21
ไม่มีคำพูดคำใดของไลลาที่ผิด เธอพูดถูกทุกอย่าง แล้วไม่ใช่เธอคนแรกที่พูดกับฟรานเซสโก้เรื่องนี้ อเล็สซานโดรบอกเขาหลายครั้งหลายหน ลิซ่าก็เช่นกัน รวมถึงเพื่อนสนิททั้งสามที่กอดคอกันเที่ยวยามราตรีทุกค่ำคืนก็พูดเรื่องนี้บ่อยๆ จนระยะหลังคร้านจะพูด เป็นคำพูดผ่านหู เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ไม่เคยทำตาม ไม่ใช่สิ ต้องพูดว่าไม่คิดทำมากกว่า
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ เมื่อได้ฟังคำพูดของไลลา ฟรานเซสโก้อยากคิดทำตามที่เธอบอก ด้วยเหตุผลใดมิทราบได้ เขาอยากทำจริงๆ เป็นความต้องการของจิตใจที่อยู่ๆ ก็วิ่งเข้าใส่
“เธอสงสารลูกฉันแน่หรือ”
“ค่ะ ใช่ค่ะ ฉันสงสารอัลบาโร” ไลลาตอบโดยไม่คิด ตอบตามความรู้สึกตัวเอง พอเขาได้รับคำตอบ ฟรานเซสโก้ยิ้มบาง แววตาประกายเจ้าเล่ห์
“เธอบอกว่าอัลบาโรขาดแม่ และกำลังจะขาดพ่อไปอีกคน รวมทั้งเธอก็สงสารลูกชายฉันด้วย งั้นเอาอย่างนี้ดีไหม ฉันทำหน้าที่พ่อ ส่วนเธอก็ทำหน้าที่แม่ คราวนี้แหละอัลบาโรก็จะมีทั้งพ่อและแม่ เป็นครอบครัวสุขสันต์ตามที่อัลบาโรต้องการ”
ไลลารู้สึกว่า ใบหน้าตนเห่อร้อน หัวใจเต้นถี่แรง มีความตื่นเต้น ความเขินอายกับประโยคทีเล่นทีจริงของเขา เธอถูกผู้ชายเกี้ยวพาราศีหลายครั้งหลายหน แต่ไม่มีสักคนที่ทำให้หัวใจนักมวยสาวเป็นเช่นนี้
“ฉันเป็นได้แค่พี่เลี้ยงค่ะ เป็นอย่างอื่นคง...”
“ตกลงตามนี้นะ ฉันเป็นพ่อ เธอเป็นแม่ พรุ่งนี้ตอนสี่โมงฉันจะโทรหาเธอ เราจะไปหาของอร่อยๆ กินกัน แต่ถ้าเธอปฏิเสธ เธอจะกลายเป็นคนที่ทำร้ายจิตใจอัลบาโร เพราะแกไม่ได้ไปกินของอร่อยกับฉัน”
ไลลาหน้างอที่ถูกมัดมือชก เธออยากปฏิเสธแต่ก็ทำไม่ได้ หากทำนั่นหมายความว่า โอกาสที่อัลบาโรได้ทานอาหารกับบิดาเป็นครั้งแรกในรอบห้าปี ไลลาคงไม่ใจร้ายพอจะทำเช่นนั้น แม้ว่าในใจไม่ได้ แล้วเธอเองก็ไม่มีโอกาสปฏิเสธ เนื่องจากฟรานเซสโก้เดินกลับไปห้องพักทันทีที่พูดจบ
“อีตาบ้า มัดมือชกกันชัดๆ”
เธอทำตาเขียวใส่ร่างสูงใหญ่ที่เดินหายเข้าไปในห้อง แต่ภายใต้นัยน์ตาไม่พอใจ ดวงหน้าหวานมีเลือดฝาดจากความขวยเขิน แล้วเผลออมยิ้มไม่รู้ตัว...ยิ้มยามนึกถึงประโยคที่ว่า เขาเป็นพ่อ เธอเป็นแม่
ฟรานเซสโก้ไม่รู้ตัวเช่นกันว่า ขณะที่ตนลุกเดินจากโซฟา ใบหน้าเขาแต้มรอยยิ้ม แล้วไม่รู้ว่าตอนนั้นคิดอะไรอยู่ถึงได้พูดประโยคนั้นออกไป ในสมองอันชาญฉลาดไม่เคยคิดหามารดาให้อัลบาโร เขาชอบชีวิตโสด ไม่ชอบมีพันธะไม่ชอบผูกพันกับใคร แค่มีลูกชายหลงมาก็ทำให้เขารู้สึกว่า มีห่วงรัดคอ หากมีเมีย เขาคงถูกล่ามติดบ้าน ไม่มีอิสระทางความคิดหรือไปไหนมาไหนตามใจชอบ สู้อยู่แบบนี้ดีกว่า มีความสุขกว่ากันเยอะเลย พอรู้ตัวว่าเอ่ยออกไปแบบนั้น ฟรานเซสโก้ไม่คิดว่าอยากตบปากตัวเองที่พูดพล่อย แต่กลับอยากให้เรื่องที่พูดเป็นความจริง
หรือว่าจะอินกับการเดิมพันมากไปหน่อย ในสมองมีแต่เรื่องหาวิธีจีบไลลาให้สำเร็จทันกำหนด และเป็นครั้งแรกที่เขาไม่มีความมั่นใจในตัวเองกับเรื่องจีบหญิง หากเป็นสาวอื่นฟรานเซสโก้คงไม่คิดหนัก ในความรู้สึกเขากล้าๆ กลัวๆ ที่จะแหยมกับไลลา ภาพการชกในวันนั้นยังติดตา หมัดของเธอหนักหน่วง ออกหมัดแต่ละครั้งชัดเจน แม่นยำ ใบหน้าดุดันยามอยู่บนเวที ไลลาดูมีพลัง มีความโหดเหี้ยมมาก นึกถึงแล้วขนแขนเขาลุกพรึบ ทั้งที่นิสัยฟรานเซสโก้ เดอมาร์ซีไม่เคยกลัวใคร หน้าอินทร์หน้าพรหมเขาจัดการเรียบ
ฟรานเซสโก้ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องกลัว พยายามตัดความกลัวออกไปแต่ก็ตัดไม่ขาด สักพักก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวใหม่ ถึงอย่างไรเขาก็ต้องชนะการเดินพัน ต่อให้กลังแค่ไหน เขาก็ไม่หวั่น ไม่อย่างนั้นนอกจากจะเสียงเงินแล้ว ยังเสียหน้าอีกด้วย
แล้วอยู่ๆ แผนการจีบไลลาก็แวบเข้ามาในสมอง มันมาพร้อมกับความต้องการของหัวใจหรืออย่างไรไม่ทราบได้ เมื่อหลุดปากพูดไป ฟรานเซสโก้ยอมรับในคำพูดของตัวเอง พรุ่งนี้เขาจะพาลูกชายไปทานอาหารอิตาลเลี่ยนในห้างสรรพสินค้ากลางกรุงโรม ทำหน้าที่พ่อที่ดีพร้อมกับเดินหน้าจีบไลลาเต็มตัว
เดิมพันครั้งนี้ ฟรานเซสโก้ต้องชนะนั้น
อัลบาโรตื่นเต้นจนมือชื้น หัวใจของเด็กชายเต้นแรง รอยยิ้มไม่เคยห่างไปจากใบหน้า เมื่อรู้ว่า หลังเลิกเรียนบิดาจะพาตนไปทานอาหารด้วย อัลบาโรดีใจกระโดดโลดเต้นยกใหญ่ ถามไลลาซ้ำๆ หลายสิบหนราวกับไม่แน่ใจว่า เรื่องที่ตนได้ยินเป็นเรื่องจริง ซึ่งไลลาไม่มีทีท่ารำคาญกับคำถามซ้ำซากของอัลบาโร เธอกลับยิ้ม มีความสุขตามเด็กชายไปด้วย
“ถึงหรือยังฮะ ขับรถเร็วๆ สิฮะ เดี๋ยวป๊ะป๋าไม่รอ”
อัลบาโรใจร้อน เร่งไลลาให้รีบขับรถเร็วกว่านี้ เด็กชายเกรงว่า หากไปช้าฟรานเซสโก้จะเปลี่ยนใจ
“ใจเย็นๆ ครับ วันนี้อัลบาโรได้กินมื้อเย็นกับป๊ะป๋าแน่นอน แต่อัลบาโรอย่าลืมนะครับว่า ต้องเป็นเด็กดี ป๊ะป๋าจะได้รักและเมตตา”
ไลลาบอกเรื่องนี้ให้เด็กชายรู้ตอนเลิกเรียน เธออยากให้ตัวเองมั่นใจก่อนว่า ฟรานเซสโก้ไม่เลื่อนนัด เธอรอจนกว่าเขาจะโทรมานัดหมายเรื่องเวลาและสถานที่ แล้วจึงบอกนัดสำคัญนี้ให้อัลบาโรรู้ ไลลาไม่อยากให้มีข้อผิดพลาด เพราะหมายถึงสภาพจิตใจของอัลบาโรจะยิ่งแย่ลงไปอีก
“ฮะ ผมจะไม่ดื้อฮะ” เด็กชายรับปาก “ไม่ดื้อกับไลลาด้วยฮะ”
จากเดิมที่คิดว่า ต้องใช้เวลาสักระยะที่ไลลากับอัลบาโรจะปรับตัวเข้าหากัน เป็นพราะอัลบาโรติดลิซ่ามาก ในชีวิตของเด็กชายมีเพียงลิซ่าคนเดียวที่เอาใจใส่ แต่การณ์กลับเป็นว่า การปรับตัวใช้ระยะเวลาเพียงแค่สามวันเท่านั้น เป็นระยะเวลาที่สั้นมาก แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่า ความสุขกำลังวิ่งเข้าหาเด็กขาดความอบอุ่น
“ดีมากครับ” ไลลาหันมายิ้มให้เด้กชาย “ถึงแล้วครับ”
เธอบอกขณะเลี้ยงรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า ตรงไปลาน
จอดรถของสถานที่ที่วันนี้มีลูกค้ามาใช้บริการมากกว่าทุกวัน เธอจึงต้องขึ้นไปจอดชั้น 4A หลังจากนำรถจอดเรียบร้อย ไลลาจูงมืออัลบาโรเดินเข้าไปตัวห้าง ระหว่างที่กำลังเดินไปยังบันไดเลื่อน เสียงของใครคนหนึ่งทักไลลา