บทที่สิบห้า

2121 Words
จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้แพรววาต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากหมอตรวจพบว่าบริเวณขาซ้ายของเธอได้รับบาดเจ็บ มีกระดูกแตกร้าวแต่ไม่ถึงกับหักแต่เพื่อความไม่ประมาท เธอจำต้องนอนพักอย่างน้อยอาทิตย์หนึ่งในการนอนใส่เผือก หากมองโลกในแง่ดีเล็กน้อยการนอนอยู่ในโรงพยาบาลก็ไม่ได้เลวร้ายมากนัก เพราะหนึ่งไม่ต้องไปเรียนไม่ต้องไปเห็นหน้าเสมอแมนหรือต้องหงุดหงิดรำคาญใจ ที่จะต้องเจอสายตาไม่เป็นมิตรที่ส่งมาจากเบลล่า ได้เว้นวรรคจากเรื่องปวดหัวเรื่องกวนใจแค่เจ็ดวันก็นับว่าดีแล้วสำหรับแพรววา นอกจากนี้เรื่องที่ต้องอยู่คนเดียวในโรงพยาบาลคงไม่ใช่ปัญหา พิมพ์พรรณกับป้าเอมที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเดียวกันอาสาจะมาอยู่เป็นเพื่อนให้ ส่วนพศพัชร์ที่ได้รู้ข่าวก็เกือบจะยอมทิ้งงานเพื่อจองตั๋วกลับมาบ้านเพื่อมาดูแลแพรววา โชคดีที่พจนวีร์ห้ามปรามเอาไว้เสียก่อนไม่อย่างนั้นพ่อของแพรววาอาจตกงานได้ แพรววาอาศัยจังหวะที่ป้าเอมไม่อยู่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับพิมพ์พรรณฟัง สองสาวแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าโชลเมทของพวกเธอจะอยู่ใกล้ตัวขนาดนี้ คำถามต่อมาคือทำไมอีกฝ่ายถึงเลือกปกปิดตัวตน เพราะเสียงสุดท้ายก่อนที่อาการหูดับจะหายไป แพรววาได้ยินอีกฝ่ายเผลอพูดออกมาว่า "รู้ได้ยังไง" แปลว่าโชลเมทรู้อยู่แล้วว่าแพรววาคือใคร ซึ่งเธอคิดเอาไว้แล้วว่ารักษาตัวเสร็จเมื่อไหร่จะออกตามหาเขาคนนั้น พิมพ์พรรณเองก็เหมือนจะอยากเปิดอกคุยกับเด็กหนุ่มผู้เป็นโชลเมทของเธอเช่นกัน สองนาทีต่อมากลุ่มมณีอรก็เดินทางมาเยี่ยมแพรววาพร้อมของเยี่ยมมากมาย หยาดรุ้งนำกล่องขนมสีแดงมาให้โดยบอกกับแพรววาว่า ก่อนที่เลิกเรียนเสมอแมนฝากมาให้พร้อมกับคำอวยพรขอให้หายไว ๆ ซึ่งเด็กสาวก็รับไว้เป็นน้ำใจเพราะสุดท้ายมันก็จะไปอยู่ในกระเพาะอาหารของนาถชญาอยู่ดี แพรววาปล่อยให้ทุกคนนั่งพักกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องราวแบบเดียวกับที่เล่าให้พิมพ์พรรณฟัง และมันก็เป็นอย่างที่เด็กสาวคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด พวกคติยาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าโลกมันจะกลมอะไรขนาดนี้ ซึ่งหยาดรุ้งเชื่อว่ามันคือพรหมลิขิตอย่างไม่ต้องสงสัย แถมยังตัดพ้ออีกด้วยว่าเธอก็อยากมีโชลเมทเป็นของตัวเองจังเลย แพรววาสังเกตเห็นอนัญลักษณ์มีท่าทางที่แปลกไปเหมือนจะมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ แต่ยังไม่ทันจะเปิดปากถามเสียงของคติยาก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน ดูเหมือนว่าเธอเกือบจะไม่ได้บอกเรื่องสำคัญบางอย่างกับแพรววาไปเสียแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ "ข่าวลือ" ของตัวแพรววาเอง สีหน้าของมณีอรและคนอื่น ๆ ไม่ค่อยสู้ดีนักรวมทั้งพิมพ์พรรณเองด้วย คติยาจึงเล่าให้ฟังว่าตอนนี้ที่โรงเรียนมีเรื่องเล่าลือกันว่า สาเหตุที่ทำไมแพรววาปฏิเสธความรักของเสมอแมน เป็นเพราะแพรววามีโชลเมทแล้วนั้นเองและคติยาเชื่อว่าคนที่ปล่อยข่าวลือคงไม่พ้นกลุ่มเบลล่า เมื่อคติยาเล่าจบแล้วความโกรธไม่พอใจปะทุขึ้นทันที "ยัยนั่นมีสิทธิ์อะไรที่จะพูดเรื่องนี้ !" แพรววาพูดอย่างเดือดดาล "ฉันออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ ฉันไม่ปล่อยยัยนั่นแน่" "ข่าวลือมันแพร่กระจายเร็วมาก มันก็มีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อล่ะนะมันก็เป็นเรื่องปกติ" พิมพ์พรรณบอก "ฉันไม่สนใจหรอกว่าใครจะเชื่อไม่เชื่อ แต่ฉันเชื่อว่าที่เบลล่าทำแบบนี้ก็คงคิดว่าพี่เสมอแมนจะยอมเลิกราเพราะเรื่องนี้" แพรววาพูดแสดงให้เห็นว่าเธอโกรธมากแค่ไหน "แล้วทีนี้เธอจะทำยังไงต่อล่ะ ยัยแพรว" หยาดรุ้งถามขึ้น "อะไร" หยาดรุ้งถอนหายใจและยุวดีเป็นคนถามแทน "แล้วเธอจะเอายังไงต่อล่ะ พี่เสมอแมนอาจไม่เชื่อคำพูดเบลล่าก็จริงแต่วิธีเดียวที่จะทำให้เขาเชื่อได้คือ เธอต้องพาโชลเมทมาโชว์ตัวจริง ๆ" ยุวดีพูด "นั้นสิ ไหน ๆ เธอก็รู้แล้วว่าเขาคือใคร" คติยาเสริม แพรววานั่งนิ่งพลางใช้ความคิดสิ่งที่ยุวดีพูดก็ไม่ได้ผิดซะทีเดียว เสมอแมนมีความดื้อดึงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วอย่างไรก็คงไม่เชื่อข่าวลือแน่ ยิ่งถ้ามันถูกปล่อยออกมาจากกลุ่มของเบลล่าด้วย ความน่าเชื่อถือคงเทียบได้เหมือนขี้แมลงวัน แม้แพรววาจะยอมรับว่าเธออยากรู้จักกับโชลเมทจริง ๆ และไม่อยากใช้อีกฝ่ายเป็นเครื่องมือเพียงเพื่อให้คนอื่นเชื่อด้วย เรื่องที่เธอกังวลมากกว่าเสมอแมนกับเบลล่าคือพศพัชร์ ความหวงและห่วงมากเกินความจำเป็นของผู้เป็นพ่อ ทำให้แพรววาไม่ค่อยอยากให้เจอกับโชลเมทเลยเพราะไม่รู้ว่าพศพัชร์จะทำอะไรอีกฝ่าย สิ่งที่เกิดขึ้นกับป็อบทำให้เธอห่างเหินกับพศพัชร์ทั้ง ๆ ที่ความจริงในอดีตเธอติดพ่อมาก เด็กสาวถอนหายใจเล็กน้อยพร้อมกับคำถามในใจว่าทำไมพ่อถึงได้หวงกับห่วงตัวเธอมากขนาดนี้ สักพักประตูห้องก็เปิดออกและคนที่เดินเข้ามาคือพจนวีร์ กลุ่มเพื่อน ๆ จึงจำต้องพากันกลับเพื่อให้แพรววามีเวลากับครอบครัว ในมือของพจนวีร์มีถุงขนมที่เธอชอบมาด้วย พจนวีร์เล่าให้ลูกสาวฟังว่าหลังจากที่เธอต้องพักอยู่ในโรงพยาบาล พศพัชร์โทรมาถามอาการทุกครั้งที่มีเวลาว่างพอที่จะคุยทางโทรศัพท์ได้ ทำเอาแพรววาอดสงสัยไม่ได้เลยว่าอะไรดลใจให้พจนวีร์ยอมแต่งงานกับพศพัชร์ แถมยังมีวิธีรับมือความชี้หวงของอีกฝ่ายได้แบบอยู่หมัดอีกต่างหาก ตอนนี้ภายในห้องมีเพียงแค่เธอกับพจนวีร์สองคนเท่านั้น เนื่องจากพิมพ์พรรณขอตัวลงไปข้างล่างเพื่อหาอะไรกิน แพรววามองหน้าแม่ของตัวเองแน่นอนว่า ฝั่งพจนวีร์รับรู้ถึงบางอย่างที่อยู่ในใจของลูกสาวได้เธอจึงมองสบตากับแพรววา "แพรว เป็นอะไรไปหรือปล่า" พจนวีร์ถามด้วยความเป็นห่วง แพรววาผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ "แม่คะ หนูมีเรื่องจะบอก" ❤️❤️❤️❤️ จิตติพัฒน์แทบจะกลืนน้ำลายไม่ลงคอกับสถานการณ์ที่ต้องเผชิญในตอนนี้ แม้จะไม่อยากยอมรับแต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่มงคลพัสพูดเอาไว้มันก็เป็นจริงจนได้ ย้อนกลับไปในตอนที่เขากับมงคลพัสตัดสินใจเดินทางมาเยี่ยมลูกทีมของร้อยเอกจันฮุน ซึ่งตอนนี้เริ่มอาการดีขึ้นและอาจจะได้ออกจากโรงพยาบาลเร็ว ๆ นี้ ทว่าสิ่งที่สองหนุ่มไม่คาดคิดคือพวกเขาเจอพิมพ์พรรณและแพรววา ที่กำลังเดินออกมาจากห้องคนป่วยพอดีเนื่องจากว่ามันครบกำหนดเจ็ดวันแล้ว ขาของเธอหายดีจนหมออนุญาตให้กลับบ้านได้ น่าตกใจยิ่งกว่าคือห้องของแพรววาอยู่ไม่ห่างจากห้องที่ลูกทีมของร้อยเอกจันฮุนรักษาตัวอยู่ การเจอหน้ากันแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ก็ทำให้จิตติพัฒน์ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน ทว่าโชคดีที่เขาตั้งสติไว้ได้จึงทำตัวตามปกติด้วยการพยักหน้าให้เป็นเชิงทักทาย เช่นเดียวกับมงคลพัสที่ทำลักษณะแบบเดียวกันก่อนจะพากันเดินหายเข้าไปในห้องคนป่วยอีกห้อง โดยไม่ทันได้เห็นพิมพ์พรรณกับแพรววากำลังหัวเราะในท่าทางของเด็กหนุ่มทั้งสอง เวลาผ่านไปสามสิบนาทีในที่สุดจิตติพัฒน์กับมงคลพัสก็ตั้งใจว่าจะกลับ แต่ใครจะไปคาดคิดว่าพวกเขาจะโดนสองสาวดักรออยู่ชั้นล่างพอดี โดยแพรววาขอนัดเจอกับจิตติพัฒน์ในวันพรุ่งที่สวนสาธารณะตอนบ่ายเย็น ๆ พร้อมกำชับว่าห้ามเบี้ยวนัด และจิตติพัฒน์ก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขาเปิดปากตอบตกลงไปเสียอย่างนั้น แม้แต่มงคลพัสเองก็ไม่คาดคิดว่าเพื่อนเขาจะยอมรับนัดอีกฝ่าย จึงกลายเป็นเหตุผลว่าทำไมวันนี้เขาถึงโผล่มาในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนที่แพรววาเรียนอยู่ ดังนั้นระหว่างที่จิตติพัฒน์นั่งรอก็สังเกตได้ว่ามีนักเรียนชายและหญิง มานั่งเล่นรับลมชมวิวเพื่อผ่อนคลายความเครียดและความเหนื่อยล้าจากการเรียน ซึ่งเด็กหนุ่มมองว่าแพรววาเข้าใจในการจัดนัดเจอในสถานที่แห่งนี้ มันก็ทำให้เขานึกถึงอดีตในสมัยเด็กที่ครั้งหนึ่งเคยวิ่งเล่นในสวนสาธารณะ แต่มันก็นานมากแล้ว "รอนานไหม" จิตติพัฒน์หันไปมองต้นเสียงก็เห็นแพรววาในชุดนักเรียน วันนี้เธอมัดผมหางม้าไว้ข้างหลังและยิ้มให้เด็กหนุ่มอย่างเป็นมิตร แต่สำหรับเขาแล้วมันกลับทำให้หัวใจเต้นรัวเร็วพิกล แพรววาก็ย้ายมานั่งข้าง ๆ เล่นเอาจิตติพัฒน์เกือบหยุดหายใจ เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้อยู่กับผู้หญิงตามลำพัง (ถึงแม้จะมีผู้คนพลุ่นพล่านอยู่ก็ตาม) แม้ว่าเขาจะมีเพื่อนยุวชนทหารหญิงก็จริงแต่โดยรวมไม่ได้สนิทกันมากนัก ส่วนใหญ่จิตติพัฒน์จะอยู่กับกลุ่มมงคลพัสมากกว่า และวันนี้การที่เขาต้องอยู่คนเดียวโดยปราศจากเพื่อนคุ้นเคย มันก็ทำให้เขารู้สึกวังเวงใจอย่างไรชอบกล พฤติกรรมของเด็กหนุ่มล้วนอยู่ในสายตาของแพรววาทั้งสิ้น "ฉัน... ทำให้เธออึดอัดหรือเปล่า" แพรววาถามตรง ๆ จิตติพัฒน์สะดุ้งได้สติรีบตอบแทบจะทันที "ไม่เลย ไม่เลย เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย มันเป็นเพราะฉันต่างหากล่ะ" "หมายความว่ายังไง" แพรววาขมวดคิ้วและมองหน้าเด็กหนุ่ม "ฉันไม่เคยมีคุยกับผู้หญิงมาก่อนนะ" จิตติพัฒน์อธิบาย "ที่ค่ายทหารฟรอนเทียร์ไม่มีทหารผู้หญิงเหรอ" แพรววาถามต่อ "มีสิ แต่โดยส่วนมากฉันจะมีเพื่อนอยู่กลุ่มเดียว" จิตติพัฒน์ตอบ แพรววาพยักหน้าเข้าใจแต่ถึงกระนั้นความสงสัยก็ยังไม่มีท่าทีจะหายไป เธอจึงยิงคำถามสำคัญที่เธออยากรู้มาตั้งนานแล้วก็คือ "ทำไมเธอต้องปิดบังฉันด้วย เรื่องที่เธอเป็นโชลเมทของฉัน" คำถามนี้เล่นเอาจิตติพัฒน์ถึงกับทำตัวไม่ถูกเลย สีหน้าของเด็กหนุ่มในยามนี้เหมือนเผลอกินกบตัวใหญ่ ๆ เข้าไปในคอและมองหันไปสบตากับเด็กสาว สายตาจริงจังที่ต้องการคำตอบมันก็ยากที่จิตติพัฒน์จะอธิบาย เขาไม่อยากบอกเหตุผลส่วนตัวให้แพรววารับรู้เลย เพราะเด็กหนุ่มเชื่อว่าเธอไม่มีวันเข้าใจอย่างแน่นอนปัญหาคือเขาจะตอบคำถามนี้อย่างไรดี ระหว่างที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้นจิตติพัฒน์รู้สึกได้ว่า มีใครแอบมองเขากับแพรววาอยู่จึงทำให้เขาลุกพรวดพราดและหันไปมองรอบ ๆ ตัว จนกระทั่งหยุดลงที่เด็กสาวคนหนึ่งในเครื่องแบบนักเรียนเหมือนกับแพรววา ที่มือเหมือนจะถือของบางอย่างลักษณะคล้าย ๆ กล้องถ่ายรูป เจ้าตัวที่รู้ว่าโดนจับได้แล้วก็รีบวิ่งหนีออกจากสวนในทันที จิตติพัฒน์ตั้งใจว่าจะวิ่งตามแต่ก็ไม่อยากทิ้งแพรววาไว้ แต่พอเขาหันมามองเด็กสาวที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็ต้องพบกับความแปลกใจ แพรววาแสดงสีหน้าอันกังวลออกมาชัดเจน ในตอนแรกเธอไม่รู้ว่าจิตติพัฒน์กำลังมองหาอะไร จนกระทั่งเธอเห็นคนแอบอยู่หลังต้นไม้ไม่ไกลจากตรงนี้มาก และแพรววาไม่ได้สายตาสั้นเธอรู้ดีว่าสิ่งที่อีกฝ่ายถืออยู่คือกล้องถ่ายรูป และที่สำคัญนักเรียนหญิงคนนั้นแพรววาก็รู้จักเสียด้วยเพราะเธอคือ โซอี้ เพื่อนในกลุ่มของเบลล่า ❤️❤️❤️❤️
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD