คนรับฟังได้แต่แอบเป้ปากนิดหนึ่งพลางคิดในใจ คนระดับทักษกรให้ทิปเด็กแค่นี้ไม่กระเทือนอะไร หรอก แล้วพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ ถ้าเขาชื้อขนมที่ร้านไปแล้วเกิดน้องชายเธอไปเห็นเข้าและพูดถึงเธอขึ้นมาเล่าจะทำอย่างไง แต่เมื่อคิดใคร่ครวญดูอีกที ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่นา เพราะเขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเธอคือคนที่อ้วกใส่เขา นอกจากน้องชายเผลอพูดขึ้นมา แต่คงไม่เผลอหรอกน่า คงต้องโทร. ไปกำชับเรื่องนี้เอาไว้อีกที เมื่อคิดเองเออเองเสร็จสรรพหิรัญญิการ์ยิ้มออก “คุณพลูคะ” คนถูกเรียกสะดุ้งเป็นครั้งที่สอง “มีอะไรหรอจ๊ะ” “เมื่อกี้คนสวยๆ นั่นถามว่าใครเป็นคนตกแต่งร้านกาแฟที่นี่ ปุ้ยเกือบเผลอตอบไปว่าเป็นคุณพลู ดีที่นึกได้ว่าคุณพลูสั่งไว้ไม่ให้พูดอะไรออกไป” “ดีแล้วปุ้ย” สาเหตุที่ผู้หญิงสาวต้องสั่งเด็กในร้านให้บอกไปแบบนี้ ก็เพื่อตัดปัญหาจะได้ไม่ต้องตอบคำถามใคร เพราะตอนนั้นเธอคิดว่าอนาคตจะกลับไปทำงานเดิมโดยเน้นรับเป็นจ๊อบ