โคลินทำตามที่เซนสั่งไว้เป็นอย่างดี เพียงแต่ว่าบางครั้งช่วงคาบเกี่ยวไม่ได้มีแค่คืนเดือนมืดเท่านั้น บางทีมันก็เกิดขึ้นเองโดยไม่รู้สาเหตุ
วันนั้นโคลินกำลังสังสรรค์อยู่กับเพื่อนร่วมรุ่นวันปิดเทอม เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานจะกลายเป็นวันที่เขาต้องรับมือกับปีศาจที่มีความคิดความอ่านเป็นครั้งแรก
ภาพในบาร์เหล้าเหมือนมีมิติหนึ่งทับซ้อน โคลินคิดว่าตัวเองคงจะเมาเหล้าเพราะกระดกเข้าไปไม่น้อยจึงไม่ได้สนใจ
แต่แล้วสัญชาตญาณของเขาก็บอกให้รู้ว่ามีสิ่งหนึ่งผิดปกติ เขามองดูนาฬิกา มันบอกเวลา 00.50 น.
“ซวยแล้ว!” เขาพึมพำก่อนจะตบหน้าตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติ แล้วบอกเพื่อนที่อยู่ใกล้กัน “เอ่อ ฉันลืมไปว่าต้องรีบกลับบ้าน” ก่อนจะวิ่งแจ้นออกจากร้านในพริบตา
ทันทีที่มาถึงสถานีรถไฟชั้นใต้ดินเดอลาครัวซ์ โคลินปรายตาเห็นร่างสูงใหญ่ที่ไม่คุ้นเคย ดวงตาข้างหนึ่งของมันสีเขียว อีกข้างตาบอด มีเขาข้างเดียวโผล่ออกมาจากข้างขมับ เขารู้ทันทีว่าเจ้าตัวนั้นคือปีศาจอย่างแน่นอนจึงรีบซ่อนตัวข้างในซอกตึกก่อนถึงทางลงไปข้างล่างชานชาลา
กลิ่นอายที่เหมือนชีสเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณนั้น โคลินที่กำลังมึนหัวจากฤทธิ์เหล้าถึงกับพะอืดพะอมยิ่งขึ้น
ไหนว่าช่วงคาบเกี่ยวมีแค่คืนเดือนมืดไง โคลินคิดในใจพลางเอามือปิดจมูกของตัวเอง แต่ต่อให้ปิดแน่นแค่ไหนกลิ่นนั้นก็ทะลวงเข้ามายังโสตประสาทรับรู้ได้อยู่ดี
พักหลัง ในช่วงคาบเกี่ยว ดวงตาของโคลินจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอย่างชัดเจน และมันก็มักจะดึงดูดปีศาจเข้ามาหาเขาไม่ขาดสาย ดังนั้น โคลินจึงมักจะเก็บตัวอยู่บ้านเพราะอย่างน้อยเครื่องรางที่บ้านก็ป้องกันพวกนี้ได้ส่วนหนึ่ง
กรี๊ดดดดด!
เสียงกรีดร้องที่ดังมาจากฝั่งตรงข้ามทำให้โคลินหูผึ่ง
ยมทูตเงา?ทูตสวรรค์?แต่ว่า พวกเขาไม่น่ากรีดร้องเพราะเห็นปีศาจนี่นา
“เดม่อน!” เสียงของหญิงสาวคนเดิมเรียกชื่อหนึ่งออกมา
เดม่อน? คงไม่ใช่มั้ง โคลินคิดในใจก่อนจะค่อย ๆ โผล่หน้าออกมาดู อยากให้ไม่ใช่คนเดียวกันจัง
ภาพที่เขาเห็นตรงหน้าคือมีอาที่กำลังเอาเชือกหนามสีดำรัดขาทั้งสองข้างของปีศาจตาเดียวเอาไว้ ส่วนเดม่อนถูกมันจับขาข้างหนึ่งห้อยยกขึ้น ห้อยหัวลงมา
เห็นดังนั้นแล้ว โคลินจึงไม่อาจหลบเอาตัวรอดได้ อย่างไรเสียทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนยมทูตของเขา
ดาบเงินถูกเรียกออกมาประจำข้างกายของเขา โคลินสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพุ่งเข้าไปที่ร่างเป้าหมาย
ฉึก!
เสียงดาบปักทะลุฝ่ามือใหญ่ของปีศาจตาเดียว มันยกมือขึ้นมาบังทิศทางของดาบได้ทันเวลา ทั้งยังแสยะยิ้มให้โคลินจนเจ้าตัวรู้สึกสยองขนลุก
โคลินดึงดาบออกมาแล้วจ้วงแทงร่างของมันไม่ยั้งมือจนมันไม่อาจจับขาของเดม่อนไว้ได้ ปล่อยยมทูตฝึกหัดร่วงลงมาที่พื้น
เมื่อเห็นดังนั้นแล้ว โคลินจึงหยุดพักหายใจครู่หนึ่ง เวลาอยู่ใกล้ปีศาจตนนี้กลิ่นของมันกำลังทำให้ภายในท้องของเขาปั่นป่วนยิ่งกว่าเดิม
“โคลิน นายไหวไหม” มีอาตะโกนถามเมื่อเห็นอาการของเขากับสีหน้าคลื่นไส้
ไม่ทันที่โคลินจะได้ตอบ ปีศาจตาเดียวก็ลอยพุ่งเข้ามาหาเขาในพริบตา แต่จู่ ๆ เงามืดดำก็โผล่ขึ้นมาขวางทางเอาไว้
พรึ่บ
ร่างปีศาจตาเดียวหายไปพร้อมเงามืด เหลือเพียงเศษหนามร่วงหล่นกับสิ่งที่ดูเหมือนเลือดสีแดงตกอยู่ที่พื้น
เดม่อนรีบวิ่งมาดูที่เกิดเหตุแล้วพูดกับทั้งสองว่า “เศษโซ่หนามกับเลือด”
มีอามองไปรอบตัวแต่ไม่พบอะไรผิดปกติ “มีคนพยายามจะหนีจากขุมนรกมั้ง”
เศษโซ่หนามที่เปื้อนเลือดทำให้ยมทูตอย่างเขารู้ว่าใครบางคนในขุมนรกคงจะทำอะไรผิดกฎถึงได้โดนมันบีบรัดจนเลือดไหลเป็นทาง
เธอจับสร้อยหนามแบบเดียวกันแล้วส่ายหน้า “กล้ามากนะที่ทำแบบนี้” ก่อนจะหันไปหาโคลินที่ตอนนี้เกาะถังขยะอาเจียนโอ้กอ้าก
“ดีนะที่ยมทูตอย่างเราไม่ได้กลิ่นอะไรแบบนั้นน่ะ” เดม่อนมองหน้ามีอาก่อนจะมาช่วยลูบหลังโคลินช้า ๆ
“เป็นไงบ้าง ดีขึ้นไหม” มีอาถามอาการ
หงึก หงึก
เขาพยักหน้าแต่ยังคงตาลายมองเห็นภาพเบลอ ๆ จวนเจียนจะหลับอยู่รอมร่อ
“เฮ้อ นายแบกเขาไปส่งที่บ้านที ฉันจะรีบไปส่งรายงานให้มาริอุส” มีอาสั่งเดม่อนซึ่งเป็นผู้ช่วยของเธอ
“อื้ม” เขารับปากแล้วพาโคลินหายตัวกลับมาถึงบ้านเพียงเสี้ยวนาที
จากนั้นจึงพาร่างคนเมาไปวางไว้หน้าบ้านสามชั้นก่อนจะกดออดเรียกพ่อกับแม่ของเขามารับตัวไป
ไม่ถึงสองนาทีกัสปาร์และเลน่าก็เปิดประตูออกมาดูคนที่กดออดยามค่ำคืน พอเห็นว่าเป็นลูกชายสุดดื้อของตัวเองก็ได้แต่ส่ายหน้า
“คงมีเรื่องอะไรมั้งคุณ เดี๋ยวลูกตื่นขึ้นมาแล้วค่อยถาม” กัสปาร์เอ่ยปากเมื่อเห็นว่าภรรยาของเขามีสีหน้ากังวล
“อาเมเลีย มาช่วยพ่อกับแม่แบกน้องเข้าบ้านหน่อย” เลน่าตะโกนเรียกอาเมเลียที่กำลังนอนอยู่บนชั้นสองของบ้าน
ทั้งสามคนจึงแยกย้ายประจำจุดยกร่างที่หลับปุ๋ยของโคลินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน
เฮือก! อ๊ากกก!
โคลินสะดุ้งตื่นเหมือนนึกได้ว่าเขากำลังสู้กับปีศาจอยู่ ส่วนอีกทางหนึ่ง อาเมเลียตกใจร้องกรี๊ดที่จู่ ๆ โคลินก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเผลอตบหัวน้องชายไปหนึ่งที
“เฮ้อ ใจหายใจคว่ำ” เลน่าลูบอกเบา ๆ ปลอบใจตัวเองนึกว่าจะช็อกไปแล้ว
“เจ้าเด็กนี่ ทำไมไม่ตื่นตั้งแต่อยู่ชั้นล่าง” อาเมเลียบ่นพึมพำ สีหน้าเหนื่อยหอบเพราะแบกเขาเมื่อครู่
“พี่ พ่อ แม่ เอ่อ ทำไมผมมาอยู่ที่นี่ล่ะ” โคลินเอ่ยปากถาม สีหน้ายังงุนงง
“นี่ดื่มไปเยอะขนาดไหนถึงจำไม่ได้ว่าตัวเองนอนอยู่หน้าบ้าน” อาเมเลียบ่นยกใหญ่เพราะกฎการดื่มเหล้าของสมาชิกในบ้านคือห้ามดื่มจนภาพตัด
“ใจเย็น ๆ ลูก น้องมีเหตุผลน่า” กัสปาร์รู้ว่าโคลินไม่มีทางดื่มเหล้าจนไม่รู้ลิมิตของตัวเอง เขาอาจจะเจออะไรระหว่างทางกลับบ้านก็เป็นได้ “ตื่นก็ดีแล้ว รีบไปอาบน้ำนอนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเล่าให้พ่อฟัง
“ครับ” โคลินพยักหน้าแล้วรีบขึ้นไปห้องดาดฟ้าชั้นสาม อยากจะนอนหลับบนเตียงนุ่ม ๆ ของตัวเองเต็มที
แต่เขาคงจะไม่มีแรงเหลือพอที่จะไปอาบน้ำอย่างที่พ่อบอกจึงได้แต่ล้มตัวนอนบนเตียงผล็อยหลับไป
เงามืดปรากฏขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน มันเฝ้ามองเขาอย่างเคยจนกระทั่งช่วงคาบเกี่ยวสิ้นสุดลง