ความเดิม-"ดีครับ ผมชอบพวกอุดมการณ์ จะเป็นอะไรก็ได้ แต่อยาลืมของเดิม"
สองหนุ่มหันไปสบตากันเพียงครู่แล้วยิ้มในหน้า "งั้นโอเค ผมตกลงเช่าครับ"
....................................
หลังจากตกลงกันเสร็จทั้งสองฝ่ายต่างแยกย้ายกันกลับบ้านเพราะเริ่มมืดค่ำเต็มทีและนัดกันเรื่องทำสัญญาในภายหลัง
@บนรถ
"ทำไมตกลงง่ายจังว๊ะ ไอ้บอสใหญ่หมอกี" ปกรณ์เอ่ยยิ้ม ๆ หันมาสบตากับเพื่อนรักเพียงครู่แล้วตั้งใจมองไปด้านหน้าต่อ
"ก็นายก็ไม่ขัดไม่ใช่เหรอ" เปรมมนัสเอ่ยแย้งขึ้นบ้าง
"อืม..ก็ทำเลดี ที่สวย ที่จอดรถมีสิบคันขึ้น มีร้านสะดวกซื้อ มีตู้เอทีเอ็มอยู่ไม่ไกล มีร้านขายขา มีร้านกาแฟใกล้ ๆ จะเรียกว่าทำเลดีก็ไม่ผิด ถ้าไม่มีผีสิงก็โอเค้" ปกรณ์พูดกลั้วหัวเราะ
"เออ..จริง..หึหึ" ปกรณ์ขับรถมาส่งเปรมมนัสถึงที่ลานจอดรถฝ่ายบริหารของบริษัท
"ส่งแค่นี้นะ แล้วไม่ต้องขึ้นไปทำงานอีกล่ะ กลับบ้านได้แล้ว" ปกรณ์พูดดักทางเพื่อนรักไว้ก่อนเพราะได้ข่าวมาจากบิดาของเพื่อนรักว่าเขาหักโหมงานจนเกินไป
"อือ.. ขอบใจมาก" เปรมมนัสเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วลงจากรถไป
....................................
ตัดมาที่กานต์ธิดา
หญิงสาวหลังจากกลับจากร้านขายยาก็กินยาแล้วนอนหลับไปสักพักรู้สึกว่อาการปวดทุเลาลงจึงมานั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ เบื่อก็ปัดกวาดเช็ดถูบ้านบ้าง หยิบนู่นจับนี่มาแต่งบ้านบ้าง จนบ้านน่ารักปุ๊กปิ๊กไปหมด และเผลอหลับไปอีกครั้ง และตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงรถที่คุ้นเคยจึงออกไปรอที่หน้าประตู
"ไง ยัยบี อยู่บ้านดื้อหรือเปล่า กินข้าวกลางวันบ้างมั๊ย หิวหรือยัง พี่ซื้อไก่อบมาฝาก แล้วก็โดนัทเจ้าดังด้วยมาเอาไป แล้วก็ช่วยพี่ขนของออกจากด้วย"
"ได้เลยเจ้าค่ะ พอดีเลยกำลังอยากกินของหวาน ๆ อยู่พอดี แฮร่....วันนั้นของเดือนน่ะเพิ่งมาวันแรกเลย ปวดท้องมาก ก็เลยโทรหาพี่วินให้มารับไปร้านขายยานู่น ได้ยามากินล๊ะค่อยยังชั่ว"
"อ้าวเหรอ ต้องดูดี ๆ นะ พวกไว้ใจไม่ได้ที่แอบแฝงมาก็มีหรือถ้าไม่มั่นใจก็โทรหาพี่ได้ ดีกว่านั่งวินมอ'ไซค์ไปแบบเสี่ยง ๆ เข้าใจมั๊ย"
"เข้าใจแล้วค่า แต่พี่วินคนนี้หนูรู้จัก เคยเรียกใช้บริการแกบ่อย ๆ แกเป็นคนดีอยู่ค่ะ คิวแน่นเอี่ยดเลย ใคร ๆ ก็เรียกใช้บริการพี่แก"
"เออ ให้มันดีจริงเถอะ อย่าให้ดีแตกล่ะ" กานต์บุรุษพูดพร้อมกับยีผมคนน้องเล่นไปด้วย
"อื้อ ผมยุ่งหมดพี่เอนิ่"
"หึหึ ของหนัก ๆ ไม่ต้องยก เดี๋ยวพี่ยกเองยัยกุ้งแห้ง เอาแต่ของเบา ๆ ไปก็พอ"
หลังจากจัดของเข้าตู้เย็นเสร็จคนพี่ลงมือทำกับข้าวสำหรับมื้อเย็นกินกันเองโดยมีหญิงสาวร่างเล็กคอยช่วยหยิบนั่นจับนี่ให้ไม่ห่าง ถือเป็นกิจกรรมสัมพันธ์ในครอบครัวอีกอย่างหนึ่ง เพราะมารดาของทั้งสองได้จากไปด้วยโรคร้าย ส่วนบิดาจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถ ทั้งสองจึงเหลือกันแค่สองคนพี่น้องเท่านั้น
@โต๊ะอาหาร
"ยัยน้อง เปิดเทอมนี้ก็ปีหนึ่งแล้ว แน่ใจนะว่าจะไม่เปลี่ยนสาขาวิชา"
"แน่ใจซิคะ หนูชอบบัญชีและหนูอยากเป็นเจ้าของกิจการแล้วก็คุมบัญชีเองด้วย"
"ถ้าแน่ใจแล้วก็ลุย เต็มที่ รับรองมีงานให้ทำแน่ ๆ ถ้าไม่เลือกงาน"
"พี่เอคะ หนูมีเรื่องจะปรึกษา"
"ว่า..."
"หนูอยากทำงานพิเศษระหว่างเรียนจะได้มั๊ยคะ เช่นช่วงปิดเทอม หรือช่วงหลังเลิกเรียน"
"อืม..ถ้าช่วงปิดเทอมก็พอได้ แต่ถ้าช่วงหลังเลิกเรียนจะไหวหรือเปล่าล่ะ แต่พี่มีเงินเก็บส่วนนี้ของน้องแล้วนะ"
"แต่ถ้าเราหามาเพิ่มมันก็จะเป็นกอบเป็นกำใช่มั๊ยล่า ส่วนที่เก็บไว้ก็เก็บเอาไว้ไง"
"เอ้า ก็ได้ แต่อย่าให้กระทบผลการเรียนแล้วกัน ถ้าไม่ไหวก็หยุด เข้าใจ๊ ไอ้งก.."
"ได้ค่า ขอบคุณค่าพี่ชาย"
@วันเปิดเรียน@มหาวิทยาลัยJ
กานต์ธิดาเดินเข้ามาในมหาวิทยาลัยด้วยความภาคภูมิใจ เธอไฝ่ฝันที่จะได้เข้ามาศึกษาเล่าเรียน และก็ได้เข้ามาสมใจและสัญญากับตัวเองว่าจะตั้งใจเรียนให้ได้คะแนนสูง ๆ ให้สมกับที่ตั้งใจเอาไว้ให้ได้
"นี่เธอ เด็กบัญชีเหรอ" เสียงที่ดังมาจากด้านหลัง กานต์ธิดาจึงหันไปมองตามเสียงนั่นพบว่าเป็นหญิงสาวหน้าตาดีติดหมวยนิด ๆ
"อืม..ใช่ เราเพิ่งเข้าปีหนึ่งน่ะ" กานต์ธิดาตอบยิ้ม ๆ
"รู้จ้าว่าปีหนึ่งดูชุดก็รู้ เราก็ปีหนึ่งบัญชีเหมือนกัน ว่าแต่ห้องไปทางไหนเหรอ หาห้องกันเถอะจะได้ไปจองที่นั่งกัน"
"ก็กำลังหาอยู่เหมือนกัน ไปซิ" กานต์ธิดาตอบหน้ายุ่ง ๆ
"เธอชื่ออะไรเหรอ เราชื่อปอยนะ ชื่อจริงชื่อ ปรียาภัทร อายุ 19 ปีพอดี"
"เราชื่อบี ชื่อจริงชื่อก็กานต์ธิดา อายุจะ 19 ปีในอีกไม่กี่เดือนนี้แหละจ้ะ"
"นั่งด้วยกันนะ เธอเลือกเรียนบัญชีเพราะอะไรเหรอ" ปรียาภัทรเอ่ยถามอย่างอยากรู้
"เราอยากหางานได้ง่าย ๆ น่ะ ทุกหน่วยงานต้องมีการทำบัญชีทั้งนั้น" กานต์ธิดาตอบอย่างตรงไปตรงมา
"แต่เราอยากเอาไปดูแลกิจการของครอบครัวน่ะ เห็นป๊าต้องจ้างพนักงานบัญชีแถมเอาใจทุกอย่างจนเวอร์เลยอยากเรียนเองซ๊ะเลยจะได้ช่วยป๊าดูแลกิจการเอง"
"เหรอ ถ้าต้องการพนักงานก็มองมาที่เราได้นะถ้าเรียนจบแล้วไม่มีงานทำจะไปของานเธอทำบ้างน่ะ"
"ได้เลย ดีอีกต่างหากจะได้มีเพื่อนไว้ปรึกษา"
สองสาวเดินคุยกันไปกระหนุงกระหนิงอย่างกับรู้จักกันมาแรมปีจนถึงห้องจึงเปิดประตูเข้าไปปรากฎว่าทุกคนรออยู่ในห้องกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว