14

1176 Words
“เอ้า!!...ฉันจูบคุณแล้ว บอกมาได้หรือยังว่าจินนี่อยู่ที่ไหน” เธอพูดโดยหันใบหน้าไปในทิศทางที่ไม่มีเขาอยู่ เนื่องจากหลบความเขินอายในการกระทำของตัวเองเมื่อครู่ “จะบ้าหรือไง?...บ้านใครเขาจูบกันแบบนี้ จูบใหม่ไม่งั้นเธอไม่ได้เจอหน้าจินนี่แน่” เขาพูดเสียงเข้ม พิมลวัลย์หันมามองหน้าเขาอย่างแค้นเคือง ‘จูบแล้วนะยังจะเอาอะไรอีกเนี่ย’ หากแต่เธอก็ต้องทำตามที่เขาพูดไม่เช่นนั้นเธออาจจะไม่ได้เจอกับแก้วตาดวงใจอีกเลย ดวงหน้าสวยใสโน้มมาหาใบหน้าเขาอย่างเชื่องช้า กล้าๆ กลัวๆ ในที่สุดเรียวปากบางก็เดินทางมาประกบแนบสนิทกับกลีบปากหนาที่นุ่มอย่างไม่น่าเชื่อของปกรณ์ เธอออกแรงบดเคล้าเพียงนิด ทำท่าจะผละออกหากแต่มือแกร่งของเขาเลื่อนมาจับที่ท้ายทอยของเธอมั่น ก่อนจะบดจูบเธอเองอย่างห้ามใจไว้ไม่ไหว ดวงตาของเธอเบิกกว้างไม่คาดคิดว่าตัวเองจะพลาดพลั้งอีกเป็นครั้งที่สอง ที่ร้ายไปกว่านั้นร่างกายของเธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างที่ใจคิด ริมฝีปากบางเผยอออกโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้เขาแทรกลิ้นหนาเข้าสำรวจหาความหวานนุ่มจากโพรงปากเธอได้อย่างง่ายดาย หญิงสาวที่แข็งแกร่ง หนักแน่น ร่างกายอ่อนยวบลงทันที ความวาบหวามกระจายไปทั่วเรือนร่าง เพียงแค่เขาจูบเธอ ลิ้นของเขาเหมือนมีคาถาทำให้ร่างของเธออ่อนแรงได้ทุกครั้ง สมองที่ชาญฉลาดหาทางออกให้กับตัวเองเสมอ ถูกกำแพงเสน่หากั้นความคิดของเธอจนหมดสิ้น ทั้งสองหลงอยู่ในโลกที่ไร้จินตนาการ ไร้สตินึกคิด ไร้หนทางที่ก้าวเดิน จมอยู่กับรสจูบที่สะท้านไหว อ่อนหวาน หอมหวานและความสุข เหมือนอยู่ในความฝัน เขาและเธอกำลังคิดว่าอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน เขาจูบเธอครั้งนี้มีแต่ความอ่อนโยน ก่อนจะเพิ่มแรงบดเคล้ามากขึ้นเรื่อยๆ ร่ายมนต์คาถามหาเสน่ห์ใส่เธอให้หยุดนิ่งด้วยลิ้นหนาที่ตวัดไล้แรกรัดกับลิ้นนุ่มอย่างไม่ยอมละจาก ริมฝีปากหนาครอบครองกลีบปากนุ่มเนิ่นนาน หลงติดอยู่กับรสหวานราวกับว่าเขาดื่มกินน้ำหวานจากต้นอ้อย หอมหวานนุ่มลิ้น ละมุนหัวใจ มือใหญ่ลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง เลื่อนต่ำลงมายังเอวเล็ก สอดมือเข้าไปในชายเสื้อของเธอ ลูบไล้ฝ่ามือไปตามแผ่นหลังที่นุ่มมือ ผิวกายของเธอนุ่มและส่งกลิ่นหอมยามที่เขาได้สัมผัส วันนั้นเขายังจำได้ดี กลิ่นหอมที่ติดตามเรือนกายของเธอผสมผสานกับกลิ่นครีมอาบน้ำ ทำให้สติของเขาไหลเพลิดไปไกล หลงติดอยู่ในบ่วงเสน่หา หลงลืมไปว่าเขามีครอบครัวแล้ว เหมือนกับตอนนี้เขากำลังเป็นเหมือนกับครั้งก่อนไม่มีผิดเพี้ยน มือนุ่มที่วางอยู่ที่แผงอกของเขา ทำหน้าที่ดันไม่ให้ร่างกายของเขาและเธอแนบชิดกันมากกว่านี้ บัดนี้มือคู่นั้นเลื่อนไปตามแผงอกของเขา ลำแขนเรียวเล็กคล้องที่ลำคอแข็งแกร่งราวกับคนละเมอ ความวาบหวามที่เธอได้รับ รสจูบที่ร้ายกาจของเขาทำให้เธอหลงลืมทุกสิ่ง ความผิดชอบชั่วดีถูกโละออกไปจากสมอง ตอนนี้สิ่งที่เธอรับรู้คือ จูบของเขา ริมฝีปากของเขากำลังจะปลิดชีวิตของเธอ สูบวิญญาณของเธอออกจากร่าง ทรวงอกอวบถูกมือหนาวางทาบทับออกแรงบีบเคล้น สร้างเสียงครางเล็กๆ ให้กับพิมลวัลย์ แรงน้ำหนักมือที่ไม่หนักจนเกินไป ไม่เบาจนไม่รู้สึก ยิ่งปลายนิ้วของเขาบดบี้ปลายถันที่หลบซ่อนอยู่ในเสื้อในสีหวานด้วยแล้ว ทำให้เธอถึงกับขนลุกซู่ เสียวสะท้านยิ่งนัก “คุณแม่ขา...” เสียงของศิริกาญจน์ทำให้ทั้งสองผละออกจากกัน พิมลวัลย์หันมามองต้นเสียงเมื่อรู้ว่าเป็นลูกสาว เธอลุกจากตักของชายหนุ่มทันที ลงมายืนจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แม้ว่าหัวใจจะเต้นแรงมากก็ตาม จากนั้นเดินเข้ามาหาศิริกาญจน์ที่ยืนมองมาที่ทั้งสองตาไม่กะพริบ ส่วนตัวต้นเหตุนั่งหน้าเปื้อนยิ้ม ไม่ทุกข์ร้อนกับภาพที่เด็กน้อยเห็นแม้แต่นิดเดียว ‘ตอบคำถามลูกดีๆ ก็แล้วกัน’ ปกรณ์พูดเยาะเย้ยอยู่ในใจ “จินนี่ไปไหนมาลูกแม่เป็นห่วงแทบแย่?” เธอเปิดฉากถามลูกสาว ศิริกาญจน์ยืนกอดตุ๊กตานิ่งไม่ตอบคำถามมารดา แต่กลับถามคำถามให้มารดาแทน “คุณแม่เจ็บหรือเปล่าคะ?...ที่คุณพ่อกัดปากคุณแม่เมื่อกี้นี้?” คำถามของหนูน้อยไร้เดียงสาทำให้ผู้เป็นแม่ถึงกับอึ้งพูดไม่ออก เรียงประโยคที่จะตอบลูกสาวออกไปไม่ได้ ต่างกับอีกคนที่หัวเราะออกมาเสียงดังหลังจากที่เด็กน้อยถามจบ พิมลวัลย์หันไปแยกเขี้ยวให้ตัวต้นเหตุที่ยังหัวเราะไม่หยุด “กัดตอนไหนคะ...ไม่มีค่ะ ไม่มีใครกัดคุณแม่เลย คำว่ากัดเขาไว้พูดกับพฤติกรรมของหมานะลูก คุณพ่อของจินนี่ไม่ใช่หมาเสียหน่อย เรียกว่ากัดมันไม่ถูกนะคะ” คนที่ถูกพาดพิงถึงกับหยุดหัวเราะ จ้องมองดวงหน้าสวยที่หันมายิ้มเยาะ เล่นแบบนี้เหรอ ได้เลย “แล้วเมื่อกี้คุณพ่อทำอะไรคุณแม่ที่ปากคะ?” เป็นอีกคำถามที่พิมลวัลย์หาคำตอบให้ลูกสาวไม่ได้ “เมื่อกี้คุณพ่อทักทายคุณแม่แบบฝรั่งน่ะลูก ตามธรรมเนียมที่เจอกันก็ต้องหอมแก้ม แต่พอดีคุณแม่หลบคุณพ่อ ปากคุณพ่อเลยไปหอมที่ปากคุณแม่แทนค่ะ” คนที่ตอบหาใช่หญิงสาวไม่ แต่เป็นปกรณ์ชายหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์ที่แก้สถานการณ์ให้เธอนั่นเอง เด็กน้อยช่างสงสัยหายข้องใจในข้อนี้ แต่ก็มีข้อใหม่อีกจนได้ “แล้วมือของคุณพ่อไปอยู่ในเสื้อของคุณแม่ได้ยังไงคะ?” พิมลวัลย์แทบจะมุดแผ่นดินหนี ศิริกาญจน์เห็นทุกอย่างเลยหรือนี่ แล้วเธอจะแก้ตัวยังไงดี “คุณแม่เขามดกัดน่ะลูก พ่อเลยอาสาเกาหลังให้ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” ปกรณ์แก้ตัวให้พิมลวัลย์อีกครั้ง “ใช่ค่ะลูก...พอดีแม่ถูกมดกัด” พิมลวัลย์พูดสนับสนุนคำพูดของปกรณ์ “งั้นที่คุณพ่อทักทายแบบฝรั่งกับคุณแม่ เหมือนกับที่คุณลุงนทีหอมคุณแม่ที่แก้มหรือเปล่าคะ?” ครั้งหนึ่งศิริกาญจน์เห็นน่านนทีหอมที่แก้มของพิมลวัลย์ หนูน้อยจึงนำสิ่งที่เห็นมาเอ่ยถาม พิมลวัลย์หน้าถอดสีเมื่อได้ยินคำถามของลูกสาว ต่างกับอีกคนที่มองมาที่เธออย่างกินเลือดกินเนื้อ สายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD