยับจมูกยามสัมผัสกลิ่น หล่อนรับไปสวมโดยเร็วก่อนเอ่ยขอบคุณเบาๆ แล้วทำงานของตนต่อ
ศพจมน้ำตายมาหลายวันเริ่มขึ้นอืดและกลิ่นรุนแรงหากไม่ปิดจมูกคงไม่มีใครอยู่ใกล้ได้นาน
“โอย ขอไปหาอากาศหายใจก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมาถามหมอ” ตั้มบอกแล้วรีบเดินห่างออกไปหลังสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่กู้ชีพและตำรวจบางส่วนแล้ว
“เดี๋ยวผมตามไปก็ได้”
ชลทิศตะโกนไล่หลัง แล้วก้มๆ เงยๆ ชันสูตรศพเบื้องต้น ส่วนอัญมณีก็เก็บภาพทั้งคนและสถานที่ ตำรวจ เจ้าหน้าและชาวบ้านที่ตั้มสัมภาษณ์ แล้วเดินตามชลทิศเมื่อเขารายงานเบื้องต้นกับตำรวจก่อนเดินไปหาตั้มที่ยืนมองอยู่ห่างๆ
“ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ เสียชีวิตเพราะจมน้ำแน่นอน แต่จะเป็นอุบัติเหตุหรือฆ่าตัวตายก็ต้องสอบถามพยานแวดล้อมอีกที”ชลทิศบอก
“แกน่าจะเมาแล้วตกน้ำตายเองนะครับ เพราะมีคนแจ้งคนหายเมื่อสามวันก่อน”ตั้มพูด
“เมาหรือเปล่าก็ต้องผ่าดูว่ามีอะไรตกค้างในกระเพาะอาหาร”
“ไม่ใช่ฆาตกรรมอำพราง ไม่เกี่ยวกับศพก่อนๆ หรือคะ” อัญมณีอดถามไม่ได้ ทำให้สองหนุ่มที่กำลังคุยกันหันมามอง หล่อนรีบหลุบตาหนี พูดขอโทษอ้อมแอ้ม
“ถ้าเราไปถามแบบนี้กับตำรวจรับรองมีเคือง เค้าจะหาว่าเราทวงถามถึงฆาตกรรายนั้นที่ยังตามจับไม่ได้ รู้ไหมมานี่” ตั้มบอก
“ค่ะ ก็แค่สงสัยแล้วถามคนกันเองก็เท่านั้น”
“รวมผมเป็นคนกันเองด้วยหรือ” ชลทิศถาม แล้วพูดต่อ “ว่าแต่ทำไมรีบแต่งงาน หรือจะกลบข่าวเรื่องเป็นทอม”
“ไอ้!”
“มานี่ๆ กลับๆ” ตั้มรีบเข้ามาลากมือหล่อน คงกลัวกระโจนเข้าขย้ำชลทิศที่ชอบกวนโทสะ
“ก็ดูมันสิ ดูมันพูด หมอบ้าอะไรปากเน่าปากหนอน ทำยังไงถึงลบล้างความคิดที่เขาหาว่านี่เป็นทอม เป็นนักเขียนคนนั้นได้ละ”
“มานี่ไม่ใช่อัญมณีจริงๆ เหรอ”
“ตั้ม!”
“ล้อเล่นๆ ก็เห็นหมอชลปักใจเชื่อจัง แต่ผมสงสัยเรื่องอื่นทำไมจู่ๆ แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ หรือว่า” ตั้มหยุดพูด มองหน้าหล่อนแล้วส่ายหัว
“ซ้อนมอเตอร์ไซค์ไม่ได้แล้วมั้งแบบนี้”
“โห ไปกันใหญ่ นี่ไม่ได้ท้อง” เวลานี้หน้าหล่อนคงไม่ต่างจากจวักนัก
“งั้นลองนุ่งกระโปรงดูมั้ยเผื่อจะเหมือนกะเทยแต่งหญิง” ตั้มหัวเราะในขณะที่อัญมณีกระทืบเท้าเร่าๆ
“บ้ากันไปใหญ่แล้ว”
เพราะหมอบ้านั่นคนเดียว ทำให้งานแต่งที่ไม่คิดว่าจะมีกลับมีกำหนดการแน่นอนและเร็วจนหล่อนใจหาย อีกไม่ถึงสามเดือนเวลาเตรียมตัวนั้นทันถมเถ แต่เวลาเตรียมใจนี่สิ ไม่พอ ไม่พอแน่ๆ
เสียงขุดดินฉับๆ เรียกให้หญิงกลางคนที่ลงจากรถประจำทางเดินเข้ามารวดเร็ว บ้านทิ้งร้างเพราะมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นใครจะมาขุดดินทำอะไร หล่อนสงสัยนักจึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
“ใคร มาทำอะไรที่นี่” นางร้องถามเมื่อเห็นแผ่นหลังก้มๆ เงยๆ อยู่ใต้โคนไม้ใหญ่ คนถูกถามสะดุ้งโหยงแล้วหันมา
“อ้าว! นึกว่าใคร มาทำอะไรจะค่ำแล้ว” เสียงทักทายบอกให้รู้ว่ารู้จักอีกฝ่ายดี
“ตรงโน้นมีหมาโดนยาเบื่อตาย หนูขุดหลุมฝังทำปุ๋ยต้นไม้” ชี้ไปในที่รกด้านใน
หญิงกลางคนรีบเดินไปดู แม้จะรกขนาดต้องใช้มือแหวกหญ้าให้เป็นทางระหว่างเดินเข้าไป ปากก็พร่ำถามหา
“ตรงไหน ไม่เห็นเลย”
“เข้าไปอีกหน่อยใกล้รั้วลวดหนามนั่นแหละ มันน่าจะมุดเข้ามาหาน้ำกิน” เสียงบอกดังตามหลังมาเรื่อยๆ
“น่าสงสารจริง ใครใจร้ายวางยามันได้ ตรงไหน ไม่เห็นเลย” นางหันกลับเมื่อเดินมาใกล้รั้วลวดหนามแล้วแต่ไม่เห็นสุนัขที่ถูกวางยา
“โอ๊ย!” เสียงร้องเจ็บปวดระคนตกใจดังแค่ครั้งเดียว เมื่อจอบขนาดเหมาะมือฟันลงมากลางกระหม่อมกระทบกะโหลกดังลั่นแก้วหู ก่อนทุกอย่างจะเงียบงันดับวูบ หญิงกลางคนล้มทั้งยืนเลือดแดงสดทะลักออกจากรอยแยกบนศีรษะย้อมผมจนชุ่ม
คนทำวางจอบลงแล้วเดินเข้าไปแหวกผมเพื่อดูแผลกลางศีรษะ รอยแยกยาวอย่างน่าพอใจ แล้วลุกขึ้นลากร่างหมดสติกลับไปที่ซึ่งขุดหลุมรอไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ขนาดที่พอใจต้องขุดเพิ่มอีกหน่อยเพื่อให้ร่างนี้ได้นอนเต็มความยาว ไม่ต้องปวดเมื่อยจากการนอนคุดคู้
พอแล้วสิสำหรับปีนี้ แค่นี้ก็ทุบสถิติของปีก่อนมาแล้ว ได้เงินมากพอแล้ว ไว้ปีหน้าเจอกันใหม่ ขอเวลาไปนอนคิดก่อนว่าจะ ฆ่าใครด้วยวิธีไหนดี ๓๐/๑๒/๕๘
ดวงสมรหยุดพิมพ์เมื่อเทปเสียงที่สวิชอัดไว้ให้หมดลงแค่นี้ ก่อนจะโทรศัพท์ไปหาเขา
“ทำไมมันจบห้วนขนาดนี้ละคะคุณอัน”
“ไม่ใช่ห้วนครับ แค่ทิ้งท้ายไว้ให้คนอยากติดตาม เอาไว้ทำภาคต่อให้ตำรวจไล่ล่าฆาตกรยังไงละครับ”
“สรุปว่าเรื่องนี้ ฆาตกรโรคจิตจริงๆ นะสิคะ ฆ่าคนทำสถิติเพื่อเอาใจผู้ชายแถมยังมีผลพลอยได้จากเงินประกันอีก โอยคิดได้ยังไงนี่ แต่ขอชมนะคะเขียนแต่ละฉากได้เห็นภาพมาก เห็นถึงสภาพศพ วิธีการฆ่า แทบไม่น่าเชื่อว่าเขียนแนวนี้เรื่องแรก”
“เพราะเรื่องแรกนะสิครับเลยต้องทำการบ้าน ต้องเขียนให้เห็นภาพจริงๆ หวังว่าคนอ่านคงจะชอบนะครับ”
“คุณอันเขียนอะไรคนอ่านก็ชอบหมดละคะ หมอนยังชอบเลย แต่บางฉากบางตอนทำไมหมอนไม่รู้มาก่อนว่าจะมีแบบนั้นด้วย มีแหล่งข้อมูลหรือผู้ช่วยคนใหม่หรือคะ”
“เปล่าครับคุณหมอนก็รู้ว่ามานี่ทำงานอะไร เขามีรูปมีข่าวเป็นวัตถุดิบให้ผมมากพอสมควร แต่ส่วนใหญ่ก็ได้จากคุณหมอนทั้งนั้น ผมต่างหากต้องแปลกใจถึงวิธีการหาข้อมูลของคุณหมอน ทำให้ผมเห็นภาพชัดเจนขึ้นเขียนได้ง่ายขึ้น ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”
“ไม่ต้องขอบคุณหมอนหรอกค่ะเราคนกันเอง งั้นหมอนจะเร่งทำให้นะคะคงได้ออกทันงานหนังสือ อีกอย่างหมอนอยากให้คุณอันเปิดตัวพร้อมนิยายแนวใหม่ในงานหนังสือ พร้อมจะโชว์หน้าหล่อๆหรือยังคะ”
“พร้อมครับแต่ต้องดูวันอีกที ไม่ให้ตรงกับวันแต่งงานนะครับ”
“อะไรนะคะ จะแต่งงานหรือคะ ทำไมเร็วจัง หมอนไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณมีแฟน” หล่อนพูดเสียงขาดหาย คาดไม่ถึง
“ก็มานี่ไงครับ หมั้นกันมานานมากแล้ว รู้จักมาตั้งแต่เด็กๆ ถึงเวลาแต่งกันเสียที”
ดวงสมรนึกถึงหญิงสาวหน้าตาดี ท่าทางกระฉับกระเฉง ที่เป็นตัวแทนอัญมณีนำพวงหรีดไปร่วมไว้อาลัยในงานศพของนักอ่านแฟนคลับของอัญมณีคนที่สวิชเพิ่งบอกหยกๆ ว่ามีแหล่งข้อมูลอย่างดีให้เขา หล่อนไม่เคยเจอตัวจริงของหญิงสาวคนนั้น และไม่ใช่ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนพิเศษของสวิช แต่ไม่อยากให้เป็นและไม่มีทางยอมรับ