EP.08

1056 Words
ตอนที่ 8 ระหว่างการเดินทางจากบ้านมุ่งสู่วัด ยอดรู้สึกคล้ายเรี่ยวแรงหมดหายไปมากกว่าครึ่ง อ่อนล้า โรยแรง บรรดาฝุ่นผงปลิวตลบ บรรยากาศคล้ายวันที่เขาตัดสินใจยุติการเดินทางสู่เส้นทางแห่งบวรพระศาสนา ความมืดเริ่มโรยตัวมาบ้างแล้ว อาทิตย์ล้าแสงเต็มที ลมร้อนแผดเผา ใบไม้แห้งร่วงหล่นตกถึงพื้น วัดตั้งตะคุ่มอยู่ในม่านสลัว ในขณะกุฏิหลวงตาสายอยู่เยื้องถัดไป บนกุฏิจุดไฟสว่างคล้ายรอคอยการมาถึงของยอด เด็กหนุ่มวัยยังไม่ถึงยี่สิบปีเต็ม แต่ต้องรับหน้าที่บิดาหมาดๆ เดินขึ้นไปบนกุฏิส่งเสียงถามหลวงตา บอกถึงการมาถึงของตนแล้วขยับเข้าไปนั่งกราบตรงหน้าพระคุณเจ้า “คลอดแล้วหรือ ไอ้ยอด...” “ขอรับหลวงตา ผมไม่คิดว่าลูกของดอกสร้อยมันจะคลอดวันนี้” “วันแรง ยามแรง เดือนแรง ปีแรง” “ลูกของดอกสร้อย...” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงบางเบา ท้ายเสียงคล้ายหลุดหายไปกับลำคอ รู้ทั้งรู้ว่านั่นไม่ใช่ลูกของตน ยิ่งมาเกิดตรงวันที่หลวงตาบอกว่าแรงเอาการ จึงอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ “มันจะชนะทุกอย่าง หากอยู่ในที่ดีก็ดี แต่หากอยู่ในที่ไม่ดีก็จะไม่ดี” “หลวงตา” เขาอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ ก่อนหน้าเคยเสวนากับหลวงตาเรื่องนี้แล้ว คราวเมื่อรู้ว่าลูกของดอกสร้อยจะเกิดในช่วงวันแรงเดือนแรงปีแรง แล้วทุกอย่างก็เป็นจริงเมื่อถึงคราววาระการลืมตาดูโลกของเด็กน้อย “เด็กมันไม่ผิด อยู่ที่การอบรมเลี้ยงดู ให้มันอยู่ใกล้วัดเข้าไว้ก็แล้วกัน...” หลวงตาดึงกระดานชนวนออกมาคำนวณดวงชะตา หมายกำหนดทิศทางแห่งชะตาชีวิตของเด็กน้อย “ให้มันชื่อสุธนก็แล้วกัน ให้มันอายุมั่นขวัญยืน...” แกจดกระดาษซึ่งวาดผังดวงชะตาของเด็กน้อยแล้วส่งให้กับยอดไปตรวจดูคร่าวๆ เมื่อเขาดูจนเรียบร้อยแล้วจึงก้มลงกราบ “ไปดูลูกดูเมียเถอะ ไอ้ยอด...” เวลาผ่านไป เด็กชายสุธนเติบโตมากับรั้ววัดรั้ววา แต่ดูเหมือนว่าความสงบร่มเย็นกลับไม่ได้ขัดเกลานิสัยส่วนลึกที่มาจากกมลของเด็กชายสุธนแม้สักน้อย เด็กชายสุธนกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มเด็กวัด ในการลักลอบออกไปเที่ยวกลางคืน แม้กระทั่งกลั่นแกล้งเด็กชายหญิงจากในหมู่บ้านด้วยความสนุกสนานเฮฮา พอหลวงตาสายทราบเรื่อง ได้เรียกไปตักเตือน กลับกลายเป็นว่าสร้างความไม่พอใจให้กับเด็กน้อย ยามใดที่ได้เข้าใกล้หลวงตาสาย เด็กชายสุธนมักแสดงท่าทางเกลียดหลวงตาอย่างเห็นได้ชัด และนั่นยิ่งชัดแจ้งเมื่อในเวลาต่อมา ยอดตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะเดินทางมุ่งสู่บวรแห่งพระศาสนา เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างความไม่พอใจให้กับดอกสร้อย รวมไปถึงเด็กชายสุธนร่วมด้วย นั่นเพราะเขาเหมือนรู้สึกว่าหลวงตาสาย แย่งทุกอย่างไปจากเขา แม้กระทั่งบิดา “พ่อหนีไปบวช...” เขาปรารภกับมารดา เมื่อคราวรู้ว่าบิดากำลังจะมุ่งหน้าเดินทางไกล ดอกสร้อยน้ำตาคลอ รู้ว่าครั้งนี้ไม่อาจฉุดรั้งยอดได้อีกต่อไป จึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับอย่างไม่อาจเรียกร้องอันใดอีก “พ่อเขาหนีพวกเราไปแล้วล่ะ” เธอว่าทั้งน้ำตาที่นองหน้า “เพราะไอ้หลวงตาสายแท้ๆ พ่อถึงทิ้งพวกเรา” “อย่าไปว่าแบบนั้นเลยสุธน” มารดาลูบศีรษะบุตรชายวัยแปดขวบ ซึ่งโตพอที่จะรู้ความบ้างแล้ว “ก็มันจริงนี่แม่ หลวงตาแย่งพ่อยอดไปจากฉัน ฉันไม่ยอม” แววตาเคียดแค้นชิงชังลุกโชน แม้กระทั่งดอกสร้อยเองที่มองลึกเข้าไปยังดวงตาของเด็กน้อย ก็ยังนึกคร้ามกลัว ในแววตานั้นไม่ได้เป็นแววตาแห่งความไร้เดียงสา แต่เป็นแววตาคมกล้าต้องการเอาชนะเหมือนแววตาพ่อของเขา แล้วใบหน้าของสินก็ทับซ้อนบนใบหน้าของสุธน เด็กน้อยเหมือนพ่อของเขาทุกอย่าง เหมือนแม้แต่เธอเองยังคิดว่าคนรอบข้างคงรู้มาคร่าวๆ แล้วว่าลูกชายของเธอ ไม่ใช่ลูกของยอด และหลวงตาสายก็คงรับรู้ไม่ต่างกัน ถึงได้มีถ้อยคำตักเตือนเธออยู่หลายครั้ง เช่นกัน มันคงจะเป็นการตัดสินใจอันเด็ดขาดของยอด ที่ต้องการละทิ้งทุกอย่างไป เมื่อมองหน้าของสุธนทีไร จึงเสมือนมีดแหลมคมกรีดเนื้อของเขาทุกครั้งไป เธอผิดเอง ผิดที่เห็นแก่ตัว ผิดที่ไม่ยอมรับความจริงว่า แท้จริงแล้วยอดเจ็บปวดมากเพียงไร ยิ่งรั้งเขาไว้มากเท่าใด ก็เหมือนฆ่าเขาเร็วขึ้นมากเท่านั้น ในวันที่ยอดตัดสินใจบวชครั้งนั้น เธอน่าจะใจกว้างปล่อยเขาไป ไม่ควรดึงเขาเข้ามาสู่กระแสแห่งกรรมอันหนักหนานี้เลย สุธนเข้าใจแล้วว่ายอดคือบิดา และการที่เขาตัดสินใจหนีไปบวชอีกรอบ นั่นคือความจริงที่ควรจะเป็น แถมสุธนยังคิดว่าหลวงตาสายแย่งความรักบิดาจากเขาไป จนกลายเป็นว่าเด็กน้อยที่ไร้เดียงสา คิดและทำอะไรลงไปอย่างไม่รู้ข้อเท็จจริง “พ่อเขาตัดสินใจดีแล้ว เราควรจะยินดีนะลูก” สุธนล้มตัวลงนอนกับตักของมารดา ในขณะที่ดอกสร้อยลูบหัวของลูกอย่างแสนรัก “พ่อจะบวชนานไหม...” “ไม่รู้ แม่ไม่รู้อะไรทั้งนั้น...” เธอระบายลมหายใจออกมา “เราเหลือกันแค่สองคนแล้วนะลูก เราเหลือกันแค่สองคนแล้ว...” “แม่...ฉันจะรีบโต ฉันจะดูแลแม่เอง ส่วนไอ้คนเห็นแก่ตัว ให้มันตายในผ้าเหลืองนั่นแหละ ฉันเกลียดมัน เกลียดหลวงตาสายด้วย...” เด็กน้อยประกาศกร้าว รู้สึกโลกทั้งใบของตนแคบเหลือแค่หน้าเรือน บนโลกใบนี้โหดร้าย ทุกคนต่างดูถูกดูแคลนเขา ยิ่งสายตาของหลวงตาสายยามมองมา ไม่ได้เป็นมิตรกับเขาเอาเสียเลย บัดนี้ไอ้โล้นเฒ่านั่นมันแย่งพ่อของเขาไปแล้ว นั่นจึงยิ่งเป็นเสมือนประกาศศัตรูกับเขาอย่างเต็มตัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD