บทที่สิบหก

2298 Words
แพรววายอมรับว่าไม่เคยรู้สึกร้อนรนมากเท่านี้มาก่อน การที่โซอี้มาแอบดุ่ม ๆ มอง ๆ แบบนี้คงจะเป็นเบลล่าบอกให้ทำ ด้านจิตติพัฒน์ที่หันมาเห็นว่าเด็กสาวดูมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล มันบอกให้เขารับรู้ได้ในทันทีว่าคนที่แอบมองทั้งสองเป็นคนที่เธอรู้จัก เขาจึงเลือกมานั่งข้าง ๆ เพื่อที่จะปลอบขวัญอีกฝ่าย "นักเรียนหญิงคนนั่น เพื่อนเธอหรือ" เด็กหนุ่มตัดสินใจยิงคำถามออกไปโดยไม่หวังให้แพรววาตอบในทันที ด้านของแพรววาที่นั่งแข็งทื่ออยู่นานก็เริ่มตั้งสติตัวเองกลับมาได้ จึงตอบคำถามของจิตติพัฒน์ไปว่า "ไม่เชิงว่าเพื่อนหรอก เธอมาจากกลุ่มคนที่ไม่ชอบหน้าฉันเท่าไหร่" คำตอบของเด็กสาวทำเอาจิตติพัฒน์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ส่งผลให้แพรววาจำต้องเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับเด็กหนุ่มฟัง ไม่ว่าจะเรื่องเสมอแมนและเรื่องของเบลล่ารวมทั้งเหตุผลที่เธอต้องการปกปิดเรื่องโซลเมท เรียกง่าย ๆ ว่าแพรววาไม่ต้องการจะโกหกจิตติพัฒน์นั้นเอง ขณะเดียวกันเขาก็ไม่พูดอะไรสักคำเพราะต้องการให้เกียรติเธอที่ยอมเล่าทุกอย่าง "เขาเป็นพ่อที่รักลูกสาวมากเลยนะ ฟังจากที่เธอเล่าให้มา" จิตติพัฒน์พูดหลังจากที่เงียบอยู่นาน "ฉันคิดไว้แล้วล่ะว่าเธอต้องพูดแบบนี้" แพรววาพูดและทำท่าเหยียดแขนกับขาเพื่อคลายเส้น "ฟังให้จบก่อนสิอย่าเพิ่งรีบตัดสิน" จิตติพัฒน์พูดต่อ "การที่พ่อหรือแม่รักและเป็นห่วงลูกนะมันก็เป็นเรื่องดีทั้งนั้น แต่ถ้าอะไรที่มันมากเกินไปมักกลายเป็นโทษมากกว่าคุณเสียอีก" แพรววาอึ้งในคำพูดของจิตติพัฒน์เพราะตลอดที่ผ่านมา นอกจากกลุ่มมณีอรที่เข้าใจเธอแล้วก็มีจิตติพัฒน์ที่เป็นคนนอกนี่แหละที่พูดแตกต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง "ขอโทษนะ ที่ตัดสินเธอเร็วไปหน่อย" แพรววาพูด "ไม่เป็นไร เธอคงลำบากใจน่าดูสินะที่ต้องรับมือเรื่องแบบนี้คนเดียว" จิตติพัฒน์พูด "ไม่เชิงหรอกว่าฉันรับมือคนเดียว เพราะฉันเองก็มีเพื่อนร่วมชะตาด้วยหนึ่งคน" แพรววาพึมพำแผ่วเบา "หือ ?... เมื่อกี้เธอพูดอะไรนะ" "เปล่า ไม่มีอะไร" จิตติพัฒน์ตัดสินใจพาแพรววาออกจากสวนสาธารณะไปเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าแทน ซึ่งมันก็ทำให้เธอผ่อนคลายความกังวลได้พอสมควร ทว่าระหว่างที่ทั้งสองกำลังขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อมายังชั้นบนสุง สายตาของแพรววาก็หันมาเห็นกลุ่มเสมอแมนซึ่งอยู่แถวชั้นสอง เด็กสาวไม่รอช้าจึงรีบเบียดหลบข้างตัวจิตติพัฒน์ทันที นับว่าโชคดีหน่อยตรงที่จิตตพัฒน์ค่อนข้างจะตัวสูงทำให้ทั้งกลุ่มมองไม่เห็นแพรววา ฝั่งจิตติพัฒน์ที่เห็นท่าทางของแพรววาก็พอจะเข้าใจได้ในทันที "นั้นคือกลุ่มรุ่นพี่ที่แอบชอบเธอเหรอ แพรว" คำตอบจากแพรววาคือการพยักหน้า พลางคิดในใจว่าเธอทำให้จิตติพัฒน์รู้สึกอึดอัดหรือเปล่า นี้ถือว่าเป็นการเดตแรกที่เลวร้ายในชีวิตของแพรววาก็ว่าได้ หรือนี้จะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเธอกันนะที่นัดเจอกับอีกฝ่าย ทั้งที่สภาพแวดล้อมของตัวเองยังไม่พร้อมแบบนี้ จิตติพัฒน์ที่เห็นเด็กสาวยืนเงียบนานเกินไปเขารู้ทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ฉับพลันมือของจิตติพัฒน์ก็กุมมืออันเย็นเยียบของแพรววาเอาไว้ เธอสะดุ้งเล็กน้อยและเงยหน้ามองจิตติพัฒน์พร้อมกับเสียงหัวใจเต้นแรงและเร็วมาก จนแพรววารู้สึกเหมือนอกกำลังจะระเบิดออกมานี้คือประสบการณ์แรกของเด็กสาว เพราะความหวงที่มากเกินไปของพศพัชร์ทำให้แพรววาไม่เคยได้สัมผัสสิ่งที่เรียกว่า "การเดต" เลย ดังนั้นสำหรับแพรววาแล้วเธอคงไม่อาจลืมความรู้สึกนี้ได้อย่างแน่นอน แม้รู้ทั้งรู้ว่าบางทีจิตติพัฒน์อาจทำเพื่อความสบายใจของเธอเองก็ได้ แพรววาจึงพูดออกมาว่า "ขอบคุณนะ" ออกมาเบา ๆ และจับมืออีกฝ่ายตอบ ไออุ่นจากฝ่ามือของเด็กหนุ่มส่งผ่านมาถึงมือของแพรววาอย่างอ่อนโยน ทำให้หวนนึกถึงสมัยเด็กที่แพรววาเคยจับมือกับพศพัชร์ ไออุ่นจากฝ่ามือของพ่อก็อบอุ่นคล้าย ๆ กับของจิตติพัฒน์ไม่มีผิด เมื่อทั้งสองเดินมาถึงชั้นบนสูงจิตติพัฒน์ชวนอีกฝ่ายไปร้านอาหารเพื่อหาอะไรกินกัน เนื่องจากจิตติพัฒน์ยังไม่ได้กินอะไรมาเลยซึ่งแพรววาก็ตอบตกลง โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาหนึ่งกำลังจับจ้องมาที่แพรววากับจิตติพัฒน์อยู่ไม่ไกลมากนัก ❤️❤️❤️❤️ เบลล่านั่งรออยู่ที่ร้านไอศกรีมอยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะมากนัก จนไม่นานโซอี้ก็วิ่งตาลีตาเหลือกเข้ามาพร้อมกับยื่นกล้องถ่ายรูปให้ดู มันคือภาพของแพรววากับเด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเบลล่าจำได้ว่า เป็นยุวชนทหารของฟรอนเทียร์ที่โผล่มายังพิพิธภัณฑ์ศิลปะในตอนที่พวกเธอไปทัศนศึกษากัน คราวนี้เธอมั่นใจเต็มร้อยเลยว่าเสมอแมนจะต้องเชื่อคำพูดของเธอแน่นอน ด้านโซอี้บอกว่าอันที่จริงเธอตั้งใจว่าจะถ่ายเป็นวีดีโอแต่ถูกฝ่ายชายจับได้เสียก่อน จำต้องรีบวิ่งหนีออกมาและไม่แน่ใจว่าแพรววาจะเห็นเธอหรือเปล่า ทว่ามันไม่สำคัญสำหรับเบลล่าอีกแล้วเพราะตอนนี้เธอได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว พร้อมกับคำชมที่มอบให้กับโซอี้ว่า "เก่งมากเลย โซอี้" ระหว่างที่เบลล่ากำลังพึ่งพอใจอยู่นั้น กลับมีเพียง คริสติน่า ที่แสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาชัดเจนจนโซอี้กับเบลล่าต้องหันมามอง แน่นอนว่าคริสติน่าไม่ได้แยแสต่อสายตาของทั้งสอง "มีอะไรจะพูดก็พูดออกมาดีกว่า คริสติน่า" เบลล่าพูดเสียงไม่พอใจ "ฉันไม่ค่อยชอบเสียงถอนหายใจของเธอเท่าไหร่" คริสติน่าหันขวับมามองเบลล่าทันทีด้วยสายตาที่ไม่รู้ทำไม แต่มันทำให้เบลล่ากับโซอี้รู้สึกหนาวอย่างไรชอบกล "แน่ใจนะว่าจะรับได้ในสิ่งที่ฉันพูดต่อจากนี้นะ" คริสติน่าพูดเสียงเรียบ "ขึ้นอยู่กับว่าเธอจะพูดเรื่องอะไร" เบลล่าตอบกลับ "ดี เพราะฉันไม่แคร์แล้วว่าเธอจะรับมันได้หรือไม่ได้" คริสติน่าพูดและจ้องหน้าเบลล่า "ฟังนะเบลล่า ตั้งแต่เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้วเธอกับฉันแล้วก็พี่ชายฉัน คริสเตียน ยอมรับเลยนะว่าไม่เคยรู้สึกสมเพชเวทนาเธอมากกับตอนนี้เลย" เบลล่าที่ได้ยินก็ลุกขึ้นจ้องหน้าคริสติน่าอย่างไม่วางตา เธอเดือดดาลกับคำพูดของเพื่อนคนนี้มากและโซอี้เองก็เริ่มทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากทั้งเบลล่ากับคริสติน่าที่มีนิสัยไม่ยอมคนเหมือนกัน ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะหาน้ำมาดับไฟในตอนนี้เพียงแต่โซอี้มีความกังวลไม่น้อยว่า หากทั้งสองมีปากเสียงกันที่รุนแรงอาจทำให้ถูกเชิญออกจากร้านได้ และอาจถึงหู ผอ. โรงเรียนเนื่องจากทั้งสามยังสวมเครื่องแบบโรงเรียนอยู่ "ไม่เอาน่าพวกเธอ เราอยู่ในที่สาธารณะกันนะ เกรงใจคนอื่นบ้างเถอะ" คริสติน่าที่ได้ยินก็ส่งสายตาดุใส่โซอี้จนเธอต้องก้มหน้ามองโต๊ะอย่างเดียว จากนั้นก็หันไปเผชิญหน้ากับเบลล่าตามเดิม "ฉันถามเธอจริง ๆ เถอะน่าเบล เธอไม่เหนื่อยหรือไงกับการวิ่งไล่ตามผู้ชายที่ไม่เคยเหลียวมองเธอเลย" คำถามนี้เหมือนเป็นดาบเล่มใหญ่พุ่งเสียบแทงเข้ากลางอกของเบลล่าทันที ภาพในอดีตผุดขึ้นมาในสมองของเด็กสาวอีกครั้งความทรงจำที่ตัวเบลล่าไม่อยากจำ มันคือภาพตอนที่เบลล่าในช่วงอายุสิบสามปี เธอได้รู้จักกับเสมอแมนในตอนงานแข่งขันวิ่งที่โรงเรียนจัด เด็กสาวประทับใจในความเป็นสุภาพบุรุษของเสมอแมน ในช่วงที่เธอได้รับอุบัติเหตุจากการซ้อมกีฬาแล้วได้รับความช่วยเหลือจากเสมอแมน เบลล่าตกหลุมรักอีกฝ่ายจนถอนตัวไม่ขึ้นและพยายามที่จะเข้าหาเขามาตลอด ทว่าดูจะทำได้ยากเหลือเกินเพราะเสมอแมนมีแฟนคลับมากมายที่เข้ามาพูดคุยด้วย ประกอบกับเสมอแมนไม่เคยอยู่คนเดียวเลยต้องมีเพื่อนตามมาด้วย ทำให้การเข้าหาเสมอแมนช่างยากเย็นจนเบลล่าเกือบจะตัดใจแล้ว จนกระทั่งเบลล่าได้เจอกับเสมอแมนที่ชมรมว่ายน้ำเนื่องจาก สิริเพ็ญ น้องสาวของเสมอแมนอยู่ชมรมนี้ เบลล่าจึงรวบรวมความกล้าและมาสารภาพความในใจกับเสมอแมนที่อยู่คนเดียวพอดี ทว่าเบลล่าก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อเสมอแมนได้บอกกับเธอว่า เขามีคนที่ชอบอยู่แล้วซึ่งเธอคนนั้นก็คือแพรววา ที่พึ่งย้ายมาเรียนใหม่ในตอนมัธยมปลายปีที่สี่และเป็นสมาชิกใหม่ของชมรม แถมไม่กี่วันต่อมาเบลล่ารู้ข่าวว่าเสมอแมนได้สารภาพบอกชอบแพรววา ซึ่งเธอตอบปฏิเสธไปหากแต่เสมอแมนกลับไม่ยอมตัดใจแถมพยายามใช้ลูกตื้อกับแพรววาประจำ ที่แย่ยิ่งกว่าคือมีจำนวนนักเรียนหญิงหลายคนไม่พอใจเบลล่าเป็นทุนเดิม ก็พากันล้อเลียนและหัวเราะเยาะที่เธอถูกเสมอแมนปฏิเสธรักไป มันยิ่งทำให้เบลล่าไม่ชอบแพรววามากขึ้นไปอีกเพราะเธอคิดว่า ถ้าไม่ใช่แพรววาแล้วละก็บางทีเธออาจสมหวังกับเสมอแมนไปแล้วก็ได้ และการที่แพรววามีโชลเมทแล้วก็ยิ่งทำให้เบลล่าไม่พอใจมากขึ้นไปอีก เพราะเบลล่ามองว่าแพรววาคิดจะจับปลาสองมือ ฉะนั้นนี้จึงเป็นหลักฐานชิ้นเดียวที่เสมอแมนจะยอมเชื่อแล้วตาสว่างยอมปล่อยแพรววาไป ซึ่งในความคิดของคริสติน่าแล้วมันช่างเป็นเรื่องที่ไร้สาระเสียเหลือเกิน เธอไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเบลล่าเพื่อนสมัยเด็กของตน จะมีสมองเท่าถั่วเพียงเพราะอยากให้ผู้ชายคนหนึ่งหันมามองเท่านั้น แถมอีกอย่างคริสติน่าก็มองไม่เห็นว่าการที่เบลล่าจะประกาศเรื่องนี้มันจะมีประโยชน์อะไรเลย "เธอไม่ใช่ฉัน ไม่มีวันเข้าใจหรอก" เบลล่าพูด "เออ ! ฉันไม่เข้าใจ... ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องมาทำอะไรปัญญาอ่อนแบบนี้ด้วย" คริสติน่าพูด "เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าการที่เธอเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพี่เสมอแมน แล้วพี่เขาจะมาสนใจเธออย่างนั้นหรือ" พูดจบคริสติน่าก็พ่นลมหายใจแรง ๆ ออกมา "ไม่ล่ะ ถ้าคนมันจะชอบนะแค่เธอนั่งกินไอติมอยู่แบบนี้ ยังไงสายตาก็ยังมองแค่เธอคนเดียว" เบลล่าเงียบเพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมาก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล แต่ถึงกระนั้นเบลล่าก็ไม่พอใจนักที่เพื่อนสนิทอย่างคริสติน่า แทนที่จะเข้าใจแต่กลับมาสะกิดบาดแผลที่ยังไม่หายสนิทแบบนี้ "งั้นฉันก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงกล้าพูดจาไม่รักษาน้ำใจแบบนี้" เบลล่าหันหน้าไปทางหน้าต่างของร้านและเห็น ชอนยูอิน เพื่อนอีกคนในกลุ่มกำลังเดินเข้ามาในร้าน ฝั่งคริสติน่าที่เริ่มหมดความอดทนก็พูดโพล่งใส่เบลล่ากลับ "ใช่ ฉันไปยุ่งกับความเจ็บปวดของเธอ เพราะอะไรล่ะ... ถ้าไม่ใช่เพราะต้องการให้เธอมีสติได้แล้วไง ยัยปลาเน่า" เบลล่าที่ได้ยินก็ทำท่าจะเข้าหาเรื่องคริสติน่าทว่าเดชะบุญที่โซอี้ห้ามปรามไว้เพราะมันเป็นพื้นที่สาธารณะ ถ้าเบลล่ากับคริสติน่ามีเรื่องกันละก็อาจเดือดร้อนกันทั้งกลุ่มได้ เบลล่าตั้งสติได้จึงยอมเลิกรากับคริสติน่าแต่เธอกลับพูดคำหนึ่งออกมา เป็นคำที่โซอี้กับคริสติน่าไม่คาดคิดว่าเบลล่าจะกล้าเอ่ยออกมา "ไปซะ..." เบลล่าพูด "เธอไม่ควรอยู่กลุ่มพวกเราอีกต่อไป" โซอี้เบิกตาโตด้วยความตกใจ "ไม่นะเบลล่า ใจเย็น ๆ สิ เธอคงไม่..." "ไม่ โซอี้ ฉันพูดจริง" เบลล่าหนักเน้นในน้ำเสียงและมองหน้าคริสติน่าด้วยสายตา ที่แม้แต่คริสติน่าไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะออกมาจากเพื่อนในวัยเด็กของเธอ "คริสติน่า ตั้งแต่นี้ไปเธอไม่ใช่เพื่อนของฉันอีก กลุ่มของเราไม่ต้อนรับเธอแล้ว" คริสติน่าอึ้งในสิ่งที่ได้ยินกับหูแต่สุดท้ายเธอก็ลุกจากเก้าอี้ "ได้ เบลล่า ในเมื่อเธอไม่เห็นว่าฉันคือเพื่อนแล้ว ฉันก็ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่ต้องอยู่แล้วนี่ จริงไหม" พูดจบเด็กสาวก็เดินออกจากร้านไปโดยไม่คิดทักทายชอนยูอิน ที่พึ่งจะเดินสวนทางเข้ามาในร้านและที่สำคัญคริสติน่าไม่คิดจะเหลียวหลังหันมามองเบลล่า ทว่าถึงกระนั้นไม่กี่นาทีต่อมาในดวงตาของคริสติน่าได้ปรากฏเป็นน้ำใส ๆ ครอบดวงตาเอาไว้ ❤️❤️❤️❤️
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD