น้องรหัสมึงพูดจาน่าเลี้ยงข้าวว่ะ ตาถึงๆ

1593 Words
เพลานั้น กษัตริย์วงศ์เทวาทั้งสี่พระองค์ซึ่งมีพระนามตามนครที่ครอง อันได้แก่ ท้าวกุเรปัน ท้าวดาหา ท้าวกาหลัง และท้าวสิงหัดส่าหรี มีนครซึ่งปกครองด้วยท้าวหมันหยา เกี่ยวดองเป็นเครือญาติกับนครเหล่านี้ อิเหนา...เป็นโอรสที่เกิดจากพระมเหสีเอกของท้าวกุเรปัน ท้าวกุเรปันและท้าวดาหาทรงตกลงปลงพระทัยกันว่าให้อิเหนาได้เป็นคู่ตุนาหงันกับบุษบา อันเป็นราชธิดาที่เกิดจากพระมเหสีเอกแห่งนครดาหา ทว่า...เมื่อเติบใหญ่ อิเหนากลับตระบัดสัตย์ ปันใจให้กับนางจินตะหราวาตี ธิดาของท้าวมันหยาเมื่อครั้งเดินทางไปร่วมงานปลงพระศพของพระอัยกี ทำให้ตัดสินใจถอนหมั้นกับนางบุษบา ท้าวดาหาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หลุดปากว่าหากผู้ใดมาขอบุษบาเป็นชายาก็จะยกให้ เรื่องถึงหูจรกาซึ่ง ‘รูปชั่วตัวดำ’ ฝ่ายนั้นก็มาขอตุนาหงัน ท้าวดาหาทรงยินยอมเพราะโกรธแค้นอิเหนา ฝ่ายองค์ปะตาระกาหลา หรืออีกนามหนึ่งคือองค์อสัญแดหวา ต้นวงศ์เทวาของอิเหนาซึ่งขณะนั้นเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์รับรู้ก็ไม่พอพระทัยอิเหนา จึงบันดาลให้วิหยาสะกำ โอรสของท้าวกะหมังกุหนิงหลงใหลในรูปโฉมของนางบุษบาทันทีที่ได้เห็นภาพวาดของนางที่เก็บได้ในป่า ครั้นบิดาไปทูลขอนางจากท้าวดาหาให้ไม่ได้ จึงพากันยกทัพไปรบแย่งชิงตัวนาง ท้าวดาหาแจ้งข่าวขอให้ท้าวกุเรปันและจรกายกทัพมาช่วย อิเหนาถูกแต่งตั้งเป็นแม่ทัพ ไปช่วยรบจนชนะ สังหารท้าวกะหมังกุหนิงและวิหยาสะกำจนสิ้น เสร็จศึกก็หมายจะกลับไปพบนางจินจะหราวาตียอดดวงใจ แต่ทว่าเมื่อได้พบพานกับบุษบา ก็ตะลึงงันหลงรูปด้วยนางมีโฉมงดงาม เมื่อเป็นฝ่ายขอถอนหมั้น แต่กลับมาหลงรักนาง จะช่วงชิงกลับคืนมาก็ต้องใช้เล่ห์เพทุบาย มะเดหวีอันเป็นมารดาของบุษบาวุ่นพระทัยว่าบุษบาจะลงเอยกับผู้ใดระหว่างจรกาและอิเหนา จึงได้ชวนบุษบาไปเสี่ยงทายกับองค์พระปฏิมา ใช้เทียนสามเล่มเสี่ยงทาย เล่มหนึ่งปักตรงหน้าคือตัวนาง เล่มทางขวาคืออิเหนา และเล่มทางซ้ายคือจรกา อธิษฐานตั้งจิต... แม้นจะได้ข้างไหนแน่ ให้ประจักษ์แท้จงหนักหนา แม้จะได้ข้างระตูจรกา ให้เทียนพี่ยานั้นดับไป แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากปฏิมา... อันนางบุษบานงเยาว์ จะได้แก่อิเหนาเป็นแม่นมั่น จรกาใช้วงศ์เทวัญ แม้นได้ครองกันจะอันตราย จากนั้นอิเหนาก็ต้อนค้างคาวให้เทียนดับ อาศัยความมืดรุดข้ากกกอดบุษบา กระทั่งพี่เลี้ยงของนางเอาคบเพลิงมาถึงประจักษ์ว่าเสียทีให้แก่อุบายของอิเหนา ทั้งที่โกรธแสนโกรธ แต่มะเดหวีก็ยอมสัญญาว่าจะหาทางให้อิเหนาได้เสียกับบุษบา ขณะที่อิเหนาเห็นทีว่าคงจะไม่ได้ครอบครองนางแต่โดยดีจึงวางอุบายร้ายแรง ...เผาโรงมหรสพในพิธีอภิเษกของจรกาและบุษบา ก่อนจะลักพานางไปไว้ในถ้ำทองที่ตระเตรียมไว้ รู้ถึงองค์ประตาระกาหลา อิเหนาก็ถูกโกรธกริ้วเป็นหนักหนา ดลบันดาลให้พายุใหญ่หอบรถนางบุษบาและพี่เลี้ยงไปตกที่ชายเมืองประมอตัน แปลงกายนางให้เป็นชายนามว่า อุณากรรณ อิเหนาตามหาแทบพลิกแผ่นดิน บุษบาก็หลบลี้หลีกหนี้สิ้น ครั้นสิ้นเวรกรรมแล้ว กษัตริย์วงศ์เทวาทั้งหมดก็ได้พบพานกันอีกครา อิเหนาผู้ได้ครอบครองนางบุษบากลับสู่เมือง ปรับความเข้าใจกับนางจินตะหรา ร่วมกันครองเมืองกุเรปันอย่างมีความสุข ...พร้อมกับเมียๆ นอกจากนางจินตะหราวาตีและนางบุษบาอีกเป็นโขยง นี่ยังไม่รวมสังคามาระตา น้องชายบุญธรรมที่ควบตำแหน่งน้องชายเมียอย่างมาหยารัศมี กับ สียะตรา ที่เป็นน้องชายของบุษบาอีกนะ และนั่นคือเรื่องราวคร่าวๆ ของอิเหนาในตำราที่เคยเรียนมา ส่วนจรกา...ถูกบิดาของอิเหนาไปสู่ขอนางจินดาส่าหรี ธิดาของท้าวสิงหัดส่าหรีมาให้เข้าพิธีแต่งงานกับตนแทนบุษบาเสียอย่างนั้น ในตำนานคงคิดว่าจรกาจะมีความสุขล่ะสินะ แต่ตำนานก็คือตำนาน เพราะในความเป็นจริงน่ะ...มันใช่อย่างนั้นเสียที่ไหนล่ะโว้ย! ได้แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก มันจะไปมีความสุขอะไร แต่ในชาตินั้น ผมปฏิเสธไม่ได้ไง เป็นเพียงเจ้าเมืองนครเล็กๆ ใครมันจะไปกล้าปฏิเสธเจ้าเมืองนครใหญ่เบ้อเร่อเบ้อเทิ่มอย่างนั้นกันเล่า ได้แต่เก็บงำความไม่พอใจเอาไว้ โชคดีที่จินดาส่าหรีเข้าใจ เราเลยเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขกันแทนที่จะเป็นสามีภรรยา ซึ่งนั่นแหละ...จุดจบอันแสนเศร้าของผม เป็นพรหมจรรย์ไปชั่วชีวิตเพราะตัดใจจากบุษบาไม่ได้ อะไรไม่ว่า เรื่องวุ่นๆ พวกนั้นดันกลายมาเป็นตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาอีก มิหนำซ้ำผมยังถูกยัดเยียดให้เป็นตัวร้ายทั้งที่ถูกกระทำทั้งสิ้น ก็แค่หลงรักบุษบาแล้วไปขอจากพ่อ แต่ดันรูปชั่วตัวดำ เกิดมาไม่หล่อมันผิดด้วยเหรอวะ! และใช่ เทวดาที่ให้พรผมก็หนีไม่พ้นใครที่ไหนหรอก องค์ประตาระกาหลา ต้นวงศ์เทวาของอิเหนานั่นแหละ เพราะท่านเห็นว่าลูกหลานตัวเองทำผิดมหันต์ จึงได้ชดเชยให้ผมในชาตินี้ เรื่องชาติก่อนก็ว่าหงุดหงิดแล้ว แต่ตอนนี้หงุดหงิดยิ่งกว่า ผมมองหน้าอิเหนา...เออ ไอ้อินทราหรืออินทร์อะไรนี่ที่พี่บุศย์แนะนำนั่นแหละ มอง...จนหัวเสีย ขณะที่หมอนั่นไม่สนใจผมที่นั่งหัวโด่ กินเค้ก ดูดกาแฟ เล่นโทรศัพท์หน้าตาเฉย หน็อย...ชาติที่แล้วทำอะไรกับกูไว้บ้าง ไม่สำนึกเลยนะ ยังมีหน้ามานั่งเล่นสบายใจอีก! อยากจะโวยวาย เอาหัวมันจุ่มแก้วกาแฟนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งมองมันเขม็ง เพราะระลึกไว้ว่าชาตินี้มันไม่รู้เรื่อง ไม่รู้เรื่องถือว่าเรื่องนั้นไม่เคยเกิดขึ้น... ผมบอกกับตัวเองอย่างนั้นแต่ก็ละสายตาออกจากใบหน้าหล่อๆ ของอิเหนาไม่ได้เลย ชาติที่แล้วก็หล่อ ชาตินี้ก็หล่อ สวรรค์แม่งไม่เคยยุติธรรมเลย! เผลอขบฟันอย่างขุ่นเคืองในโชคชะตาของตัวเอง ตาก็ยังจ้องอยู่ที่อิเหนา จนกระทั่งพี่บุศย์สังเกตเห็น “มีอะไรหรือเปล่าจิ มองไอ้อินทร์ซะน่ากลัวเลย” ผมรู้สึกตัวในตอนนี้ หันไปมองหน้าพี่บุศย์พลางรีบปรับสีหน้า “อะ...อ๋อ พอดีเห็นพี่อินทร์หล่อน่ะครับ ผมเลยเผลอจ้องนานไปหน่อย แหะๆ” ไม่ได้อยากจะแก้ตัวอย่างนี้หรอก แต่ก็ต้องยอมรับจริงๆ ว่าอิเหนามันหล่อ มันเท่ มันโคตรไอดอลเกาหลี และที่สำคัญ...ไม่ได้อยากเรียกมันว่าพี่อินทร์ด้วย! “มิน่าล่ะ แต่ก็ไม่แปลกใจหรอก ไอ้อินทร์มันหล่อจริงๆ นี่เนอะ” พี่บุศย์เออออไปกับผม ส่วนอิเหนาก็เงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์ขึ้นมามองผม “หืม? พูดจริงดิ” ส่ายหน้าได้ไหมล่ะ! แต่ก็ไม่ได้ทำอะ พยักหน้าไปเสียอย่างนั้น เท่านั้น อิเหนาก็ยกยิ้มขึ้นมา “น้องรหัสมึงพูดจาน่าเลี้ยงข้าวว่ะ ตาถึงๆ” สีหน้าท่าทางเหมือนกับในชาติก่อนเป๊ะๆ กวนๆ อย่างนี้นี่ใช่เลย ยิ่งมองก็ยิ่งเห็นหน้าตาของมันในชาติก่อนทับซ้อนขึ้นมา ความขุ่นแค้นของผมก็ทวีคูณมากกว่าเดิม ทำให้ผมต้องสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วตั้งสติ โอเค เรื่องของชาติก่อนก็ปล่อยมันไป ชาติก่อนเป็นรอง เวลามันพูดอะไร ผมก็เกรงใจ แต่ชาตินี้จะไม่ยอมเป็นรองอีกแล้ว ดังนั้นจะไม่เรียกมันว่าอิเหนาให้ตอกย้ำตัวเองอีก พี่อินทร์...พี่อินทร์...พี่อินทร์... เรียกว่าพี่อินทร์ก็แล้วกัน “อยากกินอะไร เดี๋ยวเลี้ยง” ไม่ได้มาเล่นๆ พูดจริง เลี้ยงจริง ผมยิ้มฝืนๆ ออกมาทันที “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่หิว” พี่อินทร์ยักไหล่ ท่าทางไม่ยี่หระเท่าไร “แล้วแต่นะ ถือว่าปฏิเสธเอง” เออ! กูก็ไม่อยากกินของที่มึงซื้อให้หรอกเว้ย! ไม่เผาผี! ผมบริภาษในใจ แต่พอพี่บุศย์โพล่งขึ้นมา “แต่จิยังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่เหรอ เห็นรอพี่ตั้งแต่เลิกเรียนช่วงเช้าแล้วนี่” ผมก็หันไปยิ้มหวาน “แค่ได้เจอพี่บุศย์ จิก็ไม่หิวแล้วครับ” อิ่มอกอิ่มใจน่าดู อารมณ์เปลี่ยนไวเหมือนเป็นไบโพลาร์ พี่บุศย์มองผมอย่างงุนงงแวบหนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะ “พูดอะไรของเรา ไม่ต้องเลยนะ ไม่หิวก็ต้องกิน เอาอาหารไปเลี้ยงสมองหน่อย เดี๋ยวก็ทำควิซไม่ได้หรอก แซนด์วิซก็ยังดี เดี๋ยวพี่ซื้อให้” “แต่ว่า...” “ไม่แต่ ต้องกิน” พี่บุศย์ว่าแกมบังคับ ซึ่งผมชอบมากกก ชอบให้เขาแสดงออกว่าเป็นห่วง ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นห่วงในฐานะน้องรหัสก็ตามทีเถอะ และเพราะเขาเป็นแบบนี้ มันเลยทำให้ผมชอบเขามากขึ้นไปอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD