ตอนที่ 5... ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

2289 Words
“ทำไมนายตื่นเช้าจังครับ” แดนเห็นเจ้านายเดินออกมาจากห้องนอนตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมงก็ถามอย่างสงสัย เมื่อคืนเขาอยู่ในห้องกับพัทธิราตั้งนานสองนาน น่าจะหมดเรี่ยวแรงไปเยอะ “เสือก” ลูคัสตอบสั้นๆ ฟังดูรุนแรง แต่เขาก็ยักคิ้วกวนๆ ให้ลูกน้องคนสนิท จนแดนขมวดคิ้วด้วยความสับสน ลูคัสเดินมาถึงหน้าห้องของพัทธิราก็ไขกุญแจเข้าไป เขาเห็นเธอนอนหลับใหลอยู่บนเตียง พร้อมกับมีเจ้าแมวตัวจุ้นนอนข้างๆ บนผ้าห่ม เขาจึงเดินไปอีกฝั่งของเตียงและแทรกตัวเขาไปในผ้าห่ม ก่อนจะนอนเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือเพื่อรอเธอตื่นนอน แต่เล่นเกมไปได้ไม่ถึงห้านาที เขาก็หันมามองร่างบางที่ขยับตัวมากอดเขา และตัดสินใจวางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะหัวเตียง ใบหน้าที่นอนหนุนแขนเขาอยู่นั้น ทำให้เขาใจสั่นอย่างไม่ทราบสาเหตุ และมันก็นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แบบที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับใครสักคน และมันทำให้เรารู้สึก... อบอุ่น “เฮ้ย...” เขาอยากจะอุทานเสียงดัง แต่ก็ต้องเงียบเอาไว้ เพราะกลัวคนข้างๆ จะตื่น เจ้าแมวน้อยเดินมานอนยืนบนอกของเขา ก่อนจะหมุนตัวไปมาสามสี่รอบ และขดตัวเป็นก้อนกลมๆ นอนลงบนนั้น “ฉิบหายแล้ว...” ลูคัสคิดในใจ ทั้งแมวและเจ้าของแมว นอนเกาะ นอนทับเขา จนเขาขยับไปเขยื้อนไปไหนไม่ได้อยู่เกือบชั่วโมง “เธอ...” เขาตัดสินใจปลุกเธอ เพราะเมื่อยเกินกว่าจะอดทน ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้ เขาได้เป็นอัมพาทแน่ๆ พัทธิราค่อยๆ ลืมตามาอย่างงัวเงียตามเสียงเรียก เธอตื่นมาเจอกับใบหน้าของเขาที่อยู่ใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจ ก่อนจะผละตัวเองออกจากตัวเขาทันที “คุณเข้ามาตอนไหน” พัทธิราถามเขาพร้อมกับปิดปากไปด้วย น่าอายชะมัด ทำไมไปนอนกอดเขาแบบนั้น แล้วเขาจะได้กลิ่นลมหายใจเหม็นๆ ของเธอหรือเปล่า “เอานี่ลงไปหน่อย” เขาไม่ตอบคำถาม แต่ชี้ไปที่ก้อนแมวหนึ่งก้อนบนอก “ไก่กุ๊ก!” เธอตกใจแทบแย่เมื่อเห็นมันนอนอยู่บนอกของเขา เธอเข้าไปช้อนตัวมันมานอนที่ว่างอีกฝั่งบนผ้าห่ม แต่มันก็ทำหน้าง่วงๆ และจะเดินกลับไปนอนบนอกเขาอีกครั้ง แต่ลูคัสไหวตัวทัน เขารีบลงจากเตียง และเดินไปนั่งบนโซฟา “มันเห็นฉันเป็นพ่อมันหรือไง เดินตามอยู่นั่นแหละ” “มัน... อยากอ้อนเฉยๆ มั้งคะ” พัทธิราจะเดินไปจับแมวใส่กรง เพราะกลัวเขาจะรำคาญ “เธอไปอาบน้ำเถอะ จะได้กินข้าว ฉันหิวแล้ว” เขาเห็นไก่กุ๊กยืนข้างๆ ไม่ได้อยู่บนโต๊ะเขาก็หมดปัญหา “ทำไมคุณไม่กินก่อนล่ะคะ” เธอถามเขาโดยที่ไม่ได้คิดอะไร แต่คนฟังถึงกับอึ้ง เออ... นั่นสิ ทำไมต้องรอกินข้าวพร้อมผู้หญิงคนนี้ด้วยวะ “ก็ตอนแรกฉันไม่หิว แต่พอเธอตื่น ฉันหิวพอดี” เขาตอบมั่วๆ พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งขรึม ใครจะยอมรับล่ะ ว่ารอกินข้าวพร้อมยัยนี่ “งั้น... ฉันไปอาบน้ำก่อนนะคะ อย่าฆ่าแมวฉันนะคะ” พัทธิราพยายามกลั้นรอยยิ้มเอาไว้ เธอรู้สึกว่าเขาอยากทานข้าวพร้อมเธอ แต่เขาไม่ยอมรับความจริง “เชิญ” ลูคัสพูดจบก็หันหน้าหนีไปทางอื่น แต่ทางอื่นของเขานั้นก็คือการหันมาเจอเจ้าแมว มันมองหน้าเขา เขามองมัน “เป็นแมวทำไมชื่อไก่” เขาถามมันด้วยความไม่เข้าใจ และสิ่งที่ตอบกลับคือเสียงเหมียวยาวๆ “แม่ตั้งให้?” เขาถามมันกลับ “เหมียววววว” “เออๆ ไก่กุ๊กก็ไก่กุ๊ก” เขาพูดเสร็จก็ยื่นมือไปหามันอย่างกล้าๆ กลัวๆ และเมื่อปลายนิ้วแตะที่หัวของมัน เขาก็ยื่นอีกนิ้วไปแตะ และยื่นไปจนครบห้านิ้ว มันก็นอนโชว์พุงให้เขาได้ลูบคลำ “โอ้โห... กินปลาทูทั้งตลาดหรือเปล่า อ้วนเกินนนน” ลูคัสพูดคุยกับไก่กุ๊กไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตู “มีอะไร!” เขาตะโกนถามลูกน้อง ก่อนจะเดินไปที่ประตูห้องน้ำและบอกพัทธิราว่าอย่าเพิ่งเดินออกมา “เข้ามา” เมื่อเธอตอบรับ เขาก็กลับไปนั่งที่โซฟากับเจ้าแมวไก่กุ๊กอีกครั้ง “นายครับ... ผู้กองดินมาครับ” แดนผู้เป็นลูกน้องคนสนิทบอกเจ้านายด้วยสีหน้าเป็นกังวลและบอกด้วยเสียงที่เบาที่สุด ลูคัสได้ยินก็ใช้มือเคาะหน้าตักตัวเองอย่างใช้ความคิด “เอาข้าวเช้ามาให้แพท แล้วสั่งคนมาเฝ้าหน้าห้อง” “ครับ” แดนรับคำสั่งจากเจ้านาย และสับสนอยู่นิดหน่อย ที่ลูคัสเรียกชื่อของผู้หญิงคนนี้แล้ว “คุณแดนทานข้าวหรือยังคะ” พัทธิราถามแดนเมื่อเขายกอาหารมาให้อย่างเป็นมิตร “ทานแล้วครับ” “แล้ว...” “คุณลูคัสมีธุระครับ” “ลูคัส...” พัทธิราทวนชื่อของเขาอีกครั้ง อยู่ที่นี่มาสองคืน เพิ่งจะได้รู้ชื่อเขาก็วันนี้ “ใช่ครับ เจ้านายชื่อลูคัส... ถ้าคุณแพทหิวก็ทานก่อนได้เลยนะครับ นายบอกว่าไม่ต้องรอ” “แล้วเค้าทานข้าวหรือยังคะ” “ยังครับ” “อ่อ... ขอบคุณนะคะ” เธอบอกแดนและตัดสินใจว่าจะรอทานข้าวพร้อมเขา เหมือนที่เขารอทานข้าวพร้อมเธอ แม้ว่าอาหารตรงหน้าจะทำเอาเธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก็ตาม “ทำไมคุณแพทถึงตัดสินใจอยู่ที่นี่ โดยไม่สงสัยอะไรเลยล่ะครับ” แดนเดินกลับมาถามพัทธิราด้วยความไม่เข้าใจในเหตุผลของเธอ ในเมื่อเธอถูกจับตัวมา ทำไมเธอถึงมีท่าทีไม่เดือดร้อนอะไรเลย และเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ควรจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ด้วย “ฉันกลัวตายมั้งคะ ถ้าฉันกลับไป ฉันก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อหรือเปล่า พวกคุณอาจจะหลอกให้ฉันดีใจ แล้วฆ่าปิดปากฉันกลางทาง แต่ถ้าฉันอยู่ที่นี่จนกว่าพวกคุณจะได้ในสิ่งที่พวกคุณพอใจ ฉันก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อยๆ อย่างน้อยที่นี่ก็มีแมวของฉัน มีทีวีให้ฉันดู ดีกว่าอยู่ในคุกหรือไปนอนในโลงศพตั้งเยอะ” เธอตอบเขาตามความคิด และยิ้มตลกกับโชคชะตาของตัวเอง “แล้วคุณไม่กลัวครอบครัวคุณจะเป็นห่วงเหรอครับ” “ไม่ค่ะ ฉันใช้ชีวิตคนเดียวมาตลอด” พัทธิราหลบสายตาของแดน แต่การกระทำของเธอที่ดูหม่นหมองลงนั้น ยังไม่ทำให้เขาแน่ใจว่าเธอนั้นยอมอยู่ที่นี่ตามเหตุผลที่เธอบอก เธออาจจะยอมอยู่ที่นี่เพื่อช่วยงานตำรวจคนนั้นก็เป็นได้ “ทานข้าวเยอะๆ นะครับ” แดนส่งยิ้มให้เธอ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป และพัทธิราก็รับรู้ได้ว่า รอยยิ้มที่เขาส่งมานั้นดูไม่จริงใจเหมือนก่อนหน้านี้ “ลมอะไรหอบผู้กองมาที่นี่ครับ ลมรักหรือเปล่า” ลูคัสเดินเข้ามาในห้องรับแขกก็ส่งยิ้มให้ปฐพี เหมือนว่านี่เป็นการพบปะกันทั่วๆ ไป “ผมมาที่นี่เพื่อพาผู้หญิงที่คนเขาจับตัวไว้กลับบ้าน” ปฐพีพูดในสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจติดต่อลูกน้องของลูคัสเพื่อให้พาที่นี่ “อยู่ดีๆ จะมาขอผมในสิ่งที่คุณต้องการ แต่ผมไม่ได้อะไรกลับมาเลยอย่างนั้นเหรอครับ แบบนี้ผมก็เสียเปรียบสิ” “ผมจะปล่อยให้คุณขนยาล็อตใหม่ที่คุณจะส่งไปปลายเดือนหน้า” “ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าคุณพูดจริง ในเมื่อตั้งแต่คุณเข้ามาทำงาน คุณขัดผลประโยชน์ผมตลอด” “คุณแน่ใจได้ ผู้หญิงคนนี้เป็น... ผู้หญิงคนนี้เป็นพี่สาวของแฟนผม” “อ่อ... พี่สาวของแฟน แฟนผู้กองขอร้องให้มาช่วยพี่สาวของเธอเหรอครับ เธอคงจะรักพี่สาวของเธอมาก” ลูคัสแกล้งทำเป็นเชื่อคำพูดอย่างสนิทใจ แม้ว่าจะรู้เบื้องลึก เบื้องหลังของรักสามเศร้า และเขาก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่สะทกสะท้านกับการที่ผู้กองหนุ่มล่วงรู้เวลานัดหมายการขนส่งยาเสพติดครั้งต่อไป “ผมมีความเป็นลูกผู้ชายพอ ผมพูดคำไหนคำนั้น และผมไม่เคยทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้แบบคุณ” “ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องนี้กันแล้ว คุณควรจะดีใจนะที่ผมจับตัวผู้หญิงคนนี้มา เพราะที่จริงผมตั้งใจจะจับแฟนคุณมา แต่ลูกน้องผมมันซื่อบื้อ แล้วผมก็คิดว่า ในเมื่อผู้หญิงคนนี้เป็นแค่พี่สาวของแฟนคุณ แถมสองคนนี้ก็ไม่ได้นับญาติกันแล้ว คุณจะเดือดร้อนอะไรนักหนาล่ะครับผู้กอง” “คุณสืบเรื่องของแพท...” ปฐพีมองลูคัสอย่างรู้ทัน “ผมไม่เสียเวลาขนาดนั้นหรอก แค่ถามผมก็ได้คำตอบแล้ว แต่อย่าพูดถึงคนที่ไม่สำคัญกับคุณเลยครับ มาคุยเรื่องของเราต่อดีกว่า สรุปว่าผู้กองจะปล่อยให้ผมขนของของผมอย่างสะดวกใช่ไหม” “ใช่...” ปฐพีตอบอย่างไม่เต็มใจ ถ้ายานรกพวกนี้ถูกขายออกไป ต้องมีคนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากยาพวกนี้ “ไปพาผู้หญิงคนนั้นมา” หลังจากได้คำตอบที่ถูกใจ ลูคัสก็หันไปสั่งลูกน้องคนสนิทอย่างแดน ที่อยู่ดูสถานการณ์อยู่ใกล้ๆ “ครับนาย” แดนรับคำสั่งด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมเจ้านายถึงยอมทำตามที่ผู้กองคนนี้ของ่ายดายนัก “คุณแพทครับ” “คะ?” พัทธิราตอบรับแดนด้วยความไม่สบายใจสักเท่าไหร่ เพราะสีหน้าเขาดูมีความกังวลบางอย่าง “นายให้ไปพบครับ” เขาพูดจบก็เดินนำทางเธอไป พัทธิราไม่อยากไป แต่เมื่อคิดถึงสภาพของตัวเองที่อุดอู้อยู่ในห้องนี้มาเกือบสองวัน ก็ยินยอมทำตาม ตรงทางเดินคงมีอากาศดีๆ หรือไม่ก็แสงแดดให้เธอรู้สึกอบอุ่นอยู่บ้างนะ “แพท!” และเมื่อแดนเปิดประตูเข้ามาในห้อง เสียงของปฐพีก็ดังขึ้นก่อนใคร พร้อมกับรอยยิ้มที่ทำเอาลูคัสแทบอ้วกอยู่ในใจ พัทธิราคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับปฐพีเร็วขนาดนี้ คนที่เป็นความหวังเดียว ที่จะพาเธอออกไปจากที่นี่ เขานั่งอยู่ตรงนี้แล้ว “ผู้กองเค้าจะพาเธอกลับบ้านน่ะ เค้าบอกว่าน้องสาวของเธอ ที่เป็นแฟนของเค้า เป็นห่วงเธอมาก” ลูคัสพูดไปก็กลั้นหัวเราะไป เพราะเขาเห็นหน้าของพัทธิราที่กำลังจะยิ้มดีใจ แต่เมื่อได้ฟังเหตุผลของปฐพี เธอก็หุบยิ้มลงทันที เป็นเขา เขาก็ยิ้มไม่ออกหรอก ในเมื่อเหตุผลนี้มันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ แต่ลูคัสก็แปลกใจอยู่นิดหน่อย เธอควรจะดีใจไม่ใช่เหรอ ที่คนรักเก่าเป็นห่วงเธอมากขนาดนี้ “แต่! ผมยังไม่ให้เธอกลับนะครับ” เจ้าของสถานที่พูดต่อ เพราะเบื่อจะเห็นรอยยิ้มและสายตาที่มองพัทธิราด้วยความหวานซึ้งเหมือนน้ำผึ้งเดือนห้า “คุณตกลงกับผมแล้ว ผมจะให้คุณขนยาล็อตใหม่ แต่คุณต้องปล่อยตัวเธอ!” “ผมไม่ได้ตกลงกับคุณเรื่องนี้ คุณแค่ตกลงที่จะให้ผมขนยาล็อตใหม่อย่างสะดวก” ลูคัสยักไหล่อย่างเย้ยหยัน “ผมแค่ตอบแทนน้ำใจของผู้กองด้วยการให้ผู้กองเห็นว่า ผู้หญิงคนนี้ยังมีลมหายใจ และก็อยู่ที่นี่อย่างสุขสบาย เธอได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ และที่สำคัญคือมีผมดูแลอย่างใกล้ชิด” “คุณ!” พัทธิราสะดุ้งตัวโยน เมื่อลูคัสพูดจบ เขาก็เดินมาหอมแก้มเธอ โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ปฐพีแทบลุกเป็นไฟทั้งกายและใจ กล้าดียังไงถึงทำตัวลุ่มล่ามกับพัทธิราแบบนั้น เขาพุ่งตัวจะมาชกหน้าลูคัส แต่ก็ถูกลูกน้องของเขารั้งไว้ โดยมีพัทธิราวิ่งไปแอบด้านหลังลูคัสด้วยความตกใจ ถ้าไม่ได้ลูกน้องเขาเข้ามาขวางไว้ เธอจะโดนลูกหลงหรือเปล่าก็ไม่รู้ “แพท...” ปฐพีมองภาพตรงหน้าด้วยความสะท้อนใจ ทำไมเธอถึงไปหลบหลังผู้ชายคนนั้น ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นเขา คนที่มาเพื่อช่วยเหลือเธอ เธอคิดว่าเขาจะทำให้เธอเจ็บช้ำอย่างนั้นเหรอ “ขอบคุณนะครับที่ให้ความร่วมมือ ถ้าผมถอนทุนคืนจากรายได้ที่เสียไปเพราะผู้กองครบทุกบาททุกสตางค์ ผมจะบอกให้ผู้กองมารับผู้หญิงคนนี้เอง” ลูคัสพูดจบก็จับมือพัทธิรา และพาเดินออกไปจากห้อง “แพท! แพท! มันบังคับให้แพทอยู่ที่นี่ใช่ไหม! แพท!” ปฐพีตะโกนถามให้ดังที่สุด เพราะเขารู้ว่ายังไงก็รอดพ้นจากการขวางกั้นของชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ไปไม่ได้ “กลับไปเถอะครับผู้กอง คุณแพทไม่ได้ลำบากอะไรเลย” แดนให้คำตอบเขาอย่างปลอบใจ “ผมจะกลับมาอีกแน่!” ปฐพีมองหน้าทุกคนอย่างแค้นใจ ถ้าการมาที่นี่เป็นการลงทุน เขาก็หมดเนื้อหมดตัว จนไม่เหลืออะไรนอกจากตัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD