บทที่ 9

1133 Words
เสียงไก่ตีปีกและขับเพลงรับอรุณผิดปกติวิสัยที่ผ่านมา พวกมันโห่ร้องก้องกังวาลอยู่นานครัน เสียงสดใสวิเวกแว่วสะท้อนแทรกเบียดเข้าในอากาศเย็นเฉื่อยฉิวในยามขอบฟ้าเสิงสาง นางพลิกกายงัวเงียขึ้นมารวบขอบผ้าถุงม้วนเหน็บเหนือท้องน้อยอย่างเคยชิน ทิ้งภาพความฝันถึงวงใบหน้ามีเลศนัยของผัวหายวับไปทันทีที่นางผวาตื่นจากภวังค์ “อืม ! เพิ่งฝันถึงมันก็วันนี้แหละ เป็นข่าวร้ายหรือดีกันแน่นะ ! สาธุ อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปเลย ลูกยังเล็กนัก” นางจำปีผู้เป็นเมียของนายโวนั้นอดห่วงไม่ได้ แต่นางก็มีความอดทนเป็นเลิศ นางอยู่กับการรอคอยมาตลอดและคอยเฝ้าถามกับสายลมที่พัดผ่านจรมาบนถนนเก่าแก่นี้ เมื่อไรเขาจะแบกกระสอบเงิน กระสอบทองกลับมาแผ่นดินนี้สักที ในความเงียบงันที่นับวันจะเวิ้งว้างห่างไกลออกไปนั้น นางไม่เคยคิดเลยว่า “เขาตายดับแนว”ไปแล้วในวงพนันเถื่อน มีแต่คิดว่าเขายังอยู่เหนือหายนะ เขาสามารถเอาตัวรอดได้เสมอในยามคับขัน ไม่มีใครทำให้เขาขาดอากาศหายใจได้ ไม่ว่าด้วยหอก ดายหรือลูกกระสุนปืนก็ตาม ไม่ใช่ด้วยเงินตรา แต่ด้วยคำพูดปฏิภานไหวพริบและเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวตามวิสัยนักเลงที่เขาสะสมมานับตั้งแต่วัยเยาว์ อายุนางยังคงอยู่ในวันเลขสามสิบอีกหลายปี ไม่ต่างจากดอกไม้ที่ยังเบ่งบาน เปล่งสีสันเจิดแจ่มให้โลกรื่นรมย์ อากาศร้อนอบอ้าวในตัวบ้านย่อมเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดาเพราะมันปิดมิดชิดด้วยสังกะสีทุกด้าน แต่ความร้อนที่บ่มอยู่ภายในตัวตนนั่นต่างหากที่นางรู้สึกร้อนรุ่มเหมือนถูกจองจำอยู่ในคำสาปในฐานันดร “เมีย” จากบรรพกาลบ่วงบาศก์ประเพณี ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสิทธิ์ของนางบ้างที่จักต้องก่นด่าหรือสาปแช่งในการริยำตำบอนของเจ้าบ่าวที่ต่อมาเรียกว่า “ผัว”นั้นอันไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป แต่ครั้นไพร่คิดไปอีกด้านก็หายกลัดกลุ้มได้ บ้าง การที่เขาหายไปนานหลายวันเท่าใดก็เป็นสิ่งยืนยันรับประกันความมั่งคั่ง เงินทองสินทรัพย์ที่ได้มากำไว้ในมือยังไม่ละลาย โชคลาภยังหลั่งไหลเข้าสู่การครอบครองของเขาเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ เหมือนเม็ดฝนที่โปรยปรายไม่รู้จักแห้งเหือด แต่ที่นางเหลืออดเหลือทนคือคำพูดที่มันลอยเข้าหูอยู่ทุกวี่วัน “เป็นไปไม่ได้หรอกที่ผัวมึงจะไม่มีเมียน้อย” เลือดขึ้นหน้าทันทีถ้าหากมันสาระเลยเช่นนั้นจริง แถมผู้เฒ่าบางคนยังเคยกลั่นแกล้งให้นางจิตตก ในโลกของผู้ชายแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว พวกผู้ชายวาดฝันความสัมพันธ์กับผู้หญิงในฐานะเมียมี 3 ประการคือ 1) เมียแต่งสำหรับสร้างครอบครัว สร้างทายาทสืบเผ่าพันธุ์รักษาทรัพย์สมบัติอันพึงมี 2)เมียบำเรอเพื่อหลับนอนและเป็นเพื่อน และ 3)เมียโสเภณีสำหรับสำเริงสำราญให้สุดเหวี่ยงโลกีย์ นางเองก็ไม่ได้แปลกใจถ้ามันจะเตลิดเลยไปเช่นนั้น เพราะยังไงชีวิตจริงของแต่ละคนกับบทละครอันยอกย้อนก็ไม่ได้แตกต่างกันนัก แต่ที่น่าสงสัยและไม่มีใครให้คำตอบได้คือ ทำไมผัวนางจึงได้หลงไหลในมนต์การพนันขนาดนั้น หายใจเข้าออกเป็นไฮโลว์สูง ต่ำ ดำ ขาว ในหัวสมองก็ตื้อเต็มไปด้วยสูตรคณิตศาสตร์คำนวณหวยเบอร์ราวกับศาสตราจารย์ด้านตัวเลข ความหมกมุ่นในการพนันขันแข่งของเขาอาจติดมาแต่ขาติปางก่อนก็ได้ใครจะไปรู้กับการเวียนว่ายตายเกิด เขาอาจเคยเป็นเจ้าเมืองที่ไหนสักแห่งที่ชอบตีคลีขี่ม้าแข่งกันกินบ้านกินเมือง หรืออย่างการชนไก่เอาบ้านเอาเมืองเป็นเดิมพันก็เคยได้ยินมามิใช่หรือบนเวทีการแสดงหมอลำหรือในตู้พงศาวดารที่ต่างกราบไหว้บูชา เมื่อลับมีดเสร็จแล้ว นางก้มลงเหน็บผ้าถุงลายดอกผักแว่นให้กระชับสะโพกกลึงได้รูป แล้วผันตัวเคลื่อนกายอวบอิ่มออกมานั่งบนเตียงไม้ไผ่หน้าบ้าน เสียงเพลงเคารพธงชาติดังขึ้นจากโรงเรียนก็เป็นอันว่าการงานของนางก็ได้เริ่มต้นขึ้นเช่นกัน อีกปีเดียวเท่านั้นลูกชาย ลูกสาวก็จะพ้นจากรั้วโรงเรียนออกมาสู่โลกภายนอกเพื่อเผชิญกับสายลมและแสงแดดด้วยปีกที่แข็งแรง หาอาหารใส่ท้องด้วยจะงอยปากของตนเอง นางหยิบติ้วไม้ไผ่ขึ้นมาจักตอกโดยไม่จำเป็นต้องจ้องมองกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ถนนจ้าวเสด็จหน้าบ้านของนางวันนี้แจ่มกระจ่างด้วยแสงแดด บางครั้งนางชะเง้อใบหน้านวลผ่องไปทางซ้ายอันมีต้นทางที่ปราสาทขอมพิมาย ศรีเทพ บางครั้งหันเบิ่งไปอีกด้านที่ปลายทางพระธาตุพนม พระธาตุหลวงอิงฮิงด้วยสายตาของการรอคอยที่ไม่มีวันจบสิ้น “ถ้าเขาไม่กลับมา”นางคิดวังเวงในใจ “เป็นไปได้มั๊ยที่เขาต้องทิ้งหมู่บ้านน้อยขี้หมาจอก ไปไม่กลับ ใช่ ! เป็นไปได้แน่นอน…ถ้าเขาหลับไม่ตื่น !” ยิ่งทอดสายตาออกไปไกลเท่าไร ความแห้งแล้งในใจนางก็โถมทับให้กังวล สับสนมากขึ้นเพียงนั้น “ถ้าเขาไม่ฟื้น….อุ๊ย…ไม่นะ!“ นางโยนมีดอีโต้ลงพื้นทันใด เมื่อรู้สึกเย็นๆ ที่ปลายนิ้วชี้ซึ่งมีเลือดสดไหลทะลักล้นออกมาปุดๆ และท่ามกลางแสงแดดอันร้อนเปรี้ยงๆยามใกล้เที่ยงบนถนนพันปี อยู่ๆก็มีเหตุประหลาดเกิดขึ้น เสียงลมมรสุม เสียงฟ้าฝ่า เสียงร้องครวญกัมปนาทขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่แต่เท่านั้น ยังมีเสียงนก เสียงไก่วิ่งอลวนแตกตื่นไปหมดล้ายกับทุกอย่างหนทางที่เคยเดินไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เมื่อฝุ่นสงบจางลง มีเงาสิ่งหนึ่งสีดำพุ่งกึงกังมาจบลงหน้าบ้านราวกับมันหล่นลงจากฟากฟ้า คนที่เดินเชิดหน้าใส่แว่นกันแดดสีดำลงมาจากรถรับจ้างพร้อมกับยกกล่องกระดาษขนาดใหญ่ลงมาด้วยไม่ใช่ใครที่ไหน คนที่นางกำลังสวดสาปส่งนั่นเอง “มาแล้วแม่มัน! มาแล้วแม่มัน! แล้วนี่จะตั้งไว้ตรงไหนดี ! ก็แล้วแต่เจ้าเถอะนะ” นายโวร้องบอกเมียอย่างรู้ตัวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจในวีรกรรมที่ใครกระทำได้ยากยิ่ง *******
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD