ตอนที่ 8 ดวงตาสีฟ้า

1660 Words
ผ่านไปหลายวัน โคลินยังคงทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเช่นเดิม คราวนี้เขาไม่แตะแอลกอฮอล์ทุกชนิด เผื่อว่าวันดีคืนดีช่วงคาบเกี่ยวโผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัว อย่างน้อยเขาควรจะมีสติครบถ้วน โคลินยังนึกว่าตอนนั้นโชคดีมาก ที่จู่ ๆ ปีศาจเขาเดียวก็หายไปจากที่ตรงนั้น เขาส่ายหน้าแล้วรีบวิ่งถือกล่องเค้กกลับบ้านที่ห่างไปหนึ่งป้ายรถเมล์ อาเมเลีย เค้กช็อกโกแลตแบบแยกชั้นมันไหลมารวมกันหมดแล้วแน่เลย โคลินนึกถึงสีหน้าพี่สาวที่เห็นสภาพเค้กวันเกิดของตัวเอง โคลินวิ่งเร็วสุดฝีเท้าเพื่อกลับบ้านให้เร็วที่สุด ทว่า ขาท่อนใหญ่ข้างหนึ่งกำลังก้าวออกมาจากมิติทับซ้อน โคลินแทบจะเบรกขาตัวเองไม่ทันจนเค้กที่อยู่ด้านในกระแทกกล่องดังตุ้บ อีกแล้วเหรอ เขาคิดในใจเมื่อเห็นรูปร่างใหญ่โตกับเขาแหลมของปีศาจตัวนี้ “เจอกันอีกแล้ว” เสียงจากปีศาจตาเดียวทักทายเหยื่อของมัน “หืม พูดได้?” โคลินสงสัยเพราะที่ผ่านมาเจอแต่ปีศาจระดับล่างที่ไม่มีความรู้สึกนึกคิด ฮ่า ฮ่า ฮ่า เสียงหัวเราะของมันดังก้อง โคลินไม่รอช้ารีบวิ่งทันทีเพราะไม่อยากต่อกรกับมัน แต่แล้วปีศาจก็ปาขวานเล่มใหญ่เฉียดหัวโคลินไปนิดเดียว เจ้าตัวหลบหลีกได้ทันตามความเคยชิน “ไปไกล ๆ ซะ ผมไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับคุณหรอกนะ” โคลินปราดตามองแปปเดียวก็รู้ว่าปีศาจตนนี้มีพลังมหาศาล เขาประเมินแล้วว่าไม่ควรเอาตัวเข้าไปเสี่ยง หากแต่มันไม่คิดเช่นนั้น เวลานี้สนใจดวงตาสีฟ้าของโคลินยิ่งกว่าอะไร จึงคิดจะเอามาเป็นของตัวเอง ซึ่งมันเล็งเอาไว้ตั้งแต่ครั้งที่แล้ว เสียดายที่ถูกใครบางคนขัดขวางไว้ก่อน “จะหนีไปไหน ไม่มีใครหนีข้าพ้นหรอก มานี่มา มาให้ข้าจับกินดีกว่า” ปีศาจตาเดียวพูดข่มโคลินเหมือนหมาป่ากำลังจับหนูน้อยหมวกแดง กลิ่นอายปีศาจแผ่กระจายจนโคลินรู้สึกคลื่นเ**ยน ขณะที่กำลังวิ่งหนี จู่ ๆ ก็ได้กลิ่นของดอกไซคลาเมนเย็นยะเยือกลอยโชยมาพร้อมวงแหวนสีแดงวงหนึ่งขยายใหญ่ขึ้น หญิงสาวผู้หนึ่งก้าวออกมาจากมิติขุมนรก ขว้างเคียวมรณาเกี่ยวตัวของปีศาจตาเดียวเอาไว้ “ราล์ฟ เจ้าไม่ควรโผล่มาโลกมนุษย์เลยนะ” เธอพูดกับปีศาจตาเดียว ปีศาจก็มีชื่อด้วยเหรอ โคลินนึกในใจพลางหันมามองยมทูตเงาผู้นี้ ใครอ่ะ ดูเหมือนว่าจะมีอีกหลายเรื่องที่โคลินไม่รู้ แต่ตอนนี้เอาชีวิตตัวเองให้รอดจะดีกว่า ชิ้ง เสียงของอาวุธจากทั้งสองฝ่ายกระทบกัน การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว พวกเขาต่างฟาดฟันอาวุธใส่กันอย่างไม่ยั้งมือ ครั้นโคลินจะย่องหนีก็โดนหางของปีศาจเกี่ยวขาเอาไว้จนต้องเรียกดาบเงินของตัวเองออกมาตัดหางมัน เขาวางกล่องเค้กไว้ข้าง ๆ ก่อนจะหันไปจับหางปีศาจแล้วฟันดาบลงมาตรง ๆ ทว่า ปีศาจตนนี้ไม่ใช่ปีศาจดาษดื่นทั่วไป มันมีทั้งความคิดและพลังที่แข็งกล้า หางที่ใช้รัดเกี่ยวเขาเอาไว้คงจะเป็นอาวุธอีกอย่าง โคลินจึงไม่อาจตัดหางมันให้ขาดได้โดยง่าย กระนั้นเขาก็ไม่ย่อท้อ ตั้งใจฟันลงไปที่รอยเดิมอยู่หลายครั้ง ดูเหมือนว่าดาบเงินของโคลินจะทำให้มันจั๊กจี้ไม่น้อย จึงเหวี่ยงร่างของโคลินไปทางซ้ายทีขวาทีจนเสื้อผ้าผมเผ้าคลุกฝุ่นเปรอะเปื้อนแขนขาเป็นรอยถลอกมีเลือดไหลซึมหลายแห่ง การต่อสู้ระหว่างยมทูตเงากับปีศาจพ่วงด้วยการ์เดี้ยนที่ช่วยตัดหางมันกินเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง แต่ละฝ่ายไม่มีท่าทีเหนื่อยล้าแม้แต่น้อย ยกเว้นโคลินที่เริ่มปวดแขนข้างที่จับดาบ การที่เขาพยายามตัดหางของมันกลับทำให้เกิดเป็นเพียงรอยขีดข่วนเล็ก ๆ เท่านั้น พรึ่บ วงแหวนสีแดงวงหนึ่งกับวงแหวนสีขาวปรากฏขึ้นพร้อมกัน กลิ่นไซคลาเมนกับกลิ่นกุหลาบขาวสามารถกลบกลิ่นปีศาจที่ชวนพะอืดพะอมได้ เขามองไปยังแขกผู้มาเยือน ทันทีที่เห็นหน้าทั้งสองคน โคลินยิ้มกว้างให้พวกเขาในทันที “เซน! มาริอุส!” เขาเรียกทั้งสองคน “ทำไมนายอ่อนปวกเปียกแบบนี้นะ” มาริอุสบ่นทันทีที่เห็นโคลินนั่งหมดแรงมีหางของราล์ฟเกาะที่ขา “ราล์ฟแข็งแกร่งกว่าผมเกินไปต่างหาก” โคลินตอบกลับ “ดาบเงินผมทำอะไรเขาไม่ได้เลย” สีหน้าของโคลินกังวล แต่ไหนแต่ไรเขามักจะจัดการทุกสิ่งอย่างได้หมด เพิ่งจะมีวันนี้ที่พลังของเขาไม่อาจสู้ได้เลย หากไม่มีหญิงสาวคนนั้นโผล่มาช่วย เขาคงจะโดนราล์ฟจับกินแน่นอน “สกาเล็ต คุณใช้เวลานานไปแล้วนะ” มาริอุสเอ่ยปากพร้อมขว้างเคียวตัดหางของราล์ฟเพื่อให้มันปล่อยโคลินได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงมือ ส่วนเซนจับดาบแห่งแสงของตัวเองฟันไปที่เขาของมัน โคลินจับตามองท่วงท่าและวิธีการต่อสู้ของทุกคนอยู่ข้างสนามอย่างเงียบ ๆ ราวกับกำลังดูหนังไซไฟแฟนตาซีแบบสมจริง เศษอิฐหินปูนทรายรากไม้กระเด็นกระดอนไปคนละทาง สภาพแวดล้อมตรงหน้าเขาเละเทะไม่มีชิ้นดี ตระหนักได้ว่าราล์ฟช่างเป็นปีศาจที่ร้ายกาจจริง ๆ “บอกแล้วไงว่าเจ้านี่ไม่ธรรมดา” สกาเล็ตบ่นให้มาริอุส เวลานี้ยมทูตเงาสองตนกับทูตสวรรค์กำลังร่วมมือกันกำจัดศัตรูตามธรรมชาติอย่างสุดกำลัง ราล์ฟคือหนึ่งในลูกสมุนของราชันย์ปีศาจ ว่ากันว่าช่วงคาบเกี่ยวที่เกิดขึ้นไม่ตรงเวลาก็เป็นเพราะฝีมือของเขา พลังมืดที่ได้รับมาจากเจ้านายของมันยิ่งใหญ่นัก และแล้วดวงตาสีฟ้าของโคลินก็มองเห็นอะไรที่แปลกไปจากเดิม จุดวงกลมที่มีแสงสีแดงวูบวาบหลังต้นคอของราล์ฟกำลังเต้นตุบ ๆ เขาจ้องมองมันอยู่พักหนึ่งจนราล์ฟหันขวับมาที่เขา สายตาเฉยชาเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมในทันที ราวกับว่าโคลินล่วงรู้ความลับที่เป็นอันตรายต่อชีวิตมัน ราล์ฟจึงงอกหางด้วน ๆ ออกมาดังเดิมแล้วตวัดหาโคลินหมายจะรัดตัวให้ขาดเป็นสองท่อนก่อนที่เขาจะได้พูดจุดอ่อนนั้นให้คนอื่นฟัง อ๊ากกก! ไม่ทันเสียแล้ว โคลินไม่จำเป็นต้องบอกใครเรื่องนี้ เขาเรียกดาบเงินของตัวเองออกมาแล้วพุ่งตัวไปที่ด้านหลังของราล์ฟในพริบตา จากนั้นลงคมดาบเสือกแทงทะลุไปจนถึงวงกลมสีแดงที่อยู่ข้างใน ทันทีที่จุดตายถูกทำลาย ราล์ฟทรุดเข่าลงกับพื้น ล้มลงหน้าคว่ำกับพื้นก่อนจะสลายหายไป เลือดสีแดงหยดลงพื้นพร้อมเศษหนามแหลมคมจนมาริอุส สังเกตเห็นได้ โคลินสำรวจร่างกายตนเองว่ามีตรงไหนบาดเจ็บหรือไม่เพราะเห็นเลือดแดงไหลนอง แต่แผลถลอกตามแข้งขาของเขามีแค่ซึม ๆ เท่านั้น และมันคงไม่ใช่เลือดของราล์ฟอย่างแน่นอนเพราะเลือดของปีศาจเป็นสีดำ “เจ้านั่นหาเรื่องให้ตัวเองอีกแล้ว” มาริอุสพึมพำ “ใครเหรอครับ” โคลินอยากรู้มานานแล้วว่าเลือดกับเศษจาโซ่หนามนี้เป็นของใคร ทำไมเขาถึงเห็นทุกครั้งที่สู้กับราล์ฟ “จะเป็นใครได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่...” เซนเอื้อมมือมาปิดปากเขาตามเคย “อย่าพูดมาก” เสียงดุของเซนทำให้มาริอุสต้องรีบพยักหน้า หากแต่สกาเล็ตก็รอฟังเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรู้แค่เพียงว่าเศษหนามนี้หล่นมาจากโซ่หนามที่พันธนาการนักโทษจากขุมนรกไม่ให้ก่อเรื่องวุ่นวาย เหมือนกับเหล่ายมทูตที่สวมสร้อยหนามและทูตสวรรค์ที่มีมงกุฎหนามสีทอง ทั้งสองสิ่งนี้เป็นเครื่องผูกมัดห้ามมิให้ผู้ใดทรยศทั้งต่อเทพแห่งนรกและพระเจ้า เห็นทีคนที่ถูกตรึงด้วยโซ่หนามเส้นนี้คงจะเป็นคนที่กล้าท้าทายอำนาจของเทพแห่งนรกทั้งสามมากเลยทีเดียว ถึงได้ไม่กลัวมันเชือดเฉือนร่างกายจนแตกสลาย แม้ว่าสกาเล็ตจะอยากรู้ว่าคนผู้นั้นเป็นใคร หากแต่สีหน้าจริงจังของเซนก็บ่งชัดว่า ไม่ใช่เรื่องของคุณ เธอจึงไม่เซ้าซี้เพราะรู้ไปก็เท่านั้น “รู้สึกยังไงบ้าง” เซนถามโคลิน เขารู้ว่าทำไมโคลินถึงมองเห็นจุดตายของราล์ฟและทำไมพลังของโคลินถึงได้เพิ่มขึ้นอย่างกระทันหัน จึงไม่แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะมีผลกระทบอะไรกับเขาหรือเปล่า “แสบครับ” โคลินยกแขนที่ถลอกทั้งสองข้างให้เขาดูพร้อมสีหน้ายิ้มแย้ม ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวไม่เป็นอะไรสักนิด เซนส่ายหน้าคิดว่าเจ้าเด็กน้อยในวันวานโตมาแล้วแสบซนถึงขนาดนี้ได้อย่างไร ท่าทางของเขาเหมือนคนแก่กำลังมองดูหลานของตัวเองอย่างไรอย่างนั้น “เซน เจ้าทำตัวเหมือนคุณปู่เลย” มาริอุสแกล้งเขาอย่างเคย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะนับจากอายุห้าร้อยปีของเซนแล้ว โคลินเหมือนเด็กตัวน้อยจริง ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD