บทที่ 12
ตุ๊กแกกินปูนร้อนท้อง
ด้านพิสุทธิ์ไม่ได้ยินเสียงเอะอะดังอยู่ข้างนอกห้อง เพราะเขายังวุ่นอยู่กับโทรศัพท์ ซึ่งมุกดาตื๊อเขามาก ถ้าเขาไม่ยอมไปหาเธอที่บ้าน เธอยื่นคำขาดว่า
“ถ้าเก้ามาไม่ได้ มุกจะไปหาเก้าที่บริษัทนะคะ...”
“โอเค! เดี๋ยวผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้แหละ” พิสุทธิ์พูดตัดปัญหาไป เพราะไม่อยากให้มุกดามาที่นี่ ไม่ต้องการให้ใครในบริษัทรู้แล้วเอาไปเล่าให้เมียฟัง เพราะเขาก็ไม่ต้องการให้พัชชาที่กำลังท้องมาเครียดเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องแบบนี้ด้วย
“คุณพ่อขา...”
“ลูกพีช นี่ลูกพ่อมาได้ไงคะ?” พิสุทธิ์กำลังหยิบเสื้อสูทที่พาดอยู่พนักเก้าอี้มาใส่ และเขาก็ต้องหยุดทุกอย่างไว้เมื่อหันหลังไปมอง
“มากับคุณแม่ค่ะ” เมื่อคุณพ่ออ้าแขนให้กว้าง หนูน้อยตุ้ยนุ้ยก็กระโดดเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของคุณพ่อ
“มากับคุณแม่ แล้วคุณแม่ล่ะคะ” พิสุทธิ์ถามหาเมียชิดแก้มย้วยของลูก แล้วลุกขึ้นโดยที่ไม่ลืมอุ้มยัยหนูด้วยแขนข้างเดียว
“คุณแม่อยู่กับคุ...” หนูน้อยพิชญาบอกคุณพ่อไม่จบประโยคว่า ‘คุณแม่อยู่ข้างนอกกับคุณลุงลิซ่าค่ะ’ เด็กน้อยก็ต้องหยุดเมื่อได้ยินเสียงของคุณแม่
“ไปไหนกันนะสองพ่อลูก ทำไมห้องเงียบจัง” พัชชาได้ยินสองพ่อลูกคุยกัน แต่เธอก็แกล้งถามหาคนทั้งสองไปอย่างนั้น
“คุณแม่ขา ลูกพีชกับคุณพ่ออยู่นี่ค่ะ” เด็กน้อยพิชญาขืนตัวไม่ยอมให้พ่ออุ้ม และเมื่อคุณพ่อปล่อยให้ยืน เด็กน้อยก็รีบเดินไปหาแม่
“นึกว่าไปไหนกันที่แท้ก็อยู่นี่เอง” ยัยหนูวิ่งมากอดขาของเธอ ทำให้คุณแม่ก้มมองสบตาของแก พัชชายิ้มให้ลูก มือเรียวสวยจัดทรงผมหน้าม้าให้แก
“หนูนาพาลูกมาหาพี่ มีอะไรหรือเปล่าฮะ” ด้านพิสุทธิ์ก็เดินตามยัยหนูมาหาเมียเช่นกัน
“พี่ลืมห่อข้าวค่ะ หนูเลยเอามาให้” พัชชาชูห่อข้าวให้พี่เก้าดู
“อ้าวเหรอ แล้วทำไมหนูนาไม่โทรบอกพี่ล่ะ พี่จะได้กลับไปเอาเอง ทำไมต้องลำบากขับรถเอาข้าวมาส่งพี่ด้วย” พิสุทธิ์เข้าไปยืนข้างเมีย มือข้างที่ไม่ได้ถือห่อข้าวยกขึ้นพาดบ่าของน้อง แล้วพาเมียไปนั่งโซฟาตรงมุมรับแขก
“เมื่อเช้าหนูโทรหาพี่เป็นสิบ ๆ สาย แต่สายพี่ไม่ว่างรับนี่คะ” พัชชาแกล้งทำเสียงขึ้นจมูก และทำหน้าหักงองอนพ่อของลูก ๆ
“แบตเตอรี่คุณพ่อหมดเหรอคะ...”
“เอ่อ ค่ะ” พิสุทธิ์หายใจไม่ค่อยคล่องเมื่อคำถามของยัยหนูไม่ใช่ความจริง ที่เขาไม่รับสายของเมียนั้น เพราะเขามัวแต่คุยโทรศัพท์กับมุกดา
“แล้วนี่พี่เก้าจะออกไปไหนเหรอคะ” ท่าทีอึกอักผสมกับพี่เก้าใส่เสื้อสูทเตรียมพร้อมจะออกจากห้อง ทำให้คนท้องที่นั่งเอนหลังพักเหนื่อยหายใจเบา ๆ ถามสามี
“พะ...พี่” พิสุทธิ์หน้าตาซีดลง เขาทำเสียงตะกุกตะกัก เพราะไม่กล้าบอกความจริงกับน้องว่าจะออกไปดูงานที่บ้านของมุกดา
“หนูพาลูกมากวนเวลาทำงานของพี่หรือเปล่าคะ” พัชชามัวแต่สนใจยัยหนู เลยไม่เห็นความกังวลในแววตาของสามี
“ปะ...เปล่า พี่ว่าจะไปชวนไอ้โชคไอ้เอกลงไปกินข้าวที่โรงอาหารอยู่น่ะ” พิสุทธิ์ปฏิเสธทันที ช่างเหมือนว่าตัวเขาเองกำลังถูกเมียจับผิด
“งั้นก็ดีเลยค่ะ หนูก็ทำแซนด์วิชมาฝากพี่โชคกับพี่เอกด้วย พี่เก้าจะไปหาพี่เอกกับพี่โชคเลยไหมคะ” พัชชาลุกขึ้นอย่างลำบากเดินไปยืนตรงหน้าสามี
“เดี๋ยวพี่โทรให้พวกมันมาที่ห้องก็แล้วกัน” ในตอนนี้พิสุทธิ์เหมือนคนกินปูนร้อนท้อง หวาดระแวงสารพัดเมื่อมือถือสั่นครืน ๆ อยู่ในกระเป๋ากางเกง ซึ่งทำให้เขารีบเอาโทรศัพท์มาดู
“ทำไมไม่รับสายคะ” เสียงโทรศัพท์ของสามีดังตืด ๆ แต่เขากลับไม่ยอมรับสาย จึงทำให้พัชชาละสายตาจากยัยหนู หันไปมองสามีอย่างสงสัย
“...” พิสุทธิ์ไม่พูด เขาทำเพียงแค่พยักหน้าให้น้อง แล้วเดินไปยืนหันหน้าเข้าหาหน้าต่าง ดวงตาสีเข้มไหวสะท้านเหมือนไอแดดร้อนจ้า หัวใจเต้นตึกตัก ๆ ไม่อยากให้น้องรู้ว่าคนที่โทรมาเป็นใคร ซึ่งชายหนุ่มกดสายทิ้งไม่ยอมรับ แล้วรีบโทรหาโชคชัยและเอกภพทันที…
สิบนาทีต่อมาในห้องทำงานของพิสุทธิ์...
“พี่โชคเอาอีกไหมคะ” พัชชาถามพวกพี่ ๆ แต่แววตามีความสุขก็ชำเลืองมองสามี ซึ่งพี่เก้านั่งกินข้าวอยู่เงียบ ๆ บางครั้งชายหนุ่มก็ช่วยเธอป้อนข้าวยัยหนู บางทีก็ทำเพียงแค่คุยกับลูก
“นี่พี่กินไปกี่ชิ้นแล้วเนี่ย” โชคชัยพูดพร้อมทั้งดื่มน้ำเย็นที่พัชชาเทใส่แก้วให้
“ถ้าไม่อิ่มก็กินอีกสิคะ” พัชชาเอาแซนด์วิชให้พี่โชค
“พี่อิ่มละ” โชคชัยลูบท้องให้ญาติผู้น้องดู
“พี่เอกล่ะคะ เอาอีกไหมคะ” พัชชาถามเอกภพ
“พี่ก็เหมือนกัน นี่พี่ไม่ได้กินแซนด์วิชอร่อย ๆ แบบนี้นานแค่ไหนแล้วเนี่ย” เอกภพก็โบกมือส่ายหน้าปฏิเสธ
“งั้นหนูชงกาแฟให้พวกพี่ ๆ นะคะ” ก่อนที่พัชชาจะลุกไปชงกาแฟ เธอก็เอาขนมเค้กให้พวกพี่ ๆ และไม่ลืมที่จะเอาให้สามีด้วย
“ขอบใจหนูนามากนะ” โชคชัยพูดกับน้องสาว แต่สายตากลับมองพิสุทธิ์อย่างสงสัย เพราะเพื่อนเอาแต่นิ่ง ขนาดเมียถามไอ้เพื่อนรักมันก็เอาแต่เงียบไม่ยอมตอบ
ด้านเอกภพเมื่อถูกโชคชัยสะกิดให้มองพิสุทธิ์ ซึ่งเอกภพสงสัยท่าทีเงียบไม่ยอมพูดของพิสุทธิ์นานแล้ว เอกภพจึงเรียกเพื่อน
“เก้า!”
“...” ไม่มีเสียงตอบรับจากพิสุทธิ์
“เก้า!” ครั้งนี้โชคชัยเรียก พร้อมทั้งยกมือขึ้นโบกไปมาตรงหน้าเพื่อน
“...” เงียบพิสุทธิ์ไม่ตอบ ซึ่งชายหนุ่มทำเหมือนว่าไม่มีตัวตน และอยู่ในห้องนี้กับเพื่อน ๆ และลูกเมียเลย
“ไอ้เก้า!” เมื่อเรียกเท่าไรพิสุทธ์ก็ไม่ยอมขานรับ เอกภพหมั่นไส้เพื่อน จึงใช้เท้าเตะไปที่หน้าแข้งของพิสุทธิ์อย่างแรง
“อะไร เมื่อกี้นี้พวกมึงพูดอะไรนะ” พิสุทธิ์สะดุ้งตื่นจากพะวง ดวงตาเข้มเหม่อลอยมองแต่มือถือของตัวเองที่ยัยหนูเอาไปดูการ์ตูนนั้นลุกวาวหวาดหวั่นกลัวโทรศัพท์จะส่งเสียงร้องเพราะมุกดาโทรมาหาเขาแล้วยัยหนูกดรับ
“นี่มึงเป็นอะไรวะ กูเห็นมึงนั่งเงียบ เอาแต่มองโทรศัพท์” เอกภพถาม
“ปะ...เปล่า” พิสุทธิ์ปฏิเสธเพื่อนเสียงกุก ๆ กัก ๆ
“ไอ้นี่ทำตัวมีพิรุธนะมึง” โชคชัยชี้หน้าพิสุทธิ์
“รอกิ๊กโทรมาเหรอวะ?” เอกภพถามพิสุทธิ์ทีเล่นทีจริง
“ไอ้พวกเวร นี่พวกมึงหาเรื่องให้กูทะเลาะกับหนูนาเหรอวะ” คำพูดของเอกภพทำให้พิสุทธิ์หน้าเปลี่ยนสี รีบหันไปมองน้องที่ยืนชงกาแฟอยู่อีกมุมห้อง พิสุทธิ์ถอนหายใจแรง ๆ รู้สึกโล่งอกที่ไม่เห็นปฏิกิริยาของเมีย
“ก็มึงทำตัวน่าสงสัยนี่หว่า” เอกภพอยากแกล้งเพื่อน เขาจึงหันไปมองโชคชัยแล้วยิ้มให้กัน เมื่อโชคชัยส่งซิกให้เขาพูดเล่นกับพิสุทธิ์
“พวกมึงหยุดพูดเรื่องบ้า ๆ ได้แล้ว กูจะมีกงมีกิ๊กได้ไงวะ...” พิสุทธิ์พูดไม่ทันจบประโยคว่า ‘วัน ๆ กูก็ทำแต่งานอยู่กับลูกกับเมีย กูว่าพวกมึงนั่นแหละมีกิ๊กกัน’ เขาก็ต้องหยุดทุกอย่างไว้ เมื่อได้ยินเสียงของพัชชาดังขึ้น
“ใครมีกิ๊กเหรอคะ?” เมื่อวางถาดกาแฟไว้บนโต๊ะแล้ว พัชชาก็ถูกพี่เก้าฉุดเบา ๆ ให้เข้าไปนั่งบนตักของเขา
“คุณแม่ขา คุณลุงเอกกับคุณลุงโชคบอกว่าคุณพ่อมีกิ๊กค่ะ” หนูน้อยถึงจะสนใจดูการ์ตูน แต่พิชญาก็ได้ยินการสนทนาของพ่อและลุง ๆ คุยกัน
“ลูกพีช ทำไมพูดใส่ร้ายพ่ออย่างนั้นล่ะคะ” พิสุทธิ์หน้าซีดเมื่อน้องมองหน้า
“ฮ่า ๆ ๆ พวกกูไม่ได้พูดนะโว้ย ยัยลูกพีชพูดเองนะ ว่ามึงมีกิ๊ก” คำพูดของหลานสาว ทำให้โชคชัยและเอกภพพากันหัวเราะชอบอกชอบใจ
“ไอ้พวกเวรห้าร้อย ยังมีหน้ามาหัวเราะเยาะกูอีกนะ” ถ้าไม่ติดตรงที่มีเมียนั่งอยู่บนตัก พิสุทธิ์คงยกเท้าถีบเพื่อนสองคนแน่นอน
“แฮ่! กิ๊กของคุณพ่ออยู่ในโทรศัพท์ค่ะคุณแม่” ยัยหนูหัวเราะคิก ๆ คัก ๆ และเมื่อคุณลุงทั้งสองยุให้พูดอีก เด็กน้อยก็เอาโทรศัพท์ให้คุณแม่ดู
“ไหนขอแม่ดูกิ๊กของคุณพ่อหน่อยสิคะ” พัชชาขยับตัวนั่งเบี่ยง สีข้างของคนท้องพิงแผ่นอกกว้าง เธอมองหน้าสามีแล้วหันไปมองมือถือที่ยัยหนูชูให้ดู
“หนูนาอย่าไปฟังยัยหนูพูดนะ ในมือถือไม่มีอะไรเลย ดูสิมีแต่รูปของหนูนากับยัยหนูเต็มไปหมด” พิสุทธิ์ร้อนเนื้อร้อนตัวเหมือนจะเป็นไข้ เขาขอโทรศัพท์จากยัยหนู แล้วรีบเปิดโทรศัพท์ให้น้องดู
“หนูก็ไม่ได้ว่าอะไรพี่สักหน่อย ทำไมพี่เก้าต้องร้อนตัวด้วยคะ” พัชชายิ้มจนแก้มนวลแทบแตก เมื่อพี่เก้าลนลานเปิดมือถือเอารูปภาพของเธอและลูกให้ดู
“หนูนาก็อย่ามองจับผิดพี่สิ” คนกินปูนร้อนท้องในเวลานี้หายใจไม่ทั่วท้อง และคอยแต่จะหลบสายตาของเมียอยู่ตลอด
“นี่ไอ้เก้า ถ้ามึงไม่มีกิ๊กทำไมถึงกลัวขนาดนี้วะ” เอกภพอยากแกล้งเพื่อนจึงพูดขึ้น
“นั่นสิ นี่มึงคิดจะนอกใจเมีย มีผู้หญิงคนใหม่เหรอวะ” ด้านโชคชัยเห็นพิสุทธิ์ทำท่ากลัวเมีย เขาก็พูดเสริมขึ้น
“ไอ้พวกเพื่อนเลว ไม่คิดช่วยก็อย่าพูดพล่อย ๆ ให้กูกับหนูนาทะเลาะกันสิวะ” ครั้งนี้พิสุทธิ์ไม่ได้ว่าเพื่อนเฉย ๆ ขาข้างที่ไม่มีน้องนั่งยกขึ้นจะถีบเพื่อนทั้งสอง
“หนูนา” ด้านโชคชัยหัวเราะชอบใจและไม่หยุดยั่วเพื่อน ครั้งนี้เขาหันไปคุยกับญาติผู้น้องที่เขารักเหมือนน้องสาวในไส้
“คะ” พัชชาขานรับ พร้อมทั้งตีขาของพี่เก้าที่เตะขาของพี่โชคและพี่เอก
“ถ้าไอ้เก้ามันมีกิ๊กจริง หนูนาบอกพี่นะ เดี๋ยวพี่จะจัดการกับมันเอง” โชคชัยยิ้มกวน และยักคิ้วเมื่อได้มองตาถมึงทึงของพิสุทธิ์
“ถ้าพี่เก้ามีผู้หญิงคนใหม่ก็บอกหนูนะ หนูจะหลีกทางให้พี่กับเธอคนนั้นอยู่ด้วยกัน” คนท้องจิตใจไม่ค่อยคงที่ เดี๋ยวดีเดี๋ยวเศร้า และยิ่งได้ฟังพี่โชคพูดก็ทำให้พัชชาหวาดหวั่นหัวใจ
“ไปกันใหญ่แล้วนะหนูนา ไปเชื่อทำไมไอ้บ้าสองตัวนี้” เสียงสั่นเครือเหมือนน้องร้องไห้ ทำให้พิสุทธิ์รีบอุ้มคนท้องให้นั่งบนโซฟาตัวที่เขานั่ง แล้วพี่เก้าก็นั่งคุกเข่าตรงหน้าเธอ
“...” พัชชานิ่งไม่ยอมมองหน้าสามี ซึ่งคนท้องในตอนนี้จิตใจปั่นป่วน ดวงตาคู่งามแดงช้ำน้ำใส ๆ คอยแต่จะไหลจนต้องพยายามกักกั้นน้ำตาไม่ให้ซึมออกมา
“เอ่อ หนูนา พี่ขอโทษ พี่แค่ ละ...” เอกภพไม่ทันได้พูดว่า ‘พี่ล้อไอ้เก้ามันเล่น ไอ้เก้ามันไม่ได้มีผู้หญิงคนใหม่หรอก’ เขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อพิสุทธิ์ตะคอกเสียงดังใส่ว่า
“มึงหยุดพูดไอ้เอก เห็นไหมเมียกูร้องไห้เสียใจก็เพราะพวกมึง” พิสุทธิ์โกรธเพื่อนมากจึงลุกขึ้นยืน มือข้างหนึ่งลูบหน้าชาหนึบแรง ๆ ส่วนอีกข้างชี้หน้าด่าเพื่อนขึ้นมึงขึ้นกูกับเพื่อนต่อหน้าลูกเมีย
“อึกก” พัชชาส่ายหน้าไปมาไม่ยอมรับฟังคำปลอบขวัญของพวกพี่ ๆ
“พวกมึงกลับไปทำงานทำการกันได้แล้ว ขืนอยู่ที่นี่มีหวังเมียกูลูกกูเสียสุขภาพจิตเพราะพวกมึงแน่” พิสุทธิ์ใช้เท้าเขี่ยปลายเท้าของเพื่อนทั้งสอง
“เอ่อ งั้นพวกกูกลับไปทำงานก่อนนะ” โชคชัยพูดเสียงกุก ๆ กัก ๆ ขอโทษน้องสาว และก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืน เขาก็ไม่ลืมสะกิดเอกภพให้ลุกขึ้นตาม
“พี่ขอโทษนะหนูนา” ด้านเอกภพรู้สึกผิดมากที่ทำให้คนท้องเครียดจนหน้าตาหมองหม่น เอกภพจึงเอ่ยคำขอโทษอีกครั้ง
“ไป ๆ พวกมึงรีบไสหัวกลับไปทำงานได้แล้ว” อาการนั่งซึมไม่ยอมพูดของน้อง ทำให้พิสุทธิ์โกรธเพื่อนมาก เขาไล่เพื่อนด้วยการยกเท้าเตะเพื่อนให้ออกจากห้อง
“คืนนี้มึงได้นอนนอกห้องแน่ไอ้เก้า” เอกภพถูกพิสุทธิ์เตะ เขาจึงลูบก้นไปมาและก่อนที่จะเดินออกจากห้องตามโชคชัย เขาก็หันหลังมาพูดยั่วพิสุทธิ์เล่นอีกครั้ง
“ไอ้เพื่อนเลว ปั้นน้ำเป็นตัวใส่ร้ายกูยังไม่พอ ยังจะมาแช่งกูอีกนะ” ก่อนที่เขาจะปิดประตูใส่หน้าเพื่อน พิสุทธิ์กัดฟันจนกรามปูดด่าและยกเท้าถีบเพื่อนทั้งสองอีกครั้ง…
ด้านพัชชาถึงจะเครียดจนหน้าตาซีดเซียวแค่ไหนกับคำพูดของพวกพี่ แต่เมื่อได้ยินเสียงของลูกสาว คนท้องก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นปกติ
“คุณแม่ขา ลูกพีชจะดูการ์ตูนค่ะ” พิชญาเดินถือโทรศัพท์ของคุณพ่อเข้าไปยืนตรงหน้าของคุณแม่
“จะดูเรื่องอะไรคะ” พัชชาอุ้มยัยหนูให้นั่งบนตักของเธอ แล้วถามลูกสาวเมื่อได้เลื่อนหาการ์ตูนในโทรศัพท์ของพี่เก้า
“เงือกน้อยค่ะ” เด็กน้อยพิชญากอดคอแม่ไว้ด้วยแขนข้างเดียว ส่วนอีกข้างก็ช่วยแม่สัมผัสหน้าไอโฟน เลื่อนหาการ์ตูนเรื่องเงือกน้อย
“เลื่อนตรงนี้ดูสิคะ” พัชชาหน้าตาบูดเบี้ยวเริ่มอึดอัดหน่วงตรงท้องโต เมื่อยัยหนูขยับตัวนั่งทับท้อง เธอหอมแก้มลูกแล้วอุ้มแกให้นั่งเบียดสีข้างของเธอ
“หาไม่เจอเลยค่ะ” ยัยหนูทำเสียงจิ๊จ๊ะงอแงเมื่อหาการ์ตูนเรื่องที่ตัวเองอยากดูไม่เจอ
“เอามือถือมานี่มะ เดี๋ยวพ่อหาให้” ด้านพิสุทธิ์เมื่อไล่เพื่อนกลับไปทำงานแล้ว เขาก็รีบเดินมาหาเมียและลูก ซึ่งชายหนุ่มเข้าไปนั่งเบียดเมีย
“ลูกพีชจะดูคนแคระทั้งเจ็ดด้วยค่ะ” เมื่อเอาโทรศัพท์ให้คุณพ่อแล้ว เด็กน้อยพิชญาก็คลานไปนั่งคร่อมบนตักของคุณพ่อ
“อันนี้ได้ไหมคะ” พิสุทธิ์จูบหน้าผากของลูก ดวงตาคู่เข้มก็เหลือบมองเสี้ยวหน้างาม และเมื่อเห็นเมียขยับตัวหนีเขาก็รีบคว้าข้อมือของเธอไว้
“ค่ะ” เด็กน้อยยิ้มยิงฟันเมื่อพ่อหอมแก้ม
“หนูนาจะไปไหนเหรอ” พิสุทธิ์ปล่อยยัยหนูให้นั่งบนเก้าอี้นั่งเดี่ยวฝั่งตรงข้าม แล้วเขาก็ลุกช่วยประคองน้องให้ลุกขึ้นยืน
“หนูจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ” พัชชามือหนึ่งอุ้มท้องโต ส่วนอีกข้างเกาะแขนพี่เก้าไว้ เพราะเธอปวดท้องฉี่จนแทบทนยืนไม่ไหว
“ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม” พิสุทธิ์บอกลูกสาวให้นั่งเล่นอยู่ตรงนี้ ซึ่งยัยหนูก็ทำเพียงแค่พยักหน้าให้ แล้วพี่เก้าก็ประคองเมียพาเดินไปยังประตูห้อง
“หนูไปคนเดียวได้ค่ะ” พัชชายังยืนเกาะแขนของพี่เก้า ใบหน้าที่ซีดเซียวนั้นมีสีสันขึ้น เพราะจิตใจของคนท้องเริ่มดีขึ้น
“ยังโกรธพี่อยู่หรือเปล่า” เพราะน้องสูงเพียงแค่ราวนม ทำให้พิสุทธิ์ต้องยืนกางขาเพื่อให้ดวงหน้าอยู่ในระดับเดียวกันกับใบหน้างามของน้อง
“...” พัชชาไม่ตอบ แต่ใบหน้างามแดงระเรื่อส่ายไปมา บ่งบอกว่าเธอไม่ได้โกรธพี่เก้าเลยสักนิด
“อย่าไปฟังไอ้เอกไอ้โชคพูดนะ พวกมันบ้าชอบใส่ร้ายพี่” พิสุทธิ์กอดเอวท้วมของน้องไว้หลวม ๆ แล้วถือโอกาสจูบปลายจมูกเรียวเล็ก
“อุ๊ย! ซี้ดด!!” พัชชาหน้าตาบูดเบี้ยวร้องครางเมื่อตาหนูดิ้นอย่างรุนแรงอยู่ในท้อง
“หนูนาเป็นอะไร เจ็บท้องเหรอ” พิสุทธิ์ตกใจเมื่อเมียเซมาซบหน้าอก เขาจึงรีบประคองอุ้มคนท้องจนเท้าของน้องลอยเหนือพื้น
“พี่ ลูกดิ้นแรงมากค่ะ แล้วหนูปวดท้องฉี่จะแย่อยู่แล้ว” พัชชาถูกพี่เก้าอุ้มพาไปนั่งหย่อนขาบนโต๊ะทำงาน
“ถ้าเดินไม่ไหว จะฉี่ในห้องนี้ก็ได้นะ เดี๋ยวพี่เอาถังขยะมาให้หนูนานั่งฉี่นะ” พิสุทธิ์ยังยืนคร่อมน้อง เขาหันไปมองถังขยะแล้วเกิดไอเดียขึ้นมาทันที
“พี่เก้าจะบ้าเหรอคะ” พัชชาบ่นให้พี่เก้า เมื่อเขาเดินไปเอาถังขยะที่วางอยู่ข้างโต๊ะทำงาน แล้วพี่เก้าก็เดินกลับมาหาเธอ
“มะ...มานั่งนี่มะ ฉี่แล้วเดี๋ยวพี่จะเอาไปเทในห้องน้ำเอง” พิสุทธิ์อุ้มน้องให้ยืนตรงหน้า แล้วช่วยถอดชุดคลุมท้องเอี๊ยมยีนให้เมีย
“คนบ้า หน้าไม่อาย หนูไม่อยากพูดกับพี่ละ” พัชชากำมือเป็นกำปั้นทุบ ๆ ลงบนหน้าอกแข็งแกร่งหลายที เพราะเธออายเมื่อถูกพี่เก้าจับแก้ผ้า
“ถึงพี่บ้า แต่พี่ก็บ้ารักเธอนะ” พิสุทธิ์พูดบอกรักเมีย พร้อมทั้งยื้อยึดฉุดดึงจะถอดชุดคลุมท้องของน้องเสียให้ได้
“ปล่อยหนูได้แล้วค่ะ หนูอั้นไม่อยู่แล้วนะพี่” พัชชาทำเสียงงอแงบังคับให้เขาใส่ชุดคลุมท้องให้ และสั่งด้วยสายตาดุดันเหมือนแม่เสือให้เขาหลีกทางให้
“อั้นไม่อยู่ก็ฉี่ใส่ถังขยะสิ” พิสุทธิ์ยังตื๊อบอกให้เมียนั่งฉี่ใส่ถังขยะ
“พี่เก้า หนูอายนะ” พัชชาทำเสียงเขียวใส่สามี
“จะอายทำไม พี่เห็นเธอนั่งเยี่ยวนั่งขี้จนชินตาแล้ว มะ...มานั่งตรงนี้มะ” พิสุทธิ์ทำหน้าทะเล้นใส่เมีย เมื่อได้มองตากลมโต
“ไอ้พี่เก้า ไอ้คนหน้าด้าน คนหยาบคาย หลีกทางให้หนูเดี๋ยวนี้” คำพูดของพี่เก้า ทำให้คนท้องตาโตอ้าปากค้าง เธออายจนไม่รู้จะเอาหน้าแดงระเรื่อไปมุดไว้ที่ไหน
“ฮ่า ๆ ๆ ถ้าพี่ไม่ด้านพี่จะได้เธอมาเป็นเมียเหรอฮะ” สีหน้างามสดใสไม่มีร่องรอยว่าจะหวาดระแวงและยิ้มหวานของเมีย ทำให้พิสุทธิ์ยิ้มดีใจ…