ริมฝีปากบางเม้มสนิท เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดเช่นไร เธอเลยกังวล ว่าแม่นมอาจโดนทำร้าย ดีทริสยิ่งเป็นคนไม่คงเส้นคงวาเสียด้วย
“จะไม่ให้ฉันกลับมาได้ยังไงล่ะคะ ก็ฉันเป็นห่วงแม่นมมากนี่”
“คุณดีทริสไม่ทำร้ายแม่นมหรอกค่ะคุณหนู” เธอบอก แล้วยิ้มเศร้า เพราะไม่อยากให้คนที่ตนเอง ฟูมฟักมาต้องเป็นทุกข์
จะให้เชื่อใจผู้ชายคนนั้นได้ยังไง ในเมื่อเขาไม่เคยเห็นเธอในสายตา ยังคงคิดว่าเธอนั้นเป็นต้นเหตุแห่งความยุ่งยากใจ ทั้งที่ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยว ผู้ใหญ่คิดและตัดสินใจกันเอง ตนเองเลยถูกบังคับ ข่มขู่เช่นทุกวันนี้
“ฉันจะหนีค่ะแม่นม ฉันอยากบอกแม่นมไว้ ถ้าเกิดว่า ฉันมีลู่ทาง จะรีบมาพาแม่นมไปนะคะ!”
“จะดีเหรอคะคุณหนู คราวนี้ถ้าคุณหนูถูกจับได้ คงกลายเป็นเรื่องใหญ่!” เดน่าบอกด้วยความเป็นห่วง
“ยังไงก็ดีกว่ายอมแต่งงานกับดีทริส โดยที่ไม่ทำอะไรเลยค่ะ ฉันไม่อยากต้องถูกขังอยู่ในกรง ก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรม ที่ไม่ต้องการแบบนี้หรอกค่ะ”
มือบางถูกดึงมากุม แล้วตบเบา ๆ สีหน้าหม่นเศร้า
“คุณหนู แม่นมเคยเห็นคุณหนูมองคุณดีทริสด้วยความชื่นชมนี่คะ ถ้าเกิดคุณหนูรักคุณดีทริสแล้วล่ะก็ แม่นมอยากให้คุณหนู ยอมรับการแต่งงาน”
เธอส่ายหน้าทันที “ฉันไม่แต่งค่ะแม่นม เรื่องความรู้สึก ฉันไม่มีแล้วล่ะค่ะ ตั้งแต่ที่เจอกับเรื่องวันนั้น ฉันก็ตัดใจจากเขาไปนานแล้ว ฉันไม่อยากถูกใช้เป็นเครื่องมือ”
คนฟังระบายลมหายใจ ด้วยความสงสาร แล้วคุณหนูจะหาทางรอด จากสถานการณ์เช่นนี้อย่างไร
“แล้วคุณหนูจะหนีไปยังไงคะ”
“ฉันคิดว่าพอมีทางแล้วล่ะค่ะ” แววตาคนพูดแน่วแน่
“ถ้ามีทาง แม่นมก็อยากเห็นคุณหนูเป็นอิสระ แต่คุณหนูต้องคิดให้ดีนะคะ”
“ฉันคิดดีแล้วค่ะแม่นม”
เดน่ารั้งร่างบางมาโอบกอดไว้ หวังว่าคุณหนูจะรอดพ้น จากวิกฤติครั้งนี้ เธอไม่เคยคิดเลยว่า นายท่านตระกูลอาบานอส จะตัดสินใจให้คุณหนูเซเนียแต่งงานกับลูกชายตัวเองแบบนี้
ร่างบางสาวเท้ากลับมาจากบ้านพัก สองเท้าหยุดลง เมื่อเห็นรถยนต์จอดเทียบ คนลงมาเป็นสาวสวย ทรวดทรงน่ามอง มือบางกำแน่น ริมฝีปากเม้มสนิท ถ้าแต่งงานกันไป คงไม่มีวันมีความสุขแน่ เพราะดีทริส ไม่มีทางมองเห็นเธอเป็นภรรยา คงเป็นแค่เครื่องมือ สำหรับการแสวงหาอำนาจเท่านั้น
ก้าวเดินอย่างเชื่องช้า ไม่อยากกลับไปคฤหาสน์ใหญ่ ถ้าหากย้ายไปอยู่กับแม่นมได้คงดี มาถึงโถงกลาง เห็นผู้หญิงคนนั้นอยู่กับแม่บ้าน ซึ่งกำลังพาเดินขึ้นชั้นสอง เซเนียตัดสินใจเร่งฝีเท้านำสองคน แม่บ้านชะงักก้มหน้า สีหน้ากังวล ทว่าหญิงสาวคนนั้น กลับทอดสายตามอง แววตาทอประกาย เซเนียยิ้มมุมปาก
“พาใครมาเหรอคะ คุณแม่บ้าน” เซเนียเอ่ยถาม น้ำเสียงเรียบนิ่ง
“เอ่อ...”
“ฉันชื่อกาเร็ตค่ะ พอดีคุณดีทริสเรียกพบ” เธอตอบ แล้วยิ้มยั่ว
“เธอทำงานให้เขางั้นเหรอ”
คนถูกถามสีหน้าครุ่นคิด “ก็ไม่เชิงค่ะ ฉันทำงานให้คุณดีทริส เฉพาะบนเตียง”
“ทำงานให้เขาคนเดียว หรือทำให้คนอื่นด้วยล่ะ” เซเนียถามสวนกลับไปทันที
กาเร็ตยื่นหน้ามาใกล้ แล้วยกยิ้ม ใบหน้าของผู้หญิงคนนี้ทำเอาสะท้านไปเลย เธอว่าตนเองสวยแล้วนะ แต่พอมาเจอคนคนนี้ กลับไม่มีอะไรเทียบได้เลย
“ฉันทำงานให้คุณดีทริสคนเดียวค่ะ ท่านเลี้ยงฉันไว้ในฐานะเมีย”
เซเนียเอื้อมมือ คว้าเส้นผมสีบลอนด์ แล้วยิ้มกว้าง แววตาเยือกเย็น
“น่าเสียดาย เธอน่าจะได้แต่งงาน มีครอบครัวกับผู้ชายดี ๆ สักคน แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อผู้ชายอย่างดีทริส คงถึงอกถึงใจ เงินหนาจนเธอไม่อาจหาสามีเป็นของตัวเอง ต้องใช้ร่วมกับคนอื่นแบบนี้”
ดวงตาคนฟังไหววูบ รีบปัดมืออีกฝ่ายออก
“ใช่ค่ะ คุณดีทริสเขาดีกับฉัน ตอนไหนว่างเขาก็จะมาหา มีเงินให้ฉันใช้ตลอด แถมเขายังเด็ดเวลาอยู่บนเตียง แบบนี้จะให้ฉันปล่อยไปได้ยังไงคะ!”
คนฟังหัวเราะลั่น “เธอคิดว่าเขามีเธอคนเดียวหรือไงกัน!”
“มีฉันคนเดียวหรือไม่มี ก็ไม่ต้องมายุ่ง!” กาเร็ตตวาดกลับ
เรต้าสาวเท้ามาหยุดยืนใกล้เจ้านายสาว แล้วจ้องมอง ริมฝีปากเม้มสนิท ท่านดีทริส ไม่เรียกหาเธอตั้งแต่กลายมาเป็นคนรับใช้ ให้กับคุณเซเนีย ท่านกลับเรียกผู้หญิงคนนี้มาที่คฤหาสน์แทนงั้นเหรอ
“เอ่อ... ขออภัยด้วยนะคะคุณหนูเซเนีย ฉันต้องรีบพาตัวกาเร็ตไปพบท่านดีทริสค่ะ” แม่บ้านรีบบอก สีหน้ากังวล เกรงเกิดปัญหา
“ได้ยินแล้วใช่ไหม ฉันไม่มีเวลาว่างมาคุยด้วยหรอกนะ ท่านดีทริสเรียกหาฉันแล้ว”
เซเนียกำมือข้างกายแน่น ตัวเองเสวยสุข แต่กลับหาทางกักขัง ไม่ให้เธอได้รับอิสระงั้นเหรอ จะไม่มีวันแต่งงานกับเขาเด็ดขาด ดีทริสต้องไม่ได้อะไรจากเธอ
“ฉันไปด้วยเลยแล้วกัน” เซเนียเอ่ยปาก แล้วสาวเท้านำไปยังด้านบน
ทว่ากาเร็ตกลับตระหนกตกใจ รีบคว้าข้อมือไว้ เซเนียหันกลับมา สะบัดเรียวแขน ให้พ้นการเกาะกุม
“คุณเข้าไปไม่ได้ ฉันกับท่านดีทริส กำลังจะมีความสุขกัน!”
คิ้วบางขมวด “ทำไมฉันจะเข้าไปไม่ได้!”
“เพราะท่านดีทริส ไม่ได้เรียกหาคุณ หรือคุณต้องการไปขัดขวางเพราะอิจฉา!”
“คุณกาเร็ตหยุดนะ!” แม่บ้านรีบร้องห้าม
“ฉันพูดเรื่องจริง ทำไมคุณต้องมาขัดขวางความสุขของฉันกับท่านดีทริสด้วย!”
“แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้!” เซเนียย้อนเสียงแข็ง
“ที่คฤหาสน์หลังนี้ ท่านดีทริสใหญ่ที่สุด คุณเอาสิทธิ์อะไรมายุ่งวุ่นวาย!”
“สิทธิ์ของคู่หมั้นไง ฉันเป็นคู่หมายที่ต้องแต่งงานกับดีทริส พอใจหรือยัง!” หญิงสาวอธิบายเสียงกร้าว จ้องมองอีกฝ่าย เห็นแววตาไหววูบ
“ไม่จริง!”
เธอกระตุกยิ้มมุมปาก “ลองเข้าไปในห้องดีทริสไหมล่ะ ถามเขาตรง ๆ เลยก็ได้ หรือถ้าอยากลอง ถามไปเลยว่าเลือกฉันหรือเธอ!”
“ท่านดีทริสไม่มีวันเลือกผู้หญิงคนไหน นอกจากคุณเซเนียหรอกค่ะ!” เรต้าออกปาก ทำเอากาเร็ตหน้าซีดเผือด
เซเนียไม่สนใจ เร่งเท้าไปยังห้องเป้าหมาย เปิดเข้าด้านใน เห็นร่างสูงกำลังนั่งอยู่ตรงโซฟา ในสภาพสวมชุดคลุม ดวงตาผสานกัน เขายกยิ้ม ทอดมองคนงาม แล้วเลยไปยังเบื้องหลัง เห็นหญิงสาวที่ตนเรียกมา กำลังหน้าซีดอยู่
“มาหาผมมีธุระอะไรหรือเปล่าเซเนีย” เขาเอ่ยถาม น้ำเสียงยั่วยวน ราวกับต้องการแกล้ง
“ฉันพาผู้หญิงของคุณมาส่ง” เธอยิ้มหวาน
ร่างสูงใหญ่ลุกยืน แล้วสาวเท้ามาหยุดยืนตรงหน้า โน้มใบหน้าเข้าใกล้ ทำเอาผู้หญิงคนอื่น ถึงกับชะงัก มือบางยกดันแผงอก เอนกายเบือนหน้าหนี
“หยุดนะ! คุณจะทำอะไร ไม่ต้องเข้ามาใกล้ฉันขนาดนี้ก็ได้!” เซเนียร้องห้าม
“ผมนึกว่าคุณ อยากจะร่วมวงกับผมอีกคน”
ตวัดสายตามอง กัดริมฝีปากแน่น
“อย่ามาเหมารวมว่าฉันจะรู้สึกกับคุณ เหมือนผู้หญิงคนอื่น!”
เขาหัวเราะในลำคอ คว้าข้อมือคู่หมายเอาไว้ แล้วรั้งเข้าหา กอดรัดไว้แน่น
“ถ้าไม่อยากร่วมด้วย แล้วเข้ามาในห้องผมทำไม แถมยังพาผู้หญิงมาด้วยถึงสองคน!”
“ปล่อยฉันนะดีทริส บอกให้ปล่อยไง!” เธอร้องลั่น พยายามดิ้นรนขัดขืน
“ตอบมาเซเนีย!” น้ำเสียงเริ่มคุกคาม
“คุณมียางอายบ้างไหม คนอื่นอยู่ในห้องเยอะแยะ ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง!”
ดีทริสเหลือบมอง เห็นคนอื่นยืนจ้องมอง น้ำตาคลอ เขาระบายลมหายใจ แต่ยังไม่ยอมปล่อยคู่หมาย
“ออกไปให้หมด!”
“แต่ว่าท่านเรียกฉันมาหานี่คะ!” กาเร็ตแย้งเสียงหลง
“ฉันไม่อารมณ์แล้ว ตอนนี้ฉันอยากอยู่กับคู่หมั้น เพราะฉะนั้น ออกไปให้หมด!”