เติ้งหานคสนิทของมือปราบเหลยแอบผสมผงยาจิตหลุดลงในขวดสุราเล็กๆ แล้วหิ้วไปหาสวี่เสี่ยวถง นางเห็นขวดสุราในมือของคู่แข่งก็ยิ้มกว้าง
“แหมดีจริง! ข้ากำลังมองหาสุรารสเลิศพอดีๆ มาๆ ขวดนั้นข้าขอหน่อยได้หรือไม่มือปราบเติ้ง?”
ชายหนุ่มที่หิ้วขวดสุรายิ้มกว้าง “ได้สิ! สุราในงานเลี้ยงนี้ล้วนไม่มีเจ้าของ มีไว้เพื่อแจกให้แขกทั้งหลายได้เมากันอย่างสำราญใจทั้งนั้นล่ะ ท่านรับไว้สิหัวหน้าสวี เดี๋ยวข้าไปเอาขวดใหม่เอง”
สวีเสี่ยวถงยิ้มกว้างรับเอาขวดสุรากระเบื้องเคลือบสีขาวมาเปิดจุกแล้วดมกลิ่น “ชื่นใจจริง! มันมันสุราแสงจันทร์ที่ลือชื่อนี่นา”
“ท่านจมูกดีมากเชียว! ไม่ต้องแบ่งผู้ใดเลยนะขอรับ? แอบดื่มคนเดียวได้ยิ่งดีเพราะเหลืออีกแค่ไหนเดียวแล้ว”
“ไม่ต้องห่วงๆ ข้าจะแอบเอาไว้ดื่มคนเดียวเอง” มือปราบหญิงคล้องเชือกที่มัดขวดสุราไว้ในข้อมือก่อนจะเดินส่ายอาดๆ จากไป
เหยาอิงหมิงเห็นการสนทนาของคนทั้งสองแล้วก็นึกแปลกใจจึงได้เดินตามหลังลูกพี่ของตนออกไปที่ระเบียง
“หัวหน้า ท่านจะดื่มสุราที่เติ้งหานเอามาให้จริงหรือขอรับ?”
“ดื่มก็โง่น่ะสิ! เดี๋ยวข้าหาตัวลองยาสักหน่อย อยากรู้ว่าพวกมันแอบวางยาอะไรใส่ลงในไปสุราให้ข้า เจ้าไปหาขวดสุราใบใหม่มาหน่อย”
เหยาอิงหมิงยิ้มกว้าง รีบวิ่งออกไปในห้องทำงานหน่วยของตนที่อยู่อีกอาคาร นำเอาขวดกระเบื้องสีน้ำตาลมาให้สวีเสี่ยวถง นางรีบเทสุราในขวดที่ได้จากเติ้งหานลงไปในขวดใบใหม่ แต่ก็ยังคล้องขวดเปล่าเอาไว้ที่ข้อมือสองขวด
“พวกเราเดินกลับไปในงานเลี้ยงกันเถอะ ข้าต้องหาตัวลองยาดีๆ ให้กับเหลยเจียหลุนได้แน่นอน”
สวีเสี่ยวถงกับเหยาอิงหมิงเข้าไปเดินเตร็ดเตร่ขณะที่การร่ายรำชุดที่สองกำลังเริ่มขึ้น โหลวซีห่าวที่นึกอยากจะสอบถามเรื่องความคืบหน้าคดีปล้นฆ่าคฤหาสน์สกุลถาน จึงแสร้งขอตัวไปเข้าห้องสุขา แล้วให้เหล่าชุยไปกวักมือเรียกให้มือปราบสวีออกมาหาที่สวนด้านหลังอาคารจัดเลี้ยง
“ใต้เท้า ท่านมีธุระอะไรกับข้าน้อยหรือ?”
“ได้ยินว่าเจ้าออกไปสืบเบาะแสคดีปล้นฆ่าตั้งหลายวัน ข้าไม่สะดวกจะสอบถามในเวลางาน จึงได้เรียกมายามนี้”
สวีเสี่ยวถงเบิกตากว้าง “นี่มันงานเลี้ยงต้อนรับท่านนะเจ้าค่ะ เอาไว้เสร็จงานรื่นเริงก่อนไม่ดีกว่าหรือ?”
“พูดตามตรง ข้าก็ไม่ได้ชอบงานสังสรรค์” เขาอยากจะบอกว่าเขาเบื่อการพยายามนำเสนอตัวบุตรสาวของหลายๆ คนในงาน เหล่าคุณหนูผู้งดงามเหล่านั้นหากเป็นยามปกติเขาก็คงจะพูดคุยด้วยตามประสาผู้ชื่นชอบบุบผางาม แต่ยามนี้หลีกเลี่ยงได้ต้องหลบให้พ้น
“เอ๋? ข้าเห็นว่าสตรีที่มางานเลี้ยงคืนนี้ต่างแต่งกายสวยสดงดงามคล้ายกับจะมาให้ท่านเลือกคู่ เหตุใดท่านจึงเบื่อหน่ายเสียเล่า?”
โหลวซีห่าวมองดูใบหน้าของหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ นางมิได้ประชดประชันแต่ดูเหมือนจะพูดไปตามที่เห็น
“เอาเถิด! เอาเป็นว่าข้ามีเหตุผลของข้าที่ยังไม่อาจสนใจพวกนางได้ พูดตามตรงคือข้ามิได้อยากแต่งงาน”
“อืม...ถ้าเช่นนั้นท่านก็หลบให้ดีเถิด” สวีเสี่ยวถงหัวเราะน้อยๆ นางนั่งดื่มสุรากับเหยาอิงหมิงหมดไปหนึ่งขวดเล็กที่โต๊ะจัดเลี้ยงแต่ในข้อมือยังห้อยสุราเล็กไว้สองขวดที่ขาวกับสีน้ำตาล
“สุราในมือเจ้าให้ข้าดื่มสักหน่อยได้หรือไม่?”
“นี่น่ะหรือ?” นางยกมือขึ้นแล้วพลันยิ้มน้อยๆ “มือปราบเติ้งใจดีให้ข้ามาน่ะ ข้าเดาว่าน่าจะเป็นของมือปราบเหลย สุราแสงจันทร์เชียวนะ เอ้า! ถือว่าเป็นของขวัญต้อนรับท่านนายอำเภอคนใหม่จากข้าก็แล้วกัน”
สวีเสี่ยวถงถอดเชือกขวดสุราออกจากมือยื่นให้กับโหลวซีห่าว ชายหนุ่มยิ้มรับพร้อมกล่าวขอบคุณ เขาเปิดจุกแล้วดมกลิ่นก็หันไปชื่นชมกับนาง
“สุราแสงจันทร์ กลิ่นดีสมคำร่ำลือ” ชายหนุ่มยกเทใส่ปากไปสองสามอึก “หากดื่มสุราในสวนเงียบๆ เช่นนี้ ข้าว่าสนุกยิ่งกว่ามีคนมากมายข้างในอีกนะ”
“นี่ใต้เท้าโหลว! ข้าหวังว่าท่านคงจะไม่เมาหรอกนะ”
“ข้าน่ะหรือ? คอแข็งใช้ได้อยู่เหมือนกันล่ะ เจ้าไม่ต้องห่วง”
เสียงฝีเท้าดังขึ้นข้างหลัง ทำให้คนทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างกันหันกลับไปดู เหล่าชุยคนรับใช้ของโหลวซีห่าวยืนอยู่อย่างนอบน้อม
“คุณชายขอรับ ใต้เท้าต้วนมีเรื่องพูดกับท่านส่วนตัวที่ห้องทำงานขอรับ” โหลวซีห่าวนิ่วหน้า “ไม่ได้สิ! ข้าต้องเข้าไปต้อนรับแขกเหรื่อต่ออีกสักครู่ จึงจะปลีกตัวได้” เขาหันไปหาสวีเสี่ยวถงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ “มือปราบสวี ข้าวานเจ้าไปแจ้งให้ใต้เท้าต้วนรอสักครู่ เดี๋ยวข้าตามไป”
“เจ้าค่ะ”
ชายหนุ่มรีบเดินกลับเข้าไปในงานเลี้ยง เขากะจะอ้างว่าตนเองดื่มสุราไม่ได้มากเพราะร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงแล้วขอตัวกลับจวน เมื่อเข้าไปในงานเลี้ยงก็เห็นว่าท่านแม่ของเขากำลังร่ำลาทุกคนขอกลับไปพักผ่อน
“ดึกพอสมควรแล้ว เลยเวลาที่ท่านแม่ของข้าเข้านอน ขออภัยทุกท่านด้วย” โหลวซีห่าวรีบเอ่ยยืนยัน
เลียวฮูหยินกับสาวใช้จึงพากันกลับจวนนายอำเภอที่เพียงแค่เดินข้ามถนนก็ถึงแล้ว โดยมีมือปราบอีกสี่คนไปส่ง โหลวซีห่าวนั่งลงและดื่มกับคหบดีอีกสองคนที่นั่งอยู่ห่างออกไป ด้วยความเกรงใจที่พวกเขารอตามลำดับกว่าจะได้ดื่มกับท่านนายอำเภอ โหลวซีห่าวจึงได้ดื่มกับพวกเขาอีกหลายจอก
“ขอบคุณท่านมากจริงๆ ที่มาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับข้าในครั้งนี้” โหลว ซีห่าวเริ่มเมาจนดวงตาหรี่ปรือ ใบหน้าแดงก่ำ
เหลยเซิ่งหงเจ้าหน้าที่ปกครองที่นั่งอยู่ไม่ไกลเห็นเช่นนั้นก็ทักขึ้น “ใต้เท้าโหลว ดูเหมือนท่านจะเมาแล้วล่ะขอรับ”
“ข้าม่ายยยมาวววว....” เขาสะบัดแขนไปมา กระทั่งปัดเอาถ้วยจาน กาสุราบนโต๊ะต้มระเนระนาด
เพล้ง! เพล้ง! โพล๊ะ!
“แย่แล้ว! ท่านนายอำเภอไม่ไหวล่ะ รีบมาช่วยกันเร็วเข้า” ต้วนฮ่วนปิ่งที่นั่งอยู่ฝั่งซ้ายรีบลุกขึ้นมาช่วยเหลยเซิ่งหงจับแขนโหลวซีห่าวไว้คนละข้าง
ทางด้านสวีเสี่ยวถง นางเดินตรงไปยังห้องทำงานของนายอำเภอที่อยู่ห้องมุมสุดของอาคาร นางแปลกใจที่ห้องนั้นมืดสนิท
‘ไหนว่าใต้เท้าต้วนนัดเอาไว้? มารออย่างไรไม่จุดเทียนเล่า?’
แอด.......แอ้ด.....!!!!
เมื่อลองเปิดประตูเข้าไปก็ยังมืดอยู่ หญิงสาวคิดจะเข้าไปจุดเทียนเอาไว้สักสองสามแท่งเพื่อให้โหลวซีห่าวกลับมาจะได้พูดคุยกับปลัดอำเภอต้วนโดยสะดวก ทว่ากลับได้กลิ่นกำยานหอมอบอวลไปทั่วห้องมาปะทะจมูก ด้วยความตกใจเกรงจะถูกวางยา นางจึงรีบผลุนผลันออกมาแล้วปิดประตูไว้
สวีเสี่ยวถงกลัวว่าจะเป็นฝีมือของสำนักโบตั๋นแดงจึงคิดจะวิ่งไปเตือนโหลวซีห่าวที่อยู่ในห้องโถงจัดเลี้ยง แต่พอวิ่งไปถึงกลับพบว่าในห้องนั้นผู้คนกำลังตกอกตกใจหลบกันจ้าละหวั่นเพราะท่านนายอำเภอโหลวกำลังอาละวาดล้มโต๊ะ ปาข้าวของจนเละเทะ คนทั้งหลายช่วยกันดึงเขาไว้แต่พลังของเขากลับมีมากจนสะบัดทุกคนหลุด ชายหนุ่มวิ่งพุ่งมาถึงหน้าประตูพบกับสวีเสี่ยวถงที่วิ่งมาถึงพอดี
“เจ้ามาก็ดีแล้ว! พวกเรารีบหนีกันเถอะ!”
*****************************