EP.8

1469 Words
มนินพัทธ์รีบเดินออกจากห้องของเขาอย่างรวดเร็ว สายตามองตามหลังร่างสูงที่รีบเดินตรงไปกดประตูลิฟต์ให้เปิดออกก่อนแทรกตัวเข้าไปด้านใน รอให้คนที่เดินตามมาเข้าไปด้านในเสร็จก็กดปิดประลิฟต์ทันที บรรยากาศในลิฟต์เงียบสนิท ไม่มีใครพูดอะไรจนกระทั่งลิฟต์เคลื่อนตัวลงมาหยุดที่ชั้นล่างสุด ทันทีที่เห็นร่างสูงเดินออกไปมนินพัทธ์ที่เพิ่งนึกอะไรออกก็รีบเดินตามออกไปทันที “น้องชื่ออะไรคะ” น้อง? สรรพนามเรียกที่เปลี่ยนไปทำให้ร่างสูงมองใบหน้าใสเกลี้ยงเกลาใต้กรอบแว่นสายตาอยู่ครู่หนึ่ง เรียกน้องก็ถูกต้องแล้วถ้าให้เดาเธอคงอายุมากกว่าเขาไม่กี่ปี ริมฝีปากหยักสวยเอ่ยบอก “จิน” “พี่ชื่อมิวนะ ขอเบอร์โทรหน่อยได้ไหมเดี๋ยวตอนเอาเสื้อผ้าไปคืนจะได้โทรบอกก่อน” “ฝากของไว้กับพนักงานที่คอนโดก็ได้” “ขอเบอร์ได้ไหม” “พูดไม่รู้เรื่องเหรอไง” “…” ยัยนี่หูหนวกหรือไง เขาเพิ่งบอกให้ฝากพนักงานของคอนโดไว้ก็ได้ จินตภัทรตวัดสายตาขึ้นมองหญิงสาวที่ทำหูทวนลมตีหน้ามึนใส่อย่างนึกรำคาญ มองอีกฝ่ายหยิบมือถือขึ้นมาเตรียมกดเบอร์ของเขา “เบอร์อะไร” “ชิ ..090-782-xxxx” ชายหนุ่มบอกอย่างไม่ใส่ใจนัก ขายาวๆ ก้าวตรงไปที่ลานจอดรถโดยไม่ได้หันกลับมามองหรือให้ความสนใจหญิงสาวอีก เปิดประตูรถเข้าไปนั่งเสร็จสรรพก็สตาร์ทรถออกไปอย่างรวดเร็ว เหลือบมองกระจกหลังก็ยังเห็นผู้หญิงคนนั้นยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มนินพัทธ์มองตามรถสปอร์ตคันหรูที่แล่นผ่านไปจนลับสายตา วันนี้เธอคงต้องหาที่พักก่อนส่วนของใช้ที่จำเป็นอื่นๆ ค่อยทยอยซื้อเอาใหม่ มีเอกสารสำคัญบางอย่างและของดูต่างหน้าพ่อที่เธออยากกลับไปเอาแต่คงไม่กลับไปที่นั่นในเร็ววันนี้แน่ ไม่รู้ว่าชวินทร์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง เธอฟาดโคมไฟเข้าไปที่ศีรษะของเขาเต็มแรง ขนาดนั้น ใจจริงก็รู้สึกสะใจไม่น้อยเมื่อนึกถึงเลือดที่ไหลออกมาจากศีรษะของคนสารเลวนั่น เธอพอมีเงินเก็บอยู่บ้างคงพอเช่าห้องพักถูกๆ ได้ คิดได้แบบนั้นก็เดินเข้าร้านเพื่อซื้อเสื้อผ้าและรองเท้าเปลี่ยน หลังจากเดินหาที่พักมาครึ่งค่อนวันเธอก็ยังไม่ได้ห้องพักตามต้องการ การหาห้องพักภายในวันเดียวนั้นเป็นเรื่องยากมาก ยิ่งเป็นห้องพักราคาไม่แพงและอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานก็ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ พลันในหัวก็นึกไปถึงห้องพักของผู้ชายที่ชื่อจินขึ้นมา ห้องของเขาอีกห้องยังว่างอยู่แถมคอนโดหรูๆ นั่นยังอยู่ใกล้ที่ทำงานของเธอมาก ไม่...ไม่ๆ ในหัวร้องเตือนให้หยุดคิดเรื่องนี้ เธอไม่ได้ใจกล้าหน้าด้านมากพอจะหาญกล้าไปขอแชร์ห้องร่วมกับผู้ชาย ถึงผู้ชายคนนั้นจะเป็นคนที่ช่วยเธอไว้แต่ก็ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเขาจะเป็นคนดี เธอยังจำครั้งแรกที่เจอกันได้…นิสัยแย่ๆ แบบนั้นดูทรงแล้วก็คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่ จากคำพูดและท่าทางภายนอกที่แสดงออกแล้วผู้ชายคนนั้นไม่มีทางให้เธอพักอยู่ด้วยแน่นอน ที่สำคัญเธอคงไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าห้องพักหรูๆ แบบนั้นได้ หญิงสาวหย่อนตัวลงนั่งที่นั่งรอรถเมล์ยกฝ่ามือขึ้นปาดเหงื่อบนกรอบหน้าของตัวเองออกลวกๆ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหม่อมองไปข้างหน้าอย่างคนใช้ความคิดหนัก เธอไม่ได้มีเพื่อนสนิทเหมือนคนอื่นๆ สมัยเรียนมหาลัยหลังจากเรียนเสร็จเธอก็ต้องไปทำงานพิเศษต่อ ไม่ได้เข้าสังคมหรือสังสรรค์เหมือนอย่างคนในวัยเดียวกันและไม่ได้สนิทสนมกับใครมากเป็นพิเศษ จะเรียกให้ถูกก็คือ…แค่รู้จักคบหาเป็นเพื่อนกันแต่ก็เป็นการรู้จักกันในแบบผิวเผินเท่านั้น สุดท้ายแล้วมนินพัทธ์ก็เลือกเช่าโรงแรมราคาถูกพักไปก่อน พรุ่งนี้เป็นวันหยุดเธอคิดจะใช้เวลาช่วงเสาร์อาทิตย์หาห้องพักอีกที คิดได้แบบนั้นก็จัดการเอาเสื้อผ้าของผู้ชายคนนั้นไปส่งร้านซักอบรีดใกล้ๆ โรงแรม เดินเตลิดเตร่เพื่อหาอะไรทานก่อนกลับที่พัก พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นรถสปอร์ตหรูคุ้นตาขับเข้ามาจอดในลานจอดรถหน้าผับชื่อดังฝั่งตรงกันข้าม พอเห็นคนที่เปิดประตูออกมาก็จำได้ทันทีว่าเป็นผู้ชายที่ช่วยเธอไว้เมื่อวาน ประตูรถอีกฝั่งเปิดออกพร้อมกับร่างบางเพรียวระหงที่ก้าวออกมา ผู้หญิงหน้าตาสะสวยสะดุดตาในชุดรัดรูปสีดำ พอทั้งคู่มายืนอยู่เคียงข้างกันมันสะกดสายตาได้ดีจริงๆ คนหนึ่งก็หล่อคนหนึ่งก็สวย มนินพัทธ์ยืนมองจนกระทั่งพวกเขาทั้งคู่เดินควงกันเข้าไปในผับชื่อดัง “จิน แวะไปทักทายเพื่อนๆ ของมี่ก่อนนะ” เดมี่เน็ตไอดอลชื่อดังยิ้มหวาน เธออยากอวดคู่ควงหนุ่มสุดฮอตกับเพื่อนๆ ของตัวเองใจจะขาด กว่าเขาจะยอมมาด้วยกันเธอเสียเวลาออดอ้อนอยู่ตั้งนานสองนาน ทั้งที่ไม่เคยต้องเอาใจใครมากขนาดนี้มาก่อน จินตภัทรเหลือบสายตามองกลุ่มเพื่อนของตัวเองครู่หนึ่งก่อนพยักหน้าตอบรับอีกฝ่าย ร่างสูงเดินตามหญิงสาวไปยังโต๊ะด้านในสุดที่มีกลุ่มเพื่อนของหล่อนนั่งมองอยู่ วันต่อมา.. เพราะความช่วยเหลือของหัวหน้างานอย่างนิษฐา มนินพัทธ์ถึงได้ห้องพักที่อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก ถึงสภาพห้องพักจะเล็กไปหน่อยแต่ก็สะอาดสะอ้านพออยู่ได้ จ่ายค่าเช่ารวมค่าล่วงหน้าสามเดือนก็แทบตัวปลิว ถึงเป็นอพาร์ทเม้นท์เล็กๆ ที่อยู่ในซอยลึกแต่ก็ปลอดภัยเพราะมีทั้งพนักงานรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด มนินพัทธ์จัดการเปลี่ยนเบอร์โทรใหม่หลังจากรับสายของมารดาที่โทรมาต่อว่าอย่างหนักเรื่องที่ทำร้ายชวินทร์ รู้สึกสะใจไม่น้อยที่รู้ว่าชวินทร์ต้องเย็บแผลที่ศีรษะไปถึงสิบเข็ม แต่ที่มนินพัทธ์เสียใจและผิดหวังมากที่สุดคือการที่แม่บังเกิดเกล้าโกรธเรื่องที่เธอทำร้ายชวินทร์จนบาดเจ็บมากกว่าจะห่วงความปลอดภัยของเธอ ทั้งๆ ที่มันจะทำเลวระยำกับลูกแท้ๆ ของตัวเอง “แค่ทะเลาะกันทำไมแกต้องไปทำร้ายวินมันหนักแบบนั้นด้วย ยังดีแค่หัวแตกกับกะโหลกร้าวเฉยๆ ถ้าเป็นอะไรมากกว่านั้นนพเอาฉันตายแน่” “มันบอกอะไรแม่ก็เชื่อมันเหรอ มันงัดห้องนอนจะข่มขืนหนูนะแม่ แม่คิดว่าหนูแต่งเรื่องโกหกหรือไง” “เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า เออ…ตอนนั้นวินมันเมามากน่ะ มันบอกว่าไม่ได้ตั้งใจแล้วก็อยากขอโทษแกด้วย เรื่องที่แล้วก็แล้วกันไปเถอะนะลูก ตอนนี้อยู่ที่ไหน..กลับมาคุยกันที่บ้านก่อนดีไหม” “แม่!! มันจะข่มขืนหนูนะ หนูเป็นลูกแม่หรือเปล่า แม่ยังจะพูดเข้าข้างไอ้สารเลวนั่นอยู่ได้ แม่ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือไง แม่..เคยรักหนูบ้างไหม” “เฮ้ออ..รักสิ แกเป็นลูกฉันนะจะไม่รักได้ยังไง แกกลับมาบ้านก่อนดีไหม มีอะไรก็ค่อยๆ พูดค่อยๆ ปรับความเข้าใจกัน” “หนูขอคิดดูก่อน” “มิว วินเจ็บขนาดนั้นแต่มันก็ไม่ได้โกรธอะไรแกเลยนะ นพก็เหมือนกัน อยู่ข้างนอกคนเดียวแบบนี้มันอันตราย กลับบ้านเราเถอะนะ ให้แม่ไปรับแกดีไหม” ที่ไหนมันอันตรายกว่ากันแน่.. “แค่นี้ก่อนนะแม่” แม่ไม่ได้สนใจฟังเรื่องของเธอด้วยซ้ำ แม่สนใจแต่เรื่องของตัวเองเท่านั้น ที่แม่บอกว่ารักเธอคงแค่รักเงินที่หามาให้มากกว่า เธอมันก็มีค่าแค่นั้นแหละ เรื่องชวินทร์มันเป็นฟางเส้นสุดท้ายจริงๆ ที่ทำให้มนินพัทธ์ตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดว่าจะไม่กลับไปเหยียบที่นั่นอีก คนเลวๆ อย่างชวินทร์จะสำนึกผิดอะไรเป็น มันทำแบบนี้จนติดเป็นสันดานไปแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่ใช่จะเกิดกับเธอคนแรก ถ้าโง่กลับไปที่นั่นอีก…เธอคงจะไม่มีวันโชคดีอย่างวันนั้นอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD