Chapter 2

1372 Words
หลังจากที่เธอส่งข้อความไปให้ชายหนุ่มเขาก็ทำการเมมเบอร์หญิงสาวไว้ทันที จากนั้นก็รอเวลาจนเธอเลิกกองเขาก็โทรศัพท์ไปหาเพื่อนัดเธอออกมาเดินเล่น “สวัสดีค่ะป๋าเจ” (เลิกกองหรือยังครับ ผมจะชวนไปเดินเล่น) “กำลังจะเลิกค่ะ แพมกำลังเปลี่ยนชุดอยู่ อาจจะประชุมอีกนิดหน่อยก็เสร็จแล้วค่ะไม่นาน” (งั้นผมไปรับนะครับ) “ได้ค่ะ งั้นแพมรออยู่ที่สตูดิโอแปดนะคะ” (ได้ครับ เดี๋ยวเจอกัน) เธอกดวางสายก่อนจะเปลี่ยนชุดกลับไปตามเดิมอย่างอารมณ์ดีสุดๆ ผู้จัดการที่เดินเข้ามาเห็นรอยยิ้มของดาราสาวก็อดแปลกใจอยากรู้อยากเห็นซะได้ “อารมณ์ดีอะไรจ้ะหนู นี่จะถามตั้งแต่ของว่างช่วงพักกองแล้วนะ ใครส่งมาไม่เห็นเล่าเลย” แพมหันไปมองหน้าผู้จัดการก่อนจะเอ่ยถามเสียงสดใส “ให้ทายว่าใครให้มา” “ป๋าเจเหรอ” เธอทำหน้าอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก แพมทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้าออกมาทันที อั้มเห็นแบบนั้นก็ร้องกรี๊ดออกมาอย่างตื่นเต้น เปิดตัวแรงขนาดนี้ไม่จีบตรงไหนถามใครก็ไม่เชื่อหรอก “ค่ะ” “โอ๊ย! ฉันล่ะอิจฉาจริงๆทำไมชีวิตกระเทยไม่เจอแบบนี้บ้างนะ นี่ก็อยากได้ท่านประธานบ้างอ่ะ อยากเป็นคุณนายนั่งสวยๆใช้เงิน” ผู้จัดการของเธอเริ่มตัดพ้อออกมาด้วยความอิจฉา แต่ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งแพมได้ลงเอยกับป๊าเจขึ้นมาเธอจะดีใจมาก หญิงสาวไม่ใช่แค่ดาราในสังกัดแต่เป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกันไปแล้ว “พี่อั้มก็เวอร์ไป เขาไม่ได้ออกตัวว่าจะจีบเลย อาจจะแค่เพียงอยากมีเพื่อนรึเปล่า” “โอ๊ยอย่าโลกสวยค่ะลูก ผู้ชายผู้หญิงอายุห่างกันหลายปีจะทำความรู้จักกันทั้งที่จะเป็นเพื่อนกันเพื่อ… เขาต้องหาคนรู้ใจหาแม่ของลูกสิจ้ะ” ผู้จัดการเอ่ยออกมาอย่างอธิบายให้เข้าใจตรงกัน เธอจะได้เลิกคิดว่าที่เขาเข้าหาคือแค่อยากมีเพื่อนเพิ่ม แต่ให้หันธงไว้เลยว่าจะจีบแน่นอน และเธอสนับสนุนเต็มที่ “อย่าออกตัวแรงสิคะ เกิดไม่ใช่ขึ้นมาแล้วเราคิดไปเองจะหน้าแตกเสียเปล่า” “อ่ะๆตามใจแล้วกัน ป่ะกลับได้ล่ะพี่จะไปส่ง” ผู้จัดการช่วยถือถุงกระดาษกระเป๋าหลายอย่างขึ้นมาไว้ในมือ แพมเดินตามออกมาก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “วันนี้พี่อั้มกลับไปก่อนเลยค่ะ พอดีว่าป๋าเจจะมารับไปเดินเล่นค่ะ” “ว๊าย แล้วบอกว่าไม่ใช่ นี่ถึงขั้นนัดกันออกไปสองต่อสองแล้วเหรอ” เมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็อดแซวหญิงสาวไม่ได้ พัฒนาความสัมพันธ์เร็วมาก เมื่อวานเพิ่งเจอกันทานข้าวด้วยกัน มาวันนี้ชวนออกไปเที่ยวเล่นแล้ว ยังจะปฏิเสธว่าไม่จีบก็คงไม่ได้แล้ว “สองต่อสองอะไรกันคะ เขาอาจจะมีเรื่องงานคุยรึเปล่า” “ไร้สาระยะ เรื่องงานเขาก็ต้องให้ผู้ช่วยมาติดต่อกับพี่ ส่วนถ้าดิวกันนอกรอบสงสัยเรื่องส่วนตัวมากกว่า อร๊าย พูดแล้วเขิน อย่าเล่นตัวนะถ้าเขาจีบให้รีบจับไว้แน่นๆเลยล่ะ อนาคตคุณนายจะไปไหนเสีย นั่นไงมาพอดี” ผู้จัดการอั้มหันไปมองชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยทักทายเสียงสดใส ทั้งล่อทั้งรวยเธอพร้อมใส่พานประเคนให้ถึงที่แน่นอน “สวัสดีค่ะป๋าเจ” “สวัสดีครับคุณอั้ม พอดีผมจะขอยืมตัวเด็ดในความดูแลไปเดินเล่นช่วงเวลาพักผ่อน ไม่ว่าใช่มั้ยครับ” “โอ๊ยจะไปว่าอะไรได้คะ แต่ว่าทำอะไรระวังนักข่าวหน่อยก็ดีนะคะ พวกนี้หูตาไวเกิดเป็นข่าวขึ้นมาน้องจะเสียหายเอาได้ ถึงเวลานั้นป๋าเจต้องรับผิดชอบนะ” “ไม่มีปัญหานี่ครับ ผมพร้อมรับผิดชอบอยู่แล้ว” เขาเอ่ยออกมาพร้อมกับมองสบตาหญิงสาว เธอก้มหน้างุดๆด้วยความเขินอายก่อนจะขอกระเป๋าจากผู้จัดการส่วนตัวของเธอ “ไปกันเถอะค่ะ กลับดีๆนะคะพี่อั้ม” “จ้ะ งั้นพี่ไปก่อนพรุ่งนี้ยังไงจะโทรหานะ เที่ยวให้สนุกใส่แว่นตากับหมวกด้วย” เธอใส่แว่นตากับหมวกตามที่ผู้จัดการของเธอแนะนำ จากนั้นชายหนุ่มก็พาเธอเดินไปขึ้นรถที่มีผู้ช่วยของเขาขับให้ ส่วนใหญ่ไปไหนเขาจะไปกับเปียยกเว้นดึกมากหรือธุระส่วนตัวจริงๆถึงจะต่างคนต่างไป “เหนื่อยมั้ยครับวันนี้” “นิดหน่อยค่ะ เป็นความเคยชินมากกว่าตื่นมากองตอนตีสองตีสามก็ทำมาแล้ว นอนค้างกันสองสามคืนไม่ได้กลับก็เจอมาแล้ว แค่นี้จิบๆค่ะ” เธอเอ่ยออกมาอย่างอธิบาย การเป็นดารามันไม่ได้สบายเหมือนอย่างที่คนอื่นคิด กว่าจะมีชื่อเสียงทุกวันนี้เธอพยายามมากกว่าที่ใครเห็นมากนัก “คุณเก่งมากที่สุดแล้ว เอาจริงๆการเป็นประธานอย่างผมก็เหนื่อยนะ ความยากในการทำงานมันต่างกันใช่ว่าเป็นเจ้าคนนายคนจะสบาย” “แพมอิจฉาป๋าเจมากกว่า แต่ดูจากที่คุณพูดดักทางแบบนี้น่าจะเหนื่อยพอสมควรอยู่” “อย่าอิจฉาผมเลย ถ้ามายืนตรงนี้บางทีคุณแพมอาจจะอยากกลับไปเป็นดาราเหมือนเดิมก็ได้ งั้นวันนี้ผมพาคุณแพมไปทานมื้อค่ำนะครับ ที่ดาดฟ้าของโรมแรมมันสวยมากแถมยังเห็นวิวเมืองกรุงอีก อีกอย่างมันส่วนตัวด้วยรับรองว่าปลอดภัยจากนักข่าว” “ค่ะ แพมยังไงก็ได้” ทั้งสองคนมองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมา เขามีความสุขที่ได้คุยกับเธอมาก ตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรกจนถึงตอนนี้เขายังงงตัวเองอยู่ว่าทำไมถึงอยากเจอหน้าเธอตลอดเวลา อยากคุยด้วย จะเรียกว่าพรหมลิขิตได้รึเปล่าแต่ที่แน่ๆเขาลิขิตตัวเองแล้วว่ายังไงก็ต้องได้เจอเธอบ่อยที่สุด เมื่อมาถึงที่โรมแรม ทั้งสองคนเดินขึ้นลิฟต์ไปชั้นดาดฟ้า ที่นั่นเป็นร้านอาหารหรูหรามีความเป็นส่วนตัวที่สุด แพมมองไปรอบๆอย่างถูกใจเธอไปเรียนเมืองนอกกลับมาได้ไม่นาน มัวแต่ทำงานจนเริ่มมีชื่อเสียงกลายเป็นไม่อยากออกไปไหนเพราะงานยุ่งมาก “สวยจังเลยค่ะ” “ถ้าคุณแพมชอบไว้ผมจะพาไปที่อื่นอีก ในกรุงเทพสถานที่แบบนี้มีเยอะแยะมากมาย อยู่ที่ว่าคุณจะอยากไปกับผมรึเปล่า” เธอหันมามองเขาก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย “อยู่ที่ว่าป๋าเจพาไปที่ไหน แล้วพาไปในสถานะอะไร อย่างเช่นตอนนี้การที่เรามาทานข้าวด้วยกันในวันนี้ ถือว่าฉลองแด่มิตรภาพความเป็นเพื่อนหรือว่าลูกจ้างดีคะ” เธอเอียงคอเอ่ยถามตาใสแป๋ว พีเจมองสบตากับเธออย่างจริงจังก่อนจะยิ้มออกมา “ผมมีเพื่อนเยอะแล้วด้วยสิไม่อยากมีเพิ่มแล้ว งั้นฉลองแด่สถานะที่ผมจะเริ่มต้นจีบคุณแพมอย่างจริงจัง แบบนี้ดีมั้ยครับ” หญิงสาวอึ้งไปทันทีที่เขาพูดตรงๆแบบนั้น ก่อนหน้านี้ยังวางท่าอ้อมๆอยู่เลยเผลอแป๊บเดียวกลายเป็นคนตรงๆซะแล้ว “ตรงแบบนี้เลยเหรอคะ” “ตรงแบบนี้แหละครับ ถ้าอ้อมแบบเมื่อวานคุณแพมก็ไม่เข้าใจซักที” ทั้งสองคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน ไม่ใช่ว่าเธอไม่เข้าใจ แต่เป็นผู้หญิงโทรไปก่อนมันน่าเกลียดนี่ “หิวจัง” “งั้นทานข้าวกันดีกว่าครับ วันนี้เป็นอาหารไทยไม่รู้ว่าคุณแพมจะชอบรึเปล่า แต่ถ้าผมเดาคิดว่าคงทานได้เพราะเราสองคนชอบอะไรเหมือนกัน แบบว่าใจตรงกันนะ….”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD