บทที่6 คุณหนูเมย์โดนเสือคาบเข้าไปในป่า

2382 Words
เมริกาใช้เวลาอาบน้ำอยู่นานมากเนื่องจากคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเองเกี่ยวกับความฝัน จนผู้เป็นแม่ต้องขึ้นมาตามให้รีบลงไปกินข้าวจะได้รีบไปโรงเรียน "น้องเมย์ลูก ทำไมวันนี้อาบน้ำแต่งตัวนาน แม่เตรียมอาหารเช้าไว้ให้ลูกแล้วนะ" นางช่อผกาขึ้นมาตามลูกสาวที่ตอนนี้กำลังนั่งเปียผมไปโรงเรียนอย่างรีบร้อน "เมย์ฝันร้าย แล้วก็ตื่นสายด้วยค่ะแม่" เมริกาบอกแม่ "คุณพ่อบอกแม่แล้วเรื่องลูกฝันร้าย ว่าแต่มีประจำเดือนอีกแล้วหรือลูกแม่เห็นรอยเปื้อนบนที่นอน" ช่อผกาถามลูกสาว "เอ่อ ค่ะแม่ เมย์มีประจำเดือนค่ะ" เมริกาบอกแม่ของตัวเองไปตามนั้น ทั้งๆที่รู้ดีแน่ชัดแล้วว่ามันไม่ใช่เลือดประจำเดือน ตอนแรกตนเองก็คิดว่ามันเป็นเลือดประจำเดือนแต่พออาบน้ำกลับไม่มีเลือดประจำเดือนไหลออกมาอีก แต่ไม่รู้จะบอกแม่ของตัวเองอย่างไรจึงปล่อยให้แม่เข้าใจไปแบบนั้น "งั้นแม่ลงไปรอห้องอาหารนะลูก หนูรีบลงไปล่ะ เรื่องความฝันลูกค่อยเล่าให้แม่ฟังหลังจากกลับจากโรงเรียนก็ได้" ช่อผกาบอกลูกสาว "ค่ะแม่" เมริการับคำและครุ่นคิดถึงเรื่องความฝัน  "ยายเมย์ แกเสียตัวเสียความบริสุทธิ์ให้ยักษ์หรือ" "นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน...." "แล้วตอนเย็นจะเล่าแม่ว่าอย่างไร....."  "เย็นนี้ขออนุญาตแม่ไปนอนบ้านคุณยายดีกว่าจะได้เลี่ยงไม่ต้องเล่าเรื่องความฝันให้แม่ฟัง" เมริกาคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆซ้ำไปซ้ำมาและหาทางไม่อยากเล่าเรื่องความฝันให้แม่ฟัง เมื่อลงมาถึงห้องอาหารจึงขออนุญาตแม่ไปนอนกับยายที่บ้านสวน "แม่ขา วันนี้เลิกเรียนแล้วเมย์ขออนุญาตไปนอนบ้านคุณยายนะคะ ที่บ้านสวนคุณยายมันสงบดี มีลำธารด้วยเมย์อยากไปอ่านหนังสือสอบ ใกล้สอบแล้วเมย์อยากทำเกรดให้ได้สูงๆค่ะ" เมริกาเอยขออนุญาตแม่ของตัวเอง "ได้สิลูก ให้คนรถไปส่ง แล้วจะเอาชมพูไปคอยดูแลอยู่เป็นเพื่อนลูกหรือเปล่า" ช่อผกาอนุญาตและถามถึงชมพูลูกสาวคนงานที่โรงสีที่มีหน้าที่ดูแลเมริกามาตั้งแต่เด็ก ชมพูนั้นทั้งรักและห่วงใยคุณหนูของตัวเองมากดูแลปกป้องช่วยเหลือเมริกาทุกอย่างมาตั้งแต่เมริกายังเด็ก "เมย์ไปเองได้ ให้พี่ชมพูเขาอยู่ดูแลพี่ศักดิ์บ้างเถอะค่ะ เขาเพิ่งแต่งงานกันเมย์ดูแลตัวเองได้ค่ะ" เมริกาบอกผู้เป็นแม่ "เอาอย่างที่เมย์ว่าก็ได้ งั้นเย็นวันอาทิตย์แม่จะให้คนรถไปรับหนูที่บ้านคุณยายนะ" ช่อผกาบอกลูกสาว "พ่อว่าบ้านเราก็เงียบสงบทำไมต้องไปอ่านหนังสือบ้านคุณยายด้วยล่ะลูก"นายหัวชัยสิงห์ถามลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน "จริงๆ เมย์คิดถึงคุณยายด้วย เลยอยากไปนอนค้างกับคุณยายค่ะพ่อ" เมริกาบอกพ่อ "งั้นก็ตามใจลูกเถอะ ตั้งใจอ่านหนังสือทำคะแนนสอบให้ดีๆ ถ้าอยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศพ่อก็ยินดีจะสนับสนุนนะลูก" นายหัวบอกลูกสาว "ค่ะพ่อ เมย์อิ่มแล้วไปโรงเรียนก่อนนะคะ สวัสดีค่ะพ่อ สวัสดีค่ะแม่" เมริกาไหว้ลาพ่อแม่ก่อนจะเดินขึ้นรถไปโรงเรียน "ยายเมย์ลูกสาวเราเหมือนมีเรื่องกังวลใจนะน้องผกา" ชัยสิงห์พูดกับภรรยา "ค่ะ คงกังวลเรื่องสอบนะคะพี่สิงห์ไม่มีอะไรหรอกค่ะอย่าคิดมากเลย วันนี้ผกาจะไปไหว้แม่ย่าทับทิมขอให้ท่านคุ้มครองลูกสาวของเรานะคะ" ช่อผกาบอกสามี "ได้ ให้นายยอดขับรถให้นะ พี่ไปทำงานที่โรงสีก่อนไหว้แม่ย่าเสร็จแล้วผกาตามพี่ไปที่โรงสีนะ" ชัยสิงห์บอกภรรยา "ได้ค่ะพี่สิงห์" ช่อผการับคำ ช่อผกาไปกราบสักการะ และนำเครื่องคาวหวานไปถวายแม่ย่าทับทิม ออกปากขอพรให้แม่ย่าช่วยปกปักรักษาลูกสาวของตัวเอง ครั้งหนึ่งเชื่อเหลือเกินว่าลูกสาวคนนี้แม่ย่าทับทิมประทานให้ เมื่อให้แล้วก็อยากให้แม่ย่าช่วยดูแลปกปักษ์รักษาลูกของตนด้วย "แม่ย่าทับทิมเจ้าขาลูกสาวของลูกเจริญวัยเข้าสู่วัยสาวแล้ว ขอให้แม่ย่าช่วยดูแลปกปักษ์รักษายายเมริกาลูกสาวของลูกด้วยเถิดนะเจ้าคะ อย่าให้มีเหตุเภทภัยใดๆเกิดขึ้นกับยายเมย์เลย" ช่อผกากล่าวขอพรและก้มลงกราบรูปปั้นของแม่ย่าทับทิมเสร็จแล้วจึงเดินทางกลับบ้าน วันนี้เมริกาเรียนหนังสือไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะยังคิดกังวลเรื่องความฝัน จนเพื่อนสนิทเชื่อแพรพลอยทักขึ้นถึงได้สติจากอาการใจลอยคิดไปไกล "ยายเมย์ วันนี้แกเป็นอะไรนั่งใจลอยเชียว เป็นอะไรไม่สบายหรือเปล่าหรือว่าปวดท้องเป็นวันนั้นของเดือน" แพรพลอยถามเพื่อนสนิท "เปล่า เมย์ไม่ได้ปวดท้อง แต่ปวดหัวนิดหน่อย" เมริการีบบอกเพื่อน "วันนี้เลิกเรียน เราไปเดินตลาดนัดหลังสถานีกันไหม ให้น้ายอดคนขับรถรอ"แพรพลอยชวนเพื่อน "วันนี้ไปไม่ได้หรอกพลอย เมย์ไปค้างบ้านคุณยายที่บ้านสวนไม่อยากไปถึงค่ำ ไว้วันหลังดีกว่า" เมริกาบอกเพื่อน "ก็ได้ เอ่อแกอย่าลืมขออนุญาตพ่อแกเรื่องเราจะจัดแคมป์เดินป่า ไปเลี้ยงรุ่นฉลองเรียนจบกันด้วยนะ" แพรพลอยเตือนเพื่อน "อือ กลับจากบ้านคุณยายจะขออนุญาตพ่อกับแม่อีกที" เมริการับคำเพื่อน เย็นวันนั้นเมริกาไปนอนค้างที่บ้านคุณยายของตัวเอง เมื่อมาถึงผู้เป็นยายและตาต่างก็ดีใจจัดเตรียมต้อนรับหลานสาวด้วยความดีใจที่หลานจะมาค้างด้วย "ยายให้คนไปทำความสะอาดเรือนขาวแล้วนะเมย์ กินข้าวกับยายแล้วอยู่คุยกับยายนานๆก่อน แล้วยายจะให้น้าสายใจไปนอนเป็นเพื่อนเมย์ที่เรือนขาว" แม่นายพุดจีบพูด "ได้ค่ะคุณยาย เมย์จะอยู่คุยกับคุณยายนานๆเลย คิดถึงคุณยายมากเลยค่ะ แต่ว่าไม่ต้องให้น้าสายใจไปนอนกับเมย์หรอกนะคะ เมย์ว่าจะอ่านหนังสือค่ะคุณยาย" เมริกาพูดบอกยายของตนเอง "คิดถึงยายแล้วไม่คิดถึงตาเลยเหรอ" กำนันรามอ้อนหลานทำเป็นแกล้งงอนหลาน "คิดถึงสิคะคิดถึงคุณตามากๆด้วย" เมริกาพูดและเข้าไปกอดประจบผู้เป็นตา "ปากหวานเหมือนแม่ไม่มีผิด" กำนันรามพูด หลังจากมื้อค่ำเมริกาก็อยู่คุยกับผู้เป็นตาและยายนานพอสมควร หลังจากนั้นเมริกาก็ไปเก็บตัวอ่านหนังสือสอบที่เรือนขาว ซึ่งเป็นเรือนหลังเล็กของแม่ที่ปลูกไว้ริมคลอง ฟากฝั่งจ้าวจักรา ก็โดนสมิงพระซักถามเกี่ยวกับเรื่องที่จ้าวจักราแอบใช้เวทย์คาถาพาเมริกาไปรำลึกความหลัง เมื่อโดนข้าบริวารคนสนิทซักถามหนักเข้าจ้าวจักราเลยยอมเล่า "เหตุที่ท่านจ้าวนอนหมดแรงอยู่เยี่ยงนี้ เนื่องด้วยแอบไปลักพานางฟ้าทิพย์มณฑามาและใช้เวทย์คาถานิมิตวิมานเพื่อรำลึกความหลังกับนางใช่หรือไม่เจ้าข้า" สมิงพระถาม "นางฟ้าทิพย์มณฑาอะไรกันเล่า นางชื่อเมริกา ทิพย์มณฑาไปจุติใหม่ตั้งนานแล้ว" จ้าวจักราพูดเสียงเรียบทำเป็นไม่ใส่ใจไม่รู้ไม่ชี้ในสิ่งที่สมิงพระคาดคั้น "ข้าซักถามกับนางไม้พวกนี้แล้ว พวกนางบอกว่าท่านจ้าวเพิ่งกลับมาเมื่อย่ำรุ่ง" สมิงพระยังคงคาดคั้น "แล้วเจ้าจะทำไม ข้าจะไปไหนกลับมาตอนไหนมันก็เรื่องของข้า" จ้าวจักราชักจะรำคาญสมิงพระ "เรื่องของท่านจ้าวเจ้าข้า ข้ารู้ดี แต่ถ้าท่านจ้าวได้ร่วมภิรมย์เสพสังวาสด้วยนางมนุษย์มันจะทำให้พลังเทพและบารมีของท่านมันเสื่อมถอยลงไป ถึงต้องมานอนสิ้นเรี่ยวแรงอย่างนี้เยี่ยงไรเล่า" สมิงพระพูดเหน็บ "ข้ามีพลังเทพของมนุษย์กายสิทธิ์เพียงน้อยนิดเท่านั้น แต่ข้ามีความเป็นมนุษย์ของแม่ข้าอยู่ในกายครึ่งหนึ่งเจ้าลืมไปแล้วหรือ ที่หมดแรงเพราะใช้เวทย์ในการสร้างวิมานที่เคยมีให้ทิพย์มณฑาเห็นเพราะหมายจะให้นางจำข้าได้แต่นางก็จำข้าไม่ได้อยู่ดี" "ใช้พลังเนรมิตวิมานหลอกๆ แล้วทำไมท่านจ้าวถึงได้ดูอ่อนแรงถึงเพียงนี้เจ้าข้า ท่านสะสมบุญบารมีมานับร้อยๆ ปีสร้างวิมานเพียงเท่านั้นท่านถึงกับสิ้นเรี่ยวแรงเชียวหรือ" สมิงพระถามคาดคั้นอีก "ก็ข้า!......ข้าเพิ่งได้นางเป็นเมีย" จ้าวจักราพูดยอมรับอย่างไม่รู้จะปฎิเสธอย่างไร "นั่นอย่างไรเล่าข้าว่าแล้วเชียว" "ก็นางเป็นเมียข้า เป็นของของข้ามาตั้งนานแล้วทำไมข้าจะทำกับนางไม่ได้"จ้าวจักราเถียง "ท่านจ้าวทำได้และก็ได้ทำลงไปแล้วนี่เจ้าข้า ทำลงไปแล้วทีนี้จะส่งผลให้เกิดอะไรตามมาอีกมากมาย" สมิงพระพูดเหน็บ "เจ้าก็ปิดเรื่องนี้ไว้อย่าให้มีใครรู้เห็นสิ เจ้าย่าทับทิมช่วงนี้ท่านถือศีลภาวนาวันพระใหญ่โน่นแหละถึงจะออกจากภาวนา" จักราพูดบอกสมิงพระอย่างเจ้าเล่ห์ "คืนนี้ท่านจ้าวอย่าออกไปไหนอีกนะเจ้าข้า อย่าแอบไปหานางอีก" สมิงพระพูดเตือนสตินายเหนือหัว "อือ ข้ารู้แล้ว" จักราพูดและคิดในใจ "จำแลงเป็นยักษ์ไปหาในฝันคงไม่ได้แล้ว แต่ถ้าเรา....ก็ไม่แน่น่าจะได้" จักราคิดและยกยิ้มอย่างมีแผนการ กลับจากบ้านยายแล้วเมริกาก็มาขออนุญาตไปแคมป์ปิ้งเดินป่ากับเพื่อนๆ ในชั้นเป็นการฉลองเลี้ยงรุ่นเรียนจบการศึกษา พ่อของเมริกาไม่ค่อยอยากให้เมริกาไป แต่ก็ทนแรงรบเร้าไม่ไหวเพราะเมริกาอ้างว่าเพื่อนๆไปกันยกชั้นและมีอาจารย์ที่ปรึกษาไปด้วยนายหัวชัยสิงห์จึงยอมอนุญาต ขณะตั้งแคมป์พักแรมอยู่ในป่า มีพรานป่านำทางมาด้วย พรานได้ขออนุญาตจ้าวป่าจ้าวเขาตั้งแคมป์พักแรม ทุกคนลงมือทำอาหารเมื่ออาหารเสร็จแล้วก็มานั่งล้อมวงกินอาหารกัน ร้องเพลงเล่นดนตรีกันสนุกสนาน เมื่อสนุกสนานกันเต็มที่แล้วทุกคนต่างแยกย้ายกันเข้าเต็นท์ที่พักของตัวเอง ได้ยินเสียงแมลงกลางคืนร้อง ลมพัดเย็นปกติ "เมย์ พลอยว่าเราไปนอนกันเถอะ" แพรพลอยชวนเพื่อนไปที่เต็นท์ที่พักของตัวเอง "จ๊ะ อากาศเย็นจังเลยนะในป่า ดีนะเมย์เอาเสื้อหนาๆมา มีผ้าห่มมาด้วยไม่งั้นคงหนาวแย่ ขนาดก่อกองไฟแล้วนะยังหนาวเลย" เมริกาพูดบอกเพื่อน "ก็ในป่านี่น่า เข้าไปในเต็นท์เถอะเมย์น้ำค้างแรงแล้ว" แพรพลอยบอกเพื่อน จึงทำให้เมริกาเดินตามเข้าไปนอนในเต็นท์ ดึกสงัดทุกสรรพสิ่งเงียบสนิท เสียงแมลงกลางคืนที่ส่งเสียงร้องก็เงียบเสียงลง ลมก็หยุดพัด บรรยากาศนิ่งเงียบ ไม่ได้ยินเสียงใดๆ ทำให้พรานป่าที่มากับคณะครูและเด็กนักเรียนลุกขึ้นนั่งและหันไปมองรอบๆ ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นพรานล่วงรู้ได้ว่าจะต้องมีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้น ทันใดนั้นพรานป่าก็สบตาเข้ากับดวงตาสีทองคมเข็มคู่นั้นซึ่งมีพลังอำนาจมากสะกดให้พรานป่านิ่งขยับตัวไม่ได้ และสิ่งที่พรานป่าเห็นต่อจากนั้นคือ เสือตัวใหญ่กำลังเข้าไปในเต็นท์พักแรมของแพรพลอยและเมริกา เสือตัวนั้นได้เข้าไปคาบเอาตัวเมริกาออกมา แล้วค่อยๆ เดินหายเข้าป่าไปอย่างช้าๆ และเป็นนานกว่ามนต์สะกดนั้นจะคลายลงจนทำให้นายพรานป่าร้องบอกทุกคนขึ้นว่า "เสือ! ทุกคนตื่น" นายพรานร้องเสียงดัง เมื่อมนต์สะกดนั้นคลายลง "เสือเหรอนายพราน เสือที่ไหนผมไม่เห็นเสือสักตัว" ครูประวิศถามขึ้นเหล่าเด็กนักเรียนทั้งชายหญิงก็วิ่งมารวมตัวกันที่กองไฟ "ครูขา ยายเมย์หายไปค่ะ" แพรพลอยร้องบอกครู "เสือมันคาบคุณหนูเมริกาเข้าป่าไปแล้วครับ ผมเห็นมากับตาแต่ผมช่วยอะไรไม่ได้ เพราะผมโดนเสือตัวนั้นสะกดไม่สามารถขยับเนื้อตัวได้เลย" นายพรานพูดบอกกับทุกคน "เสือคาบไปเหรอ" ทุกคนพากันพูดด้วยความตกใจ "มันกินเมย์ไปแล้วแน่ๆ" นักเรียนชายคนหนึ่งพูดขึ้น "ช่วยเมย์ด้วยนะคะครู" แพรพลอยพูดด้วยความร้อนใจเมื่อได้ยินเพื่อนผู้ชายพูดแบบนั้น "ทุกคนเงียบก่อนอยู่ในความสงบด้วย ผมว่าเสือตัวนั้นจงใจมาที่นี่เพื่อพาตัวคุณหนูเมย์ไป และมันไม่ใช่เสือปกติธรรมดาทั่วไปหรอกครับอาจจะเป็นเสือจ้าวป่าหรือเสือสมิงแปลงมา อีกไม่นานก็เช้าแล้วผมว่าเรามาช่วยกันคิดดีกว่าครับว่าจะเอาอย่างไรต่อดี พรุ่งนี้เช้าผมว่าคุณครูพานักเรียนทุกคนออกจากป่าไปก่อน และแจ้งข่าวนี้ให้ทางบ้านคุณหนูเมย์ทราบ และเราค่อยมาหาทางติดตามตัวคุณหนูเมย์กันอีกที ผมยังพูดอะไรมากไปในตอนนี้ยังไม่ได้ ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบและรวมตัวกันอยู่ตรงนี้จนกว่าจะเช้าและออกจากป่าไป" นายพรานพูดและครุ่นคิดถึงเสือตัวนั้นว่ามันไม่ใช่เสือปกติที่เคยเห็นและนั่งรวมตัวกันอยู่ที่กองไฟจนถึงเช้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD