ผมคือจรกา
ในลักษณ์นั้นว่าจรกา รูปชั่วต่ำช้าทั้งศักดิ์ศรี
ทรลักษณ์พิกลอินทรีย์ ดูไหนไม่มีจำเริญใจ
เกศานาสิกขนงเนตร สมเพชพิปริตผิดวิสัย
เสียงแหบแสบสั่นเป็นพ้นไป รูปร่างช่างกระไรเหมือนยักษ์มาร
เมื่อยิ้มเหมือนหลอกหยอกเหมือนขู่ ไม่ควรคู่เคียงพักตร์สมัครสมาน
ดังกากาจชาติช้าสาธารณ์ มาประมาณหมายหงส์พงศ์พระยา
แม้นแผ่นดินสิ้นชายที่พึงเชย อย่ามีคู่เลยจะดีกว่า
เป็นความขุ่นเคืองอย่างถึงที่สุดของผมเลยหลังจากได้อ่านบทประพันธ์เรื่องอิเหนาถึงตอนที่อิเหนาวิจารณ์หน้าตาของจรกาให้บุษบาได้อ่านโดยการเขียนบรรยายรูปลักษณ์ไว้บนดอกลำเจียก ผมคว่ำชีทในมือลงบนโต๊ะอย่างหัวเสีย
ให้ตายเถอะ! ทำไมถึงต้องมานั่งเรียนบทประพันธ์ที่พร่ำพรรณนาด่าตัวเองกันด้วยนะ!
ผมสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ พยายามทำความเข้าใจว่าเพราะผมเป็นเรียนเอกภาษาไทย มันหนีไม่พ้นที่จะต้องเรียนพวกวรรณคดีไทยอะไรแบบนี้อยู่แล้ว
ส่วนเรื่องที่ทำให้ผมหัวเสียน่ะเหรอ? อย่างที่บอกว่าผมหงุดหงิดที่ต้องมาอ่านบทประพันธ์บริภาษรูปร่างหน้าตาตัวเอง และใช่...
...ผมคือจรกา
อาจจะฟังดูงงๆ หรือน่าเหลือเชื่อไปหน่อย แต่จรกาคือตัวผมในชาติที่แล้ว ถึงแม้ว่าวรรณคดีเรื่องอิเหนาจะเป็นเรื่องที่ถูกประพันธ์ขึ้นมาในภายหลัง แต่เดิมทีก็มีเค้าโครงมาจากนิทานปันหยี ซึ่งเป็นวรรณคดีของชาวชวาในสมัยครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
อิเหนาปันหยีรัตปาตี...
ถูกต้อง ผมหมายถึงเรื่องนี้นี่แหละ และอย่างที่บอก...ผมเป็นตัวร้าย
มันอาจจะดูเหลือเชื่อไปหน่อยที่ผมบอกว่าตัวเองเป็นจรกากลับชาติมาเกิด แต่ใครจะรู้บ้างว่าทุกตำนานที่ถูกเล่าต่อกันมาสืบลูกสืบหลานกันเนี่ย ส่วนใหญ่ล้วนมีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงเท่านั้น เรื่องอิเหนาก็เช่นกัน
อันที่จริงการถูกใส่ความว่าเป็นตัวร้ายมันไม่ใช่เพราะนิสัยหรือผมไปทำชั่วอะไรมาหรอกนะ กลายเป็นตัวร้ายเพราะเหตุผลเดียวเท่านั้น...ไม่หล่อ
รูปชั่ว ตัวดำ นามไม่เพราะ ตัวใหญ่เป็นยักษ์เป็นมาร ขนดกดำ เสียงแหบแห้ง เท่านี้ก็ทำให้ผมดูเป็นคนชั่วไปแล้ว ยิ่งผมไปหลงรักผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยแม้แต่จะชายตามองผมด้วย ความชั่วช้าของผมก็ทวีมากขึ้นเข้าไปใหญ่
ถูกรังเกียจเพราะขี้เหร่ไม่ว่า ดันเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็กๆ เทียบเท่ากับอิเหนาที่อยู่ในราชวงศ์ใหญ่โตไม่ได้ พอถูกกลั่นแกล้งทีก็โดนคนนั้นรุมคนนี้รุม ลุกขึ้นสู้ขึ้นมาบ้าง จุดจบก็เลยไม่ค่อยสวยเท่าไรนัก และแน่นอนว่าผู้ชนะย่อมเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์ ผมเลยได้กลายมาเป็นตัวร้ายอย่างที่เห็น
เรื่องทั้งหมดนั้นเป็นความผิดของอิเหนา ผมเลยผูกใจเจ็บข้ามภพข้ามชาติ โชคดีที่สวรรค์เห็นใจ ให้ผมมาเกิดใหม่พร้อมกับให้พรหนึ่งประการ... พรที่ทำให้ระลึกชาติได้ และทำให้ผมจำทุกคนในชาติที่ผมเป็นจรกาได้
มีประโยชน์มากกก เพราะมันจะทำให้ผมได้เจอกับบุษบาอีกครั้ง ส่วนอิเหนา... ช่างหัวมันเถอะ ในเมื่อชาตินี้ผมไม่ได้เป็นจรกาอีกต่อไปแล้ว รูปก็ไม่ชั่ว ตัวก็ไม่ดำ มิหนำซ้ำยังหล่อน่าลาก ต่อให้มาใส่ไฟบุษบาว่าหน้าตาอย่างโน้นอย่างนี้ ผมก็ไม่สนใจแล้ว ก็ตอนนี้น่ะ ผมคือ...
“น้องจิ”
...จิระ เฟรชชี่น้องใหม่ของคณะศิลปะศาสตร์ ซึ่งได้ชื่อว่าน่ารักน่าชังที่สุดในไตรมาสนี้
“ครับ”
ผมหันไปขานรับรุ่นพี่คนหนึ่งที่เทียววนเวียนมาหาผมที่คณะทุกวี่ทุกวัน ขณะที่พี่... เอ่อ ชื่ออะไรก็ไม่แน่ใจนักยิ้มหวานให้
“กินอะไรหรือยังครับ เห็นนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้ว พี่กลัวหิว ก็เลยซื้อขนมมาฝาก”
ถามผมแท้ๆ ยังไม่ทันตอบก็สรุปเองเออเองเสร็จสรรพพร้อมกับยื่นขนมจากร้านเบเกอร์รี่ในมหา’ลัยมาให้ตรงหน้า ผมยิ้มรับ ขอบคุณไปตามมารยาท ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่าที่เขาบอกว่าเห็นผมนั่งอยู่ตรงนี้นานแล้ว คงเป็นเพราะแอบดูผมมาตั้งแต่เมื่อครู่
แต่...แค่คนเดียวมันจะไปสมกับคำเลื่องลือว่าผมน่ารักน่าชังได้ยังไง มันต้องมีอีก
ไม่ทันไรก็มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น
“น้องจิ ไม่เห็นไปที่โรงอาหารเลย ไม่กินข้าวเหรอครับ”
คนนี้ก็...ชื่ออะไรก็ไม่รู้ ผมจำไม่ได้หรอก วันๆ มีรุ่นพี่ผู้ชายทั้งจากคณะตัวเองและคณะอื่นมาเกาะแกะอยู่หลายคน มากหน้าหลายตาขนาดนี้ใครจะไปจำได้ แต่สองคนนี้ผมจำได้อยู่อย่างหนึ่งนะ... ทั้งคู่เป็นรุ่นพี่คณะผม
“พอดีจิต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบควิซคาบบ่ายน่ะครับ”
“ขยันจังเลย~”
สองคนนั้นขานรับ สีหน้านี่ดูออกเลยว่าเอ็นดูผมสุดฤทธิ์ ขณะที่ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆ
ไม่ให้หัวเราะแห้งๆ ได้ยังไงล่ะ ทั้งที่ชาตินี้เกิดมามีรูปงามแท้ๆ ทำไมถึงได้มีแต่ผู้ชายมาติดพันวะ! ผู้หญิงไปไหนกันหมด!
ออกตัวเลยว่าผมไม่ได้มีรสนิยมอย่างนั้น ไอ้เรื่องที่รุ่นพี่ผู้ชายมาเจ๊าะแจ๊ะทั้งวี่ทั้งวันนี่ก็ชวนให้รำคาญใจเหมือนกัน แต่จะไปโวยวายก็ไม่ได้ ผมต้องคีพลุคน้องใหม่น่ารักนิสัยดีเข้าไว้ จะได้เป็นที่น่าเอ็นดูของพวกรุ่นพี่ เพราะในอนาคต ผมคงต้องพึ่งพาเจ้าพวกนี้เรื่องเรียนแน่ๆ