บทที่ 8
ก่อนที่จะมีเมรุเผาศพตามวัดต่าง ๆ ซึ่งตั้งอยู่รายรอบผืนป่าแห่งนี้ จากคำบอกเล่าของวิญญาณพ่อเฒ่าบุญมาก บุญพามาประกอบคำให้การข้างกองไฟของชาวบ้านอาจจะไม่จริงทั้งหมดอย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่า ที่ดินแดนนี้คือป่าช้าเก่าแก่มาก่อน เนิ่นนานมาแล้วก่อนจะมีหลวงพระบาง เวียงจันทน์ ก่อนจะมีเมืองบางเกาะ-บางกอกด้วยซ้ำไป ดังร่องรอยที่ปรากฎเป็นเนินดินขนาดย่อมหลายแห่ง หลักเสมาหิน หลักเสมาไม้ที่ใครต่อใครมองข้าม ตำราเรียนสมัยใหม่ไม่สนใจไยดีล้วนเป็นของสำคัญที่จะชี้บอกเราได้ว่า ณ ที่แห่งนี้เคยมีเมืองปุระนคร มีคน มีความคิดและมีอารยธรรมมาแต่ครั้งพระเจ้าจิตเสน พระวอ พระตา และเหล่าลูกหลานบริวารที่มากับกองทัพและหายไปกับกองทัพเจ้าพระยามหากษัตรหรือเจ้าอนุวงศ์ เจ้าองค์ผู้มีบุญทั้งหลายก็ตาม ทั้งหมดได้ฝังร่าง จมหายอยู่ตามป่าละเมาะและเนินทรายเหล่านี้ ไม่เกินความจริงไปได้ เพราะถนนด้านหน้าโรงเรียนชาวบ้านยังจดจำตำนานกันติดปาก “ถนนเจ้าเสด็จ-ทางเสด็จ”มาจนทุกวันนี้ ถนนบุญ-ถนนบาปซึ่งบรรพชนได้สังเวยไปแล้วด้วยคอด้วยแขนขาและตับไตไส้พุง สละเลือดแดงฉานชะโลมอาบอยู่ทั่วผืนทรายเวิ้งว้าง
แต่อย่างไรก็ตาม บ้านเมืองของเราทุกวันนี้อยู่กันมาอย่างไม่มีอดีต ไม่มีเมื่อวาน เราใช้ความทารุณกรรมเหยียบย่ำทำลายคนที่ตายไปก่อนให้ต่ำต้อย ให้หายสาบสูญไปอย่างไร้ค่า เหมือนเศษขยะข้างถนน การตายหรือหายไปอย่างไร้ร่องรอยของใครก็ตามมันคือการสบประมาทชั้นสูงสุดต่อคุณธรรมและความมีเกียรติของมนุษย์ทุกคนอยู่แล้ว
เราอยู่กับปัจจุบันอย่างเดียวเพื่ออะไร เพื่อไปนิพพานหรือไม่ก็ไปนรก…..นั่นไม่ใช่สิ่งเลวร้ายถ้ามันจริง เพราะถึงอย่างไรเราก็หนีไม่พ้นวันนี้….วันที่ทุกคนพลโลกกำลังเดินไปสู่แดนใด!….
วันก่อน ประมาณสองทุ่มเศษ ชาวบ้านในย่านใกล้เคียงได้แห่กันไปนั่งทำตาปริบๆในศาลากลางประจำตำบลจนแน่นขนัดไปหมด ส่วนที่เหลือก็นั่งเคี้ยวหมาก เคี้ยวใบสมุนไพร สูบยาเส้นปล่อยควันโขมงอยู่ใต้ต้มมะขามรายรอบนั้นด้วยใจจ่อจด
สาเหตุที่มีชาวบ้านหลั่งไหลกันมาในยามวิกาลมากผิดปกติเช่นนี้ก็ด้วยมีข่าวลื่อบอกต่อ ๆ กันมาหลายวันแล้วว่า ถ้าใครไม่เข้ารับการอบรมบ่มนิสัยคราวนี้แสดงว่าเป็นบุคคลน่าสงสัยประเภทคดในข้องอในกระดูก ไม่กล้าสบตากับผู้รู้ข้อกฎหมายจากสำนักงานสูงสุดระดับจังหวัด หรือไม่ก็เป็นผู้สืบทอดลัทธิผีบ้า ผีบุญอะไรสักอย่าง ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงสุดต่อความสงบสุข ต่อ ความมั่นคงของวันนี้โดยเจตนาอันชัดแจ้ง
ด้วยเหตุฉะนี้ ชาวบ้านผู้มุ่งแสวงหาแต่ไส่ปากไส่ท้องไปวันๆสืบต่อกันมาแต่เก่ากาลก็แห่กันมาแสดงความบริสุทธิ์มากมายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน สร้างตำนานขึ้นมาอ**บทหนึ่งเฉกเช่นการเข้าไปยื่นแขนให้คนบนหลังม้าตีตรา “สักเลก”อย่างจำนน !
เนื้อหาการอบรมในคืนนั้นส่วนใหญ่เกี่ยวกับกฏบัตร กฎหมายทั้งปวงบรรดามี กฎหมายทั่วไป กฎหมายอาญา กฎหมายที่ดิน กฎหมายแพ่งและพานิชย์ที่ทุกคนต้องรู้ โดยเจตนาของการบัญญัติกฎหมายใด ๆ ก็ตามล้วนแต่ต้องการโปรยหว่านความยุติธรรมให้เกิดขึ้นกับทุกคน
ถ้าผู้รักษากฎหมายกล้าปฏิบัติตามเจตนานั้น เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์แก่คนธรรมดาสามัญเป็นแน่แท้ แต่เท่าที่ผ่านมาจากอดีตกระทั่งถึงปัจจุบัน ผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากกฎหมายทั้งหลายแหล่คือผู้มีหน้าที่บัญญัติกฎหมายและฝ่ายรักษากฎหมายเท่านั้น ส่วนชาวบ้านตาดำ ๆ ผู้ไม่มีกฎหมายให้รักษายังอยู่ใต้เงาปืนที่มากับข้อห้ามตลอดกาล
ในการอบรมคราวนี้ ชาวบ้านให้ความร่วมมือด้วยดีทุกครัวเรือน ยกเว้นหนึ่งครอบครัวจากหมู่บ้านน้อยขี้หมาจอกเท่านั้น !
เขาคนนั้น - ผู้สร้างความพิศวง ! งงงวย ! แสดงความกล้าหาญหรือไม่ก็ความบ้าบิ่นที่นรกเท่านั้นที่เพรียกหา !