ก๊อก ก๊อก
เหมราชละสายตาจากเอกสารตรงหน้าหันไปมองเลขาเปิดประตูให้บัวผันเดินเข้ามาซึ่งก่อนหน้าเขาได้สั่งเลขาหน้าห้องเอาไว้แล้ว
"เป็นยังไงบ้าง สัมภาษณ์ฝึกงานผ่านไหม"
"ระดับบัวผัน ผ่านอยู่แล้วค่ะว่าแต่พี่เหมกำลังทำอะไรอยู่เหรอคะ"บัวผันถือวิสาสะเดินเข้ามาประชิดใกล้กับโต๊ะทำงานพร้อมกับโน้มตัวก้มหน้ามองเอกสารบนโต๊ะด้วยความสนอกสนใจ แต่ใครจะรู้ว่ามีสายตาคมกริบคู่หนึ่งสะดุดเข้ากับเสื้อนักศึกษาตัวเล็กที่กำลังทำงานหนักแบกรับเต้าอวบสองเต้าอวบของเอาไว้
ฮึก
เต้าอวบเบียดเสียดนูนเด่นจนเห็นรูปทรงทำเอาคนเผลอมองถึงกับต้องกลืนน้ำลายร่างกายกระสับกระส่ายผิดปกติ
"พี่เหมคะ พี่เหม"
"ฮะ บัวว่ายังไงนะ"
"บัวอยากทราบว่าตรงนี้มันหมายความว่ายังไงคะ"
"ตรงไหนล่ะ"บัวผันดันตัวออกเดินอ้อมไปหยุดอยู่ข้างเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ กลิ่นกายหอมกรุ่นดั่งดอกไม้ลอยแตะจมูกโด่งเป็นสันของคนตัวใหญ่
"ตรงนี้ยังไงล่ะคะพี่เหม"บัวผันโน้มตัวลงไปใช้แขนทั้งสองข้างตั้งราบไปกับโต๊ะทำงาน บั้นท้ายภายใต้กระโปรงตัวสั้นจนเกือบจะเห็นกลีบดอกบัวนั้นนูนเด่นท้าทายสายตาของพี่เขยอย่างไม่เอียงอาย
"ตรงนี้น่ะเหรอ"เหมราชพยายามไม่สนใจโน้มใบหน้าเข้าไปอ่านเอกสารพร้อมกับอธิบายคร่าว ๆ ให้บัวผันได้ฟัง
"งานที่นี่ยางจังเลยนะคะ ไม่รู้ว่าบัวจะทำมันได้หรือเปล่า"
"ไม่ลองก็ไม่รู้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผู้จัดการก็คงจะอธิบายอีกทีว่าบัวกับเพื่อน ๆ ต้องทำตรงส่วนไหนบ้าง"เหมราชเอนกายพิงผนังเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ ร่างกายรู้สึกร้อนรุ่มเมื่ออยู่ใกล้ร่างของน้องเมียวัยขบเผาะคนนี้ทั้งที่อาการนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน
"จริงสิบัวลืมไปเสียสนิทเลย"บัวผันร้องขึ้นก่อนจะนั่งคุกเข่ายกมือขึ้นพนมไหว้ก้มกราบลงบนท่อนขาใหญ่สร้างความตื่นตกใจให้กับเหมราช
"บัวกำลังทำอะไร"
"บัวก็กำลังขอบคุณพี่เหมยังไงล่ะคะที่ช่วยหาที่ฝึกงานให้แถมยังใจดีกับบัวอีก"มือเล็กทั้งสองข้างยังคงวางไว้อยู่กับที่ ลมหายใจของคนตัวโตหอบถี่เพราะตำแหน่งของมือเล็กนั้นดันอยู่ใกล้กับใจกลางความเป็นชาย
"บัวไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้"เขาพยายามไม่คิดอะไรให้มันไกลไปมากกว่านี้ เพราะบัวผันคือน้องสาวของมิ่งขวัญภรรยาของเขา เธอคงรักและเคารพเขาเปรียบเสมือนพี่ชายคนหนึ่งของเธอก็เท่านั้น
"ไม่ได้หรอกค่ะ พี่เหมมีพระคุณกับครอบครัวของบัว ให้ทั้งที่อยู่แถมยังส่งให้บัวได้เรียนสูง ๆ ช่วยหาที่ฝึกงานดี ๆ ให้บัวทำ"ดวงหน้าสวยเซ็กซี่เงยมองริมฝีปากอวบอิ่มคลี่ยิ้มสวยชวนสะดุดตา ฝ่ามือเล็กลูบเบา ๆ ตรงท่อนขาใหญ่
"ถ้าพี่เหมต้องการหรือมีอะไรให้บัวช่วย ก็บอกได้นะคะ"
"บัวพร้อมจะทำให้พี่เหมทุกอย่าง"
"สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่"สะใภ้คนเดียวของบ้านเดินส่งยิ้มหวานเข้ามาแต่ไกล มิ่งขวัญได้รับโทรศัพท์จากคุณหญิงวรนาฎให้เขามาพบที่บ้านเป็นการด่วน เธอจึงไม่รอช้ารีบขับรถออกมาเผื่อว่าท่านจะมีธุระสำคัญอะไรให้เธอได้รับใช้
"นั่งก่อนสิมิ่งขวัญ"คุณหญิงวรนาฎยิ้มต้อนรับลูกสะใภ้ ภายในบ้านหลังใหญ่ตกแต่งตามสไตล์ของผู้ดีมีเงินตั้งอยู่บนเนื้อที่เกือบยี่สิบไร่ ทั้งใหญ่ทั้งกว้างขวางเหมาะกับสมกับบ้านของตระกูลพันล้านเสียจริง ๆ
"คุณพ่อกับคุณแม่สุขภาพแข็งแรงกันดีนะคะ ขวัญต้องขอโทษด้วยที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาเยี่ยม นี่ค่ะของฝาก"
"ขอบใจจ้ะ"สองสามีภรรยายิ้มรับนึกโทษตัวเองที่ครานั้นมองหญิงสาวคนนี้ผิดไปจนเกือบจะทำให้ความรักของลูกชายและเธอต้องพังลง
"วันนี้ที่แม่เรียกมาเพราะแม่กับคุณพ่อมีเรื่องจะให้หนูมิ่งขวัญช่วย"
"คุณพ่อกับคุณแม่จะให้ขวัญช่วยเรื่องอะไรคะ"มิ่งขวัญขมวดคิ้วถามสายตามองใบหน้ายิ้มกริ่มของท่านทั้งสองสลับกัน
"ตอนนี้ผู้จัดการโรงแรมที่พัทยาเขาได้ลาออก พ่อกับแม่จึงปรึกษากันแล้วว่าจะให้หนูไปทำงานในตำแหน่งผู้จัดการที่นั่น"คุณสายชลเอ่ยจุดประสงค์ก่อนจะวางกุญแจรถสปอร์ตสองที่นั่งคันใหม่ซึ่งพึ่งเปิดตัวในประเทศได้ไม่นาน
"พ่อกับแม่เห็นว่าหนูเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ ต่อไปในภายภาคหน้าถ้าหากพ่อกับแม่นึกอยากจะวางมือก็ยังมีหนูที่พ่อกับแม่ไว้วางใจให้ขึ้นไปบริหารในตำแหน่งรองประธาน"
"แต่ขวัญไม่ได้เก่งเรื่องพวกนี้เลย เกรงว่า"
"ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่ต้น ความพยายามเท่านั้นที่จะทำให้เราก้าวเดินไปข้างหน้า"
"ก็ได้ค่ะ ขวัญจะลองดูขอบคุณคุณพ่อกับคุณแม่มากนะคะที่เอ็นดูขวัญ"
"เย็นนี้อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนนะ เดี๋ยวแม่จะโทรตามเหมราชก่อน นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว"ดวงหน้าของมิ่งขวัญมีรอยยิ้มประดับอยู่เสมอ เธอรู้สึกปลื้มยินดีที่ตอนนี้ท่านทั้งสองทั้งรักและเอ็นดูเธอ
"อย่าลืมขับรถคันใหม่ที่พ่อตั้งใจซื้อให้เป็นของขวัญไปทำงานล่ะหนูขวัญ ถ้าหนูกลัวเรื่องเดินทางไปกลับเดี๋ยวพ่อจะให้เหมราชซื้อบ้านสักหลังให้ก็แล้วกัน"
"ไม่เป็นอะไรค่ะคุณพ่อ แค่นี้ขวัญก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว"มูลค่าของรถคันนี้ตีเป็นเงินก็หลายสิบล้านจะให้ซื้อทั้งรถซื้อทั้งบ้านมันคงไม่ไหว สู้ขับรถไปกลับเสียจะดีกว่าอีกอย่างเธอเองก็ไม่อยากไปอยู่ไกลหูไกลตาสามี กลัวว่าเขาจะเหงาหาเธอไปพักแรมอยู่ใกล้ที่ทำงาน
มิ่งขวัญนั่งคุยกับพ่อสามีอยู่นานก็เห็นร่างของหญิงสาววัยกลางคนของคุณหญิงวรนาฎเดินกลับเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
"คงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เดี๋ยวเหมราชก็คงมาถึงหนูขวัญจะให้พ่อกับแม่เป็นคนบอกหรือว่าหนูจะบอกเหมราชด้วยตัวเองจ้ะ"
"เราสองคนบอกลูกด้วยตัวเองแหละดีแล้ว ให้หนูขวัญบอกไปคุณหญิงคิดหรือว่าเหมราชจะให้หนูขวัญไปทำงานไกลหูไกลตา"
"จริงด้วยสิ รายนั้นรักเมียเสียยิ่งกว่าอะไร"เพราะความรักเมียหลวงเมียทำให้นับวันมิ่งขวัญแทบจะไม่ต้องหยิบจับอะไร งานบ้านหรืองานในครัวล้วนมีแม่บ้านจัดการให้ทุกอย่าง
"เดี๋ยวขวัญไปช่วยแม้บ้านจัดเตรียมอาหารก่อนนะคะ"
"ก็ได้จ้ะ เดี๋ยวถ้าหากเหมราชมาถึงแม่จะให้เด็กไปเรียก"