ตอนที่ 5

1178 Words
          “อูย... ดอกเตอร์น่ะเหรอคะมีเรื่องจะปรึกษาเอกกี้ รู้ไปถึงนังชะนีตัวไหน มันคงได้ร้องโหยหวนกันบ้าง”           ทิเบตละความสนใจมาที่เจ้าของเสียงใส่จริตอีกครั้ง ยิ้มเมื่อได้ฟังคำเหน็บเจ็บๆ คันๆ จากเพื่อน แม้เขาจะรับได้ที่เพื่อนเป็นแบบนี้ แต่จะให้ทำใจไปเรียกว่า ‘เอกกี้’ อย่างที่เอกรัตน์ต้องการก็คงไม่ได้ เพราะสำหรับเขา เอกรัตน์ก็ยังเป็นผู้ชายคนหนึ่ง นอกเสียจากเอกรัตน์จะตัดสินใจแปลงเพศให้เป็นเรื่องเป็นราวไป           “หึหึหึ... แล้วว่างจะฟังไหมล่ะ”           “นั่นขึ้นอยู่ที่ว่า ดอกเตอร์จะกล้ามาหาเอกกี้คืนนี้หรือเปล่า อิอิ...”           “โอว... ไม่ล่ะ ตามสบายเถอะ คืนนี้คงไม่เหมาะ โอเค... พรุ่งนี้ดึกๆ เจอกัน อย่าหักโหมนักล่ะ มดลูกเคลื่อนไปจะยุ่ง หึหึหึ...”           ทิเบตอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงวี้ดว้ายกรี๊ดกร๊าดของเอกรัตน์ดังลั่นออกมา ใจจริงเขาอยากจะออกไปหาเอกรัตน์เสียในคืนนี้ เพราะรู้ดีว่าวารุณีคงจะร้อนใจเต็มที่ แม้เธอจะบอกว่าจะรอคอยคำแนะนำจากเขาก็ตาม แต่เพราะว่าคืนนี้เป็นคืนวาเลนไทน์ เอกรัตน์คงไม่พลาดที่จะมีนัดปาร์ตี้กับบรรดาเพื่อนๆ ซึ่งเขาคงไม่กล้าไปแน่ เพราะไม่อยากเป็นอาหารตาและอาหารมือสำหรับสาวแท้และสาวเทียมเหล่านั้น           ที่สำคัญเอกรัตน์คงต้องแกล้งหยอกเย้าเขาว่าเป็นแฟนหนุ่มสุดเลิฟที่มาหาตามหัวใจเรียกร้องซึ่งกันและกันแน่ เขายังไม่อยากยันฝ่าเท้าใส่เพื่อนรักในวันแห่งความรักซะก่อน วันเวลาจึงเปลี่ยนเป็นคืนพรุ่งนี้ดูจะเหมาะสุด           แก๊ก... แก๊ก... แก๊ก...           เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นคอนกรีตในจังหวะเอื่อยเฉื่อยเชื่องช้าทำให้สายตาหลายคู่ของผู้ร่วมคอนโดฯ ต่างพุ่งตรงไปยังเจ้าของร่างสูงโปร่งนั้นเป็นจุดเดียว และเสียงที่ได้ยินก็ช่างเข้ากับสภาพของเจ้าของเสียงซะเหลือเกิน ที่แม้จะอยู่ในชุดเดรสตัวยาวกรอมเท้าและมีเสื้อสูทตัวสั้นสวมทับอีกชั้นแต่เธอก็ยังสามารถสร้างบรรยากาศมาคุได้รอบตัว           ใบหน้าสวยแต่อิดโรยก้มต่ำมองแค่พื้น ดั่งว่าบนพื้นคอนกรีตนั้นมีสิ่งที่น่าพิสมัยมากกว่าสิ่งอื่นที่เธอจะเงยหน้ามอง           ทว่าสัดส่วนกระแทกใจชายไม่ว่าช่วงบนหรือช่วงล่างก็กลายเป็นสิ่งดึงดูดสายตาผู้คนได้ทันที แม้จะสวมใส่เสื้อผ้าปกปิดมิดชิดถึงขนาดนั้น แต่ก็ห้ามสายตาสอดส่ายมองหาความมโหฬารนั้นไปไม่พ้น           ทว่าหลายสายตาก็ต่างความคิด บ้างก็ชื่นชมปนกระสันอยากจะใกล้ชิด บ้างก็หมั่นไส้ที่แม่ไม่รักให้เธอมาน้อยเสียจนเป็นปมด้อย บ้างก็มองอย่างสงสัยว่าสาวสวยหุ่น ‘เนื้อ นม ไข่’ ทำไมกลับมาแบบหมดสภาพเป็นนกปีกหักอย่างนี้ และก็มีบ้างที่เก็บกดความอิจฉาไว้ไม่มิด ส่งสายตาดูแคลนราวกับว่าเจ้าของสัดส่วนนั้นใช้ร่างกายมากจนโทรม           “มองอะไร! ไม่เคยเห็นคนตกงานหรือไง!”           เสียงตวาดแว้ดพร้อมดวงตาขวางๆ ปานจะกระโดดกัดคอคนมอง ทำให้สายตาทุกคู่ที่จ้องมองเธออยู่บริเวณร้านค้าด้านล่างของคอนโดฯ ต้องหันมองไปทางอื่นอย่างพร้อมเพรียง แต่แค่เพียงร่างหมดแรงจากการเดินหางานตลอดทั้งวันผลุบหายเข้าไปในลิฟต์ บรรดาขาเม้าท์ก็หันหน้าจับกลุ่มกันต่อในทันที           “นังนมโต ตกงานอีกแล้วแก แหม... ตอนแรกฉันคิดว่าหล่อนโดนโทรมมาเสียอีก ดูสภาพสิ... ดูไม่ได้เลย” คนพูดเบะปาก ดวงตาบ่งบอกความอิจฉามากกว่าจะสมเพชเวทนา           “แกว่าไหม ว่านังนี่ต้องผิดปกติอะไรสักอย่าง ตกงานบ่อยมาก...” สาวประเภทสองนางหนึ่งลากเสียงยาวเกินพิกัด ให้รู้กันทั่วว่ามันน่าสงสัยจริงๆ           “แล้วนมไม่ได้ช่วยอะไรหล่อนเลยเหรอไง เป็นฉันหน่อยไม่ได้ จะใช้นมไต่เต้าขึ้นไปให้ได้ในทุกสิ่งที่ปรารถนา” เพื่อนสาวลอยหน้าลอยตาพูด แสดงความหมั่นไส้ฉายชัดออกมาจากแววตา เหมือนว่าคนที่เอ่ยถึงนั้นยังยืนให้พูดส่อเสียดอยู่ตรงหน้า ทั้งที่สัญญาณไฟด้านหน้าลิฟต์บอกว่าหล่อนไปถึงแล้วจุดหมาย           “ก็ว่าไม่ได้นะ ถ้านมใหญ่แต่ไม่รู้จักขมิบ ไต่เก่งยังไงมันก็คงจะลื่นปรื้ดๆ ตกลงมาตายอยู่ดี”           “อิอิ... แกพูดถูกใจมาก...”           กลุ่มสาวประเภทสองหัวเราะคิกคักจับกลุ่มเม้าท์ต่อ ไม่รู้สักนิดว่าหัวข้อสนทนาของพวกเธอไม่ได้อยาก ‘นมโต’ และก็ยังไม่ต้องหัด ‘ขมิบ’ อย่างที่พวกเธอพูดด้วย และในเวลานี้บงกชก็กำลังอยู่ในอารมณ์หงุดหงิดสุดๆ เพราะวันนี้เธอต้องตระเวนไปสัมภาษณ์งานถึง 5 บริษัทด้วยกัน แต่ไม่มีที่ไหนเลยที่รับเธอ จริงๆ แล้วต้องพูดว่าไม่มีที่ไหนเลยที่ไม่สนใจหน้าอกของเธอต่างหาก           ถ้าไม่จ้องมองหน้าอกของเธอแบบว่าอยากจะเอาหน้าลงไปคลุกวงใน เจ้าหน้าที่ก็จะแนะนำให้เธอไปสมัครงานในตำแหน่งประชาสัมพันธ์เพราะจะได้ใช้ความสวยให้เป็นประโยชน์ แต่นั่นมันไม่ใช่สิ่งที่เธออยากทำนี่ เธออยากทำงานที่ใช้ความสามารถ ไม่ใช่งานที่ใช้แค่นมนำทางเท่านั้น เพราะถ้าเธอทำแบบนั้นมันจะต่างอะไรกับฉายาที่เจนนี่ตั้งให้           ‘นมดึงดูด... งานไหนงานนั้น ถ้ามีนมแกไปนะบัว รับรองผ่านฉลุย’           “เฮ้อ! จะมีบ้างไหม สักที่ที่จะไม่มองนมฉัน!! เบื่อโว้ย! เบื่อ!”           บงกชเหวี่ยงกระเป๋าสะพายขึ้นเตียงก่อนจะทิ้งกายลงอย่างเหนื่อยหน่ายเต็มที ตามองกระเป๋าผ้ากระสอบใบโตที่วางชิดอยู่ริมห้องก่อนจะปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง ลูกตาดำขลับกลอกไปมาอย่างครุ่นคิดอยู่ภายในเปลือกตาหนาที่ประดับไว้ด้วยแพขนตางอนงามแม้ไม่ต้องดัด หัวคิ้วเรียวสวยดุจมงกุฎของใบหน้าขมวดมุ่นตัดสินใจไม่ตก ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ พร้อมเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง           “หรือว่าจะไปขายของเหมือนเดิม”           ของที่บรรจุอยู่ในกระเป๋าผ้ากระสอบลายทางแดงสลับเขียวนั้นคือ บรรดากิ๊บติดผมสารพัดแบบสารพัดสีที่เธออุตส่าห์ไปเดินหาซื้อที่สำเพ็ง ก่อนจะนำมาบรรจุใส่ถุงใสและติดโบน่ารักหลากสี เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ตามแนวการตลาดที่เธอได้เรียนมา แต่มันจะดีกว่านี้ไหมหากเธอจะได้ใช้ความรู้ที่อุตส่าห์เพียรเรียนให้จบให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้ ไม่ใช่เรียนมาแทบตายเพื่อมาขายของตลาดนัด 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD