บทที่ 3
ความผิดหวังเป็นเหตุ
สี่วันต่อมาที่บริษัท...
ก๊อกก!!!
เสียงประตูห้องดังอยู่ด้านนอกทำให้โชคชัยและเอกภพที่นั่งหน้าเครียดรอเพื่อนอีกคนที่ยังไม่มาตามนัดมองหน้ากันแล้วหันไปมองประตู
“ไอ้เก้า นี่มึงจะเคาะทำเหี้ยไรวะ นี่พวกกูรอคุยงานกับมึงอยู่นะโว้ย” เพราะคิดว่าเป็นพิสุทธิ์ เอกภพจึงตะโกนตำหนิเพื่อนเสียงดัง
“พี่เอก พี่โชคหนูเองค่ะ หนูนาค่ะ” เสียงตะโกนดังจากข้างในทำให้หญิงสาวนามว่า ‘พัชชา’ เอ่ยบอก เธอเป็นคนน่ารักสะสวยสมวัยอายุยี่สิบสี่ปี
“อ้าว หนูนาเองหรือ พี่นึกว่าไอ้เก้า” เอกภพปรับเสียงขึงขังให้ทุ้มน่าฟังเมื่อเห็นพัชชา ลูกพี่ลูกน้องของโชคชัย
“มีไรหรือเปล่าหนูนา” โชคชัยถามน้องสาว พัชชาเป็นลูกสาวของน้าพิมพ์ ซึ่งน้าพิมพ์เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของสุดใจแม่ของโชคชัย
“เรื่องพี่เก้าค่ะ คือหนูโทรหาพี่เก้าแล้วนะ แต่พี่เก้าไม่รับสายค่ะ” พัชชาบอกพี่โชค ซึ่งชายหนุ่มมีอายุห่างจากเธอเก้าปี เธอบอกพวกพี่ ๆ ว่าติดต่อพิสุทธิ์ไม่ได้ เพราะทางโน้นไม่ยอมรับสาย
“อ้าวเหรอ แล้วโทรถามพี่ลิซ่าหรือยัง” โชคชัยกวักมือเรียกให้น้องสาวให้เดินเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งพัชชาก็ทำตามเดินไปยืนตรงหน้าโต๊ะทำงาน
“หนูโทรหาพี่ลิซ่าแล้วค่ะ พี่ลิซ่าบอกว่าพี่เก้าไม่ได้เข้าบริษัทหลายวันแล้วค่ะ” เป็นเพราะพิสุทธิ์และเอกภพมีอายุเท่าโชคชัยและยังเป็นเพื่อนรักกัน จึงทำให้พัชชานับถือเอกภพและพิสุทธิ์เหมือนพี่ชายเช่นกัน
“ไอ้เก้าหยุดงานเหรอวะ” โชคชัยวางแบบงานลงบนโต๊ะแล้วหันไปคุยกับเอกภพ
“มึงถามกู แล้วกูจะไปถามใครวะ” เอกภพตอบเพื่อนยียวนพร้อมทั้งออกความเห็นพูดต่อว่า “หรือว่าไอ้เก้าจะอยู่กกเมียของมันวะ...”
“กูว่าไม่ว่ะ ไอ้นี่มันไม่มีนิสัยเกเรงานนี่ มึงก็รู้นิสัยไอ้เก้าดีอยู่แล้ว” โชคชัยทำหน้าครุ่นคิด
“กูพูดเล่นโว้ย” สีหน้าเคร่งเครียดของเพื่อนทำให้เอกภพพูดเล่นไปอย่างนั้น
“เงียบหายไปแบบนี้ กูว่าชักไม่ปกติละ” โชคชัยยิ่งทำหน้างุนงงพูดกับเอกภพที่ทำหน้าสงสัยเช่นกัน เพราะเขาทั้งสองรู้นิสัยของพิสุทธิ์ดีว่าต่อให้ป่วยใกล้ตายเดินไม่ได้ เพื่อนก็ไม่เคยขาดงานและผิดนัดประชุมอย่างนี้
“ไม่มีอะไรแล้วหนูออกไปทำงานนะคะพี่” ด้านพัชชาเมื่อเห็นพี่ ๆ ทั้งสองคุยกันซึ่งไม่ใช่เรื่องของเธอ เธอก็ขอตัวกลับแล้วกำลังจะเดินไปที่ประตูก็ต้องชะงัก
“หนูนา เดี๋ยว” เป็นเอกภพเรียกน้องสาวของเพื่อนไว้ ซึ่งเขาก็รักและเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวในไส้เช่นกัน
“มีอะไรคะพี่เอก” พัชชาถาม
“ไปตามพี่ลิซ่ามาหาพวกพี่หน่อยสิ” เอกภพบอก
“ค่ะ” พัชชาทำตามคำสั่งของเอกภพ เธอออกจากห้องตรงไปห้องทำงานของพิสุทธิ์ที่อยู่ชั้นสอง และไม่ถึงสิบนาทีเธอและลิซ่าก็มาถึงห้องทำงาน
“หนูนารู้ไหม ทำไมคุณโชคให้พี่มาพบ” ก่อนที่จะเข้าไปในห้องของเจ้านาย ลิซ่าก็หันมาถามพัชชาที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“คงจะถามพี่เรื่องของพี่เก้ามั้งคะ” พัชชาพูดพร้อมทั้งเปิดประตู พยักหน้าให้ลิซ่าที่ดูเป็นผู้ชายเดินนำหน้าเข้าไปในห้อง
เมื่อเข้ามายืนอยู่ในห้อง ลิซ่าก็เอ่ยถามเจ้านายทั้งสองว่า “คุณโชค คุณเอก สวัสดีครับ” ลิซ่าทำงานอยู่บริษัทเดียวกันกับเจ้านายทั้งสองก็จริง แต่ใช่ว่าจะเจอหน้าพวกเขาทั้งสองตลอด นอกจากจะมีเอกสารสำคัญให้เขาทั้งสองเซ็นเท่านั้นเธอถึงจะมาที่นี่
“นั่งครับพี่ลิซ่า” เอกภพเป็นคนบอกให้ลิซ่าและพัชชานั่ง ซึ่งตัวเขาเองก็ยังนั่งหมิ่นอยู่บนขอบโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ของโชคชัย
“ผมรู้ข่าวว่าไอ้เก้าไม่มาทำงานหลายวันแล้ว พี่ลิซ่ารู้ไหมว่าไอ้เก้ามันเป็นอะไร” โชคชัยถาม
“ผมก็ไม่รู้ครับ หลายวันแล้วด้วยที่คุณเก้าไม่เข้าบริษัท โทรไปก็ไม่รับสาย นี่ผมก็มีเอกสารสำคัญให้คุณเก้าเซ็นด้วยครับ” ลิซ่าบอก
“มันเป็นอะไรของมันวะ นี่ฉันโทรไปเมื่อกี้นี้ติด แต่ไม่รับสายว่ะ” เอกภพชูโทรศัพท์ให้ทุกคนดู
“นี่ผมจะไปหาคุณเก้าที่บ้านของคุณเขาอยู่เหมือนกัน” ลิซ่าบอกเจ้านายสองคนว่าเธอมีเอกสารสำคัญหลายฉบับให้พิสุทธิ์เซ็น
“ถ้าพี่ลิซ่าไปหาไอ้เก้า ผมฝากเอานี่ไปให้มันเซ็นด้วยนะครับ” เอกภพเอาเอกสารสำคัญให้ลิซ่า
“หนูนาไปกับพี่นะ” เมื่อรับปากเจ้านายแล้ว ลิซ่าก็หันมาชวนพัชชา
“จะดีเหรอคะ” พัชชาพูดเสียงเบา
“ไปเป็นเพื่อนพี่ลิซ่าก็ดีนะหนูนา” โชคชัยบอก
“ก็ได้ค่ะ” พัชชาตอบตกลงเมื่อพี่ชายที่มีศักดิ์เป็นเจ้านายสั่ง…
เวลาห้าโมงเย็น...พัชชามายืนรอลิซ่าตามที่นัดหมายกันไว้ว่าจะบ้านของพิสุทธิ์ เธอเริ่มใจไม่ดีเมื่อก้มมองเวลาบนแขนของตัวเอง
“จะหกโมงเย็นแล้วนะ ทะ...” พัชชาพูดยังไม่ทันจบคำว่า ‘ทำไมพี่ลิซ่ายังไม่มาอีกนะ’ เธอก็ต้องหันไปยิ้มให้ลิซ่าที่เดินหน้าเครียดตรงมาหาเธอพร้อมทั้งพูดว่า
“หนูนามายืนรอพี่นานแล้วเหรอ?” ลิซ่าพูดผสมหายใจยาว ๆ
“ห้านาทีเองค่ะ เอากระเป๋ามาค่ะหนูช่วยถือ” พัชชาขอกระเป๋าเอกสาร ซึ่งลิซ่าก็ยื่นให้เธอ
“หนูนา?” ลิซ่าไม่ยอมเดิน แต่เธอเรียกหญิงสาว
“คะ” คนถูกเรียกหันหลังกลับไปมองพี่ลิซ่า
“หนูนาไปบ้านคุณเก้าคนเดียวได้ไหม” ลิซ่าทำตาละห้อยมองหน้าของพัชชา
“ทำไมคะ” พัชชาถาม เพราะเธอไม่อยากไปบ้านของพิสุทธิ์สักเท่าไหร่
“นะหนูนา ช่วยพี่หน่อย เอาเอกสารไปให้คุณเก้าเซ็น นะหนูนา พี่ไหว้ล่ะ” ลิซ่าไม่ยอมบอกเหตุผลว่าทำไมเขาไปกับเธอไม่ได้ แต่ลิซ่าวิงวอนด้วยการยกมือไหว้
“พี่อย่าไหว้หนูค่ะ เดี๋ยวหนูอายุสั้น” พัชชาตกใจผลักมือของลิซ่าไม่ต้องการให้พี่ลิซ่ายกมือไหว้เธอ
“ถ้าไม่ให้พี่ไหว้ก็ทำงานแทนพี่หน่อยสิ” ท่าทางไม่อยากทำงานแทนทำให้ลิซ่าหาเหตุผลร้อยแปดให้พัชชาเข้าใจ
“ก็ได้ค่ะ” สีหน้าเศร้าสร้อยของลิซ่าทำให้พัชชาตอบรับไปแบบนั้น
“ขอบใจหนูนามากนะครับ” ลิซ่าเป็นคนเดินไปโบกรถแท็กซี่ และบอกให้คนขับไปส่งพัชชาที่บ้านของพิสุทธิ์
“ไม่เป็นไรค่ะ” ก่อนที่จะเข้าไปนั่งในรถ พัชชาก็ถอนหายใจยาว ๆ ดวงหน้าหวานหงอย ๆ พยักให้ลิซ่าปิดประตูรถ เธอพูดในใจคนเดียวว่า ‘ทำ ๆ ไปเถอะ’ ในเมื่อรับปากพี่ลิซ่าแล้วนี่ เธอก็ต้องทำงานให้สำเร็จ…
หนึ่งชั่วโมงที่นั่งรถแท็กซี่ คนขับรถแท็กซี่ก็พาเธอมาถึงหน้าบ้านของพิสุทธิ์ พัชชาจ่ายเงินให้คนขับแล้วเธอก็ลงจากรถเดินไปยืนตรงประตูรั้วหน้าบ้าน
“พี่มุก พี่เก้าอยู่ไหมคะ นี่หนูนาเองค่ะ” พัชชาเปิดประตูรั้วเดินมองไปรอบสนามหญ้าหน้าบ้านแล้วมองบ้านที่ดูเหมือนไม่มีคนอยู่
“ทำไมบ้านเงียบจัง” พัชชามายืนตรงประตูบ้านกำลังจะเคาะประตู แต่เธอก็ต้องทำหน้างุนงงเมื่อประตูบ้านเปิดแง้มเองได้
“บ้านก็ไม่ยอมปิดประตูอีก” พัชชาเมื่อเข้ามายืนอยู่ในบ้าน ความมืดสลัวภายในบ้านทำให้หญิงสาวเดินเกาะผนังใช้มือลูบหาสวิตช์ไฟ และเมื่อเปิดไฟพัชชาก็ต้องยืนตัวแข็งทื่อ ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นพิสุทธิ์นอนฟุบหน้าอยู่บนพื้นปูนเย็นเฉียบ
“พี่เก้า!” พัชชารีบเข้าไปนั่งคุกเข่าตรงข้างชายหนุ่ม ก่อนที่จับแขนกำยำให้เขารู้สึกตัว เธอก็เหลียวหาภรรยาของชายหนุ่ม
“มุกเหรอ?” พิสุทธิ์พูดลิ้นพันกัน เขาพยายามผงกหัวขึ้นมองเมื่อมีมือนุ่มจับที่แขนดันให้เขานอนหงาย ดวงตาแดงก่ำฉ่ำน้ำตาเพราะผ่านการร้องไห้และดื่มจนเมามากกะพริบหลายครั้งเพื่อปรับให้เข้ากับแสงสว่างของไฟฟ้า
“พี่เก้านี่หนูนาเองค่ะ พี่เก้าเป็นอะไรทำไมมานอนอยู่ตรงนี้คะ นี่พี่ดื่มเหล้าเมาเหรอคะ แล้วพี่มุกล่ะคะ ไปค่ะหนูพาไปนอนที่โซฟา” พัชชาถามยาวเป็นหางว่าว พร้อมทั้งหันมองไปรอบห้อง เธอตกใจมากที่บริเวณห้องมีแต่ขวดเหล้ากระป๋องเบียร์เกลื่อนพื้น
“มุกกลับมาหาผมแล้วใช่ไหม” พิสุทธิ์กะพริบตาเพ่งมองเงาสลัวตรงหน้าที่อยู่เพียงแค่คืบ แล้วยื่นมือขึ้นไปแตะแก้มนุ่มลูบเบา ๆ
“พี่เก้านี่หนูนาค่ะ ไม่ใช่พี่มุก” เพราะชายหนุ่มตัวใหญ่และหนักมาก เธอจึงบอกเขาให้ช่วยตัวเองซึ่งเธอพยุงเขาพาไปนอนบนโซฟา
“อย่าทิ้งผมไปไหนนะมุก ผมคิดถึงคุณ” คนเมาเหล้าเมารักสติไม่อยู่กับตัว มองเห็นหน้าของพัชชาเลือนรางและค่อย ๆ ชัดเจนเป็นใบหน้าของมุกดา
“พี่เก้าลืมตาดูสิคะ หนูไม่ใช่พี่มุกค่ะ” พัชชาพยายามปลุกให้ชายหนุ่มได้รู้สึกตัว เมื่อเขาเริ่มยุ่มย่ามมือไม้ไม่อยู่สุข คอยลูบไปตามต้นแขนเล็กและใบหน้าแดงระเรื่อ
“มุก? อย่าทิ้งผมไปไหนนะ ผมไม่ให้คุณไปไหนอีกแล้ว มุกต้องอยู่กับผม” พิสุทธิ์ละเมอเมื่อเห็นพัชชาที่เขาเข้าใจว่าเป็นเมียรักกำลังจะเดินหนี แต่เขาก็รีบคว้าข้อมือเล็กไว้กระชากอย่างแรงจนหญิงสาวล้มนอนทับบนตัวเขา
“ว้ายย!! พี่เก้าจะทำอะไรหนูคะ? ปล่อยค่ะ” พัชชาร้องหวีดขัดขืนเมื่อถูกชายหนุ่มกอดรัด ซึ่งพิสุทธิ์ไม่ยอมปล่อย เขาดันให้เธอนอนหงายแล้วเขาก็กระโจนขึ้นนอนทับคนตัวน้อย
“ผมใจดีกับมุกมากเกินไปใช่ไหม มุกถึงใช้เท้าเหยียบหัวใจผม ต่อไปนี้ผมจะเป็นคนเลวเพื่อให้คุณชอบ แควก!!!” เมื่อพัชชาขัดขืนดิ้นและทุบตีเขา พิสุทธิ์ที่คิดว่าหญิงสาวที่ทำงานเป็นเมีย เขากัดฟันพูดจนน้ำลายฟูมปาก และชายหนุ่มก็ขาดสติแปลงร่างเป็นคนเถื่อนโน้มหน้าลงซุกไซ้พรมจูบปากอิ่มอย่างดุเดือด
“กรี๊ดด!!! พี่เก้า อย่า ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้นะ ชะ...ช่วยด้วย ฮืออ” พัชชาร้องหวีด ๆ ขัดขืนแต่กำลังต่อสู้แรงคนตัวใหญ่ไม่ได้ ได้แต่นอนตัวสั่นระริกน้ำตาไหลไม่ขาดสายยามชายหนุ่มซุกหน้าไซ้ซอกคอและพยายามปลุกปล้ำเธอ
“ผมจะไม่ใจดีอีกต่อไปแล้วมุกดา ผมจะทำให้คุณรู้ว่าผมก็ร้ายเป็นเหมือนกัน ชอบแบบนี้ใช่ไหม” พิสุทธิ์คำรามเสียงพร่าจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเอง เขาหน้ามืดมองเห็นพัชชาเป็นเมียจึงจับชายกระโปรงของคนตัวน้อยกระชากจนขาดไม่มีชิ้นดี แล้วเหวี่ยงทิ้งไปกองรวมกับเสื้อผ้าของเขาที่โยนไปก่อนหน้านั้นแล้ว
“ฮืออ พี่เก้าอย่าทำหนู ปล่อย ฮืออ” พัชชาร้องไห้กอดตัวเองแต่ก็ถูกเขาจับมือสองข้างให้กางออกกดลงแนบชิดฟูกนุ่มข้างหัว ด้านล่างของเธอถูกหัวเข่าแข็งแรงดันให้ขาเรียวสวยของเธอแยกให้กว้าง
“ผมคิดถึงคุณ มุกดา” พิสุทธิ์ยังเมารักและเมาเหล้า ละเมอพูดชิดผิวขาวอมชมพูที่ไม่เคยต้องมือชายใด เขาจัดท่าทางอย่างเหมาะเจาะ แล้วแทรกความแข็งแรงเข้าไปหล่อหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเธอโดยที่หญิงสาวไม่มีความพร้อม
“กรี๊ดดด!!!!! พี่เก้า หนูเจ็บ ฮืออ” พัชชาร้องกรีดจนเสียงแหบแห้ง น้ำตาไหลพรากทับรอยเก่าและใหม่เพราะความเจ็บปวดตรงจุดซ่อนเร้นจนใจแทบแตกสลาย เมื่อความสาวบริสุทธิ์ที่รักษาเก็บไว้ถูกชายหนุ่มทำลายอย่างโหดร้าย
“ผมจะไม่อ่อนโยนกับคุณเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วนะ” พิสุทธิ์คำรามเหมือนสัตว์ร้ายเมื่อจุดซ่อนเร้นของคนใต้ร่างบีบรัดจนเขาหายใจไม่ออก ซึ่งชายหนุ่มใกล้ถึงจุดหมายปลายทางและได้ปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นเข้าไปในกายหญิงสาวทุกหยาดหยด…