บทที่ 10 งานเลี้ยงต้อนรับ

1367 Words
มือปราบเหลยมองซองกระดาษสีขาวขนาดเล็กในมือ ปากก็แสยะยิ้มด้วยความมาดหมาย คราวนี้เขาจะต้องทำให้มือปราบสวีไม่มีความน่าเชื่อถือหลงเหลืออยู่ นางไม่สมควรจะได้แสดงฝีมือให้นายอำเภอได้เห็น ไม่เช่นนั้นเขาจะกลายเป็นหัวหน้ามือปราบในอำเภอเชียนเยาได้อย่างไร? “หัวหน้า นั่นมัน....” “ยาจิตหลุด ข้าจะยืมความเก่งกาจของมือปราบสวีพังงานเลี้ยงต้อนรับใต้เท้าโหลวให้พังไม่เป็นท่า ต่อไปใต้เท้าจะได้วางใจแต่ข้าผู้เดียว” แปะ! แปะ! แปะ! “ท่านเก่งจริงหายาชั่วๆ พวกนี้มาได้ ว่าแต่ไปได้มาจากไหนหรือขอรับ?” “นี่เจ้าชมหรือด่าข้ากันแน่?” “เอ่อ...ข้า...ข้าก็ต้องชมหัวหน้าน่ะสิขอรับ” “ยานี่น่ะหรือ? ข้าฝากคนซื้อมาจากแคว้นเว่ย เขาบอกกันว่ามันเป็นยาของเจ้าผีไร้หลุมหมอจากปรโลกผู้นั้น” “อ้อ! หมอที่เก่งกาจในการปรุงยาชั่วๆ คนนั้นนั่นเอง ข้าเคยได้ยินว่าเขาเป็นคนแคว้นเว่ยแต่จำหน่ายยาให้กับคนทั่วทั้งห้าแคว้น” เหลยเจียหลุนตวัดสายตาไปหาเติ้งหาน “ยานี่ข้าจะมอบหมายให้เจ้าเป็นคนเอาใส่กาสุราของสวีเสี่ยวถง เจ้าห้ามทำพลาดเด็ดขาด” เติ้งหานรีบค้อมศีรษะรับ “หัวหน้าไม่ต้องห่วงขอรับ ข้าเป็นลูกน้องของท่าน เรื่องชั่วช้าย่อมทำได้ไม่ผิดพลาด” เหลยเจียหลุนส่ายศีรษะ “มิน่าเล่า? เรื่องดีๆ พวกเราถึงไม่เคยทำสำเร็จเท่าสวีเสี่ยวถงเลยสักครั้ง” ฝ่ายต้วนจินเซี่ยเอง นอกจากจะไปเสาะหาชุดงดงามที่สุดในร้านประจำอำเภอมาได้แล้ว มารดาของนางยังแอบเอากำยานคล้อยตามมาให้อีกตลับหนึ่งพร้อมกำชับว่าสิ่งนี้ห้ามไว้ใจผู้ใดให้จัดการด้วยตนเอง “ผงกำยานนี้เอาใส่ลงไปแล้ว ผู้ที่ได้สูดกลิ่นก็จะยอมคล้อยตามเจ้าอย่างไร้เงื่อนไข สิ่งที่ต้องระวังคืออย่าให้ผู้อื่นเข้าใกล้บริเวณนั้นยกเว้นคนที่เจ้าต้องการ” “ท่านแม่ แล้วข้าจะไปใช้ที่ใดดีเล่าเจ้าคะ?” ติงฮูหยินยิ้มกว้าง นางมาอยู่ที่นี่ก่อนใต้เท้าโหลวตั้งนาน สร้างสายสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่มากหน้าหลายตา ย่อมมิใช่เรื่องสูญเปล่า นางเอนตัวเข้าไปป้องปากแล้วกระซิบบอกบุตรสาวเบาๆ ต้วนจินเซี่ยยิ้มกว้าง “เจ้าแค่ทำให้เขาเปลื้องเสื้อผ้าเจ้ากับเสื้อผ้าเขาก็พอ เมื่อจังหวะเหมาะสมก็ส่งสัญญาณให้คนมาบอกแม่ แม่จะรีบวิ่งไปทันทีพร้อมกับพยานสักสามสี่คน แค่นั้นเขาก็ไม่อาจจะปฏิเสธเจ้าได้แล้ว” “ดีเจ้าค่ะ” แค่เพียงการเปลื้องเสื้อตัวนอกของคนทั้งสองให้หลุดลุ่ยอยู่ในที่ลับตาคนก็เป็นปมเงื่อนที่ทำให้บุรุษจำต้องแต่งงานกับนางเพื่อรักษาหน้าตาแล้ว เพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาดติงฮูหยินจึงนัดแนะกับสาวใช้คนสนิทให้คอยดูแลบุตรสาวอยู่ไม่ห่าง “แม่จะให้คนที่อำเภอช่วยแอบเปิดห้องทำงานของใต้เท้าโหลวให้เจ้า เราค่อยล่อเข้าไปในนั้นก็แล้วกัน” ต้วนจินเซี่ยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ นางให้สาวใช้ไปสืบอย่างแน่ชัดแล้วว่า โหลวซีห่าวไม่เคยมีหญิงใดร่วมเตียง ยามนี้ยังไม่แต่งงานหรือมีสตรีติดตามสักคน นับว่าโอกาสของนางช่างดีนัก บุรุษมากมายในเมืองเชียนเยาอยากได้นางเป็นภรรยาแต่เพราะเห็นว่ายังไม่มีผู้ใดคู่ควรกับตน ต้วนจินเซี่ยจึงสงวนท่าทีมาโดยตลอด หากมีผู้มาทาบทามก็ให้ท่านแม่ของตนปฏิเสธไปเสีย “ท่านแม่เจ้าคะ หากเป็นใต้เท้าโหลว ข้ายินดีออกเรือนเจ้าค่ะ” “อืม...แม่เองก็เห็นด้วย” ในช่วงสองสามวันก่อนงานเลี้ยงจะมาถึง โหลวซีห่าวยุ่งกับงานเอกสารที่กองอยู่เต็มโต๊ะ ดีที่เหลยเซิ่งหงบิดาของเหลยเจียหลุนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปกครองช่วยงานเขาอย่างแข็งขัน โหลวซีห่าวนึกอยากจะสอบถามมือปราบสวีถึงคดีปล้นคฤหาสน์ของคหบดีถาน ทว่านางกลับไม่โผล่หน้ามาให้เห็น เมื่อสอบถาม เหลยเซิ่งหงก็ได้รับคำตอบเพียงว่านางออกไปสืบคดีทุกวัน “หากมีคดีใหญ่เช่นนี้ พวกมือปราบมักจะทำงานกันหัวหมุนทุกวันขอรับ ใต้เท้าโหลวอย่าเพิ่งไปสนใจเลย รีบสะสางทะเบียนพวกนี้ให้เสร็จเถิด” เป็นเพราะอำเภอนี้ว่างเว้นจากการมีนายอำเภอมานานพอประมาณทำให้เอกสารที่ต้องลงนามต่างๆ กองเป็นพะเนิน โหลวซีห่าวต้องกลับจวนค่ำมืด ทุกวันทั้งๆ ที่อยู่ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอ “หากยุ่งเช่นนี้ให้แม่เอาปิ่นโตมาส่งเจ้าที่ห้องทำงานก็แล้วกัน” เลียว ฮูหยินเห็นสภาพบุตรชายทำงานจนแทบไม่ได้ลุกจากโต๊ะก็นึกสงสาร “ท่านแม่อย่าได้กังวล นี่เป็นช่วงสะสางงานตกค้างเฉยๆ ขอรับ เดี๋ยวก็เรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็คงทำตามปกติ” แม้จะบอกมารดาไปเช่นนั้นแต่ล่วงเข้าวันที่สามงานของเขาก็เพิ่งพร่องไปเพียงครึ่ง แต่ชายหนุ่มก็ต้องวางมือเพื่อไปอาบน้ำเตรียมตัวมาร่วมงานเลี้ยง ที่มีติงฮูหยินภรรยาของปลัดอำเภอต้วนฮ่วนปิ่งเป็นแม่งานให้ คืนนี้ช่างเป็นคืนที่สดใสสำหรับคนหนุ่มสาวในอำเภอเพราะงานฉลองต้อนรับท่านนายอำเภอหนุ่มรูปงามดูคล้ายเป็นงานเทศกาลก็ไม่ปาน แต่ละคนล้วนแต่งกายสวยสดงดงามมาโอ้อวดกัน นัยว่าคุณหนูหลายสกุลต่างแต่งตัวมาประชันกันเต็มที่เผื่อจะมีวาสนาได้เป็นฮูหยินท่านนายอำเภอ “พวกนางไม่มีผู้ใดสวมชุดงดงามเช่นเจ้า แม่เชื่อว่าคืนนี้ใต้เท้าโหลวต้องมองเจ้าไม่วางตาเป็นแน่” จริงดังที่ติงฮูหยินคาด โหลวซีห่าวมองต้วนจินเซี่ยจริงแต่มองด้วยความหนักอกหนักใจ หญิงสาวในงานเลี้ยงล้วนงดงามดุจบุบผาแรกแย้มรวมทั้งคุณหนูสกุลต้วนด้วย แต่ชุดของนางสีสันจัดจ้านกว่าทุกคนทำให้โดดเด่นจนต้องหันไปมอง เขามองสายตาและท่าทางชดช้อยของนางก็พอจะรู้ว่านางหวังสิ่งใด? เมื่อเลียวฮูหยินและโหลวซีห่าวเข้านั่งที่โต๊ะกลางแล้ว คนทั้งหลายก็นั่งลง ปลัดอำเภอร่างท้วมต้วนฮ่วนปิ่งก็รีบลุกขึ้นเป็นตัวแทนของขุนนางและเจ้าหน้าที่ในท้องที่กล่าวต้อนรับนายอำเภอคนใหม่ จากนั้นก็เป็นคหบดีผู้มีชื่อเสียงในท้องที่ลุกขึ้นกล่าวต้อนรับและอวยพร “พวกท่านจัดงานเลี้ยงต้อนรับข้าก็สิ้นเปลืองพออยู่แล้ว ข้าขอไม่รับของกำนัลก็แล้วกัน ประเดี๋ยวจะกลายเป็นการรับสินบนไป” เมื่อโหลวซีห่าวกล่าวเช่นนี้ แขกที่เตรียมของมาเอาอกเอาใจจำต้องล่าถอยสั่งให้บ่าวรับใช้นำของมีค่ากลับไปเก็บ ไม่นานนักสวีเสี่ยวถงก็เดินเข้ามาในงานในชุดมือปราบ โหลวซีห่าวที่อยู่บนแท่นสูงมองไปทางประตูเห็นนางแลวช้วก็รู้สึกสบายใจ เขาเกรงว่านางแอบไปสืบคดีอันตรายเช่นนั้นอาจจะได้รับบาดเจ็บ ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ทำงานดีอย่างนางเขาเองก็รู้สึกเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย ร้านค้าสกุลซิวส่งคณะระบำมาแสดงต้อนรับนายอำเภอคนใหม่ด้วย พวกนางเดินทางมาจากแคว้นเว่ยรออยู่หลายวันแล้ว ทุกคนในงานล้วนตื่นตากับท่ารำที่ชดช้อยอ่อนหวานการแต่งกายที่สวยงามของเหล่านางรำ “อืม...นับว่าศิษย์พี่ของข้าจัดการได้ไม่เลว” สวีเสี่ยวถงพึมพำเมื่อมองดูนางรำที่สวมเสื้อผ้าเบาบางพลิ้วไหวจนมองเห็นผิวพรรณช่วงหัวไหล่และต้นแขนให้ชัดเจน ทำเอาบุรุษในงานล้วนน้ำลายหกไปตามๆ กัน *****************************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD