มัธยมปลายปีสาม
โคลินวัยสิบแปดนั่งเหม่อลอยทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง เสียงอาจารย์สาวที่กำลังสอนวิชาคณิตศาสตร์ดังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นอกจากวิธีการสอนที่ชวนหลับแล้ว โคลินไม่เข้าใจสิ่งที่เธอกำลังพูดสักนิด จึงเบือนหน้าหนีดูสิ่งที่น่าสนใจข้างนอกหน้าต่างดีกว่า
เขาเห็นคุณตาคนหนึ่งกำลังเดินวนไปวนมาอยู่ริมสนามกีฬาได้เกือบสิบห้านาที
ร่างโปร่งแสงที่นักเรียนหลายคนเดินทะลุผ่านไปไม่สนใจสิ่งใดยังคงเดินกระวนกระวายใจอยู่ลำพัง
หลังจบคาบเรียน โคลินจึงเข้าไปทักทายคุณตาคนนั้น
“ทำอะไรอยู่เหรอครับ” เขาเอ่ยปากถามเพราะสงสัย รู้ดีว่าวิญญาณเช่นเขาไม่อาจไปโลกหลังความตายได้เพราะติดบ่วงบางอย่างในโลกนี้
หน้าที่ตามหาของสำคัญอย่างสุดท้ายเพื่อปลดปล่อยวิญญาณเป็นสิ่งที่โคลินตั้งใจทำมากที่สุด
หากวิญญาณนั้นอยู่บนโลกมนุษย์นานเกินไปจะเริ่มยึดติดและถูกปีศาจล่อลวงจนสูญเสียความเป็นตัวเอง กลายเป็นวิญญาณร้ายเร่ร่อน ไม่สามารถเดินทางไปสรวงสวรรค์หรือรับโทษในขุมนรกได้ มักจบลงที่การถูกสังหารด้วยดาบเงินของการ์เดี้ยน
“ไม่รู้สิ” คุณตาส่ายหน้า คิ้วขมวดพยายามครุ่นคิด
“...” โคลินเอียงคอนึกสงสัย “คุณตาเหมือนกำลังรอใคร”
“คุณตา?” เขามองหน้าโคลิน “ทำไมถึงเรียกฉันว่าคุณตา หน้าตาฉันดูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เอ๋?” โคลินกระพริบตามองร่างวิญญาณตรงหน้าอีกครั้ง แต่ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าคนที่ผมสีขาว หน้าตามีริ้วรอย ดูอย่างไรก็อายุมากกว่าพ่อเขาแน่นอน
“แต่ทำไมไม่เห็นมีใครคุยกับฉันเลย” เขาถามโคลินหน้าตาเศร้าสร้อย
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า คุยกับผมก็ได้นะ” โคลินยิ้มให้เขา ตั้งใจรับฟังสิ่งที่เขาจะพูด
“วันนี้มีงานวันปัจฉิม นายไม่ไปร่วมงานเหรอ”
“วันปัจฉิมเหรอ วันนี้น่ะเหรอ ไม่ใช่สักหน่อย คุณตาจำผิดแล้ว” โคลินแย้งเพราะวันนี้ก็เป็นแค่วันธรรมดาของเทอมสองเท่านั้น
“นายนี่ยังไม่เลิกเรียกฉันว่าคุณตาอีก บอกแล้วไงว่าเราอยู่ปีเดียวกัน” หน้าตาของคนตรงหน้าดูจริงจังขึ้น “ต้องรีบไปแล้ว เดี๋ยวเข้าร่วมงานไม่ทัน”
ทันทีที่พูดจบ คุณตาคนนั้นก็หายวับไปต่อหน้าต่อตา “อ้าว!” โคลินพึมพำ ไม่ทันได้รู้เรื่องราวของวิญญาณคุณตาเขาก็หายตัวไปเสียแล้ว
จากนั้นตลอดครึ่งบ่ายที่เหลือ เขาก็ไม่เห็นวิญญาณคุณตาอีกเลย
หลังเลิกเรียน โคลินนั่งรออยู่ที่เดิมพักหนึ่ง เผื่อว่าคุณตาจะโผล่มา คราวนี้ต้องถามให้แน่ใจว่าเขาต้องการอะไรจะได้ช่วยเหลือ
ทว่า วิญญาณนั้นก็ยังไม่ปรากฏตัว โคลินจึงตัดสินใจกลับบ้าน คิดในทางที่ดีว่าคุณตาคงจะเดินทางไปโลกหลังความตายแล้ว
วันต่อมา
ขณะที่โคลินกำลังเรียนอยู่ในห้อง หางตาเหลือบเห็นรูปร่างคุ้นเคยปรากฏขึ้นด้านล่างอาคารเรียน วิญญาณคุณตายังคงทำแบบเดิมเหมือนเช่นเมื่อวาน
ครั้งนี้โคลินลองสวมรอยเป็นคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาแล้วเอ่ยว่า “ทำไมนายถึงมานั่งตรงนี้อีกแล้ว”
“ก็วันนี้วันปัจฉิมนี่ อีกสิบห้านาทีคงจะได้เวลาเข้าห้องประชุมแล้ว” คุณตาตอบโคลินสีหน้าจริงจัง
“อ่อ จริงสิ ลืมไปเลย ว่าแต่นายชื่ออะไร” โคลินเล่นตามน้ำ สีหน้ายิ้มแย้ม ท่าทางเป็นมิตร
“ชื่อเหรอ ฉันชื่อ...” คิ้วของเขาขมวดเป็นปม “ฉันชื่อ...”
อัลไซเมอร์หรือเปล่านะ โคลินคิดในใจ บางทีวิญญาณของคุณตาคนนี้อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองตายไปแล้ว
“ราฟ เดม่อน กวิน ไชอา” โคลินลองไล่ชื่อของเพื่อนในห้องให้เขาฟัง เผื่อจะมีคำไหนคุ้นบ้างแล้วบอกชื่อตัวเอง “ฉันชื่อโคลิน นายชื่ออะไรเหรอ”
“อลัน” คุณตากล่าวสั้น ๆ เพราะจู่ ๆ ก็นึกออก
“อื้ม ยินดีที่ได้รู้จัก อลัน”
ขณะที่โคลินชวนคุณตาอลันพูดคุยสอบถามข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับวิญญาณตนนี้ ด้านหลังของเขาก็ปรากฏวงแหวนสีแดงขึ้น พลันร่างของคนใส่ชุดสีดำถือเชือกถักจากต้นหนามเดินตรงมาที่พวกเขา
พรึ่บ
ร่างวิญญาณของคุณตาหายวับไปทันทีที่เห็นแขกผู้มาเยือน โคลินจึงหันไปมองทางด้านหลังของตัวเอง แล้วรีบวิ่งตรงไปหาเธอคนนั้น
“โคลินนี่เอง นึกว่าใครที่ไหน” เสียงหวานสดใสกล่าวทักทาย เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ดวงตาสีแดง ผมสีแดง สวมสร้อยหนามสีดำ
“มีอา คุณมาทำอะไรที่นี่” เขาเลิกคิ้วมองหน้าลืมไปว่าเธอเป็นยมทูต มีหน้าที่นำทางวิญญาณของผู้ล่วงลับเข้าสู่ดินแดนพิพากษา ย่อมต้องมาที่นี่เพื่อตามตัวคุณตาอลัน
“ทำงานน่ะสิ วิญญาณเมื่อกี้หายไปไหนแล้ว ฉันตามเขาไม่ทันทุกทีเลย” มีอาส่ายหน้ารู้สึกเหนื่อย
วิญญาณคุณตาอลันออกจากร่างของตัวเองปั๊บก็หายตัวไปหลายวัน ออกตามหาจนรู้ว่าเขามาหลบอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ทำเอามีอาแทบไม่ได้พักผ่อน
“คุณตาอลันเป็นอัลไซเมอร์เหรอครับ” โคลินถามข้อมูลให้แน่ชัด จากที่เขาพูดคุยเมื่อครู่ คุณตาอลันพูดเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมาแถมยังเป็นเรื่องในอดีตที่นานมาแล้ว
“โอ๊ะ นี่นายรู้ได้ยังไง” มีอาแปลกใจ “ลืมหมดทุกอย่าง” มีอาโชว์ระเบียนวิญญาณเล่มหนาของคุณตาอลันให้โคลินดู เธอใช้เวลานานมากเพื่อตามร่องรอยวิญญาณติดบ่วงผู้นี้ ตามหาทุกที่ที่คิดว่าเขาจะไป
“เรื่องติดบ่วงคงจะอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ใช่ไหม” โคลินเดาได้ว่ามีอามาที่นี่เพราะรู้อะไรบางอย่าง
“คิดว่าใช่ แต่จากประวัติที่เขียนไว้ ไม่เห็นจะมีอะไรสำคัญมากมายเลย” มีอาคลี่กระดาษดูเรื่องราวช่วงวัยเรียนของเขา
“ผมขอดูด้วยได้ไหม ผมช่วยคุณได้นะ” โคลินชะเง้อมองรายละเอียดที่อยู่บนกระดาษ
“ไม่ได้!” มีอาปฏิเสธทันควัน ปิดระเบียนวิญญาณทันที “ความลับของวิญญาณ ห้ามใครเห็นนอกจากยมทูต”
“ไม่แน่ว่าคุณอาจจะพลาดรายละเอียดเล็กน้อยก็ได้นี่นา สิ่งที่คุณคิดว่าไม่สำคัญ บางทีอาจจะเป็นเรื่องที่คุณตาเห็นว่าสำคัญที่สุดก็ได้” โคลินอธิบายสิ่งที่เขาคิด “ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มาที่นี่หรอก จริงไหมครับ”
มีอาครุ่นคิดถึงสิ่งที่เด็กน้อยวัยสิบแปดกำลังพูดโน้มน้าวใจ แล้วเปิดระเบียนหน้านั้นอีกรอบมองหาความน่าจะเป็น
สายตาของโคลินแอบเหลือบมองอีกครั้ง ไล่สายตาดูทุกตัวหนังสือบนหน้ากระดาษจนสะดุดกับคำว่างานปัจฉิม “โอ๊ะ...”
เสียงพึมพำของเขาทำให้มีอาหันขวับมองโคลิน “โคลิน!” เสียงดุไม่ได้ทำให้โคลินหวาดกลัวแต่อย่างใด
“ให้ผมช่วยเถอะ ผมไม่อยากให้คุณตากลายเป็นวิญญาณร้ายนี่ครับ” โคลินอ้อนวอนเสียงสอง หน้าตาน่ารักของเขามักจะทำให้มีอาใจอ่อนตลอด ถึงกับต้องฝ่ากฎยมทูตหลายข้อเพื่อโคลินทุกครั้งที่เจอกัน
“อื้ม พอแล้ว ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น แล้วก็ห้ามบอกใครล่ะว่าฉันให้นายดูระเบียนวิญญาณ” มีอายื่นสมุดเล่มเดิมให้โคลินได้อ่านด้วย
“ผมสัญญา” เด็กหนุ่มยิ้มแป้นแล้วรีบกวาดตามองเรื่องราวจุดที่เขาสนใจอีกครั้ง
ผ่านไปครู่หนึ่ง
“ตรงนี้ ๆ” โคลินชี้ไปที่กลางหน้ากระดาษ มีเรื่องราวของคุณตาอลันเขียนไว้ว่า ก่อนถึงเวลาเข้าห้องประชุมวันปัจฉิม อลันนั่งเล่นอยู่ริมสนามกีฬาเพียงลำพัง ทอดถอนใจราวกับว่าจะได้อยู่ที่โรงเรียนนี้เป็นวันสุดท้าย ทันใดนั้น เด็กสาวผู้หนึ่งก็เดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าเขาพร้อมยื่นจดหมายกับกล่องของขวัญใบเล็กให้ สีหน้าเขินอาย แก้มแดง
อลันรับของสิ่งนั้นมาด้วยสีหน้างุนงง ตลอดการเรียนหกปีมีใครทำแบบนี้ให้เขาที่ไหนกัน สายตาของเขามองไปยังคนตรงหน้า เอ่ยทักทายตามประสา “สวัสดี” เพียงแค่ได้ยินเสียงของเขา เธอคนนั้นก็ยิ่งอายม้วนต้วนหนักกว่าเดิม ทำท่าจะวิ่งหนี แต่อลันกลับคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วมอบช่อดอกไม้เล็ก ๆ ที่ติดหน้าอกสำหรับนักเรียนจบใหม่ให้เธอเป็นของตอบแทน
“นายคิดอะไรอยู่โคลิน” มีอาเห็นเขาจ้องข้อความในย่อหน้านี้นานกว่าปกติ แต่เธอดูแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรแปลกตรงไหน
“มีอา คุณไม่คิดว่าแปลกเหรอ” โคลินชี้ให้เธอดูชัด ๆ
“ไม่นะ” มีอายังคงยืนยันคำเดิม
“จริงสิ เดี๋ยวผมเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟัง” โคลินยิ้มแย้มคิดว่าพอจะรู้แล้วว่าคุณตาอลันมีบ่วงยึดติดเรื่องอะไร