สองวันต่อมา...
ในเวลาอันเช้าตรู่ เอวาเดินทางมาที่วัดใกล้กับที่พัก เธอมาทำบุญให้กับคุณแม่และคุณยาย หญิงสาวนั่งพนมมือรับพรจากหลวงตาก่อนจะก้มลงกราบแล้วยิ้มออกมาบางๆ
"มาทุกอาทิตย์เลยนะ คุณแม่กับคุณยายคงอิ่มบุญ"
"หนูก็เหมือนคนอยู่ตัวคนเดียวค่ะหลวงตา วันๆก็อยู่ที่ทำงาน อยู่ในห้องนอนแล้วก็มาทำบุญวัด ชีวิตมีแค่นี้แหละค่ะ"
หลวงตายิ้มออกมาอย่างเอ็นดูเด็กสาว เห็นมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยใหม่ๆจนมาถึงตอนนี้นิสัยยังน่ารักไม่มีเปลี่ยน เอวาเป็นเด็กที่ชอบทำบุญ คิดดีทำดีไม่เคยคิดร้ายกับใคร ขยันอดทนใครได้ไปเป็นคู่ชีวิตถือว่าคนนั้นโชคดีสุดๆ
"หนูเป็นเด็กดีสักวันหนึ่งจะได้สิ่งดีๆตอบแทน"
"หนูไม่หวังอะไรหรอกค่ะ ขอแค่ตอนนี้หาเงินให้ได้มากที่สุดแล้วก็ชดใช้บุญคุณให้หมดไป หนูอยากเป็นอิสระสักทีค่ะ"
เอวาเอ่ยออกมาเสียงเศร้า ไม่ใช่ว่าเธอไม่สำนึกในบุญคุณของคุณป้า แต่บ้านที่คุณแม่กับคุณยายอยู่ท่านก็เอาไปขายทิ้ง เงินเธอก็ไม่ได้ส่วนแบ่งอะไรสักบาทเดียว และตอนที่อยู่บ้านกับคุณป้าเธอช่วยงานบ้านทุกอย่าง ออกไปทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนทุกวันไม่พอยังให้เงินท่านอีกจนถึงตอนนี้ก็หลายปีแล้วท่านยังคงขอเงินจากเธอเสมอ จะบอกว่าเธออกตัญญูก็ไม่เต็มปากนักและที่ให้เพราะสงสารลูกของป้าซึ่งก็คือน้องของเธอคนหนึ่ง ถ้าไม่ให้ก็คงไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่รู้ว่าป้าเอาเงินที่ขายบ้านไปทำอะไรหมด ถ้าเดาไม่ผิดคงให้ลูกชายคนโตนั้นแหละ
"หนูให้มากที่สุดเท่าที่จะให้ได้แล้วเอวา ให้มากเกินไปด้วยซ้ำ หนูบอกว่าได้งานใหม่แล้วใช่มั้ยหลังจากนี้ตั้งใจเก็บเงินซื้อบ้านซื้อรถของตัวเอง ส่วนป้าให้เท่าที่ไหว เราต้องมีของตัวเองบ้างนะไม่ใช่ให้คนอื่นหมดแต่ตัวเองเดือดร้อนแบบนี้"
"ค่ะหลวงตา เอวาจะไม่บอกคุณป้าว่าได้งานใหม่ไม่อย่างนั้นจะต้องขอเพิ่มอีกแน่ เอวาจะให้แค่เดือนละหมื่นเดียวค่ะ"
"ไม่ใช่พูดอย่างเดียวนะต้องใจแข็งด้วยล่ะ"
เอวายิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะกราบขอบคุณหลวงตาที่คุยเป็นเพื่อนเธอและเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้เสมอ
"งั้นเอวาไปรายงานตัวที่ทำงานก่อนนะคะ แล้วจะมาใหม่ค่ะ"
"ไปเถอะโชคดีนะเอวา"
เอวายิ้มออกมาก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากตรงนั้น เธอเอาน้ำไปกรวดตรงต้นไม้ใหญ่มองน้ำที่ไหลลงพื้นร่วงไปจนหมดก็เอ่ยออกมาเสียงหวาน
"ถ้าคุณแม่กับคุณยายอยู่คงจะดี เป็นกำลังใจให้เอวาด้วยนะคะ"
หลังจากนั้นเธอก็นั่งรถเมล์เดินทางมาที่โรงแรมสุดสิริ วันนี้ทางแผนกบุคคลนัดให้เธอมารายงานตัวเข้าทำงาน แต่เวลาเริ่มงานเห็นว่าอีกสักสองเดือนมั่งระหว่างนี้เธอคงต้องทำงานที่เดิมไปก่อน
"สวัสดีค่ะ เอวาค่ะ"
"สวัสดีค่ะคุณเอวา มารายงานตัวนะคะเชิญนั่นก่อนค่ะ"
"ขอบคุณค่ะ"
หญิงสาวนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่าง เซ็นสัญญาการเข้าทำงานที่โรงแรมในตำแหน่งเลขาของท่านประธาน รับฟังขั้นตอนของการเข้ามาเป็นพนักงานที่นี่อย่างตั้งใจ มีชุดยูนิฟอร์มให้ด้วยแบบนี้ก็ดีนะเธอจะได้ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อชุดมาใส่อีก
"ตำแหน่งเลขาของท่านประธาน การแต่งกายไม่ต้องชุดยูนิฟอร์มก็ได้นะคะ ท่านประธานแจ้งมาว่าแต่งให้ดูดีเท่านั้นก็พอค่ะ"
"อ่อ ค่ะ"
เธอพยักหน้ารับฟังอย่างตั้งใจ ดูจะเป็นอิสระดีนะไม่มีกฎระเบียบอะไรให้วุ่นวายสำหรับตำแหน่งนี้ ส่วนรายละเอียดงานเลขาเห็นบอกว่าท่านประธานจะมาคุยเองเธอจึงยังไม่ทราบอะไรมาก
"มีอะไรจะถามเพิ่มเติมมั้ยคะ"
"ไม่มีค่ะ ว่าแต่เรื่องเริ่มงาน..."
"พรุ่งนี้ท่านประธานให้มาพบที่นี่ตอนสิบโมงเช้า เห็นว่าจะคุยเรื่องการเริ่มงานแล้วก็รายละเอียดงานต่างๆค่ะ ทำตัวสบายๆนะคะคุณธารันใจดีมากไม่ต้องเกร็ง คุณเอวาจะมีความสุขที่ได้ทำงานที่นี่"
หัวหน้าแผนกบุคคลยิ้มออกมาอย่างให้กำลังใจ พี่น้องสามคนนี้ใจดีทุกคนและคุณธารันก็เป็นคนที่ทำงานสบายๆไม่เรื่องมาก ใครได้ทำงานด้วยบอกเลยว่าถูกใจทุกคน
"ขอบคุณนะคะ เอวาจะตั้งใจทำงานให้เต็มที่เลยค่ะ"
"คุณธารันชอบคนขยัน ชอบคนเก่ง พี่คิดว่าเอวาเหมาะสมที่สุดนะ"
เอวายิ้มออกมาก่อนจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ พรุ่งนี้จะได้เจอกับท่านประธานอีกครั้งสินะ ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรนะตื่นเต้นจัง เธอไม่เคยทำงานในบริษัทใหญ่ขนาดนี้มาก่อนในชีวิต หวังว่าที่นี่จะทำให้เธอทำงานอย่างมีความสุขที่สุด...
วันต่อมาเธอเดินทางมาที่โรงแรมในช่วงเวลาที่นัดกับท่านประธานไว้ เธอมาก่อนเวลานัดยี่สิบนาทีเพราะกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุอาจจะทำให้การเดินทางล่าช้า จึงต้องออกมาก่อนเวลา เอวาเจอกับคุณลุงรปภหน้าทางเข้าออฟฟิศก็ยกมือไหว้ทักทายเสียงใส
"สวัสดีค่ะคุณลุง"
"สวัสดีครับคุณหนูคนใจดีนี่นา"
"หนูชื่อเอวาค่ะลุง มาทำงานที่นี่ค่ะ"
ลุงอินยิ้มออกมาทันที เด็กคนนี้นิสัยดีน่ารักมารยาทดีมาก วันนั้นยังภาวนาขอให้ได้งานอยู่เลยคนดีแบบนี้ควรจะได้ทำงานในที่ดีๆแบบนี้แหละถึงจะเหมาะสม
"ลุงดีใจด้วยนะที่ได้งานแล้ว รีบเข้าไปเถอะเดี๋ยวสาย"
"ค่ะคุณลุง"
หญิงสาวยิ้มออกมาก่อนจะเดินเข้าไปข้างในด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอหยุดชะงักไปก่อนจะขยับถอยออกมาเมื่อบังเอิญเจอท่านประธานกำลังจะขึ้นลิฟต์เช่นกัน
"สวัสดีค่ะท่านประธาน"
"สวัสดีครับคุณเอวา ทำไมอยู่ห่างผมแบบนั้นล่ะ ผมไม่กัดนะ"
หญิงสาวได้ยินแบบนี้รีบปฏิเสธทันที เธอไม่ได้กลัวเขาแต่ว่าเธอเกรงใจ เขาเป็นเจ้านายเธอไม่ควรไปยืนเสมอกับท่าน
"เอวาไม่ได้คิดแบบนั้นนะคะ แต่ว่าจะให้เอวาไปยืนเทียบท่านประธานมันจะดูไม่เหมาะ"
ธารันมองหญิงสาวก่อนจะอมยิ้มมุมปาก น่ารักเสียจริงผู้หญิงอะไร ยิ่งรู้จักยิ่งชอบไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
"ผมไม่ถือจะคิดมากทำไม อย่าลืมสิว่าคุณเป็นเลขาผมนะ เลขาต้องยืนเคียงข้างท่านประธานไม่ใช่เหรอ..."
เธอเงยหน้ามองเขาอย่างลำบากใจ ธารันถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินไปใกล้แล้วกุมมือเธอพาเข้าไปขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกัน เอวาทำท่าทางตกใจแต่ก็ไม่กล้าขยับเขยื้อนกลัวจะทำให้เขาไม่ถูกใจ ธารธรเหลือบสายตามองหญิงสาวที่ตอนนี้ยืนตัวเกร็งเหมือนหุ่นยนต์
"คุณนี่ตลกดีนะ"
"คะ... อะไรนะคะ"
"เปล่า ไม่มีอะไร ป่ะเข้าไปในห้องทำงานกัน"
เขายิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินนำเธอออกไปก่อน ไม่รู้ว่าโตมายังไงถึงได้เป็นคนแบบนี้ สงสัยวันนี้คงต้องสัมภาษณ์เรื่องส่วนตัวสักหน่อย...